โทริยามะรับ! ท่าโพสต์ชุดมิค็อตเต้ของไลท์นิ่งดูไม่สมเป็นตัวเธอ

สรุปบทสัมภาษณ์ Lightning Returns -Final Fantasy XIII- ซึ่งสัมภาษณ์โดยเว็บ FFWorld และ FFRing สองเว็บ Final Fantasy ของฝรั่งเศสชื่อดังที่อยู่กันมานาน ทั้งสองเว็บได้มีโอกาสสัมภาษณ์ในช่วงงาน Japan Expo 2013 ที่ผ่านมาซึ่งจัดขึ้นที่ปารีส


จากภาพจะเห็นทวีป Luxerio อยู่หน้าสุด เถิบเข้าไปสีเขียวคือ Wildlands
ทางขวาคือทะเลทราย Dead Dunes และในสุดคือ Yusnaan ซึ่งมีปราสาทของสโนวตั้งอยู่

- ในงาน Japan Expo 2013 แฟนๆ ได้ทดลองเล่นเดโมเกมซึ่งเป็นคนละตัวกับเดโมในงาน E3, เดโมตัวนี้ได้ให้ผู้เล่นได้สำรวจดินแดนทะเลทราย Dead Dunes ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 ทวีปใหญ่ของเกม เป็นทะเลทรายขนาดใหญ่ที่ค่อยๆ ถูกเคออสกลืนกิน

- ในตอนนี้ทวีปที่ 4 ซึ่งมีชื่อว่า Wildlands เป็นทวีปเดียวที่ยังไม่มีภาพเปิดเผยรายละเอียดสู่สาธารณะ ทว่าคุณโทริยามะ ได้บอกว่าไว้มันจะแตกต่างจากสิ่งที่เคยเห็นกันมา เป็นทวีปที่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มันจะให้ความรู้สึกเหมือนเกม Open World ของฝั่งตะวันตก เป็นทวีปขนาดใหญ่ที่มีพืชพันธุ์มากมาย แล้วก็มีคนหลายกลุ่มตั้งรกรากอาศัย ก็สามารถเข้าไปพบปะผู้คนในแต่ละกลุ่มได้

- ในหนังสือ Ultimania Omega ของ FFXIII-2 ได้เปิดเผยสถานที่มากมายในเกมที่ถูกตัดทิ้งไป (อ้างอิง) เลยถามว่าจะมีการเอาสถานที่เหล่านั้นมาใช้ในเกมใหม่นี้ หรือใช้เป็นแรงบันดาลใจอย่างไรมั้ย? คุณโทริยามะยืนยันว่าฉากทั้งหมดใน LRFFXIII นั้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ไม่ได้เอาฉาก สถานที่ใด ที่ถูกตัดทิ้งไปจาก FFXIII และ FFXIII-2 มาใช้ สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ถูกเอามารีไซเคิล แต่ว่าผู้เล่นก็อาจจะได้ไปพบสถานที่บางแห่ง ซึ่งทำให้คุณเข้าใจได้ว่ามันคือที่ตั้งเก่าของสถานที่บางแห่งที่มีอยู่ใน XIII หรือ XIII-2

- โลกในภาค LR นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกในซีรีส์ที่นำระบบนี้มาใช้ คุณคิตาเสะอธิบายว่า Final Fantasy เป็นในอย่างที่มันเป็นได้เพราะแต่ละภาคนั้นไม่เคยเหมือนกัน ทุกภาคจะสร้างขึ้นมาจากศูนย์ ดังนั้นการที่เราให้ภาคนี้ดำเนินมาในแนวทางนี้ ไม่ได้หมายความว่า FF ภาคต่อไปในอนาคตจะต้องเป็นแบบนี้ด้วย อย่างไรก็ตามสภาพโลกที่กว้างขวางและเป็น Open World นี้จะปรากฏใน LRFFXIII และ FFXV ด้วยเช่นกัน มันอาจไม่ตรงกับคำว่า Open World ในแบบที่คุณเข้าใจกันซะทีเดียว แต่มันก็คือแมพเปิดอันกว้างกวางยิ่งใหญ่ และสิ่งนี้ก็แทบเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเกม RPG ในอนาคต

- เดโมที่เล่นๆ กันมานานเป็นเพียงเหตุการณ์ในพื้นที่ไม่กว้างนัก อย่างของ E3 ก็คือไลท์นิ่งไล่ตามสโนวในปราสาทภายในทวีป Yusnaan เดโมนี้ถูกสร้างขึ้นแสดงระบบต่อสู้และการเล่นเกม สำหรับในตัวเกมจริงๆ หลังเลย Tutorial ไปแล้ว ผู้เล่นก็จะมีอิสระในการผจญภัยข้ามทวีปได้ตามใจชอบ

- คุณโทริยามะบอกว่าระบบต่อสู้ในภาคนี้เป็นการเอาระบบ ATB จากภาค XIII และ XIII-2 มาพัฒนา ให้รวดเร็วและสมจริงขึ้น การที่ไลท์นิ่งเป็นตัวละครตัวเดียวที่ผู้เล่นควบคุมได้ในภาคนี้ เราเลยอยากจะนำเกมนี้ไปสู่มิติใหม่ด้วยการทำให้ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนชุด อาวุธ และโล่ของเธอได้ ซึ่งก็จะทำให้เกมเพลย์เปลี่ยนแปลงไปด้วย และถึงแม้ระบบต่อสู้จะมีความเป็น Action มาก แต่เราก็พยายามจะผสมผสานระหว่าง Action กับการวางกลยุทธเข้าด้วยกัน

- ผู้สัมภาษณ์ถามว่าทีมงานเคยนึกอยากจะฉีกไปจากการใช้แถบ ATB แบบเดิมๆ เพื่อสร้างสิ่งที่มันเป็นพลวัตมากขึ้นมั้ย? คุณโทริยามะบอกว่าไม่เคยคิด เพราะพวกเขาอยากจะสร้างสิ่งที่เป็น RPG สิ่งสำคัญที่สุดที่พวกเขามีอยู่ในใจตอนสร้างเกมนี้ก็คือองค์ประกอบด้านการวางกลยุทธ ผู้เล่นต้องคอยดูอยู่เสมอว่าเกจ ATB เหลืออยู่แค่ไหนแล้ว ต้องดูจุดอ่อนจุดแข็งของศัตรู และค้นหาวิธีการโจมตีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

- ในเกมยังมี Action มากมายที่ปรับเปลี่ยนไปตามองค์ประกอบต่างๆ ของฉาก ซึ่ง Action ทั้งหมดที่ใส่ลงไปก็เพื่อการบริหารเวลา ทำให้ผู้เล่นเดินทางได้แบบย่นเวลาขึ้น (การสไลด์ลงที่ต่ำ โหนเสาลงมา ฯลฯ)

- ระหว่างการต่อสู้ภาคนี้จะเน้นไปที่การเปลี่ยนไปมาระหว่างคอสตูม 3 ชุดที่ผู้เล่นเซ็ตไว้ ผู้เล่นจะสร้างไลท์นิ่งในแบบของตนเอง และแต่งตัวเธอตามต้องการ เมื่อเปลี่ยนชุดของเธอ รูปแบบการต่อสู้ของเธอก็เปลี่ยนไป คอสตูมของเธอนั้นจะมีขายในร้านค้า และบางชุดก็เป็นรางวัลจากการทำเควสต์ หรือพบในหีบสมบัติ

- ส่วนเรื่องที่เคยกล่าวไว้ในงาน E3 ว่าถ้าเพิ่มคอสตูมในเกมเป็น 80 กว่าชุด คุณโทริยามะบอกว่าคำว่า 80 ชุดนั้นฟังดูเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่นั้นเอาโครงสร้างมาจากคอสตูมพื้นฐานประมาณโหลกว่าๆ (สิบกว่าชุด) ส่วนที่เหลือนั้นที่จริงแล้วก็คือเวอร์ชั่นดัดแปลง ที่มีสีแตกต่างออกไป (เปลี่ยน Texture+ตกแต่งเพิ่ม) มันไม่ใช่ชุด 80 กว่าชุดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงซะทีเดียว (ดังนั้น DLC ชุดซามูไร 7 ชุดที่คล้ายกันนั้น ก็คือ 7 ใน 80 แต่เป็น 1 ในชุด 10 กว่าชุดที่กล่าวมานั่นเอง) เราเอาแรงบันดาลใจในการออกแบบระบบจ็อบ อย่างมีอยู่ชุดหนึ่งที่เอาแรงบันดาลใจมาจากจอมเวทมนต์แดงในภาคต่อๆ เราก็เอามาทำให้มันทันสมัยขึ้น

- ในตอนนี้มีชุดที่มาจากภาคอื่นๆ 3 ชุดด้วยกัน คือชุดคลาวด์จากภาค VII ชุดยูน่าจากภาค X และชุดมิค็อตเต้จากภาค XIV การร่วมมือข้ามภาคนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ทั้งนี้พวกเขาก็คำนึงถึงเอกลักษณ์ของเกม และคำนึงถึงภาพลักษณ์ของไลท์นิ่งด้วย คุณโทริยามะบอกว่า "เราไม่อยากจะสูญเสียความเป็นตัวเธอไปเลยจริงๆ เพราะเป็นไลท์นิ่ง เราถึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ชุดต่างๆ ที่เราสร้างขึ้นมาให้เธอจะต้องไม่หลุดไปไกล  มันต้องอยู่บนหลักการอันสมควรที่ว่ามันคือสิ่งที่เธอใส่ได้ จะมีข้อยกเว้นเดียวก็คือชุดมิค็อตเต้ใน FFXIV ...ยามที่เธอใส่ชุดนี้ ท่าโพสต์หลังชนะการต่อสู้ของเธอ จะดูไม่สมเป็นเธอเลย"

- ส่วนเรื่องชุดคอสตูมที่เป็น DLC นั้น ฝั่งยุโรปคนที่สั่งจองเกมล่วงหน้าก็จะได้ชุดคลาวด์จาก FFVII ไปใช้ ซึ่งเขาตั้งใจทำให้แฟนของภาค VII มากกว่าแฟนของภาค XIII คุณโทริยามะบอกว่า "พวกเราคิดว่ามันเป็นโบนัส เราว่ามันก็โอเคนะต่อให้พวกคุณไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ที่สำคัญกว่านั้น ตอนที่ไลท์นิ่งใส่ชุดของคลาวด์ เธอจะพูดจาในแบบเดียวกับที่คลาวด์พูด ด้วยเหตุนี้ ถ้าเราไม่ทำสมดุลให้ดี ไลท์นิ่งก็จะกลายเป็นคลาวด์ในบันดล ซึ่งเราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แม้คำพูดของเธอจะต้องได้รับอิทธิพลมาจากสิ่งที่คลาวด์น่าจะพูด แต่เธอก็ยังคงต้องเป็นไลท์นิ่ง"

ที่มา : FFWorldFFRingNova Crystallis

ไม่มีความคิดเห็น