Friday, December 7, 2007
คดี IVY ได้ข้อสรุปแล้ว!
Wednesday, December 5, 2007
Aerith Timeline
Aerith Timeline
* เป็นบทความที่เว็บ Advent Children แปลมาจากหนังสือ FFVII 10th Anniversary Ultimania และผมก็นำมาแปลต่อเป็นภาษาไทยครับ
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
[ μ ] - εуλ 1985 – 7 กุมภาพันธ์
・วันเกิดของแอริธ
27 กุมภาพันธ์
・ที่ไอซิเคิลลอดจ์ ศจ.กัสต์ผู้เป็นพ่อของแอริธถูกฆ่าตายด้วยฝีมือของกองทัพตามคำสั่งของโฮโจ หลังจากนั้นเธอถูกพาตัวไปยังที่กักตัวภายในตึกชินระพร้อมกับอิฟาลน่าผู้เป็นแม่
[ μ ] - εуλ 1992
・ภายในเมืองมิดการ์ แอริธที่ในตอนนั้นมีอายุได้ 7 ปีได้หนีออกมาจากตึกชินระพร้อมกับแม่ของเธอ ทว่าอิฟาลน่ากลับเสียชีวิตลงที่สถานีสถไฟของเขต 7 หลังจากนั้นเอลมัยร่าได้รับแอริธไว้และเลี้ยงดูเธอในฐานะลูกบุญธรรม
[ ν ] - εуλ 0000
・ภายในเมืองมิดการ์ แอริธที่มีอายุได้ 15 ปีได้พบกับแซ็คที่โบสถ์ของเขต 5 หลังจากนั้นทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนสนิทต่อกัน
[ ν ] - εуλ 0002/8/9
・ภายในเมืองมิดการ์ แอริธที่มีอายุได้ 17 ปีได้รับความช่วยเหลือจากเหล่าเทิร์คหลังจากที่เธอได้บอกปัดข้อเสนอในการให้ความช่วยเหลือกับพวก AVALANCHE ไป
[ ν ] - εуλ 0007/12/9
・ภายในเมืองมิดการ์ แอริธที่มีอายุได้ 22 ปีได้พบกับคลาวด์โดยบังเอิญขณะที่เธอกำลังขายดอกไม้อยู่ในเขต 8 หลังจากที่คลาวด์พึ่งวางระเบิดเตาปฏิกรณ์เขต 1 เสร็จไปหมาดๆ
・แอริธพบกับคลาวด์อีกครั้งในตอนที่เขาตกลงมาจากเขต 5 คลาวด์ในตอนนั้นได้ร่วงลงมาทะลุหลังคาของโบสถ์ แอริธได้ขอให้คลาวด์ช่วยเป็นบอดี้การ์ดคุ้มกันเธอกลับไปยังบ้าน แลกกับการเดทกับเธอ 1 ครั้ง
・ขณะที่คลาวด์และพรรคพวกกำลังพยายามหยุดยั้งการถล่มของเพลทในเขต 7 แอริธได้รับหน้าที่ให้คอยดูแลมาลีน ทว่าหลังจากนั้นทั้งสองก็โดนชินระจับกุมตัว แอริธตกลงยอมที่จะไปยังตึกชินระดีๆ เพื่อแลกกับความปลอดภัยของมาลีน
・คลาวด์และพรรคพวกถูกขับยัดเข้าซังเตระหว่างพยายามช่วยแอริธออกมาจากตึกชินระ ทว่าพวกเขาก็ได้ใช้โอกาสที่เซฟิรอธสังหารประธานชินระหลบหนีออกไปนอกเมือง คลาวด์และพลพรรคตัดสินใจตามล่าเซฟิรอธไป
・ที่วิหารชนเผ่ายุโบราณ แอริธได้รับรู้ถึงแผนการณ์ที่เซฟิรอธจะเรียกเมเทโอมายังโลก เธอรู้ว่าเธอจำเป็นต้องหยุดยั้งมันให้ได้ จึงตัดสินใจแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อสะสางเรื่องนี้ด้วยตัวเธอเพียงคนเดียว
・ที่นครที่ถูกลืมเลือน แอริธได้ส่งคำอธิษฐานในการขอใช้โฮลี่ไปยังดวงดาว หลังจากนั้นเธอก็เสียชีวิตด้วยน้ำมือของเซฟิรอธ
[ ν ] - εуλ 0008 - มกราคม
・แอริธใช้พลังของไลฟ์สตรีมช่วยหยุดยั้งการตกลงมาของเมเทโอ
・ที่นครที่ถูกลืมเลือน แอริธได้ปรากฏตัวให้คลาวด์เห็นในโลกวิญญาณ เธอพยายามช่วยเยียวยาความเจ็บปวดจากบาปและความรู้สึกผิดในใจของคลาวด์
・ที่มิดการ์ เธอร่วมมือกับทุกคนในการต่อสู้กับบาฮามุทชิน มอบพลังเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ป่วยจากอาการรอยปานดวงดาว และช่วยหาทางทำให้คลาวด์กลับเป็นปกติดังเดิม
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
Tuesday, October 30, 2007
Compilation of FFVII Timeline
CRISIS CORE -FINAL FANTASY VII- Related Chronology
* เป็นบทความที่เว็บ Advent Children แปลมาจากหนังสืออัลติมาเนียของ Crisis Core -Final Fantasy VII- และผมก็นำมาแปลต่อเป็นภาษาไทยครับ
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
[μ]-εγλ 1959 - 23 กันยายน
・ ShinRa Manufacturing Works (ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น ShinRa Electronic Company) ได้ค้นพบพลังงานมาโค
ประมาณ 30 ปีก่อนเข้าสู่ภาคหลักของ FFVII
・ ดร.กัสต์ขุดพบเจโนว่าแต่กลับเข้าใจผิดคิดว่ามันคือชนเผ่าบุคโบราณ หลังจากนั้นเจโนว่าโปรเจคท์ก็ถูกตั้งขึ้น
ตั้งแต่ช่วง 20 ปีก่อนเข้าสู่ภาค Crisis Core เป็นต้นมา
・ เจเนซิสเกิดขึ้นมาในฐานะผลผลิตของเจโนว่าโปรเจคท์ G
・ แองจีลเกิดขึ้นมาทีหลังในฐานะผลผลิตของเจโนว่าโปรเจคท์ G เช่นกัน
・ เซฟิรอธเกิดขึ้นทีหลังสุดในฐานะผลผลิตของเจโนว่าโปรเจคท์ S
・ หลังจากที่มนุษย์ทดลองคนแรกซึ่งก็คือเจเนซิสได้ถือกำเนิดขึ้น ก็ได้มีการเริ่มการทดลองลับขึ้นที่ดินแดนที่อยู่ภายใต้ตึกชินระซึ่งเรียกกันว่าดีพกราวด์
・ ดร.กัสต์ หายสาบสูญไป ส่วนโฮโจที่มีผลงานเหนือกว่าฮอลันเดอร์ก็สามารถกุมอำนาจในฝ่ายวิจัยวิทยาศาสตร์ของชินระเอาไว้ได้
[μ]-εγλ 1976 - 24 มิถุนายน
・ เป็นวันก่อตั้งเมืองมิดการ์ มีการย้ายสำนักงานใหญ่ของชินระมาตั้งอยู่ที่นี่
ตั้งแต่ช่วง 8 ปีก่อนเข้าสู่ภาค Crisis Core เป็นต้นมา
・ สงครามระหว่างชินระกับเมืองวูไถอุบัติขึ้น
[μ]-εγλ 2000 - ปลายฤดูร้อน
・ เจเนซิสได้รับบาดเจ็บระหว่างการฝึกซ้อมกับแองจีลและเซฟิรอธ ขณะที่ฮอลันเดอร์รักษาตัวเข้าให้ เจเนซิสก็ได้รับฟังความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิดและความลับในร่างกายของเขา เจเนซิสพยายามจะหาทางเยียวยาอาการเสื่อมสภาพจึงได้ตกลงร่วมมือกับฮอลันเดอร์
・ ลาซาร์ดติดต่อกับฮอลันเดอร์ และตกลงที่จะวางแผนกบฎต่อชินระ จากนั้นมาลาซาร์ดก็ได้มอบเงินทุนสนับสนุนให้กับฮอลันเดอร์อย่างลับๆ
ตุลาคม
・ เจเนซิสที่ถูกส่งไปเข้าร่วมสงครามวูไถ ได้หายสาบสูญไปพร้อมกับเหล่าทหารเซคันด์และเธิร์ดคลาสจำนวนมาก
・ ฮอลันเดอร์แอบขโมยพวกเอกสารงานวิจัยจากฝ่ายวิจัยวิทยาศาสตร์ของชินระและหายตัวไป
พฤศจิกายน
・ ชินระได้ส่งแองจีล (พ่วงด้วยแซ็ค) เพื่อไปปฏิบัติภารกิจในสงครามวูไถแทนที่เจเนซิสที่หายสาบสูญ ทว่าแองจีลกลับไปแล้วไปลับ
ธันวาคม
・ รูฟัสที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธานชินระ ได้ออกเดินทางเพื่อไปเจรจาธุรกิจกับเมืองต่างๆ (คิดว่าคงเป็นเรื่องการสร้างเตาฯ)
・ แซ็คและเส็งเดินทางไปยังหมู่บ้านบาโนล่า ที่ๆ เจเนซิสได้ใช้เป็นที่ซ่องสุมกองกำลังของเขา ภายหลังหมู่บ้านนั้นได้ถูกชินระทิ้งบอมบ์
[ν]-εγλ 0001 - กุมภาพันธ์
・ สงครามวูไถสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของฝ่ายชินระ
30 กุมภาพันธ์ * ขอบอกว่าไม่ได้เขียนผิดนะจ้ะ ในหนังสือมันเขียนแบบนี้จริงๆ
・ กลุ่มองค์กรผู้ต่อต้านชินระของวูไถที่ก่อตั้งขึ้นในนามกลุ่ม AVALANCHE ได้เริ่มต้นทวีความรุนแรงในการก่อการร้าย
มีนาคม
・ มีการประกาศว่าแองจีลและเจเนซิสได้เสียชีวิตไปแล้ว
เมษายน
・ แซ็คได้เลื่อนขั้นเป็นเฟิร์สคลาสในวันเดียวกับที่เจเนซิสได้ยกพลบุกเข้ามาในมิดการ์
・ ซิสเนย์ของกลุ่มเทิร์คได้รับมอบหมายภารกิจลับให้คอยจับตาดูพฤติกรรมของแซ็ค
・ แซ็คและแอริธได้พบกันโดยบังเอิญภายในโบสถ์ของสลัม
ฤดูใบไม้ร่วง
・ แซ็คได้รับมอบหมายให้ไปสำรวจโมเดโอ้เฮม ซึ่งช่วงนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้ทำความรู้จักกับคลาวด์
・ หลังจากเอาชนะเจเนซิสและแองจีลได้ แซ็คก็ได้รับสืบทอดบัสเตอร์ซอร์ดต่อจากแองจีล
・ ฮอลันเดอร์ถูกพาตัวไปกักขังที่สำนักงานสาขาของชินระที่อยู่ในเมืองจูน่อน
[ν]-εγλ 0002 - 16 มกราคม
・ กองทัพชินระที่นำโดยแซ็ค (และพวกเทิร์คที่ตามไปด้วย) ถูกส่งไปกวาดล้างกลุ่ม AVALANCHE ที่กบดานอยู่ที่หมูบ้านไอซีเคิลลอดจ์ ทว่ากองทัพทั้งหมดยกเว้นแซ็คกับพวกเทิร์ค ต่างก็ถูกฆ่าตายทั้งหมด
ต้นฤดูร้อน
・ ลาซาร์ดหายตัวไป ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานความลับที่ว่าเขาแอบติดต่อกับฮอลันเดอร์อยู่จะถูกเปิดโปง
・ แซ็คไปเที่ยวปิดเทอมหน้าร้อนที่คอสต้าเดลโซล
・ จูน่อนและสถานที่อื่นๆ ถูกกองทัพลึกลับบุกจู่โจมในเวลาเดียวกัน
กรกฎาคม
・ มีการประกาศว่าลาซาร์ดและฮอลันเดอร์ได้เสียชีวิตไปแล้ว
・ เจเนซิสยกพลไปบุกโจมตีเตาปฏิกรณ์ตามสถานที่ต่างๆ
22 กันยายน
・ แซ็ค เซฟิรอธ และคลาวด์ ได้ถูกส่งไปตรวจตราความผิดปกติที่เตาปฏิกรณ์เมืองนีเบิลเฮม
1 ตุลาคม
・ เซฟิรอธเผานีเบิลเฮมวอด หลังจากนั้นก็เจอคลาวด์จับเหวี่ยงตกมาโคในเตาปฏิกรณ์ไป
・ แซ็คและคลาวด์ถูกพาตัวไปใช้เป็นร่างทดลอง
ตุลาคม
・ มีการประกาศว่าเซฟิรอธ แซ็ค รวมทั้งสมาชิกที่ถูกส่งไปตรวจตราที่เมืองนีเบิลเฮมได้เสียชีวิตไปแล้ว
[ν]-εγλ 0006 - 19 ธันวาคม
・ แซ็คได้พาคลาวด์ที่มีอาการพิษจากมาโคออกไปจากคฤหาสน์ชินระ
[ν]-εγλ 0007 - ต้นฤดูใบไม้ร่วง
・ แซ็คไปสะสางเรื่องทั้งหมดกับเจเนซิสภายในทางใต้ดินของหมู่บ้านบาโนล่า
・ เจเนซิสถูกพาตัวไปยังดีพกราวด์
ปลายเดือนกันยายน
・ แซ็คถูกฆ่าตายที่ดินแดนรกร้างแถบชานเมืองมิดการ์ คลาวด์ได้รับมอบบัสเตอร์ซอร์ดและมุ่งหน้าเข้าเมืองมิดการ์
5 ตุลาคม
・ รูฟัสเขียนรายงานส่งป๊ะป๋าว่าเอลเฟ่ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่ม AVALANCHE ถูกสังหารแล้ว
9 ธันวาคม
・ คลาวด์และกลุ่ม AVALANCHE ชุดใหม่ได้เข้าไปวางระเบิดเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1
[ν]-εγλ 0008 - ปลายเดือนมกราคม
・ คลาวด์และพรรคพวกได้ช่วยกันหยุดยั้งเซฟิรอธ และสามารถปกป้องโลกจากเมเทโอได้สำเร็จ
[ν]-εγλ 0010
・ วินเซนต์ได้ร่วมมือกับกลุ่ม WRO ในการหยุดยั้งเป้าหมายของพวกดีพกราวด์ และช่วยดวงดาวจากการถูกทำลายเอาไว้ได้
・ "G" ตื่นขึ้นในถ้ำใต้ดินของเมืองมิดการ์
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
Sunday, September 30, 2007
รวมข้อมูลน่าสนใจจาก Crisis Core -Final Fantasy VII- หลังเกมวางจำหน่าย 2 สัปดาห์
http://ffplanet.exteen.com/20070930/crisis-core-final-fantasy-vii
------------------------------------------------
Thursday, September 27, 2007
บทสัมภาษณ์ล่าสุด KH -Birth by Sleep-
แฟมิซือ : การพัฒนาภาค Birth by Sleep คืบหน้าไปถึงไหนแล้วบ้างครับ?
โนมุระ : ระหว่างการพัฒนาก็มีงานสร้างภาค Re: CoM ขึ้นมาขวางไว้ก่อน ทำให้การพัฒนา KH -BBS- ต้องหยุดชะงักลง ตอนแรกผมรู้สึกแปลกๆ เหมือนกันนะที่ต้องเริ่มทำโปรเจคท์นี้ต่ออีกครั้ง ผมเชื่อว่าโปรเจคท์สร้างเกมภาคนี้น่ะเริ่มขึ้นก่อน Kingdom Hearts อีกสองภาค (358/2 Days และ Coded) และผมก็เชื่อเช่นกันว่ามันเป็นภาคที่จะวางจำหน่ายช้าที่สุดในบรรดาทั้งสามภาค
แฟมิซือ : มันเกี่ยวข้องกับฉาก Birth by Sleep (ในฉากจบลับของ KHII FM+) ยังไงเหรอครับ?
โนมุระ : ฉากจบลับนั่นทำให้เราได้เห็นภาพลักษณ์ของเกม BBS ชื่อของภาคนั้นก็ต้องเหมือนกับชื่อของฉากนั้น มันเป็นเรื่องยากที่จะแสดงออกถึงการต่อสู้อันดุเดือดเลือดพล่านในเนื้อหาการเล่น สำหรับฉากจบลับนั่น...มันก็คือภาพของตอนจบน่ะแหละ (พยายามจะบอกว่า BBS จะจบแบบนั้นงั้นรึ?)
แฟมิซือ : คงได้มีการพูดถึงประเด็นนี้กันให้แซ่ดเลยนะ ว่าแต่เกมนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องของช่วงเวลาอดีตสำหรับซีรียส์นี้ใช่มั้ยครับ?
โนมุระ : เมื่อดูจากไทมไลน์ของเกมนี้แล้วภาคนี้จัดว่าเป็นภาคที่เกิดขึ้นในอดีตแรกสุดของซีรียส์ช่วงซักประมาณ 10 ปีก่อน KH ภาคแรกในเกมจะมีภาพของเด็กสองคนที่กำลังเล่นกันอยู่ที่ชายหาดด้วย ผมเชื่อว่าแฟนๆ คงรู้ว่านั่นหมายถึงอะไร
แฟมิซือ : ในเรื่องมีการบอกกล่าวไว้ว่า เนื้อเรื่องทั้ง 3 จะถูกชักพาไปโดยตัวเอกทั้ง 3 ในแต่ละเนื้อเรื่องนั้นจะมีความเกี่ยวพันกันมั้ยครับ?
โนมุระ : ตัวเอกทั้งสามก็คือ เทอร์ร่า เวน และตัวละครอีกตัว เราได้เตรียมเนื้อเรื่องสำหรับพวกเขาทั้งสามคนแล้ว บอกให้ก็ได้ว่าทั้งสามเนื้อเรื่องนั่นถูกสร้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน เมื่อดูความคืบหน้าในการสร้างเนื้อเรื่องคงเป็นการยากที่จะให้อธิบายเกี่ยวกับเนื้อเรื่องในตอนนี้ (แปลว่ายังไม่ไปถึงไหนเลยสินะ) แต่ก็บอกได้ว่าตอนเริ่มเกมนั้นจะเป็นอะไรที่เข้าใจยากใช่น้อย แต่ด้วยการเล่นจบทั้งสามเนื้อเรื่อง คุณก็จะเข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมดเอง
แฟมิซือ : ชื่อของตัวเอกทั้งสามนั้นต้องการสื่อถึงอะไรบางอย่างรึเปล่าครับ?
โนมุระ : ใน Kingdom Hearts โซระจะหมายถึงท้องฟ้า ริคุหมายถึงผืนดิน และไครี่หมายถึงทะเล ส่วนของเกมนี้นั้น ความหมายทั้งสามของชื่อเหล่าตัวเอกจะมีผลกระทบอย่างมากกับตัวโลกของเกม
แฟมิซือ : เนื้อเรื่องทั้งสามนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันรึเปล่าครับ ?
โนมุระ : เนื้อเรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามมันก็อาจจะมีความแตกต่างในช่วงเวลาอยู่บ้าง นอกจากนี้ก็จะมีช่วงเวลาที่ตัวเอกทั้งสามได้มาพบกันด้วย
แฟมิซือ : มีการกำหนดลำดับการเล่นรึยังครับ? (ว่าต้องเล่นเนื้อเรื่องไหนก่อน)
โนมุระ : ผมเชื่อว่าคงเป็นการดีกว่าถ้าเราจะให้อิสระกับผู้เล่นในการเลือกว่าจะเล่นเนื้อเรื่องไหนก่อน แต่ว่าเรื่องนี้ก็มีการพูดถึงอยู่เหมือนกัน แต่ยังไงๆ ผมก็เชื่อว่ามันต้องดีกว่าแน่ๆ ที่จะให้พวกคุณได้เลือกว่าจะเล่นเนื้อเรื่องใครก่อน
แฟมิซือ : ประเด็นในภาคนี้จะเน้นไปที่เรื่องของอะไรบ้างครับ?
โนมุระ : สำหรับประเด็นนั้น ก็อย่างคำพูดที่ปรากฏขึ้นมาใน KH2เซอานอร์ท..เกมนี้จะให้คำตอบกับคำถามหลายๆ อย่างเช่น ทำไมตาแก่ที่ปรากฏใน BBS นั่นถึงมีชื่อเหมือนกันเลย? แล้วทำไมต้องใส่ชุดเหมือนกับอันเซมใน KH1 ด้วยล่ะ? อีกเรื่องนึงที่ผมอยากจะกล่าวถึงก็คือ เวน ที่มีทั้งทรงผม หน้าตา เสื้อผ้า และเสียงเหมือนกับร็อคซัสที่ปรากฏตัวใน KH ภาคก่อนหน้านี้เด๊ะๆ เลย เขาเป็นใครกันแน่นะ?
แฟมิซือ : ผู้ให้เสียงพากย์เวน เป็นคนเดียวกับร็อคซัสเหรอครับ
โนมุระ : ใช่ครับ เป็นคนๆ เดียวกัน ฉะนั้นแล้วผู้เล่นเนี่ยต้องมองเวนเป็นร็อคซัสจาก KH2 แน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้น...ความลับแห่งการดำรงอยู่ของเวนและร็อคซัสคืออะไร เมื่อได้เล่น KH -BBS- คุณก็จะได้พบกุญแจที่จะมาไขคำตอบของปริศนานี้ คุณจะสามารถแยกเวนและร็อคซัสออกจากกันได้อย่างง่ายดาย ผมจะใบ้ให้ว่าด้วยการเชื่อมเนื้อเรื่องของร็อคซัสและโซระเข้าด้วยกัน คุณจะเข้าใจว่าเวนเป็นใคร
แฟมิซือ : คนที่เราต้องสู้ด้วยใน KH2 FM+ เป็นคนเดียวกันกับเทอร์ร่ารึเปล่าครับ? พวกเขาใช้คีย์เบลดที่เหมือนกันมากเลย
โนมุระ : ถ้าพวกเขาเป็นคนๆ เดียวกันจริง ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะคิดว่าพวกเขาเป็นคนๆ เดียวกัน
แฟมิซือ : ใน BBS นั้นหลังจากที่ทั้งสามตัวเอกต้องแยกจากกันแล้ว ราชามิคกี้ถึงได้ปรากฏตัวขึ้นมาเหรอครับ?
โนมุระ : เรื่องนี้นี่เกี่ยวพันกับเนื้อเรื่องอย่างลึกซึ้งเลยนะ ผมคงบอกไม่ได้ว่านั่นคือราชาของยุคนั้นรึเปล่า? (จะบอกว่ามิคกี้นั่งไทม์แมชชีนมาจากอนาคตรึไง) นั่นก็เพราะพวกเราต้องการทำให้ BBS มีเนื้อเรื่องที่ซีเรียสเข้มข้นน่ะนะ
แฟมิซือ : ใน BBS เนี่ย ระบบการเล่นจะเป็นการให้เราเลือก Action Command จากคำสั่งต่างๆ ใน Command List รึเปล่าครับ?
โนมุระ : ผมคิดว่าเราจำเป็นที่จะต้องพูดเรื่องนี้กันก่อน Command Menu ที่ได้เคยโชว์ออกไปผ่านสื่อนั้นได้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้ระบบที่ใกล้เคียงกับ Command Deck ของภาค Re: CoM ได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว สกรีนช๊อตที่มีให้เห็นกันต่อไปนี้ก็คงจะโชว์ให้เห็นไอเดียที่คล้ายๆ กับภาค Re: CoM ย้ำอีกครั้งว่าฉากต่อสู้ที่คุณได้เห็นจากภาพในตอนนี้ มันได้ถูกเปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามระบบการควบคุมมันก็ยังคล้ายๆ กับ KH ภาคก่อนๆ อยู่ดี อ้อ...นอกจากนี้ ตัวเกมเพลย์ดูเหมือนจะได้อิทธิพลมาจากเกมของ NDS เกมหนึ่ง Its a Wonderful World นิดๆ หน่อยๆ ด้วยนะ
แฟมิซือ : ระบบการพัฒนาตัวละครจะมีอะไรแปลกใหม่มั้ยครับ? (ระบบเลเวล)
โนมุระ : ระบบการพัฒนาแบบใหม่ได้ถูกใส่เข้าไปในเกมแล้ว เมื่อคุณได้ทำภาระหน้าที่ 4 อย่างในเนื้อเรื่อง (?) เราได้ลองพัฒนามันหลายๆ แบบ เพราะมันเป็นเรื่องยากสำหรับ PSP นอกจากนี้ เราหาวิธีที่จะเอาอนาล็อคมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้แล้ว
แฟมิซือ : ในเรื่องของศัตรูใหม่นั้น คุณสามารถยืนยันได้รึเปล่าว่ายังไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมา?
โนมุระ : ศัตรูใหม่นั้นไม่ใช่ทั้งฮาร์ทเลส และไม่ใช่ทั้งโนบอดี้ เนื้อเรื่องนั้นเกิดขึ้นก่อนที่พวกนั้นจะปรากฏตัวขึ้นมาเสียอีก เมื่อเวลาผ่านไปผมก็จะทยอยให้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เองแหละ เดี๋ยวก็จะมีศัตรูอย่างชาโดว์ของพวกฮาร์ทเลส หรือดัสค์ของพวกโนบอดี้ ออกมาให้เห็นเอง
แฟมิซือ : ด้วย PSP นี่...พอจะมีวิธีการทำให้ผู้เล่นสองคนสามารถเชื่อมต่อกันได้มั้ยครับ?
โนมุระ : ยังเร็วเกินไปที่จะตอบคำถามนั่นในตอนนี้นะ เอาเป็นว่ามันจะมีระบบที่ดึงเอาข้อดีของ PSP มาใช้แน่ๆ ละกัน
แปลผิด แปลเขี่ย กราบขออภัยล่วงหน้า โปรดเห็นใจคนพึ่งตื่นนอนและพรุ่งนี้มีสอบด้วยเจ้าข้าเอ้ย~ T__T
Wednesday, September 26, 2007
"ปรีชญา"สาวไทยคนแรกภายใต้ชื่อบริษัท Square Enix
Friday, September 7, 2007
สรุปบทสัมภาษณ์ล่าสุดของเกม Crisis Core -FFVII- จากนิตยสารแฟมิซือ
หลังจากผ่านการเลื่อนแล้วเลื่อนอีกมานานแสนนาน ในที่สุดเนื้อเรื่องตอนล่าสุดของตำนานเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Final Fantasy VII (เวอร์เข้าไป) ก็จะปรากฏสู่สายตาของสาธารณชนทั่วทั้งแผ่นดินญี่ปุ่นในวันที่ 13 กันยายนที่กำลังจะมาถึงนี้ ในโอกาสที่ Crisis Core Final Fantasy VII- กำลังจะวางจำหน่ายนี้ ทางนิตยสารแฟมิซือจึงได้เข้าไปขอสัมภาษณ์คุณ โยชิโนริ คิตาเสะ (Executive Producer) ฮิเดกิ อิมาอิซึมิ (Producer) ฮาจิเมะ ทาบาตระ (Director) และ เท็ตสึยะ โนมุระ (Character Design) เกี่ยวกับเรื่องภาพรวมการพัฒนาเกม Crisis Core และความเป็นไปได้ในการพัฒนาต่อไปในอนาคต
สำหรับหัวข้อแรกของ Crisis Core นั้น คุณทาบาตะได้เปิดเผยถึงความจุอันมหาศาลของเกมนี้ ซึ่งเรียกได้ว่ามันแทบจะเต็มความจุของ UMD-ROM เลยทีเดียว ส่วนทางด้านสมดุลเกมนั้นเขารู้สึกว่าตัวเกมมีสมดุลที่ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าผู้เล่นจะเลเวลเท่าไหร่ก็สามารถจบเกมได้ทั้งนั้น นอกจากนี้ก็ยังมีมิสชั่นอีกกว่า 300 มิสชั่นที่ได้เตรียมไว้ให้ผู้เล่นได้เล่นกันเป็นส่วนเสริมนอกเหนือไปจากเนื้อเรื่องหลัก มิสชั่นพวกนี้ค่อนข้างจะยากเป็นพิเศษ แต่ก็จะง่ายขึ้นหากเขาเล่นเกมนี้รอบที่สอง ทั้งนี้เพราะเราได้เตรียม New Game+ ที่จะโอนข้อมูลของตัวละครจากการเล่นในรอบแรกมาด้วยแล้ว
มีเรื่องน่าสนใจอยู่เล็กน้อยเมื่อถามถึงจุดกำเนิดของเกม Crisis Core ซึ่งคุณทาบาตะก็เผยว่าเดิมทีแล้วโปรเจคท์นี้เริ่มต้นจากไอเดียที่ทีมงานต้องการพอร์ทเกม Before Crisis ซึ่งเป็นเกมในโปรเจคท์ของคุณทาบาตะเองลงบนเครื่องอื่น ซึ่งคุณคิตาเสะเองก็เห็นด้วยและก็ได้นำเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยกันอย่างจริงจัง ในตอนนั้นเองคุณโนมุระก็ได้แนะนำว่าพวกเขาน่าจะทำอะไรที่มีความหมายกับ Compilation of Final Fantasy VII มากกว่านั้นแทน และนั่นก็เป็นจุดกำเนิดของไอเดียในการสร้างเกมที่กล่าวถึงแซ็ค โซลเยอร์ที่ไม่ค่อยจะถูกเหลียวแลใน Compilation ภาคอื่นๆ เบ็ดเสร็จแล้วเราใช้เวลาทั้งหมด 2 วันในการคิดตัดสินใจทำเกมนี้ขึ้นมา คุณคิตาเสะกล่าวอย่างติดตลก
นอกจากเรื่องของ Crisis Core แล้วทางทีมงานแฟมิซือก็ได้ถึงข่าวการพัฒนาเกมใหม่ๆ ใน Compilation of Final Fantasy VII พวกเขาได้ย้ำว่าแฟนๆ ทั่วโลกต่างกำลังคาดหวังกับการรีเมคของ Final Fantasy VII ซึ่งกับประเด็นนี้แล้วคุณทาบาตะก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะตอบ แต่เขากลับพาออกทะเลด้วยการบอกว่าทาง Square Enix เองก็ได้เตรียมที่จะเปิดให้บริการโหลดเกม Before Crisis ตอนใหม่พร้อมๆ กับช่วงที่ Crisis Core วางจำหน่าย โดยตอนใหม่นี้จะมีเรโน่เป็นตัวเอก
ปัญหาของการรีเมค Final Fantasy VII นั้นอยู่ที่เรื่องของเวลา คุณอิมาอิซึมิกล่าวว่าคุณคิตาเสะ คุณโนมุระ และคุณทาบาตะต่างก็กำลังวุ่นอยู่กับกับพัฒนาซีรียส์ Final Fantasy XIII เขาจะเสริมอีกว่าจะมีเกมใหม่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเปิดเผยในงาน Tokyo Game Show ในจุดนี้ทางแฟมิซือไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาหมายถึงเกมใหม่ในโปรเจคท์ Fabula Nova Crystallis หรือเกมอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกันซึ่งสร้างโดยคุณคิตาเสะ คุณโนมุระ และคุณทาบาตะ ทว่าดูเหมือนว่าเกมใหม่ที่กำลังพูดถึงอยู่นี้จะเป็นคนละเกมกับ Kingdom Hearts ภาคใหม่ที่คุณโนมุระเคยเปรยไว้ว่าจะเปิดเผยในงาน Tokyo Game Show ซึ่งเมื่อทางทีมงานลองถามเรื่องนี้กับคุณโนมุระแล้ว เขาก็ตอบกลับมาอย่างเรียบง่ายว่าคอยดูละกัน
ท้ายที่สุดแล้วคุณอิมาอิซึมิ ก็ได้กล่าวปิดประเด็นด้วยการยืนยันอีกครั้งว่าในตอนนี้ยังไม่มีแผนที่จะรีเมคเกม Final Fantasy VII อย่างไรก็ตามเขาได้เตือนไว้ก่อนว่าพวกเขาอาจจะเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็ได้ ก็อย่างที่คุณคิตาเสะพูดแหละว่าพวกเขายังตัดสินใจสร้าง Crisis Core ขึ้นมาด้วยเวลาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น...
Thursday, September 6, 2007
จบ FFCC -Ring of Fates- แล้วจ้า~
หลังจากที่ผมได้เริ่มเล่น Final Fantasy Crystal Chronicle -Rings of Fates- แบบเขี่ยๆ มาได้ 3 วัน ตัวเกมที่สั้นจุ๊ดจู๋และสามารถจบได้ภายใน 13 ชั่วโมงก็เป็นอันจบลงซะแล้ว
เกม Final Fantasy Crystal Chronicle -Rings of Fates- เป็นเกมแนว Action Rpg สำหรับเครื่อง Nintendo DS ที่พึ่งจะวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ตัวเกมเน้นไปที่การเดินเข้าดันเจี้ยนแก้ปริศนาเปิดทางไปต่อ โดยเราจะมีเพื่อนในกลุ่มด้วยกันทั้งหมด 4 คน แต่ละคนก็จะมีความสามารถพิเศษในการสู้รบและการแก้ปริศนาที่แตกต่างกัน บางจุด เราจำเป็นต้องใช้เพื่อนที่เป็นนักธนูโจมตีใส่เป้าหรือสวิตซ์ที่อยู่ระยะไกล บางจุดก็ต้องให้เพื่อนที่เป็นนักเวทย์ร่ายมนต์สร้างทางเดินขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อีกทั้งบางจุดยังต้องมีการต่อตัวขี่คอกัน แล้วให้คนที่อยู่ด้านบนสุดกระโดดขึ้นไปสับสวิตซ์บนพื้นสูง ฯลฯ
พอเดินไปถึงปลายดันเจี้ยนเราก็ต้องปะทะกับบอสประจำฉากนั้นๆ หลังจากตุ๊บตั๊บบอสจนเป็นอันเสร็จพิธีเราก็จะได้กลับเข้าเมือง ซื้อข้าวซื้อของ ผสมไอเทม จากนั้นก็วิ่งหาเนื้อเรื่องและตามด้วยการเข้าไปลุยในดันเจี้ยนถัดไป วนเวียนเช่นนี้ไปจนจบเกม
ฉากสุดท้าย เราจะได้สู้ตัดสินกับบอสใหญ่ที่เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของพ่อตัวเอก (ลาทอฟ)และยังเป็นคนที่ฆ่าแม่ของตัวเอก (อาเชส) ให้เห็นต่อหน้าต่อตา ฉากต่อสู้สุดท้ายเป็นการต่อสู้กันในอวกาศอย่างอลังการ ผลจากการปะทะมันด้วยทีมตัวละครเลเวล 42 ของผม ปรากฏว่ากลุ่มตัวเอกของผมสามารถชนะบอสใหญ่กัลเดสไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
พอชนะบอสใหญ่แล้วตัวเอกกับนางเอกที่เป็นพี่น้องฝาแฝดชายหญิง (ไข่คนละใบ) ก็จะพากันกลับบ้าน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อพระเอกของเรา (ยูรี่) เริ่มออกอาการจะตายตอนจบเอาซะงั้น เมื่อเห็นดังนั้นแล้วนางเอก (เชรินก้า) ก็เลยยอมสละชีวิตตัวเองใช้พลังพิเศษของเธอช่วงให้ยูรี่รอด...แม้ยูรี่จะพยายามห้ามปรามเชรินก้าซักเพียงใดก็ไม่เป็นผล สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นเขาต่างหากที่ต้องร้องไห้จากการที่ต้องสูญเสียเชรินก้า คนในครอบครัวคนสุดท้ายของเขาที่หลงเหลืออยู่.. จึงเป็นอันว่าหลังจากนั้นยูรี่ก็เลยต้องใช้ชีวิตอย่างเศร้าสร้อยอยู่ตัวคนเดียว
วันคืนอันแสนเปล่าเปลี่ยวผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งยูรี่ได้ออกมานั่งกินลมเล่นนอกบ้าน เขาค่อยๆ นึกถึงเรื่องราวในอดีตที่เกิดขึ้นตั้งแต่เด็กจนโต แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีกแล้ว เมื่อเขาได้พบกับเชรินก้าที่น่าจะตายไปแล้ว (ตกลงน้องสาวคนนี้เค้าเป็นอะไรของเค้าเนี่ย ทำไมพลังพิเศษเยอะจัง =w=")เชรินก้ามอบอะไรบางอย่างให้กับเค้า และทันทีที่เขารับสิ่งนั้นมาก็เกิดแสงสว่างวาบขึ้น ทำให้ยูรี่ได้ย้อนคืนสู่อดีต เขาได้กลับไปสู่วันเวลาที่แสนคิดถึงในตอนเด็ก ที่นั่นเองยูรี่ได้พบกับเชรินก้า ลาทอฟ และอาเชสผู้เป็นแม่ของเขาอีกครั้ง เขาวิ่งเข้าไปสวมกอดแม่พร้อมๆ กับเชรินก้า และทันทีที่เชรินก้าพูดว่ายินดีต้อนรับนะ ยูรี่! พระเอกของเราก็ไม่ลังเลที่จะตอบต่อไปว่า กลับมาแล้วจ้า~
เมื่อดูฉาก Staff Roll เสร็จแล้วตัวเกมก็จะขึ้นให้กดเซฟ เมื่อเราเซฟแล้วเราจะกลับมาเริ่มต้นเกมใหม่อีกครั้ง โดยคราวนี้เราจะได้รับโอนเลเวล อาวุธ สกิล และไอเทมต่างๆ มาจากการเล่นในรอบแรกด้วย :D
ป.ล. ไหงผมเล่นจนจบแล้ว ก็ยังไม่ได้ฟังเพลง Hoshi no Nai Sekai จากเกมนี้เลยเนี่ย - -"
Wednesday, September 5, 2007
คะแนนวิจาณ์เกม Crisis Core พร้อมทั้งข้อมูลใหม่จากแฟมิซือ
Crisis Core -Final Fantasy VII-- (9 /9 /8 /9 )
รวม : 35 / 40 คะแนน
ข้อมูลใหม่ของเกม
- มีบอสลับด้วย ถึงเลเวลเต็มก็ชนะไม่ได้ง่ายๆ
- ศัตรูทั่วๆ ไปแอบเนียนเอาโมเดลจาก DC มาใช้ แต่ฝีมือก็กระจอกกว่า เล่นด้วยง่ายกว่า
- ตอนนี้ยังไม่คิดจะรีเมคเกมนี้ แต่อนาคตซักวันนึงเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ยังไงก็ต้องมีการรีเมคเกิดขึ้นน่ะแหละ
- ใกล้ๆ จบเกมแล้วคาแรคเตอร์ DMW จะมีเจเนซิสรวมอยู่ด้วย
- ฉากที่แซ็คไปเที่ยวเล่นทะเลกับซิสเนย์ (Cissnei) สร้างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับที่แอริธเคยพูดในภาค 7 ว่าแซ็คเป็นที่รักใคร่ของผู้หญิง และก็ลัลล้าได้ไปทั่ว~
- จะมีบาฮามุทสีทองชื่อบาฮามุทเรทซึ (ซึ่งคาดว่าจะ) เป็นบาฮามุทตัวสุดท้ายของ Compilation of FFVII นี้ มันถูกอัญเชิญมาด้วยเจเนซิสและมีท่าไม้ตายชื่อว่า Exa Flare
- ใช้ Firmware Version3.60 ขึ้นไปในการเล่น... แปลว่าใครไม่อยากเสีย Custon FW ของตัวเอง.. ก็ต้องอดทนรอไปกว่าจะมีคนแคร็ก 3.60 ได้.. ซึ่งก็ไม่รู้ต้องรออีกนานเท่าไหร่
- เคธซิธและโจโคโบะโหมด เป็นส่วนนึงของท่าลิมิตลับที่จะมอบผลของสเตตัสพิเศษหลายๆ อย่าง เช่น รีเจเน่และอมตะให้กับเรา
- คุณคิตาเสะกล่าวว่าในตอนแรกที่อยู่ในขั้นการคิดชื่อสกุลให้กับแซ็คนั้น เราได้คิดชื่อสกุลขึ้นมาด้วยกัน 3 ชื่อ และก็ได้ใช้ Fair ที่สื่อถึง Fair Weather เป็นนามสกุลของแซ็คในท้ายที่สุด ทว่าชื่อที่ถูกตัดไปก่อนหน้านั้นก็มีชื่อหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกางเกงว่ายน้ำของแซ็คซึ่งเป็นลายดอกทานตะวันอันใหญ่ ซึ่งชื่อสกุลนั้นก็คือ "ฮิมาวาริ" น่ะเอง....(เออ ดีแล้วที่ตัดๆ ไป)
Wednesday, August 15, 2007
เบื้องหลังก่อนจะมาเป็น Final Fantasy XII ในทุกวันนี้
บางครั้ง...
บางครั้ง...ก็คงจะมีช่วงเวลาที่คนเราจะนึกครึ้มใจ อยากที่จะหันกลับไปเปิดดูรูปเก่าๆ ที่อยู่ในอัลบั้มเก่าๆ เพื่อเรียกหาความทรงจำในวันวานคืนกลับมากับเขาบ้างเหมือนกัน
หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า FF9,10,11 นั้น ถูกพัฒนาขึ้นพร้อมๆกัน และมีการเปิดตัวทั้งสามภาคพร้อมๆกัน โดยในการเปิดตัวนั้นก็มีการเผยภาพของทั้งสามภาคออกมาภาคละ 1 ภาพ
ภาพแรกของ FF9 ที่ได้รับการเปิดตัวก็คือภาพของเรือเหาะที่กำลังบินเข้าสู่เมืองลินบลัม
ส่วนของ FF10 คือภาพของทีดัสที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยืนตระหง่านอยู่หน้าเมืองลูก้า
ส่วนของ FF11 คือภาพของมังกรซึ่งภายหลังโดนตัดต่อพันธุกรรมจนกลายเป็นตัวอื่นไปแล้ว
หลังจากที่ FF11 ได้วางจำหน่ายไปในวันที่ 16 พ.ค. 2002 ข่าวคราวของ FF12 ก็ไม่ยักจะปรากฏเสียที มีแต่ข่าวคราวของ FF10-2 เท่านั้นที่ขึ้นมายึดพื้นที่หน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ไว้ได้
จนแล้วจนเล่า ระหว่างที่เวลาได้ดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ ก็ได้มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วอินเตอร์เน็ต
ช่วงนี้เองที่โลโก้ปลอมๆ และภาพปลอมๆ ก็ได้...บังเกิดขึ้น
26 ธันวาคม 2002
- แสควร์ได้เผยข้อมูลแรกของเกมนี้ออกมาว่าตัวเกมนั้นจะถูกพัฒนาโดยทีมพัฒนาที่ 4 ชื่อของสตาฟฟ์ 3 คนแรกที่ได้รับการประกาศชื่อให้เป็นแกนหลักของงานนี้ก็คือคุณ อากิฮิโกะโยชิดะ (คาแรคเตอร์ดีไซน์), ฮิเดโอะมินาบะ (อาร์ทไดเรคชั่น), จุนอากิยามะ (อีเวนท์ไดเรคชั่น) รวมทั้งยังได้มีการเปิดเผยภาพสเกตภาพแรกของเกมนี้ออกมาให้ชมกัน
เมื่อเหล่าผู้ชมได้เห็นรายชื่อของทีมงานทีมนี้ ซึ่งเป็นทีมที่เคยทำ Vagrant Story และ FFT ซึ่งสำหรับเจ้าเกม Vagrant Story นี้เคยสามารถพิชิต 40 คะแนนเต็มจากแฟมิซือมาได้แล้ว และยังได้เห็นภาพกลิ่นอายบรรยากาศเก่าๆที่เปี่ยมไปด้วยมนต์สเน่ห์ที่น่าหลงใหลแบบนี้ ก็ยังทำให้แฟนๆที่รอคอยอยู่ต่างก็รู้สึกซี๊ดซ๊าดและตื่นเต้นกับการเปิดตัวภาพใหม่ของ FF12 ที่หวังว่าจะมาให้พวกเราได้ชมกันในไม่ช้า...
อนิจจา E3 ของปี 2003 ผ่านไป...แต่กลับไม่มีวี่แววหรือข่าวคราวเพิ่มเติมของ FF12 ซักนิด ตั้งแต่เปิดเผยรายชื่อทีมงานครั้งนั้น ข่าวก็เงียบหายไปเลย
29 พฤษภาคม 2003
- หากใครที่ได้เข้าไปในเว็บไซท์ส่วนตัวของคุณโนบุโอะอุเอมัตสึ จะเห็นได้ว่าเขาพูดถึงการทำเพลงให้กับ Final Fantasy 12 ซึ่งเขาบอกว่าเขาอยากจะลองทำเพลงแนวใหม่ๆใส่ลงไปในเกมนี้บ้าง ตรงจุดนี้จึงเป็นสัญญาณอันดีที่ประกาศให้ทุกๆคนทราบว่าคุณโนบุโอะก็จะมาช่วยทำเพลงให้กับเกมนี้ด้วย
13 มิถุนายน 2003
- มีข่าวลือว่า FF12 นั้นได้ถูกพัฒนาเสร็จไป 88% ตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ซึ่งสุดท้ายมันก็เป็นแค่ข่าวลือจริงๆ
1 สิงหาคม 2003
แสควร์ได้ประกาศข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อยว่า
- ภาคนี้จะไม่เน้นเรื่องความรัก
- ดนตรีที่จะใช้เป็นแนวเดียวกับ Final Fantasy XI
- ระบบต่อสู้ จะนำระบบของ FFTA มาดัดแปลง <------- ภายหลังล้มเลิกไป
26 กันยายน 2003
- เปิดตัวเว็บไซท์ของ Final Fantasy 12 อย่างเป็นทางการ ทว่าภายในเว็บไซท์กลับยังไม่มีข้อมูลอะไรที่มากไปกว่า Flash ของภาพสเกตภาพแรกของเกม พร้อมคำเปรยที่ว่า "Information Beginning 2003.11.19"
งาน TGS ผ่านไป...แต่ก็ยังคงไม่มี FF12 ปรากฏตัวอย่างเช่นเคย มีเพียงแต่การเปิดตัวของสุดยอดอภิมหาภาพยนตร์ที่เรียกเรทติ้งจากพี่ศิชนไปได้ถึง 95% ทีเดียว นั่นก็คือ Final Fantasy VII: Advent Children นั่นเอง
13 พฤศจิยายน 2003
V-Jump เปิดเผยภาพแรกของเกม ซึ่งภายในภาพจะเป็นรูป Artwork ของอาเช่กับวาน โดยที่ตัวของอาเช่มีเขียนว่า "นางเอก" และที่บนตัวของวานก็มีเขียนว่า "พระเอก" จากภาพนี้ก็คงจะเป็นสัญญาณบ่งบอกให้ทุกคนรู้ทันทีว่าสองคนนี้แหละคือตัวเอกของภาคนี้ ไม่ต้องไปเถียงกันหลังจากนี้อีกแล้วแต่อย่างไร
19 พฤศจิยายน 2003
- เว็บไซท์ของ FF12 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายในเว็บไซท์มีรูปคู่ของวานและอาเช่ให้โหลดกัน อีกทั้งยังมีข่าวด้วยว่าอาเช่เป็นองค์หญิงที่ประเทศถูกโจมตีจนล่มสลายไปเมื่อ 2 ปีก่อน มีข่าวลือว่าเธอได้ตายไปแล้วแต่จริงๆแล้วเธอแค่หลบหนีไป ในระหว่างนั้นเธอได้เจอกับวาน การได้เจอกับวานทำให้อาเช่ค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทั้งสองคนได้ใช้เวลาร่วมกันและสนิทสนมกันมาก จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาเริ่มเกมทั้งสองคนก็เป็นแฟนกันแล้ว พูดได้อีกนัยหนึ่งว่านี่คือ FF อีกภาคหนึ่งที่พระนางทั้งสองคนรักกันอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนจะเริ่มเรื่องก็ว่าได้ (ที่พูดมานี้มันคงจะเป็นความจริงได้ T T หากคุณอากิฮิโกะโยชิดะไม่ได้ดีไซน์เพเนโล่ตามมาในภายหลัง)
ข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซท์
- ตัวละครตัวต่อไปที่จะะเปิดเผยเป็นชาววิเอร่า
- เผ่าต่างๆในเกมจะเหมือน FFTA
- theme ของเกมประกอบด้วยสีฟ้าและสีส้ม
20 พฤศจิกายน 2003
- เปิดเผยสถานที่ใหม่ๆ เหมืองบัลไฮม์ หาดโฟน ป่าซาริกะ ริงก์ดราก้อน พระเอก 3 นาที
- มีการยืนยันว่าเหล่าสมิงเทพใน FFTA จะปรากฏตัวในภาคนี้ด้วย
- เปิดตัวเทพธิดาศักดิศิทธิ์อัลทิม่าพร้อมท่าพิฆาต "ถกกระโปรงยิงบีม"
- เปิดเผยโฉมหน้าของกาบรัส ฟราน บัลแฟรย์
- เทรลเลอร์ตัวแรก(แอบถ่าย) หลุดมาถึงมือของทุกๆคน
- ประกาศลดโพลิกอน แต่เพิ่ม texture และแสงเงา
23 พฤศจิกายน 2003
- เปิดตัวโคเฮย์ ทาเคดะ ผู้ให้เสียงวาน
29 พฤศจิกายน 2003
- นิตยสาร Famitsu ทำภาพล้อเลียน Final Fantasy XII ขึ้นปกของนิตยสาร
12 ธันวาคม 2003
- เปิดตัวฟรานและบัลแฟรย์อย่างเป็นทางการ
- ประกาศวันวางจำหน่ายเป็น "ภายในปี 2004"
15 เมษายน 2004
- เพเนโล่ปรากฏตัวในฐานะตัวประกอบ เอ้ย ตัวละครที่ 5 มีข่าวลือว่าเธอเป็นพี่น้องกับวาน
23 เมษายน 2004
- เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเพเนโล่กับวาน ทั้งสองคนเป็นกิ๊กกัน T---T ไอ้ที่ว่าจะให้อาเช่กับวานรักกันตั้งกะต้นเรื่อง เป็นอันพับเก็บเข้ากระเป๋าไป
13 พฤษภาคม 2004
- ภายในงาน E3 แสควร์ได้นำ Playable Demo ของ FF12 ไปเปิดให้เล่นกันถึง 10 ฉาก โดยตัวละครที่เราจะควบคุมได้มีแต่อาเช่และเรคส์เท่านั้น ส่วนอีกสองตัวเป็นแกมบิทซึ่งทาง SE เซ็ตไว้ให้แล้ว เราไม่สามารถไปปรับเปลี่ยนได้
- เปิดเผยระบบ ADB หรือ Active Dimension Battle
- เปิดตัวบาช ตัวละครที่ 6
23 พฤษภาคม 2004
- เปิดเผยระบบ Talk Icon
- มีการประกาศว่าจะไม่ใช้เพลง Victory Fanfare ในภาคนี้ (ซึ่งภายหลังก็ใช้)
6 มิถุนายน 2004
- เปิดตัว ฮัชมาลิม เวเรียส อดราเมเลค
23 กันยายน 2004
- กล้วยทอด! อาเช่และบาชเปี่ยนไป๊ !!! TwT มีการเปลี่ยนอาร์ทเวิร์คของอาเช่ครับ รวมทั้งวอลเปเปอร์ FF12 ที่อยู่ในไซท์หลักก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปของบาชและอาเช่ทั้งหมดเลยด้วย
*** ในส่วนของบาช ช่างมัน..ขี้เกียจทำรูป ฮา~ ***
28 กันยายน 2004
- ในงาน TGS มีเทรลเลอร์ใหม่ให้ชม แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยอะไรเพิ่มเติม
ปลายปี 2004
- เลื่อนวันวางจำหน่ายเป็น "ภายในปี 2005"
20 กรกฎาคม 2005
- เปิดตัวเวน ตัวละครตัวที่ 7
30 กรกฎาคม 2005
รายละเอียดจากงาน SQEX PT2005
- ประกาศวันวางจำหน่าย FF12 ภาคภาษาญี่ปุ่น เป็นวันพฤหัสที่ 16 มีนาคม 2006 และประกาศวันวางจำหน่ายของภาคอเมริกาเป็น "ภายวันเดือนกันยายน 2006"
- ประกาศ Theme Song - Kiss me Good-Bye
2 สิงหาคม 2005
- คุณยาสึมิมัตสึโนะลงจากตำแหน่งโปรดิวเซอร์เนื่องด้วยปัญหาด้านสุขภาพ และได้แต่งตั้งให้คุณอากิโตชิคาวาซึ รับตำแหน่งโปรดิวเซอร์ต่อจากตนแทน
15 กันยายน 2005
- เปิดตัวราซ่าในชื่อของราม่อน
23 กันยายน 2005
- เปิดเผยอามาเลีย ซึ่งเป็นชื่อปลอมของอาเช่
25 ตุลาคม 2005
- เปิดเผยชื่อของจัดจ์มาสเตอร์ กาบรัสและกีส
10 พฤศจิกายน 2005
- เปิดตัวเรือเหาะ ชตราล ซึ่งมีโนโนะเป็นผู้ดูแล
15 พฤศจิกายน 2005
- วันวางจำหน่ายของ DQ8 ภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งภายในเกมจะมีเดโมของ FF12 ให้เล่นด้วย
3 ธันวาคม 2005
- ไซท์หลักของ FF12 ได้อัพเดทวอลเปเปอร์รูปของเวนและราซ่า
5 ธันวาคม 2005
- เปิดเผยระบบแคลนและชื่อแคลน "เซนทริโอ"
9 ธันวาคม 2005
- ประกาศระบบขี่นกโจโคโบะ
30 ธันวาคม 2005
- เปิดตัวจัดจ์เดรส เบลก้า ซัลกาบาส
13 มกราคม 2006
- เปิดตัวเทรลเลอร์ใหม่ของ FF12 ที่ใช้เพลง Kiss me Good-Bye เป็นเพลงประกอบ
18 มกราคม 2006
- วันนี้เป็นวันวางจำหน่ายอัลบั้ม Kokoro no Senshi ซึ่งภายในอัลบั้มนี้จะมีเพลง Eyes on me อยุ่ด้วย อีกทั้งในส่วนของแผ่น DVD ที่แถมมาด้วยนั้นจะมี MV Kiss me Good-Bye ให้ดูกันด้วย
12 กุมภาพันธ์ 2006
- ทีมพัฒนาที่ 4 ของ Square-Enix ซึ่งเป็นทีมงานที่สร้างเกม FF12 นั้นต้องการที่จะทำเกม FF12 ให้มันเป็นเกมที่เสร็จสมบูรณ์เพอเฟคท์ในตัวของมันเอง ดังนั้นจึงขอยืนยันหนักแน่นว่า จะไม่มี FF12 International หรือ FF12-2 อย่างแน่นอน
16 กุมภาพันธ์ 2006
- เปิดตัวจักรพรรดิกรามิส
21 กุมภาพันธ์ 2006
- วันวางจำหน่าย V-Jump ฉบับพิเศษ ซึ่งภายในเล่มจะแถม แฟ้ม แผ่นรองเขียน สมุดโน้ต สติ๊กเกอร์ เมโมแพด โปสการ์ด โปสเตอร์ แล้วก็ปกเกม FF12 แบบดั้งเดิม
- เปิดตัวมนต์อสูรมาทิอุส
- เปิดตัวระบบมิสท์คาร์ด
- เปิดเผย World Map
1 มีนาคม 2006
- อัลบั้ม Symphony Poem "Hope" (Kibou) ซึ่งเป็นเพลงที่จะใช้เป็น Main Theme ของ FFXII ได้วางจำหน่าย ภายในชุดพิเศษของอัลบั้มนี้จะแถม PV Final Fantasy XII trailer featuring Symphony of Hope (Kibou) มาด้วย
5 มีนาคม 2006
- เปิดตัวอัลซิด
- เปิดเผยเทรลเลอร์ใหม่ซึ่งใช้เพลง Kiss me Good-Bye ฉบับภาษาญี่ปุ่นเป็นเพลงประกอบ
7 มีนาคม 2006
- โพชั่นวางจำหน่ายแล้ว~
ช่วงก่อนที่เกมจะวางจำหน่ายได้ราวๆ 1 เดือน
- มีข่าวลือเรื่องของบอสใหญ่หลายกระแส กระแสหนึ่งบอกว่าเป็นลาซ่าที่ถูกเวนจับมาบูชาเป็นร่างจุติให้กับเซนต์อจอร่า (ตอนสู้มีสามส่วน ชื่อเป็นภาษาลาตินทั้งนั้น ถ้าส่วนนอกถูกทำลาย ส่วนในจะมีสปีดเพิ่มมมากขึ้น) ส่วนอีกกระแสนึงบอกว่าบอสใหญ่คือพ่อของวานที่มีชื่อว่า ヴァズドアルゲド ส่วนกระแสที่เหลือก็บอกว่าเป็นคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกตัวเอกตั้งแต่แรก
- มีข่าวลือเรื่องการตายของเพเนโล่ บาช อาเช่
- ข่าวลืออื่นๆอีกจำนวนมาก
9 มีนาคม 2006
- Cidolfas ตัวจริงเสียงจริงปรากฏตัว!
- เปิดตัวพวก มัคเคนโร่ คาโรลีนู โมนี่ ซึ่งเป็นสหายเก่าของเราจาก FFTA
10 มีนาคม 2006
- บิทปลอมของ FF12 ออกอาละวาดดักควาย มีคนโดนหลอกนับแสนคน...
14 มีนาคม 2006
- บิท FF12 ของแท้ออกอาละวาดในค่ำของวันนี้
15 มีนาคม 2006
- วางจำหน่ายอัลบั้ม Kiss me Good-Bye
- บอนเริ่มต้นการผจญภัยในดินแดนแห่งอิวาลิซ
16 มีนาคม 2006
- วันวางจำหน่าย Final Fantasy 12
20 มีนาคม 2006
- วันจบเกมของบอน
2 เมษายน 2006
- วันคอมพลีทเกมของบอน
19 เมษายน 2006 -> เลื่อนเป็น 31 พฤษภาคม 2006
- วางจำหน่าย OST FF12 ในราคา 3,990 เยน (ชุดลิมิเต็ด)
16 มิถุนายน 2006
- วางจำหน่าย FF12 Battle&Scenario Ultimania เล่มละ 1,500 เยนและ 1,600 เยนตามลำดับ
22 กันยายน 2006
- Final Fantasy XII ชนะเลิศอันดับหนึ่งในการประกาศรางวัล Game Japan Awards 2006 ที่จัดขึ้นโดยทาง CESA โดยคุณฮิโรยุกิ อิโต เป็นคนขึ้นรับรางวัล
2 ตุลาคม 2006
- บิท FF12 ภาคอเมริกาออกอาละวาดในเวลาประมาณ 2 นาฬิกา
11 ตุลาคม 2006
- เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการวางจำหน่ายของ Final Fantasy 12 ในช่วงสิ้นเดือน ทางเมืองนิวยอร์คได้ตั้งให้วันนี้เป็นวัน Final Fantasy XII Day โดยมีการปิดเมืองฉลองกันที่ย่านจัตุรัสไทม์แสควร์ ภายในงานมีการประกอบ costume และมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย มีโปสเตอร์เกมแปะไปทั่วเมือง
31 ตุลาคม 2006
- วันวางจำหน่าย Final Fantasy 12 ที่อเมริกา
24 พฤศจิกายน 2006
- วางจำหน่ายหนังสือ FF12 Ultimania Omega เล่มละ 1,995 เยน
8 พฤษภาคม 2007
- แสควร์ได้เผยกับทางสื่อนิตยสารต่างๆ ว่าปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเกม Final Fantasy 12 International Zodiac Job System มีการเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นเล็กน้อย แต่ก็ได้ระบุว่าจะวางจำหน่ายในวันที่ 9 สิงหาคม ซึ่งก็คืออีก 3 เดือนข้างหน้า
10 พฤษภาคม 2007
- คุณฮิโรยูกิ อิโต ขึ้นเวทีแถลงข่าวเปิดตัว Final Fantasy 12 International Zodiac Job System อย่างเป็นทางการในงาน Square Enix Party 2007
9 สิงหาคม 2007
- วันวางจำหน่าย Final Fantasy XII International Zodiac Job System ซึ่งภายหลังได้ถูกผู้เล่นขนานนามว่าFF12 InterWTF !!
6 กันยายน 2007
- วางจำหน่ายหนังสือ FF12 International ZJS Ultimania ด้วยราคา 1,500 เยน
ร่ายมายาวพอดู และทั้งหมดนี้แหละครับคือที่มา ก่อนจะมาเป็น Final Fantasy 12 อย่างที่พวกเราได้เล่นกันในทุกวันนี้...