Tuesday, February 28, 2023

SQEX ประกาศ Merge Luminous Productions กลับเข้าบริษัท

 

Square Enix ประกาศควบรวม (ยุบสถานะนิติบุคคล) Luminous Productions ซึ่งก่อนหน้านี้มีสถานะเป็นบริษัทลูก ที่ Square Enix Holdings ถือหุ้น 100% กลับเข้าเป็นสตูดิโอส่วนหนึ่งของ Square Enix ดังเดิมอีกครั้ง โดยการควบรวมนั้นจะมีผล 1 พ.ค. 2023 เป็นต้นไป โดยให้เหตุผล (ที่ไม่น่าใช่เหตุผลจริง) ว่าการควบรวมกลับคืน จะเสริมศักยภาพการพัฒนาเกมขององค์กรให้ดีขึ้น...

[ความเป็นมา]

- มีการตั้งทีม Luminous Studio เพื่อ reserach & development เทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมาในช่วงประมาณปี 2012 ซึ่งทีมงานชุดนี้ ก็พยายามสร้าง Engine ขึ้นมา โดยการจะสร้าง Engine นั้น มันต้องมีเป้าหมายของสิ่งที่จะทดลองสร้างกันขึ้นมาก่อน เลยเกิดมาเป็น Tech Demo - Agni's Philosophy ในปี 2013

- ขณะเดียวกันก็มีการปรับแต่ง Engine พิเศษขึ้นใหม่ให้สร้างเกม MMO ได้ และกลายเป็น Engine ของ Final Fantasy XIV -A Realm Reborn- (2.00) ในปี 2013 ขึ้นมา

- ทีม Luminous Studio ทั้งพัฒนา Engine ต่อ และสร้าง Final Fantasy XV ขึ้นมาวางจำหน่ายในปี 2016

- 27 มี.ค. 2018 Square Enix จดทะเบียนตั้ง Luminous Productions เป็นนิติบุคคลแยกต่างหาก โดยตัวเองถือหุ้น 100% โดยมอบหมายให้คุณฮาจิเมะ ทาบาตะ ผู้กำกับ Final Fantasy XV เป็นหัวหน้าโครงการ โดยสตูดิโอนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเกมฟอร์มยักษ์ (AAA) และจับลูกค้าในกลุ่มตลาดโลก http://re-ffplanet.blogspot.com/2018/03/sqex-luminous-productions-studio.html

- 2023 Luminous Productions วางจำหน่าย Forspoken ที่วางแผนกันมาตั้งแต่ปลายปี 2017

- 28 ก.พ. 2023 Square Enix ประกาศควบรวม Luminous Productions กลับคืนเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเองตามเดิม ไม่ต้องเป็นนิติบุคคลแยกแล้ว


[สรุป]

- ละครการเมืองงงงงงงงงงง


https://www.luminous-productions.com/company/

https://twitter.com/LumiPro_EN/status/1630449903385329665

https://www.rpgsite.net/news/13856-luminous-productions-to-be-merged-into-square-enix

https://www.hd.square-enix.com/eng/news/2023/html/20230228_announcement_EN.html

โนะเผยภาพอิลลัสฯ ของทีดัสเวอร์ชั่นคาบูกิ


โนะวาดภาพอิลลัสฯ กลุ่มตัวละครหลักใน Final Fantasy X เวอร์ชั่นรีดีไซน์สำหรับละครคาบูกิ เพื่อใช้โชว์ใน Pamplet งาน และโชว์ในสกรีนยักษ์ขนาด 8 เมตร ก่อนการแสดง
.
ตอนนี้โนะพึ่งเผยเสี้ยวหนึ่งของภาพ ซึ่งเริ่มจากทีดัสและทรงผมด้านหลังที่เปลี่ยนไป
.
สำหรับละครคาบูกินี้ โนะยังเป็นคนกำกับดูแลคอสตูมด้วยนะ
.

Thursday, February 23, 2023

ผลสารพัดโพลล์ FF ในโอกาสครบรอบ 35 ปี จากโลกฝั่งตะวันตกโดย RPG Site


ปลายปีที่ผ่านมาในโอกาสครบรอบ 35 ปีของซีรีส์ Final Fantasy เว็บไซต์ RPG Site ได้เปิดให้แฟน ๆ ซีรีส์ดังกล่าวจากโลกฝั่งตะวันตก มาช่วยกันโหวตข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับซีรีส์ เพื่อจะได้ใช้เปรียบเทียบกับผลโพลล์ฝั่งญี่ปุ่น และเมื่อวานนี้ก็ได้มีผลโพลล์พร้อมบทวิเคราะห์ออกมาแล้ว

---------------------------------------
ภาคที่ดีที่สุด
---------------------------------------

1. Final Fantasy VII (17.2%)
2. Final Fantasy IX (17%)
3. Final Fantasy XIV (15.5%)
4. Final Fantasy VI (14.7%)
5. Final Fantasy X (11.4%)
6. Final Fantasy VIII (6.5%)
7. Final Fantasy XII (5.1%)
8. Final Fantasy IV (3.6%)
9. Final Fantasy XV (3.3%)
10. Final Fantasy V (1.9%)
11. Final Fantasy XIII (1.8%)
12. Final Fantasy XI (1.1%)
13. Final Fantasy (0.5%)
14. Final Fantasy III (0.4%)
15. Final Fantasy II (0.2%)

- เมื่อเทียบกับ poll เมื่อปี 2018 เห็นว่าอันดับ FFXIV สูงขึ้นมา ส่วน FFXV ที่หมดกระแสก็ร่วงลงไป

- ภาค 1-3 รั้งท้าย ทั้งปี 2018 และ 2023

---------------------------------------
ภาคแรกที่เล่น
---------------------------------------

1. Final Fantasy VII (29.2%)
2. Final Fantasy X (11.2%)
3. Final Fantasy (10.8%)
4. Final Fantasy VIII (10.7%)
5. Final Fantasy IV (9.3%)
6. Final Fantasy VI (8.1%)
7. Final Fantasy IX (6.1%)
8. Final Fantasy XV (3.1%)
9. Final Fantasy XIII (2.9%)
10. Final Fantasy III (2.8%)
11. Final Fantasy XII (2.1%)
12. Final Fantasy XIV (1.7%)
13. Final Fantasy V (1.3%)
14. Final Fantasy II (0.6%)
15. Final Fantasy XI (0.1%)

- สังเกตว่าภาคแรกของเจนฯ มักเป็นภาคที่เข้าถึงคนกลุ่มใหม่มากที่สุด

- ในขณะที่ภาค 13-15 ดึงคนกลุ่มใหม่ได้เพียง 7.7%

- คน 26.8% ที่ยกภาคแรกที่เล่น ให้เป็นภาคที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง

- เมื่อมองย้อนกลับ คนที่ยก FFVII ให้เป็นภาคที่ดีที่สุด มี 56.5% ที่บอกว่าภาคนี้เป็นภาคแรกที่เขาเล่น

- 54.5% ของคนที่ยกให้ FFI เป็นภาคที่ดีที่สุด บอกว่าภาคนี้เป็นภาคแรกที่เขาเล่น

- มีเพียง 21.69% ของคนที่ชอบ FFVI ที่สุด บอกว่านี่เป็นภาคแรกที่เขาเล่น หมายความว่ามันเป็นเพชรที่ถูกค้นพบเอาทีหลัง

- กรณีของ FFXIV มีเพียง 8.2% ของคนที่ชอบ FFXIV ที่สุด บอกว่านี่เป็นภาคแรกที่เขาเล่น

---------------------------------------
ตัวเอกที่ชอบที่สุด
---------------------------------------

1. Cloud Strife (23.9%)
2. Terra Branford (14.9%)
3. Zidane Tribal (13.1%)
4. Squall Leonheart (10%)
5. Cecil Harvey (9%)
6. Lightning (8.6%)
7. Noctis Lucis Caelum (7.5%)
8. Tidus (7.4%)
9. Bartz Klauser (2%)
10. Warrior of Light (1.6%)
11. Vaan (1%)
12. Onion Knight / Luneth (0.6%)
13. Firion (0.5%)

- 61% ของคนทีชอบ FFVII ที่สุด ยกให้คลาวด์เป็นตัวเอกที่ชอบที่สุด

- 69% ของคนที่ชอบ FFXIII ที่สุด ยกให้ไลท์นิ่งเป็นตัวเอกที่ชอบที่สุด อันนี้นับได้ว่า แฟน FFXIII จะจงรักภักดีกับตัวเอกของตัวเองที่สุดแล้ว

- มีเพียง 6% ของคนที่ชอบ FFXII ที่สุด ยกให้วานเป็นตัวเอกที่ชอบที่สุด แปลว่าขนาดแฟน FFXII เอง ยังไม่รักวานเลย

---------------------------------------
ภาคแยก/ซีรีส์แยก ที่ชอบที่สุด
---------------------------------------

1. Tactics / Ivalice Alliance (37.8%)
2. Compilation of FFVII (17.6%)
3. Final Fantasy X-2 (6.6%)
4. Dissidia Final Fantasy Series (6.4%)
5. Theatrhythm Series (6%)
6. Final Fantasy XII-2 & Lightning Returns / FNC (5.9%)
7. Stranger of Paradise: Final Fantasy Origin (3.7%)
8. World of Final Fantasy (3.2%)
9. Final Fantasy Type-0 (3.1%)
10. Crystal Chronicles Series (2.8%)
11. Final Fantasy Mystic Quest (1.7%)
12. Chocobo Series (1.5%)
13. Final Fantasy: The Four Heroes of Light (0.9%)
14. Final Fantasy Brave Exvius Series (0.8%)
15. Final Fantasy Record Keeper (0.6%)
16. Final Fantasy IV: The After Years & Interlude (0.5%)
17. Final Fantasy XV Universe (0.4%)
18. Mobius Final Fantasy (0.4%)
19. Final Fantasy Explorers (0.1%)

---------------------------------------
ความสนใจใน FFXVI
---------------------------------------

1. ซื้อเดย์วันชัวร์ (56.1%)
2. ยังลังเลอยู่ (36.1%)
3. ไม่เล่น ไม่ใช่แนว (7.8%)

สยามชาติกับการเปลี่ยนผ่านค่านิยมจากเถื่อนไปแท้

นอนป่วย ฟื้นมาตอนตี 3 ไถมือถือไปแป๊ปนึง แล้วก็เห็นเพจนึง แคปภาพมาเขียนถึง The Last of Us.... แต่ภาพมันติดลายน้ำที่ทำให้รู้ว่าภาพถูกแคปมาจากเว็บดูหนังเถื่อน เพจนั้นก็เลยโดนทัวร์ลง ว่าไปจ่ายเงินดูของถูกลิขสิทธิ์เถอะ คนดูเถื่อนไม่มีสิทธิวิจารณ์หนัง ฯลฯ


ในความรู้สึกโดยรวม ผมค่อนข้าง "เห็นใจ" เจ้าของเพจในเคสนี้

ว่าแล้วก็ไล่เรียงความคิดว่าทำไมตัวเองรู้สึกแบบนั้น แล้วก็อยากเขียนบันทึกความทรงจำไว้


-----------------------------

[ยุค 90s]

-----------------------------

- ผมเป็นคนเจนฯ Y ที่โตมาในช่วงยุค 90s ซึ่งสยามประเทศตอนนั้น ทุกอย่างเต็มไปด้วยของเถื่อน แผ่นเกมเถื่อน เทปผี ซีดีเถื่อน หัวโปร SFC และแผ่นก๊อป PS1 โดยค่านิยมของคนในชาติยุคนั้น (ซึ่งประกอบด้วยชาวเจนฯ Baby Boomer, X, Y ยังไม่มีชาว Z เกิดมา) คือของเถื่อนก็ดูได้เหมือนกัน เกมก็เล่นจบได้เหมือนกัน คนซื้อของแท้คือคนโง่ฟุ่มเฟือย คนใช้ของเถื่อนเป็น 99% ของสังคม ต่อให้เราอยากเก็บเงินค่าขนมซื้อของแท้ ก็จะโดนผู้ปกครองกระซวกไส้แล้วจับไปปรับทัศนคติว่าเป็นคนเลวระยำตำบอนได้

- ขนาดเครื่องแฟมิคอมในยุคนั้น ที่ขายในไทย มันยังเป็นเครื่องเถื่อนที่ก๊อปปี้ Nintendo มาทำเลย มันก็ใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง

*** พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พึ่งเริ่มใช้ในไทยปี 1994 แต่กว่าที่แนวคิดใน พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ จะเริ่มแพร่หลายเป็นที่ยอมรับ มันก็ต้องล่วงเลยไปกว่านั้นหลายปี ***

- อย่างไรก็ตาม ตัวผมกลับโดนนิตยสาร MEGA และพี่สุภาพ (นามปากกาคนตอบจดหมายทางบ้าน) ล้างสมองตั้งแต่ประถม ว่าการซื้อของก๊อป ใช้ของเถื่อน มันไม่ได้สนับสนุน และไม่อาจทำให้อุตสาหกรรมเติบโตไม่ได้ เมื่อมีกำลังทรัพย์ และเติบโตขึ้นแล้ว ก็ช่วยอุดหนุนของแท้ ตามที่ไหวด้วย ---- ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้น ให้ผมไปทะเลาะกับเพื่อนแบบ 1 vs 400 (ทั้งชั้นเรียน) ว่าการใช้ของแท้คือสิ่งที่ถูกต้อง แต่เพื่อนอีก 400 ซึ่งถูกสังคมและพ่อแม่หล่อหลอมมา ก็จะบอกว่าใช้ก๊อปแหละถูกแล้ว


-----------------------------

[Y2K]

-----------------------------

- เขยิบมาในยุค 2000 ซึ่งเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ช่วง PS2 PSP NDS PS3.... ผมเริ่มเก็บเงินค่าขนม 3-6 เดือน เพื่อซื้อแผ่นแท้อิมพอร์ทจากญี่ปุ่นในราคาแผ่นละ 3,000+ ขึ้นไป เรียกว่าเป็นราคาที่แพงกว่าแผ่นโซนเอเชียสมัยนี้เกือบเท่าตัว แถมด้วยความที่ยังเป็นวัยเรียน ทำให้ต้องใช้ความอดทนและวินัยอย่างสูงในการเก็บเงินอย่างเป็นระบบ แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้มาแล้ว....

- ทว่าสังคมในสมัยนั้น (ก่อนจะถึงยุค PS3) ซึ่งชาวเจนฯ Z พึ่งเกิดมาเป็นเด็กเล็กและยังไม่มีปากเสียงในสังคม ก็ยังเต็มไปด้วยค่านิยมในการใช้ของเถื่อน ตัวผมเองเก็บเงินซื้อแผ่นแท้มาเล่นได้แล้ว เริ่มจาก FFX เป็นแผ่นแรก ช่วงแรกก็นิยมใส่แผ่นแท้เล่นนะ แต่ไป ๆ มา ๆ พอเปิด ๆ ปิด ๆ จนกล่องเยิน สึกหรอ เสียความสวยงามไป.... ถึงจุดนึงผมตกผลึกได้ว่า เราไม่แกะซีลแผ่นแท้ดีกว่า คือเราก็ซื้อแผ่นแท้เกม PS2 PSP NDS มานั่นแหละ เกมที่คลั่งก็อาจจะซื้อทั้งเวอร์ชั่น JP NA ด้วยซ้ำ แต่ก็มักเล่นจาก ROM และแผ่นก๊อปแทน เพราะสำหรับ PSP แล้วมันโหลด ROM-ISO ไวกว่า, สำหรับ NDS ก็ผมอยากเก็บเซฟเป็นดิจิทัลไฟล์ไว้มากกว่าเก็บในตลับ และโดยรวมแล้วผมไม่อยากแกะซีลแผ่นแท้

*** บางทีในสังคมก็จะมีการเข้าใจผิดว่า คนเล่น ROM ISO หรือใช้แผ่นก๊อป คือคนที่ไม่ซื้อของแท้ และถูกฟันธงว่าเป็นฝั่งมืดไปเลย.... ทว่าในความเป็นจริง ตัวผมและเพื่อนรอบตัว เราก็ซื้อแท้ แต่สะดวกจะเล่นจากเถื่อนมากกว่า.... >>>> นั่นหมายความว่า ถึงเราเห็นใครเล่นเถื่อน หรือแคปภาพจากเถื่อนมา ก็ไม่อาจสรุปได้ทันทีว่าเขาไม่ซื้อแท้ ***

- ยุคนี้เริ่มเกิดการทะเลาะในสังคม โดยคนเล่นแผ่นแท้กับแผ่นก็อป ก็เริ่มเหยียดกัน แล้วก็มีการ์ดเด็ดที่มักจะหยิบมาถามกันประจำว่า "ที่บ้านใช้วินโดว์แท้รึเปลา? ถ้าไม่ได้แท้ก็ไม่มีสิทธิพูด?"


-----------------------------

[2010s ยุคปฏิวัติ]

-----------------------------

- ต่อมาในยุค 2010s เป็นต้นมา.... ค่านิยมของสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก กลายเป็นว่าคนเล่นแผ่นแท้เยอะขึ้นอย่างมาก และมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน จากเหตุปัจจัยหลายอย่าง ที่ผมนึกได้เช่น

a) PS3 มันสร้างระบบป้องกันไว้เป็นอย่างดี กว่าจะโดนแฮ็คให้เล่นเถื่อนได้ก็ช่วงปลายเจนฯ แล้ว ทำให้คนไทยที่ตามเล่นเกม PS3 เป็นหลัก ถูกบังคับให้เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อ ไปโดยปริยาย | อีกทั้ง PSP ก็มีบางช่วงที่แฮ็คเกอร์แฮ็คตามไม่ทัน อย่างเช่นช่วงที่ KH Birth by Sleep ออกมา ทำให้หลายคนถูกบังคับให้ต้องไปเล่นแท้

b) ชาวเจนฯ Y เข้าสู่วัยทำงานแล้ว ทำให้มีกำลังทรัพย์มากขึ้น สามารถซื้อแผ่นแท้ได้ง่ายขึ้น

c) กำเนิดสิ่งที่เรียกว่า "แผ่นเอเชีย" ในราคา 1,000-2,000 บาท... ซึ่งแม่งถูกกว่าแผ่นญี่ปุ่นอิมพอร์ตที่ตรูซื้อในวัยมัธยมอี๊กกก - ถัดจากการทำตลาดของ Game Freak ทาง Sony ก็เริ่มทำตลาดโดยมี Authorized Dealer เกิดขึ้นในประเทศไทย

d) สังคมมันเปลี่ยนผ่าน ชาว Baby Boomer ที่ชินกับค่านิยมเก่าล้มหายตายจากไปมากขึ้น ชาวเจนฯ Z ที่เกิดขึ้นมาใหม่ และได้รับการหล่อหลอมจากคนเจนฯ Y ที่ซื้อแท้ได้แล้ว ก็โตมาบนค่านิยมของการซื้อแผ่นแท้เลย คนรุ่นอัลฟ่าเบต้า ที่เกิดมาแล้วและจะมีปากเสียงในโซเชียลยุคต่อไป ก็จะเติบโตไปตามทิศทางนั้น

- การทะเลาะกันระหว่างฝ่ายที่จะให้ซื้อแท้อย่างเดียว กับฝ่ายที่เชียร์ของเถื่อน ก็ยังคงมีต่อไปเรื่อย ๆ และก็คงจะมีต่อไป ตราบที่ยังมีมนุษย์ ก็ยังมีความขัดแย้งเกิดขึ้นเรื่อยไป

- อันนี้ความเชื่อส่วนตัว ผมยังเชื่อว่าไม่มีใครในสยามประเทศที่ใช้แท้ทุกอย่างได้ 100% คือมันต้องมีใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์กันสักจุดแหละ ไม่ว่าจะวินโดว์ปลอม กระเป๋าแบรนด์เนมปลอม ดูหนังจากเว็บเถื่อนบ้าง ดู AV เถื่อนบ้าง (ทั้งที่ AV มันก็เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ของญี่ปุ่น และไทยซึ่งเป็นภาคีอนุสัญญา TRIPS จะต้องให้ความคุ้มครองเช่นกัน) บางส่วนก็ยังเล่น PS3 แปลงเถื่อน, 3DS แปลงเถื่อน ฯลฯ 



กลับมาที่เคส The Last of Us ทิ้งท้าย สาเหตุที่ผมเห็นใจเพราะ

1. จากประสบการณ์ด้านบน ก็รู้กันอยู่ว่ามันไม่มีใครในสยามชาติใช้แท้ทุกอย่างอยู่แล้ว เลยไม่มีประโยชน์ที่จะไปแซะคนอื่นในเรื่องนี้ - เต็มที่ก็แซวหยิกแกมหยอก ให้พอเขิน ๆ ก็พอแล้ว

2. คนที่เล่นเกมจาก ROM-ISO ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ซื้อแผ่นแท้มาเก็บฉันใด, คนที่แคปภาพติดลายน้ำเว็บเถื่อนมา ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ได้สมัคร HBO GO ของแท้ไว้

ตัวผมเองที่บ้าน มีคุณลุง Baby Boomer ที่สมัครบริการหนัง ทุกยี่ห้อไว้แหละ และเขาก็แชร์ไอดีให้ใช้ทั้งครอบครัวได้ แต่จะใช้ก็ต้องแจ้งเขาและคอย logout ออกด้วย ตอนผมดู ผมก็ดูจากไอดีของลุง... ทว่าถ้าผมจะแคปภาพจากหนังมาคุย ผมก็คงไป google หามั่ว ๆ หรืออาจไปหยิบจากเว็บเถื่อนมาเหมือนกัน ทว่านั่นก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ได้สมัครของแท้ไว้ไง

3. ผมเคยมีประสบการณ์ ID และ password ทั้งหมดที่อยู่ใน google smart lock รวมถึงข้อมูลบัตรเครดิตด้วย ถูกแฮ็คไป โดยบัตรเครดิตนี่โดนถึง 2 รอบ แล้วเงินก็รั่วไหล (แบบคดีหมอลิลลี่เมื่อเร็ว ๆ นี้) กว่าจะอุทธรณ์เพื่อให้ได้เงินกลับมา มันประสาทแดกและเหนื่อยมาก

หลังจากวันนั้นมา ผมเลยเปลี่ยน password ทั้งหมดของตัวเองใหม่ ให้แต่ละเว็บไม่ซ้ำกัน และมีการคอยเปลี่ยนอย่างเป็นระบบ กรณีบัตรเครดิตเองผมก็ lock ผ่าน app ไว้ไม่ให้ใช้งานได้ พอจะใช้ทีก็ค่อยไปปลด lock ใน app ที.... และผมถือคติว่า "จะไม่ผูกข้อมูลบัตรเครดิตไว้กับอะไรอีกก็ตาม"

ซึ่งการถือคตินี้ มันทำให้ใช้ชีวิตลำบากมากขึ้นเยอะเลย แต่ก็ต้องทำเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ดังนั้น ผมเลยไม่เคยปาดาวให้ใครใน facebook, ไม่เคยส่งเงิน ส่ง superchat ใน youtube, พวกบริการที่ไม่ได้จำเป็นกับชีวิตและมันต้องตัดเงินผ่านบัตร ผมก็ไม่สมัครทั้งหมด, ถ้าจะสนับสนุนอะไรใคร เราก็สนับสนุนในช่องทางอื่น ๆ ได้เยอะแยะ ฯลฯ

4. ดังนั้น มันก็เลยมีล้านเหตุผลที่คน ๆ นึงอาจจะไปหยิบภาพติดลายน้ำของเว็บเถื่อนมาลง, มีล้านเหตุผลที่เขาจะไม่ได้ใช้ของถูกลิขสิทธิ์ในจุดหนึ่ง แต่ก็ใช้ของถูกลิขสิทธิ์ในอีกหลาย ๆ จุด


ผมเลยไม่เห็นเหตุผล ที่เราควร suggest กันแบบ aggressive แต่อย่างใด.... คนเราควรแนะนำกันแบบ positive แบบวิธีที่พี่สุภาพ ณ MEGA เคยล้างสมองผมไว้ตั้งแต่วัยประถมนั้นมากกว่า

การแนะนำกันแบบ positive นั้น แม้มันไม่ได้ช่วยให้คนเมนต์รู้สึกว่าตนได้สำเร็จความใคร่ทางศีลธรรม แต่ผมว่ามันก็ถนอมความรู้สึกของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และน่าจะให้ผลลัพธ์ในการเปลี่ยนแปลงผู้อื่น ได้ดีกว่าวิธีแบบ aggressive

เป็นกำลังใจ ให้คนที่ใช้ชีวิตอยู่เพื่อส่งพลังบวกให้คนอื่น ๆ ในแต่ละวันนะ

Sunday, February 12, 2023

นั่งดูหลานเล่น Before The Storm จนจบ...


นั่งดูหลานเล่น Before The Storm จนจบ...

ภาค 2 ว่าดูแล้วปวดตับ ชีวิตมีแต่ความซึมเศร้า เต็มไปด้วยความสูญเสียแบบจุก ๆ ทุกตอนแล้ว

ไอ้ Before The Storm เนี่ยก็ชีวิตรันทดไม่แพ้กัน


<Spoiler Alert>


โคลอี้ วัย ม.ปลาย หลังจากนั่งรถไปกับพ่อ แล้วประสบอุบัติเหตุรถถูกชนไฟไหม้ ตัวเองรอดแต่พอตาย ทำใจไม่ได้ ติดแอลกอฮอล์ เล่นยาสายเขียว เที่ยวกลางคืน ไม่ไปเรียน ชีวิตพัง แม่โทรตามก็ไม่รับไม่ตอบแชท.... แม่มีแฟนใหม่มาดามใจ แต่โคลอี้เข้ากับแฟนใหม่แม่ ไม่ค่อยได้ แฟนใหม่แม่ก็เป็นทหารผ่านศึกซื่อ พยายามจะดุให้อยู่ในร่องในรอย มันเลยยิ่งไปกันใหญ่

ส่วนเรเชล เป็นนักเรียนดีเด่นอยู่ แต่ก็ซ่อนความเปรี้ยวจี๊ดไว้ในตัว ชวนกันไปหนีเที่ยว แล้วเรเชลก็พบว่าพ่อมีเมียน้อย... เลยเสียใจ จะชวนโคลอี้ที่ประสบปัญหาชีวิตเหมือนกัน หนีออกจากบ้านไปใช้ชีวิตเมืองอื่น แต่ไป ๆ มา ๆ ดันพบว่า ไอ้คนที่เข้าใจว่าเป็นเมียน้อยนั่น เป็นแม่แท้ ๆ ของตัวเอง ส่วนแม่ที่เลี้ยงตนเองมา เป็นภรรยาที่ดีของพ่อ แต่ไม่ใช่แม่แท้ ๆ

ซึ่งแม่แท้ ๆ ของเรเชล ก็เป็นคนดาร์ก ๆ ติดการใช้สารเสพย์ติดอย่างจงหนัก และคิดว่ามันชวนหนีความเจ็บปวดได้ และเที่ยวชักชวนให้ใช้

ซึ่งพ่อของเรเชลก็เห็นว่าสภาพนี้ไม่น่าเลี้ยงลูกได้แน่ เลยแยกทางออกมาแล้วมีภรรยาใหม่ ซึ่งก็คือโรส ผู้หญิงที่เลี้ยงเรเชลมา และเรเชลคิดว่าเป็นแม่ตนเอง

แล้วพ่อของเรเชล ก็พยายามสร้างภาพ สร้างโลก โกหก ปกปิด ทำทุกวิถีทางทั้งสะอาดและไม่สะอาด ประสานักการเมือง เพื่อไม่ให้เรเชลกับแม่ของเธอติดต่อกันได้ เพราะไม่อยากให้แม่ของเรเชลส่งอิทธิพลต่อเรเชลได้

แม่ของเรเชลพยายามติดต่อเรเชลเรื่อยมา ทั้งจ้างทนายมาต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิเข้าเยี่ยมเรเชล แต่ภายหลังเธอก็คิดว่า การที่เรเชลไม่รู้ความจริง และอยู่ภายใต้ครอบครัวอบอุ่นปลอม ๆ ที่สามีสร้างขึ้นมานั้น มันก็ดีกับเรเชลอยู่แล้ว...

พอเรเชลได้รู้ความจริงทั้งหมด บ้านก็แตก

ฉากสุดท้ายของเกม เป็นฉากที่ดูแล้วกระอักกระอ่วนมาก คนที่มี trauma ประสบการณ์ร่วมกันกับเหตุการณ์แบบนั้นมาก่อน จะ depress ได้


😅 ผมว่าผมเหมาะกับเกมที่เบียว เกมที่เล่นแล้วให้พลังบวก ให้ความหวังในการมีชีวิตต่อไปยังอนาคต เกมที่ชี้นำว่าคนเราลิขิตชะตาให้ตนเองได้ แบบที่พวกวรรณกรรมญี่ปุ่น พยายามล้างสมองเรามาตั้งแต่เด็ก มากกว่าเกมแบบนี้แฮะ

ฮาซามะเผย ทีม Final Fantasy Tactics กำลังยุ่งกับการพัฒนาเกมอื่นอยู่

อิจิโระ ฮาซามะ บอกว่าสาเหตุที่ Theatrhyhm Final Bar Line แทบไม่มีตัวละครจาก Final Fantasy Tactics เพราะทีม Theatrhyhm ไปหยิบตัวละครจากภาคอื่น ๆ มาตีความเองไม่ได้ ก็ต้องปรึกษากับทีมงานเจ้าของผลงานภาคนั้น ๆ ก่อน

ซึ่งกรณีของ Final Fantasy Tactics นั้น ทีม FFT กำลังยุ่งฉิบหายวายป่วงกับโปรเจคท์อื่นอยู่ จนไม่สามารถให้คำแนะนำได้

https://www.ffworld.com/2023/02/09/interview-ichiro-hazama-et-masanobu-suzui-theatrhyhm-final-bar-line/

ทีม FFT นั้น ก็เป็นทีมที่ทำ FFXII, Dungeon Encounters และ Tactics Ogre Reborn ด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขากำลังทำเกมอะไรอยู่ อาจจะเป็น Final Fantasy Tactics Remaster ตามที่เคยมีข่าว  Nvidia GeForce leak ก็เป็นได้

Friday, February 10, 2023

บทสัมภาษณ์ทีมงาน FF Origin จากหนังสือ Confidential File : Secret Chapters

บทสัมภาษณ์ทีมงาน Producer และ Director ฝั่ง SQEX และ Koei Tecmo 4 คน (ไม่มีโนะ)


คุณอิโนะอุเอะ = ผู้กำกับเกม ฝั่ง Square Enix

คุณฟุจิวาระ = ผู้อำนวยการสร้าง ฝั่ง Square Enix

คุณยาสึดะ = ผู้กำกับเกม ฝั่ง Koei Tecmo

คุณคุมาเบะ = ผู้อำนวยการสร้าง ฝั่ง Koei Tecmo


หน้า 88-89

- ฝั่ง Koei Tecmo เคยร่วมกับ SQEX ทำ Dissidia Arcade และ Dissidia Opera Omnnia มาแล้ว และยังมีแฟน FF หลายคนอยู่ใน Team Ninja พวกเขาเลยยินดีร่วมงานด้วย

- ตอนแรกก็กะจะทำเป็นเกม RPG เต็มตัวนะ แต่โนะรีเควสต์มาว่า "ถ้าจะทำ ก็โปรดทำในสิ่งที่ภาคหลักทำไม่ได้ไปเลย" เราเลยเปลี่ยนแนวทางเป็น Action

- ตัวละครหลักของเกม เป็นผู้คนที่มาจากที่อื่นที่ไม่ใช่คอร์เนเลีย ก็เลยเป็น Stanger

- Paradise ในที่นี้ ก็คือคอร์เนเลีย

- Stanger of Paradise เลยหมายถึง คนที่ไม่น่าจะอยู่ในคอร์เนเลียได้

- ส่วน Origin นั้น เติมเข้าไปเพื่อเป็นการสื่อว่า FFI อาจจะมีจุดกำเนิดเช่นนี้ได้

- Dissidia นั้นมีคอนเซปต์ Character All-Star FF, ส่วนเกมนี้มีคอนเซปต์ว่า Landmark All-star FF โดยใน Dissidia นั้น ตัวละครแต่ละตัวเอาอิมเมจจากภาคออริจินอลมาปรับให้เข้ากับโลก Dissidia สำหรับเกมนี้ ก็เอาอิมเมจ Landmark ในภาคออริจินอลแต่ละภาคมาสร้างใหม่ให้เข้ากับโลกของเกมนี้เช่นกัน ในแง่ไอเดียตรงนี้ Dissidia กับ FF Origin ไม่ต่างกัน ทว่าอาจจะต่างกันตรงสปีดของแอ็คชั่นกับความติดดิน เพราะในขณะที่ Dissdia นั้นตัวละครลอยไปลอยมากลางอากาศกันนาน แล้วสปีดแอ็คชั่นก็ไวกว่า แต่เกมนี้จะสู้กันแบบติดดินมากกว่า

- สาเหตุที่ใช้เพลง My Way เป็นเพลงธีม เพราะเข้ากับวิถีชีวิตของแจ็ค การเอาเพลงเก่าคลาสสิกมาใช้เป็นเพลงธีมของเกมปัจจุบัน ก็ดูเป็นเรื่องที่เจ๋งดี

- อุปสรรคในการสร้างก็เช่น อยากจะแปลออกมาให้ได้หลายภาษาที่สุด แต่งบประมาณ และเวลา มีจำกัด ตอนจะตัดชอยส์ว่าเอาภาษาไหนออก ก็ลำบากใจ

- อุปสรรคเรื่อง Rating คุณคุมาเบะบอกว่า ฝ่ายตรวจสอบ เขาเข้มงวดกับ Sexual Expression จาก Tiamat และตัว Elemental มากกว่าเรื่อง Gore Expression ซะอีก

- พอถามว่าคีย์เวิร์ดของเรื่องคืออะไร อิโนะอุเอะบอกว่า เรื่องราวที่พาไปสู่ความหวังแห่งอนาคต ตอนแรกที่เขาได้พล็อตมาจากโทโมโคะ คาเนมาคิ (คนที่แต่งนิยาย KH และเขียนซีนาริโอให้ KH บางภาค) เขาคิดว่าจะเป็นเรื่องราวของการโกรธแค้น แก้แค้น สะท้อนอารมณ์เนกาทีฟของแจ็คซะอีก ตอนแรกเขาเองก็รีเควสต์คาเนมาคิแบบนั้น ทว่าโนจิมะ (คาสึชิเงะ) ที่เป็นคนเขียนสคริปต์แนะนำว่า เขาอยากให้เรื่องราวของแจ็คและผองเพื่อน จบลงด้วยรอยยิ้ม อย่าให้มันจบเศร้าเลย ฉากจบเลยเปลี่ยนเป็นแบบที่เพื่อน ๆ คุยกันถึงแผนที่จะเกิดขึ้น โนจิมะในฐานะที่เขียนเรื่องราว FF มานาน ก็มองว่าแทนที่จะจบเศร้าแบบที่แจ็คและผองเพื่อนต้องทนทุกข์ทรมานกันต่อไป ควรเปลี่ยนมาเป็น เรื่องราวจุดกำเนิดของชายที่ยอมตกสู่ความมืด เพื่อส่งต่อความหวังไปยังอนาคต

- ทำไมถึงเป็นเรื่องของ FFI? คุณอิโนะอุเอะบอก ก็โนะเขียน Proposal มาว่า "การ์แลนด์เป็นใคร?" "ทำไมเค้ากลายเป็นเคออส?" มันก็เลยต้องเป็นเรื่องของคอร์เนเลียกับ FFI แล้วก็ตรงกับการครบรอบ 35 ปีซีรีส์พอดี


หน้า 236-237

- สาเหตุที่ผูกเรื่องให้การ์แลนด์กับเซร่าห์รักกันเพราะอยากให้เซร่าห์เป็นคนที่มีความหวังอยู่ในใจ เธอมองเห็นความหวังในตัวแจ็ค ว่าแจ็คที่อาจเป็นนักรบแห่งแสง จะเป็นคนที่ช่วยโลกนี้เอาไว้ได้ ชาวบ้านพูดกันว่าเซร่าห์เป็นสัญลักษณ์ของอนาคตอันสดใส ดังนั้น จึงต้องมีคนที่เธอมองว่าเป็นความหวัง


- ตั้งแต่แรกเริ่มของการพัฒนา มีการวางคอนเซปต์ตั้งต้นโดยโนมุระว่าจะให้แจ็คและผองเพื่อนกลายเป็นเคออสกัน  ต่อมาทีมงานก็อดใจรอที่จะอ่านพล็อตที่คิดโดยคุณคาเนมาคิ และซีนาริโอที่เขียนโดยคุณโนจิมะ กันแทบจะไม่ไหว

- สาเหตุที่หยิบแอสโตสมาเป็นตัวละครสำคัญของเรื่อง ก็เพราะใน FF1 แอสโตสเป็นตัวละครเดียวนอกจากเหล่าเคออสที่อยู่ฝั่งความมืดอย่างชัดเจน ก็คิดว่า ฝั่งความมืด=ฝั่งเคออส และคิดว่าเขาก็น่าจะร่วมมือกับแจ็คอยู่เบื้องหลัง ในตอนที่โลกถูกรีเซทในแต่ละครั้ง


- ในช่วงต้นการพัฒนา ก็วางแผนว่าจะให้เนื้อเรื่องเดินตามรอย FF1 แต่แล้วก็จะฉีกออกไปกลางทาง ให้แจ็คเดินไปตามเส้นทางของตนเอง แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้กำหนดกันว่าจะให้เนื้อเรื่องฉีกออกไปช่วงไหน.....

- ในตอนแรกจะให้มีแม่มดมาโทย่ากับเจ้าชายเอลฟ์ด้วย แต่เนื่องจากปริมาณงานโดยรวม สุดท้ายก็ตัดสองคนนี้ออกไป สำหรับบาฮามุทนั้น ตั้งใจจะให้ปรากฏตัวใน DLC เพราะอยากให้ได้สู้กับศัตรูที่เป็นบอสประจำซีรีส์

- ไอเดียที่เอาโลเกชั่นมาจาก FF ภาคในอดีต ก็เป็นไอเดียของโนมุระ ที่อยากทำ Landmark All-Star FF

- หลังจากกำหนดกันว่าเกมนี้จะอยู่บนโลกของ FF1 แล้ว ก็กางสำรวจแผนที่โลก ก็ไล่ดูว่าภูมิประเทศแต่ละจุดเหมาะกับดันเจี้ยนหรือสถานที่จาก FF ภาคไหน ก็พยายามค้นหาสถานที่จากภาคต่าง ๆ ซึ่งอิมเมจมันสอดคล้องกันได้ มันก็ลองผิดลองถูกกันเยอะ เพราะอยากให้เลือกสภาพแวดล้อมอันหลากหลาย และครอบคลุมภาคหลักทั้งหมดทุกภาคด้วย

- ในการเลือกบอสแต่ละด่าน อย่างโบราณสถานรงกา ตอนแรกมี Archaeo Avis กับ Soul Cannon เป็นตัวเลือกด้วย แต่สุดท้ายก็เลือก Cray Claw ตอนแรกก็คิดนะว่า Arcahaeo Avis มันจะเข้ากับอิมเมจมากกว่า แต่ในแง่ของ Action แล้ว การสู้กับมังกรบินน่าสนใจน้อยกว่า อีกอย่าง ยังใช้คอนเซปต์ Immortal Dragon กับบอส Dragon Zombie ในด่านภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว ก็เลยเลือก Cray Claw แทน

- ในการสร้าง BGM ก็พยายามสร้างโดยผสมบางส่วนที่ประทับใจจากออริจินอลลงไปด้วย

- ภาคนี้ต่างกับ FF อื่นในแง่ของสปีด เป็น FF ที่เป็น Action จังหวะรวดเร็ว ต่อสู้อย่างมีสไตล์ และโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่องไม่ให้ตั้งตัว คุณอิโนะอุเอะยังรีเควสต์ให้ตัวละครหลัก เป็นตัวละครที่จะบดขยี้ศัตรูตรงหน้า ไม่ว่าเนื้อตัวจะมอมแมมสกปรกแค่ไหน

- สิ่งที่ต่างจากเกม Action ความยากสูงเกมอื่น ๆ คือเกมนี้มันยังคงเป็น FF มันเลยมีองค์ประกอบความเป็น RPG อยู่มาก ทว่าในส่วนความยากนั้น ระดับ Hard ก็เทียบเท่า Death Game แล้ว

- ในช่วงต้นการพัฒนา Team Ninja เสนอให้ใส่ระบบ Stamina และ Penalty จากการตายลงไปด้วย แต่คุณอิโนะอุเอะก็ปฏิเสธไป จริงอยู่ว่าถ้าความเสี่ยงสูงมันจะทำให้สถานการณ์ตึงเปรี๊ยะ แต่มันไม่เหมาะกับคนที่คุ้นเคยแต่กับเกม RPG และทั้งนี้ เกมมันก็ยังยากเกินไปสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับ Action ภายหลังเลยมีการปรับลดพารามิเตอร์ศัตรูลงมาเรื่อย ๆ จนกลายมาเป็นโหมด Story

- สำหรับเพลเยอร์ที่แสวงหาวามยาก ก็มีโหมด Hard ที่การโจมตีของบอสเปลี่ยนไป และ Max MP ลดเวลาตาย อีกทั้ง ไม่ว่าจะโหมดไหน ๆ ผู้เล่นก็สามารถเลือกออกไปสู้คนเดียว โดยไม่มีเพื่อนร่วมปาร์ตี้ด้วยได้

- เมื่อถามว่าการสร้างเกม Action ที่มีความเป็น FF นั้นต้องเน้นอะไร? คุณอิโนะอุเอะบอกว่าตอบยาก เพราะมันก็ไม่มีคำตอบชัดเจนว่าความเป็น FF คืออะไร ในขณะที่ Dev ระดับลีเจนด์ที่สร้าง FF ภาคก่อน ๆ บอกให้ท้าทายความเป็น FF เขาก็พยายามสร้าง Action แบบที่ FF ภาคอื่นไม่เคยมีมาก่อน ผลลัพธ์ก็คือท่า Soul Burst เลือดสาดซึ่งทำให้แจ็คดูสมเป็นวายร้าย ท่า Soul Burst เป็นสิ่งที่ Team Ninja นำเสนอโดยสื่อถึง ความงดงามอันไม่จีรังของคริสตัลอันเป็นสัญลักษณ์ของ FF แตกกระจายออก อาจเรียกได้ว่าส่วนนี้ของเกมนี่แหละความเป็น FF

- ในการเลือก Job ก็เลือกจากอันที่เคยปรากฏใน FF ภาคก่อน ๆ แล้วก็ความบาลานซ์เมื่อเอามาเล่นแบบ Multiplayer เมื่อกำหนด Job พื้นฐานของแต่ละอาชีพได้แล้ว ก็นั่งคิดคอมโบ Job ที่จะต้องเอามาใช้ร่วมกันเพื่อปลดล็อค Job ที่สูงขึ้น

- ในช่วงต้นการพัฒนา คุณอิโนะอุเอะคิดว่าจะเอามาจากชื่อวายร้ายในภาคก่อน ๆ มาตั้งเป็นชื่อ Job ขั้นสูง ความคิดนั้นยังหลงเหลือจนเป็นที่มาของชื่อ Job Tyrant จาก FFII ด้วยอิมเมจของชนะทุกธาตุและอาละวาดไปทั่ว นอกจากนี้ยังมีตั้งชื่อ Job Warlock และ Youma ทิ้งไว้แต่หา Job ที่เหมาะสมกันไม่ได้

- นอกจากนี้ยังมี Job ที่ถูกตัดทิ้งไปอย่าง Pharmacist ที่จะทำให้ประสิทธิภาพไอเทมดีขึ้นและมีผลโดยรอบ อันนี้ตัดทิ้งไปเพราะขัดหลักที่ว่าจะให้ใช้ไอเทมในการต่อสู้ได้ไม่เยอะ แล้วก็ตัด 風水土 (ผู้ใช้ธาตุ) ที่โจมตีศัตรูด้วยการใช้องค์ประกอบฉาก เช่นใช้ระฆังปล่อยคลื่นเสียงออกมา มันยากที่จะสร้างการโจมตีแบบนั้น แล้วก็มี Hunter ที่ยกเลิกเพราะยังทำธนูกันไม่สำเร็จ แล้วก็ยกเลิก Blue Mage ไปเพราะมันก็เมีระบบ Instant Ability ที่คือ ๆ กันอยู่แล้ว**

*สุดท้ายก็มีการเพิ่ม Job Hunter และ Blue Mage เข้ามาใน Patch ต่อ ๆ มา


หน้า 314-315

- Soul Burst เป็นระบบที่เกิดจากการคิดว่าแจ็คจะกลายเป็นวายร้ายการ์แลนด์ โดยมีคีย์เวิร์ดคือ Bouryaku อันหมายถึงการเอาชีวิตคนอื่นความป่าเถื่อนรุนแรงทั้งหมดที่เป็นไปได้ และก็อยากให้ผู้เล่นรู้สึกว่า "สำเร็จแล้ว!" สองไอเดียนี้ก็ผสมกันมาเป็น Soul Burst

- Team Ninja เป็นผู้ product Soul Burst ขึ้นมา ซึ่งมันก็ต้องออกแนวป่าเถื่อน Gore และเลือดสาด แต่ทั้งสตาฟฟ์ฝั่ง Action และ CG ก็ต้องมาช่วยกันคิดว่าจะให้ Soul Burst มอนสเตอร์แต่ละตัวออกมาเป็นยังไง คุณคุมาเบะบอกว่าตั้งแต่ตอนเป็นเด็กแล้ว เขาอยากควักลูกตาของอาริมันออกมา หรือกระชากหนวดของมัลโบโรให้ขาดกระจุย ตอนนี้ความฝันได้เป็นจริงแล้ว

- ท่า Soul Burst ที่คุณอิโนะอุเอะชื่นชอบ คือท่า Argentina Backbreaker ที่ใช้กับซาฮากิน ส่วนกับบอส ก็คือท่าที่ใช้กับแอสโตส ส่วนคุณคุมาเบะ ที่มีส่วนออกแบบทั้งหมด ก็บอกว่าชอบทั้งหมด แต่มีชอบท่าที่ออกแบบไว้ใช้กับซาโบเทนเดอร์และทอนแบรีในช่วงต้นของการพัฒนาเป็นพิเศษ แต่ท่าพวกนั้นโดนเก็บขึ้นหิ้ง เพราะมันโหดเกินไป (ยิ้ม)

- การสร้าง Sub Mission นั้นคุณอิโนะอุเอะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Team Ninja ซึ่งก็รีเควสต์ว่าให้ทำให้มันต่างจาก Main Mission ให้มันมีองค์ประกอบของการฝึกซ้อม แล้วก็เอาแบบที่ทำให้เล่น Multiplayer แล้วสนุก

- คุณอิโนะอุเอะบอกว่าเขาชอบสู้ด้วยดาบใหญ่ หรืออาวุธหนัก เรียกว่าเป็นพวก Muscle-brain, คุณยาสึดะบอกว่าเขาเล่น FFXI FFXIV เป็น Monk มาตลอด เกมนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลง เขาชอบใช้คอมโบ Monk กับ Samurai หรือ Ninja, ส่วนคุณคุมาเบะบอกว่าเขาจะเป็น Mina Shield ใน FFXI อยู่เสมอ ดังนั้นเลยเล่นอาชีพที่แสงสว่างและความมืดแข็งแกร่งสุดอย่าง Paladin และ Dark Knight

- เมื่อถามถึง Infamous Monster ที่แจ็คต้องไปไล่ฆ่าช่วงต้นเรื่องว่าเป็นตัวอะไร? คุณอิโนะอุเอะบอกว่าคงเป็นหนอนที่อาละวาดในทะเลรอบคอร์เนเลีย แต่ด้วยจังหวะการเล่าเรื่องของเกม ก็ไม่ได้มีแผนที่จะลงรายละเอียด แล้วก็ไม่ได้ตัดสินใจแน่ชัดว่าเป็นตัวอะไร


- การที่เบฮีมอธซึ่งไม่ได้ปรากฏตัวใน FFI มาก่อน แต่เมื่อแจ็คเห็น แจ็คกลับรู้จักชื่อของมัน โดยที่ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่ารู้ชื่อของมันได้ยังไง มีหมายความว่าอย่างไร? คุณอิโนะอุเอะบอกว่าเบฮีมอธที่ปรากฏในปราสาท FFXV นั้น ใช้ดีไซน์จากภาพอิลลัสฯ FFI ของคุณโยชิทากะ อามาโนะ ภาพที่นักรบแห่งแสงสามคน เผชิญหน้ากับเบฮีมอธ โดยมีคนใส่ Helmet คนใส่ฮูด คนผิวดำกล้ามใหญ่ ภาพนี้คือเหตุผลที่ทำให้แจ็ครู้จักเบฮีมอธแม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ในเกมภาคแรก และด้วยความที่มันเป็นปราสาทจาก FFXV จึงเลือกบอสจากมอนสเตอร์ใน FFXV ซึ่งก็มีเบฮีมอธมีปีก ที่มีต้นกำเนิดมาจากภาพนี้ด้วย

- สาเหตุที่ลำดับการปราบ 4 เคออส ต่างไปจาก FFI นั้น ก็เพราะแจ็คไปตามทางของตนเอง และตอนที่ย้อนกลับไปยังคอร์เนเลียในอดีต ก็เลือกเส้นทางที่ต่างออกไป นอกจากนี้ คุณอิโนะอุเอะยังอยากให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเรื่องราวมันต่างไปจาก FFI และอยากให้เอาโซเฟียเข้ากลุ่มโดยเร็วที่สุด เลยให้เจอเทียแม็ตก่อนเลย


หน้า 316-317

- เลข 19 ในฉากสุดท้ายที่มีชื่อว่า Station 19 นั้น มาจากจำนวนครั้งที่ FFI ถูก Remake, Port และ Remaster ขึ้นใหม่ในช่วงที่สร้างเกมนี้ขึ้นมา คุณโนมุระ เป็นคนบอกว่าอาจจะมี Stranger คนอื่น ๆ ถูกส่งตัวออกมาจาก Station เบอร์อื่นในการรีเมคครั้งที่ 1-18 ส่วนคุณโนจิมะ ก็เป็นคนตั้งชื่อฉากนี้ขึ้นมา ทั้งนี้เกม ๆ นี้มันก็กลายมาเป็นเรื่องราวที่มี Loop ของมันเอง ในปี 2021 ก็มีการ Remaster งานเป็นเวอร์ชั่นที่ 20 ออกมา ในชื่อ Pixel Remaster ดังนั้น ก็อาจจะมี Station 20 อยู่ในที่ใดที่หนึ่งก็เป็นได้


- แต่ละดันเจี้ยนนั้น ถูกตั้งชื่อตามการกระทำของตัวละคร อารมณ์ หรือเนื้อเรื่อง ฯลฯ คนที่รู้ motif ก็จะสังเกตเห็น แต่ก็มีชื่อแอเรียของดันเจี้ยนหนึ่งที่แปลกออกไป ดันเจี้ยนนั้น ใช้ชื่อแอเรียที่ประกอบด้วยคำว่า "ใหม่" "น้ำเงิน" "แดง" "ดำ" พวกคุณหลายคนคงเดาได้ว่าหมายถึงอะไร (เอามาจากชื่อ Expansion ของ FFXIV)

- ในด่านปราการลอยฟ้าที่สู้กับเทียแม็ตนั้นเอามาจากหอคอยใน FFIV ที่เราสู้กับหนึ่งในชิเท็นโอ บาร์บาริเซียแห่งธาตุลม ซึ่งถ้าเราโจมตีเธอในขณะที่มีทอร์นาโดรอบตัว เธอจะเคาเตอร์กลับมา  แต่เราสามารถใช้อบิลิตี้บางอย่างเพื่อปลดทอร์นาโดของมันได้ ตัวเทียแม็ตเองก็เช่นกัน ถ้าเราโจมตีมันด้วยอบิลิตี้บางอน่าง มันก็จะไม่เคาเตอร์กลับมา


- Mission เสริมใน DLC นั้น จะมีด้วยกัน 3 Mission ใหญ่ อันแรกคือ Mission ที่บาฮามุทปรากฎตัว เมื่อเคลียร์แล้วก็จะทำให้ตัวละครเก่งขึ้น ปลดล็อค Job ใหม่ ได้เครื่องประดับ ซึ่งเป็นของสวมใส่ประเภทใหม่ และยังทำให้ทราบถึงความรู้สึกของแจ็ค, ต่อมา Mission ที่สองคือเรื่องของกิลก้าแมช คุณจะได้ผจญภัยในดันเจี้นยนที่เชื่อมต่อกันแบบ Random และได้รับรางวัลหลังพิชิตกิลก้าแมช กิลก้าแมชที่เดินทางข้ามมากหลายมิติจะคิดยังไงนะเมื่อเห็นแจ็ค ส่วน Mission ที่สาม Different Future ยังบอกรายละเอียดไม่ได้เลย แต่ก็เป็นการลุยดันเจี้ยนปราบบอส เนื้อเรื่องนั้นก็จะทำให้เข้าใจว่า Future ในชื่อนั้นหมายถึงอะไร ในแต่ละ Mission ก็จะมีของสวมใส่ใหม่ ท่าใหม่ มอนสเตอร์ใหม่

- อุปสรรคที่หนักหนาที่สุดในการพัฒนาเกมนี้คือข้อจำกัดที่เกิดจากวิกฤตไวรัสโคโรน่า ทำให้สภาพการทำงาน การประชุม การทำงานจากบ้าน ทุกอย่างแปรเปลี่ยนไป การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็ส่งผลต่อตารางพากย์เสียง คุณอิโนะอุเอะบอกว่าการต้องเปลี่ยนสไตล์การทำงานให้เหมาะกับสถานการณ์นั้น ไม่เพียงแค่ยาก แต่ยังสร้างความเครียดต่อร่างกายและจิตใจของเขา ถ้าเขาได้สื่อสารตรง ๆ ซึ่งหน้ากับสตาฟฟ์ และได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันมากกว่านี้ ก็อาจจะทำอะไรที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิงได้, ในช่วงที่ WFH นั้น สตาฟฟ์บางส่วนถูกบังคับให้ทำงานจากบ้านเท่านั้น บางคนก็ต้องใช้ไม้เซลฟี่ ถ่าย Motion Video มาส่งงาน

- คุณอิโนะอุเอะบอกว่าในอดีตโนมุระ ไม่เพียงดีไซน์บอสและตัวละครหลัก แต่ยังดีไซน์มอนสเตอร์ยิบย่อยด้วย สำหรับเกมนี้ ก็อบลินในเกมก็ดีไซน์โดยโนมุระ ตอนที่คุณอิโนะอุเอะปรึกษาโนมุระว่า ทิศทางของดีไซน์มอนสเตอร์ในเกมเป็นยังไง โนมุระก็วาดภาพอิลลัสฯ ของก็อบลินมาให้ แล้วบอกว่าอิมเมจประมาณนี้ ถึงจะเป็นแค่ภาพร่างมอนสเตอร์ตัวเล็ก แต่ก็มีรายละเอียดมาก และเท่ไปเลย

- ระบบ Soul Shield นั้นถูกใส่ลงไปอย่างรีบเร่ง ในช่วง 1 เดือนก่อนเด๊ดไลน์ของเดโมตัวแรกมา ในตอนนั้นกลไกคือ ถ้ากด O ระหว่างการ์ด แล้วรับการโจมตีจากศัตรู ก็จะเป็นการใช้ Light Bringer แต่ตอนหลังก็เปลี่ยนแปลงขนานใหญ่มาเรื่อย ๆ เพื่อให้มันน่าสนใจขึ้น

---------------------------------

ถ้าได้สร้างภาคต่อ อยากลองทำอะไร?

---------------------------------

- คุณอิโนะอุเอะบอกว่าถ้าได้ทำภาคต่อ อยากจะสร้างระบบเล่าเรื่องที่ดีกว่านี้ แทนที่จะเล่าเรื่องด้วยคัตซีนอย่างเดียว

- คุณยาสึดะบอกว่าซีรีส์ FF มีนินจาและซามูไรที่น่าสนใจอย่างชาโดว์ เอจด์ ไคเอน และอารอน ก็อยากสร้างเกม Action ที่พวกเขามีบทบาท ในบรรยากาศโลกฝั่งตะวันออก

- คุณคุมาเบะ บอกว่าอยากสร้าง FFX Origin ที่มีเจคท์เป็นตัวละครหลัก เป็นการเดินทางกับบลาสก้าและอารอน ในแบบเกม Action

Wednesday, February 8, 2023

คอมเมนต์ในการดีไซน์ศัตรู จากหนังสือ Secret Chapters

[การ์แลนด์]

เป็นบอสตัวแนกในเกมนี้ ดูรูปร่างของมันแล้ว เนออนไม่น่าเข้าไปอยู่ในเกราะได้พอดีตัวแน่นอน แต่คุณอิโนะอุเอะ ก็อยากให้มันดูเหมือนการ์แลนด์ที่สุด ในเนื้อเรื่อง เนออนได้เดินเข้าไปในวิหารเคออสเพื่อกลายเป็นเคออส แล้วเธอก็ได้รับคริสตัลดำมาจากแอสโตส ร่างที่ดูเหมือนกับการ์แลนด์นี้ ก็คือเงามืดที่เกิดจากการผสมผสานความนึกคิดของแอสโตสเข้ากับคริสตัลดำ

นอกจากนี้ ยังอยากให้มันดูคล้าย แต่มีส่วนแตกต่างจากการ์แลนด์ใน Dissidia FF ดังนั้น ในผิวเผินเหมือนการ์แลนด์ แต่เกราะมันสเลนเดอร์กว่า และอาวุธที่ใช้ก็เพรียวคมกว่า

การโจมตีของการ์แลนด์ร่างนี้ คือการใช้เวทมนต์ โจมตีด้วยไฟ ก็เป็นทักษะของเนออนในร่าง Red Mage และด้วยความที่ภายหลังเธอจะกลายเป็นมาลิลิธ ซึ่งในเมื่อแจ็คยังใช้ท่า Light Bringer และ Chaos Bringer ได้ เนออนในฐานะเคออสไฟก็น่าจะใช้ท่า Fire Bringer เลยกลายมาเป็นชื่อท่าของเธอ ส่วน Ice Sword นั้นมีสถานะเป็นดาบเวทมนต์ การโจมตีนั้นเลยเรียก Ice Sword ไม่ได้เรียก Ice Bringer


[เทียแม็ต]

เคออสแห่งล่ม เทียแม็ต เป็นเคออสตัวแรกในโลกคอร์เนเลีย เกิดจากความเกลียดชังของโซเฟีย และอารมณ์ด้านลบอื่น ๆ ผสมเข้ากับคริสตัลดำ แม้ว่าพวกแจ็คจะกลายเป็นเคออสแล้ว แต่ความเกลียดชังต่อชาวลูเฟนยังคงอยู่ เทียแมตก็รับบทบาทไล่ฆ่าล้างชาวลูเฟนที่ยังหลงเหลือในคอร์เนเลีย

ใน FF1 นั้น ผู้เล่นไม่สามารถรับรู้เพศของตัวละครนี้ได้จากรูปร่างหรือลักษณะการพูด แต่ในภาคนี้ เราสร้างมันด้วยความคิดว่ามันเป็นเพศเมีย นั่นก็เพราะเทียแม็คเม็ตเป็นเทพีในตำนานของเมโสโปเตเมีย ซึ่งเป็นที่มาของเรื่อง ก็เลยกลายมาเป็นร่างของผู้หญิงที่แสดงความเกลียดชัง ฝังอยู่กลางร่างของเทียแม็ต ในช่วงดราฟท์ เท้ามันจะมีกงเล็บด้วย แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนไป

[ความมืดแห่งเคออส - 混沌の闇 - Darkness Manifest]

ใน FF1 เดิม บอสสุดท้ายชื่อเคออส แต่ในภาคนี้ แจ็คมันเป็นเคออสตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นการไปเรียกบอสสุดท้ายว่า "เคออส" อีก มันก็จะแปลก ๆ คุณอิโนะอุเอะ เลยตัดสินใจตั้งชื่อมันว่า "ความมืดแห่งเคออส" (混沌の闇 - Darkness Manifest) ละกัน บางภาษาอาจไป localize แล้วยังคงเรียกว่า "เคออส" แต่ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น "เคออส" กับ "ความมืดแห่งเคออส" เป็นคนละอย่างกัน

ตอนอัดเสียงพากย์ เราก็เรียกตัวนี้ว่าเคออสนะ แล้วในทีมงานเองก็ยังมีดีเบทกันว่า ควรใช้นักพากย์คนเดียวกันกับ Dissidia มั้ย? แต่ในเมื่อเคออสอีก 4 ตัว มันใช้นักพากย์ที่พากย์เพื่อน 4 คนพากย์เสียง ดังนั้นคุณเคจิโระ สึดะ ที่พากย์เสียงแจ็ค ก็ควรเป็นคนพากย์เสียงความมืดแห่งเคออสเช่นกัน

สาเหตุที่ความมืดแห่งเคออสมีสี่แขน ก็เพราะอิงจากภาพอิลลัสฯ เคออสนั่งบนบัลลังค์ของอามาโนะ ไม่ได้อิงจาก Pixel Art

ความมืดแห่งเคออส คือการผสมผสานความสิ้นหวังของแจ็ค เข้ากับร่างความมืดทั้ง 4 ซึ่งก็คือเทียแม็ต มาลิลิธ ลิช คราเคน

ถึงแม้มันจะดูคลายกับเคออสของ FF1 แต่มันไม่มีปีก สีต่างกัน และยังมีการปรับเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ให้ยูนีคกับเกมนี้ เฉกเช่นเดียวกับเคออสตนอื่น ๆ นั่นเป็นการบอกเป็นนัยว่า โลกของแจ็คกับผองเพื่อนนั้น "ไม่ใช่โลกใบเดียวกับ FF1" แต่เป็นโลกที่ถูกตีความใหม่ในแบบของมันเอง

นอกจากนี้ แม้จะสังเกตยากสักหน่อย แค่ก็มีหัวของแอช เจด เนออน โซเฟีย ปรากฏอยู่ที่คอของเคออส นั่นคือต้นกำเนิดของแฟลชแบ็คเพื่อนทั้ง 4 ระหว่างที่ใช้ Soul Burst เพื่อปิดฉาก

Saturday, February 4, 2023

ละครคาบูกิ FFX เผยคอสตูมตัวละคร

- คิขุโนะสึเกะ โอโนเอะ ผู้จัด แสดงเป็น ทีดัสตอนโต

- ยูโนะสึเกะ โอโนเอะ แสดงเป็นทีดัสตอนเด็ก + อิโนริโกะ

- แสดง 4 มีนาคม - 12 เมษายน 2023

- การแสดงคาบูกิของเกมที่ขายไปแล้วทั่วโลก 21.1 ล้านชุด นับยอดสิ้นมีนาคม 2022 (นับ X-2 รวมไปด้วย)


*ในข่าวเก่า เคยบอกแล้วว่าโนะกำกับดูแลคอสตูม

https://www.famitsu.com/news/202302/03291487.html

Friday, February 3, 2023

บทขยายความ Report ใน FF Origin

 แปลย่อเอง จากหนังสือ Stranger of Paradise Final Fantasy Origin Confidential File -Secret Chapters-


----------------------------------------

ขยายความบันทึกแอสโตส

----------------------------------------

- ดันเจียนเกือบทั้งหมดที่ปรากฏในผลงานนี้ เป็นสถานที่ที่ดำรงอยู่ในมิติและกาลเวลาอื่น ซึ่งชาวลูเฟนสร้างและส่งมา แต่ลูเฟนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิหารเคออส มันปรากฏขึ้นในโลกคอร์เนเลียในฐานะ "ที่สถิตของเคออสซึ่งตั้งอยู่ในอนาคต" กล่าวอีกนัยหนึ่ง การที่แจ็คและสหายได้กลายเป็นเคออสในช่วงท้ายของเรื่อง ส่งผลกระทบกับอดีต

- แอสโตสติดต่อกับบิคเคะ แลกเปลี่ยนความรู้และทักษะต่าง ๆ กัน บิคเคะเลยสามารถให้เบาะแสนำทางแจ็คได้ ประโยคที่บิคเคะบอกว่าอาวุธของดาร์กเอลฟ์นี่มันสุดยอด เป็นการสื่อว่า ขวานและเรือลำนั้น เป็นสิ่งที่แอสโตสให้มา

- สถานที่ ที่มีอยู่ในโลกเกมนี้ ถูกชาวลูเฟนสร้างเลียนแบบ (มันคือพลัง Imitation ของคริสตัลนั่นแหละ) ภูมิประเทศและสิ่งปลูกสร้างจากมิติกาลเวลาอื่น โดยแต่ละมิติกาลเวลานั้น ก็อ้างอิงตามโลก FF ภาคหลัก ในบันทึกของแอสโตส เวลาบอกว่าเป็นมิติกาลเวลาที่ XX หมายถึงว่าสถานที่นั้นสร้างด้วย motif จากภาคไหน ตัวอย่างเช่น มิติกาลเวลาที่ 2 ก็หมายถึง FFII

- ปกติ Stranger จะถูกลยบความทรงจำเมื่อเดินทางไป-กลับจากคอร์เนเลีย-Station19 นั่นเพราะเวลาข้ามมิติกาลเวลาพร้อมข้อมูลความทรงจำมหาศาลไปด้วย จะเกิดปัญหาขึ้น ดังนั้นคริสตัลดำจึงมีฟังค์ชันลบความทรงจำ ทว่าโซเฟียที่ถูกคืนชีพขึ้นมาบนคอร์เนเลีย โดนลบความทรงจำไปน้อยกว่าคนอื่น ๆ ดังนั้น ความทรงจำส่วนมากเลยยังคงอยู่

- คริสตัล 4 ลูกที่วางกระจายทั่วโลก ชาวลูเฟนวางไว้เพื่อรักษาสมดุลของโลก สร้างสมดุลระหว่างดินน้ำลมไฟ ทว่าชาวคอร์เนเลียนั้น พบความหวังในคริสตัล การบูชาคริสตัลเลยเริ่มต้นขึ้น ปริมาณแสงสว่างโดยรวมของโลกเลยเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นชาวลูเฟนจึงปล่อยความมืดลงมาเพื่อสร้างสมดุล มนุษย์ก็ได้รับผลกระทบจากความมืด และถูกครอบงำ แล้วก็กลายมากลัวอสูรในจินตนาการที่เรียกกันว่าเคออส

- พอเนออนได้รับคริสตัลดำไป แล้วก็กลายเป็นเคออส เวลาโลกถูกสร้างขึ้นมาใหม่ เธอจะถูกคืนชีพขึ้นมาเป็นชาวคอร์เนเลีย เธอติดอยู่ในวงจร "รับคริสตัลดำจากแอสโตส กลายเป็นเคออส ต่อสู้กับแจ็คและกลายเป็นพวกพ้อง" แบบนี้ทุกครั้งไป

- ในตอนต้นเรื่อง เวลาที่เซร่าห์พูดถึงอัศวินที่ชื่อการ์แลนด์ แจ็คไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเขา เพราะแจ็คลืมกระทั่งชื่อเต็มของตัวเอง ในทางกลับกัน เซร่าห์และพวกพ้องคนอื่น ๆ ของแจ็คมีความทรงทรงจำในอดีตหลงเหลือบางส่วน พวกเขาจดจำเรื่องได้ลาง ๆ แล้วจึงพูดว่าผ่านมาเป็น 10 ปีแล้วแต่กลับรู้สึกเหมือนพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

- คริสตัลดำนั้น ไม่เพียงดูดกลืนความทรงจำ แต่ยังเพิ่มพลังในการต่อสู้ให้ ดังนั้นถึงแม้จะทำให้สูญเสียความจำ แต่เขาก็ได้อบิลิตี้พิเศษอย่าง Soul Burst มา

- Mirage Tower เป็นดันเจียนที่ปรากฏใน FF1 เดิม ตั้งอยู่บนทะเลทรายทางตะวันออกเฉียงเหนือของคอร์เนเลีย ที่นั่นเราสามารถใช้ Warp Cube เพื่อเดินทางขึ้นไปยังปราการลอยฟ้าได้ ส่วนหอคอยคริสตัลในภาคนี้ ถูกสร้างขึ้นเป็น Prototype ของ Mirage Tower เพราะงั้นไอเทมที่ใช้วาร์ปไปยังปราการลอยฟ้า มันเลยชื่อ Protocube

- ในระหว่างวัฏจักรการสร้างโลกใหม่และการส่ง Stranger ลงมาโดยชาวลูเฟนนั้น คนแรกที่ได้ธาตุแห่งเคออส คือเทียแม็ทที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างความเกลียดชังและความแค้นของโซเฟีย ก่อนหน้านั้นเคออสเป็นเพียงคอนเซปต์ของวันโลกาวินาศเท่านั้น ทว่ามันก็ได้กลายเป็นความจริง

- ณ สถานที่ซึ่ง Stranger ตายลง เศษซากความทรงจำและอารมณ์จะยังตกค้างอยู่ แล้วโลกก็กำเนิดขึ้นมาใหม่ อย่างในปราการลอยฟ้าแจ็คก็เห็นเงามายาของโซเฟีย นอกจากนี้ความทรงจำ ภาพมายาต่าง ๆ ยังกลายมาเป็น Sub Mission เพื่อปลดล็อคจ็อบ อีกทั้งเรายังจะได้พบพวกของสวมใส่ที่ตกค้างไว้จากอดีต

- แอสโตสรู้ว่าการผสมอารมณ์ขั้วลบกับคริสตัลดำนั้น จะทำให้กลายเป็นเคออสได้ ทั้งที่เขารู้ถึงกระบวนการนี้แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้บอกพวกลูเฟน ดังนั้น แม้พวกลูเฟนจะหลีกเลี่ยงสภาพการเกิดเคออส แต่พวกลูเฟนก็ยังคงส่งมอบคริสตัลดำที่ทำให้เกิดเคออสได้ ให้แก่พวก Stranger ต่อไป

- ตอนที่มาลิลิธ ริช และคลาเคนปรากฏขึ้น แอสโตสรายงานพวกลูเฟนไปว่ามีเคออสตนใหม่ปรากฏขึ้น โดยไม่ได้บอกว่าใครกลายเป็นเคออส เพราะตอนโซเฟียกลายเป็นเคออส เธอก็ถูกหยุดการส่งตัวมา แต่แอชกับเจดยังคงถูกส่งตัวมาในฐานะ Stranger และกลายมาเป็นเคออส ทั้งนี้เพราะแอสโตสตั้งใจควบคุมข่าวสารไว้นั่นเอง

- โลกในอดีต แจ็คได้ส่งมอบคริสตัลดำให้เซร่าห์ ตามแผนที่แอสโตสอยากให้แจ็คกลายเป็นเคออส จากจุดที่ดุลยภาพระหว่างแสงสว่างและความมืดพังทลายลง นั่นคือเป้าหมายของแอสโตส

- ชาวลูเฟนฝังความรู้สึกเกลียดชังเคออสให้กับ Stranger แจ็คจึงขับเคลื่อนที่จะสู้ด้วยความรู้สึกนั้น แต่เมื่อกำจัดสมุนเคออสทั้ง 4 ลงไปแล้ว ความรู้สึกว่าภารกิจยังไม่จบก็ยังคงอยู่ เพราะแจ็คเข้าใจโดยไม่รู้ตัวว่า ยังคงมี "เป้าหมายที่แท้จริง" อยู่ จนแจ็คตระหนักว่าการกำจัดเคออส ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง

- นักรบแห่งแสงในโลกของคอร์เนเลียนั้น เป็นเพียงนิทาน ทว่าการที่เคออสที่ไม่น่ามีอยู่จริง ได้มีตัวตนขึ้นมา ก็อาจเป็นทริกเกอร์ทำให้นักรบแห่งแสงถือกำเนิดขึ้นจริง ภายหลังการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับเคออสแห่งความมืดแล้ว แจ็คเถียงพวกลูเฟนว่าไม่มีนักรบแห่งแสงอะไรทั้งนั้น แต่แล้วเขาก็นึกแผนขึ้นมาได้ว่า งั้นเราก็ปั้นนักรบแห่งแสงกันขึ้นมาสิ

- ในลูปก่อน ๆ แอสโตสพยายามชี้นำพวกแจ็คแบบฉันท์มิตรแล้ว แต่ก็ล้มเหลวซ้ำซากไม่ได้ผล หลังจากผิดพลาดมาตลอด แอสโตสจึงเปลี่ยนมาเล่นบทบาทเป็นราชาแห่งดาร์กเอลฟ์ที่ชี้นำแจ็คด้วยคำพูดแทน

- เมื่อแจ็คพบว่าโลกนี้เป็นเพียงดั่งห้องทดลองของชาวลูเฟนเท่านั้น ชีวิตของชาวคอร์เนเลียไม่ได้มีความหมายอะไรเลย เขาก็โกรธแค้นกับเรื่องนี้ และเกิดความคิดว่าต้องปลดปล่อยคอร์เนเลียให้เป็นอิสระจากการครอบงำของพวกลูเฟน และเมื่อรู้ว่าถ้าเกิดเคออสที่พวกลูเฟนมิอาจควบคุมได้ขึ้นมา ชาวลูเฟนก็อาจจะปล่อยมือไปจากครอบงำโลก แจ็คเลยขอความช่วยเหลือจากแอสโตส ให้แอสโตสที่สามารถคงความทรงจำไว้แม้ว่าโลกจะถูกสร้างขึ้นใหม่ (ขึ้นลูปใหม่) คอยชี้นำเขา หลังจากนั้นแอสโตสจึงพยายามชี้นำแจ็คที่จำอะไรไม่ได้เลย และนำพาเข้าสู่แผนปลดปล่อยคอร์เนเลีย ทั้งการแบ่งปันสิ่งที่เขารู้ให้บิคเคะ การมอบคริสตัลดำให้เนออนและเซร่าห์ ทั้งหมดเป็นการเตรียมการเพื่อค่อย ๆ เปลี่ยนแจ็คให้กลายเป็นเคออส

----------------------------------------

ขยายความบันทึกของชาวลูเฟน

----------------------------------------

- ชาวลูเฟนนั้นจับมนุษย์จากโลกอื่นมาล้างสมอง และใช้งานเพื่อรักษาสมดุลระหว่างแสงสว่างและความมืดในโลกคอร์เนเลีย แจ็คและเพื่อนไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาเชื่อว่าตัวเองเป็นชาวลูเฟน และคิดว่า Station 19 เป็นบ้านเกิด ดังนั้น คอสตูมแรกเริ่มที่แจ็คใส่ นั่นต่างหากคือสิ่งที่มาจากบ้านเกิดที่แท้จริงของแจ็ค

- กระบวนการสร้างโลกใหม่นั้น เป็นกระบวนการขนาดใหญ่ ที่ชาวลูเฟนใช้พลังของ Dimensional Matrix ทำการย้อนเวลาและสร้างโลกขึ้นมาใหม่ ลูเฟนใช้เทคโนโลยีนี้ลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ เพื่อหาทางบาลานซ์สมดุลระหว่างแสงสว่างและความมืด  ทว่าเวลาสร้างขึ้นมาใหม่นั้น ชีวิตและความทรงจำของชาวคอร์เนเลียก็จะรีเซทใหม่ เว้นแต่เพียงความจำบางอย่างจะตกค้างอยู่บนโลก และกลายเป็นเมฆหมอกสีดำ

- ผู้ร่วมอุดมกาว (Collaborator) ที่เป็นผู้ริเริ่ม Stranger Project และให้คำแนะนำชาวลูเฟน และเรียกร้องขอพลังงานเป็นการตอบแทน ตัวตนของเขานั้นยังเป็นปริศนา แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นผู้ที่ไม่ได้สนใจมนุษยชาติเลยสักกะนิด ซึ่งพอมาคิด ๆ ดูแล้ว ในซีรีส์ FF มันก็มีสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในรอยแยกมิติ และกระหายพลังงานที่เกิดจากการต่อสู้มิใช่หรือ....?

- ใน Lufenian Report แต่ละฉบับ มันจะมีเขียนตัวเลขห้อยท้ายชื่อรีพอร์ตเช่นฉบับแรกเขียนว่า 01_0125 ตัวเลขสองตัวแรกนั้นเป็นการบอกว่า รีพอร์ตนั้นถูกเขียนขึ้นในโลกรอบที่เท่าไหร่ ส่วนตัวเลข 4 ตัวหลังนั้นคือเวลาที่เขียนขึ้นโดยประมาณ ตาม Gregorian Calendar ส่วนฉบับ 9 Lufenian Report 9 - Report from Central ถูกเขียนขึ้นทันทีหลังจากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในเนื้อเรื่องหลักแล้วแจ็คสร้างโลกใหม่ขึ้นมา จากข้อมูลที่มันระบุว่า 20_0000 ก็หมายความว่า เนื้อเรื่องหลักนั้นคือโลก รอบที่ 19 นั่นเอง

Thursday, February 2, 2023

บทสัมภาษณ์โยชิโนริ คิตาเสะ ในโอกาสฉลองครบรอบ 26 ปี Final Fantasy VII โดยเว็บไซต์ VG247


บทสัมภาษณ์โยชิโนริ คิตาเสะ ในโอกาสฉลองครบรอบ 26 ปี Final Fantasy VII โดยเว็บไซต์ VG247

*อเล็กซ์ที่เป็นคนถาม คิดคำถามมาดีมาก และสะท้อนว่าเขาแน่นในเนื้อเรื่อง Creation and Development ของเกมนี้ขนาดไหน*

- ย้อนกลับไปในปี 1994 หลังจากวางจำหน่าย FFVI ไปแล้ว ทีมงานก็วางแผนจะสร้าง FFVII เป็นเกมแบบ 2D ขึ้นก่อน แต่หลังจากเขียนแผนงานมาประชุมกันไป 2-3 ครั้งก็ยกเลิกความคิดนั้นไป นั่นก็เพราะคิตาเสะ โนมุระ และทีมงานอีกหลายคน ถูกโยกไปช่วยทำ Chrono Trigger จนกระทั่ง Chrono Trigger วางจำหน่าย โปรเจคท์ FFVII เลยกลับมาอีกครั้ง แต่ทีมงานก็ลืมไอ้ที่เคยคุยวางแผนกันไปหมดแล้ว ทว่าก็ยังมีไอเดียบางส่วนที่ถูกเอาไปใช้ใน FFVIII เช่น ภาพวาดแม่มดของโนมุระ

**ในเล่ม  FF 25th anniversary Ultimania มีเอกสาร Proposal ของคิตาเสะที่เขียน 18 ก.ค. 1994 ให้ดู โดยเป็นพล็อตการผจญภัยสลับยุคกันระหว่างพ่อและลูก ซึ่งภายหลังกลายมาเป็น FFVIII

- ในหนังสือ FF 25th anniversary Ultimania มีภาพ Early Development Screentshot ภาพหนึ่ง เป็นภาพ 2D ของล็อคอยู่ในหมู่บ้านสักที่ คิตาเสะบอกว่าการสร้างวิชวลให้ FF ภาคใหม่ มันต้องไม่ยึดติดกับวิชวลก่อนหน้านี้ เลยมีการนำเสนอวิชวลที่สไตล์แตกต่างกันหลาย ๆ ภาพ ภาพดังกล่าวก็จัดว่าเป็นแบบ orthodox evolution หรือวิวัฒนาการที่ต่อยอดมาจาก FFVI ตอนนั้นทีมงานก็พิจารณาทั้งแบบ Pixel และแบบ 3D CG ซึ่งสุดท้ายก็เลือกแบบ 3D CG

- คิตาเสะบอกว่าตอนย้ายจากการพัฒนา FF ให้ Nintendo มาเป็น Sony นั้น เขาก็เป็นแฟนของ Nintendo จนตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ มันก็เลยมีความรู้สึกขัดแย้งขึ้นในใจ ถ้าถามว่ารู้สึกกังวลมั้ย หรือทิ้งแฟนเบสไว้ด้านหลังมั้ย? คิตาเสะบอกว่าพวกเขายุ่งอยู่กับทุกภาคส่วนของนวัตกรรมใหม่มากกว่า ทั้งเรื่องการสร้างเกมเป็น 3DCG ทั้งการทำลงแผ่น CD การหาช่องทางวางจำหน่ายลงร้านสะดวกซื้อทั้งหมดในญี่ปุ่น เลยไม่มีเวลาจะมาคิดเรื่องกังวล นอกจากต้องเดินหน้าต่อไป

- จนเมื่อคิตาเสะเห็น Mario64 ที่เป็น 3D Action รุ่นใหม่ เขาก็ทึ่งกับมันมาก


- คิตาเสะบอกว่าเขาได้แรงบันดาลใจจากเกม PC ฝั่งยุโรปและอเมริกามากมาย ทั้ง 4D Sports Boxing, Alone in the Dark, Wing Commander, Ultima Underworld และ Heart of Darkness

- คิตาเสะบอกว่า ในฉากฟิลด์ เช่นในเมือง ที่มีตัวละครปรากฏในซีนเดียวกันเยอะ กล้องก็มักจะไม่ได้ซูมใกล้แต่ละคน ก็เลยให้โมเดลตัวละครบนฟิลด์มี 400 โพลิกอน, ส่วนในฉากต่อสู้ ที่จำนวนตัวละครที่ปรากฎอยู่อย่างจำกัดนั้น กล้องก็จะซูมเข้าใบหน้าบ่อย เพื่อพรีเซนต์ท่าที่กำลังจะจะใช้ ในฉากแบบนั้นเลยใช้โมเดลที่มี 1,000 โพลิกอน ดังนั้น การดีไซน์ตัวละครเลยทำมาให้เหมาะสมกับประเภทของซีน ทั้งหมดเพื่อให้สอดคล้องกับข้อจำกัดด้าน memory และสปีดในการ render


- ใน FFVII Inter แผ่น 4 จะมีวีดีโอ รวมคลิปช่วงต้นของการพัฒนาให้ดู ซึ่งหลาย ๆ ฉากนั้นมีรายละเอียดแตกต่างจากตัวเกมฉบับสุดท้าย คิตาเสะบอกว่ามันไม่ใช่การแก้ไขกลับไปกลับมา แต่มันเป็น Work In Progress ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

- คิตาเสะบอกว่าระหว่างการพัฒนา เรามีแนวทางที่จะใส่ไอเดียที่น่าสนใจลงไปให้มากที่สุด โดยไม่ต้องสนว่ามันจะสอดคล้องไปด้วยกันได้มั้ย มันจะได้สร้างความรู้สึกตื่นเต้นและมหัศจรรย์ (ตอบคำถามที่ว่า เมืองมิดการ์ เมืองคาล์ม และโกลด์ซอเซอร์ มันไปคนละแนวทางกันเลย)

- ไม่กี่ปีก่อน โนมุระเคยบอกว่าในดราฟ์เนื้อเรื่องตอนแรก ตอนทั้งกลุ่มกระโดดร่มลงเมืองมิดการ์ในช่วงท้ายแผ่น 2 จะพลาดท่าตายกันไปหมด เหลือแค่ 3 คนที่ผู้เล่นเลือกเท่านั้น ถ้าเกมยังเป็นแบบนั้นอยู่ คิตาเสะจะเลือกให้ใครรอด? คิตาเสะบอกว่าเขาเลือกคลาวด์ในฐานะตัวเอก วินเซนต์ในฐานะตัวละครที่เขาคิดขึ้นมาเองอีกทั้งยังมีให้ความรู้สึกสยดสยองอันหาได้ยากยิ่งใน FF และสุดท้ายคือยุฟฟี่ ที่แม้จะเป็นโคตรน่ารำคาญ แต่ก็ยากที่จะเกลียดได้ลง


- ปริศนาโบราณ เรื่องที่เวลาเรากลับเข้าไปยังโบสถ์ในสลัมเขต 5 ช่วงท้ายเกม แล้วจะเจอผีเจ๊แอโผล่มาแล้วหายไป ซึ่งหากเราไปคุยกับ NPC บางตัวในแอเรียอื่นก่อน เหตุการณ์นี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ทำให้ทั้งโลกงงว่าทีมงานต้องการสื่ออะไร? หรือมันเป็นเพียง Glitched ที่คงอยู่ในทุกเวอร์ชั่นกันแน่? คิตาเสะบอกว่า เขาขอปล่อยให้คนเล่น ไปจินตนาการกันเองนะ

- VG247 ถามได้สะใจมากว่า รู้สึกยังไงตอนไป Retcon เนื้อเรื่อง เช่นที่ไปเปลี่ยนให้รูฟัสและเส็งไม่ตาย แล้วมาโผล่ใน Advent Children หน้าตาเฉย (ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเข้าใจกันทั้งโลกว่าสองคนนั้นตายไปแล้ว) คิตาเสะบอกว่าเขาทำโปรเจคท์ FFVII Remake โดยอยากให้ทั้งแฟนเก่าและแฟนใหม่สนุกไปด้วยกัน ตัวเขาเองก็มีประสบการณ์ที่เกมเก่าที่เรารักใคร่มาก ถูก Remake แล้วพอซื้อมาเล่นแล้ว ก็รู้สึก Nostalgia หวนรำลึกความหลังโคตร ๆ ทว่าความเพลิดเพลินนั้นมันกลับอยู่กับเราแป๊ปเดียว ความรู้สึกสนุกกับความหลังนั้น มันอยู่แค่ช่วงแรกของเกมเท่านั้น เขารู้ตัวเมื่อเล่นไปครึ่งทาง หลังจากนั้นก็ไม่ได้เล่นต่อจนจบ เพราะงั้นคิตาเสะเลยตัดสินใจว่า ไม่อยากให้มันแค่ Nostalgia แต่มันต้องมีเนื้อเรื่องใหม่ ที่ให้ทั้งความ Nostalgia และความสดใหม่ควบคู่กัน ดังนั้นใน Part 2 และ 3 ก็เช่นกัน

**สังเกตว่า VG247 เขาถามจี้เรื่องสิ่งที่เปลี่ยนใน Advent Children แต่คิตาเสะกลับตอบสิ่งที่ถูกเปลี่ยนใน Remake แทน

- คิตาเสะทิ้งท้ายว่าตั้งแต่เข้าวงการมา ธีมในใจของเขาคือ "สร้างเรื่องราวดราม่าจากเกม" ตั้งแต่เปลี่ยนจาก 16 bit มาเป็น 3D CG จนมาถึงทุกวันนี้ เมื่อมองย้อนกลับไปในยุคที่คลาวด์มี 400 โพลิกอน และดูเหมือนตุ๊กตาที่แกะสลักจากไม้ ยิ่งเขาแก่ขึ้นเท่าไหร่ เขาก็อยากจะอัปเดตคลาวด์ให้ดีขึ้น ตัว FFVII ภาคดั้งเดิมนั้นเป็นที่รักใคร่ของแฟน ๆ มากว่า 20 ปีแล้ว และเขาไม่อยากให้มันจบสิ้นลงเหมือนของที่ถูกเก็บลงกรุ คิตาเสะอยากให้ FFVII ยังคงถูกบอกเล่าอยู่ต่อไป และเป็นที่รักยิ่งของแฟน ๆ แม้เวลาจะผ่านไปอีก 100 ปีก็ตาม


ในโอกาสเดียวกันนี้ Square Enix ยังไปจดทะเบียนให้ 31 มกราคม เป็นวันฉลอง FFVII อย่างเป็นทาง

Wednesday, February 1, 2023

Biohazard 2 Remake ทำยอดขายทะลุ 11.2 ล้านชุด


25 ม.ค. 2019 วันที่เกมสองเกม วางจำหน่ายชนกัน

- RE2 Remake ทำยอดเปิดตัวสัปดาห์แรก 3 ล้านชุดทั่วโลก

- KH3 ทำยอดเปิดตัวสัปดาห์แรก 5 ล้านชุดทั่วโลก - http://re-ffplanet.blogspot.com/2019/02/kingdom-hearts-iii-5.html


หลังจากนั้น ในขณะที่โนะแทบไม่อัปเดตยอดขาย KH3 ให้ฟังเลย จนแฟน ๆ ทั่วโลกเดาไปทางเดียวกันว่า กราฟการขายของมันคงพุ่งแค่เดือนแรก หลังจากนั้นก็ค้างนิ่งสนิทแน่ ๆ (ก็คือไม่สามารถดึงลูกค้าใหม่ได้) ...ทว่ายอดขายของ RE2 กลับไปเรื่อย ๆ อย่างมั่นคงสม่ำเสมอ (ดึงลูกค้าใหม่เข้าไปได้เรื่อย ๆ) ทำให้ Capcom สามารถภูมิใจเสนอ อัปเดตยอดขาย RE2 อย่างต่อเนื่อง

ทีนี้ ผ่านไป 3 ปี

- KH3 อัปเดตยอดขายครั้งสุดท้าย วันที่ 11 เม.ย. 2022 ว่ายอดอยู่ที่ 6.7 ล้านชุดทั่วโลก http://re-ffplanet.blogspot.com/2022/04/20-kingdom-hearts-jyaco.html

- วันนี้ Capcom อัปเดตยอด RE2 Remake ว่าชั้นไป 11.2 ล้านชุด แล้วจร้าาาาา https://www.capcom.co.jp/ir/english/business/million.html#tab1

พูดแล้วนึกถึงเกมนึง ที่ต้องชื่นชมในฐานะที่สามารถดึงลูกค้าใหม่เข้ามาได้อย่างต่อเนื่องมาก ๆ นั่นคือ NieR : Automata เพราะในขณะที่ภาคแรกบน PS3 ขายทั่วโลกได้ไม่ถึงล้านชุด ภาค Automata ผมเอาใจช่วยก่อนเกมออกว่าให้มันขายได้ถึง 1.5 ล้านชุด ก็นับว่าโคตรประสบความสำเร็จแล้ว แต่ปรากฏว่า Automata ใช้เวลาเพียง 3 เดือน ก็ขายได้ถึง 1.5 ล้านชุด หลังจากนั้นยอดขายก็ยังเดินไปอย่างมั่นคงเรื่อย ๆ (ผิดจากธรรมชาติของเกมทั่วไป ที่จะขายดีแค่เดือนแรก ปีแรก แล้วก็เงียบหาย) จน พ.ย. 2022 Automata นั้นขายไปได้ถึง 7 ล้านชุดแล้ว - https://www.4gamer.net/games/306/G030635/20221125101/


ทีนี้ พูดถึงอีกเกมนึงที่น่าเป็นห่วง แม้ว่ากระแสตอบรับจะดี และเป็นที่พูดถึงมากขนาดไหนก็ตาม


FFVII Remake นั่นน่ะ ตั้งกะเปิดตัวด้วยยอด 3.5 ล้านชุดใน 3, ขายได้ 5 ล้านชุดใน 4 เดือน หลังจากนั้นก็ไม่มีอัปเดตยอดขายเพิ่มอีกเลย...