Sunday, September 30, 2018
Life is Strange 2 - EP 1 Roads
Life is Strange 2
Episode 1 Roads
ออกตั้งแต่พฤหัสบดีที่ 27 ก.ย. 2018 ที่ผ่านมา
ซื้อแล้ว แต่ผมก็ยังไม่มีเวลาเล่นสักที....
วันนี้ ได้เปิดให้หลานเล่นทั้ง EP รวดเดียวจบ
+อ้อนวอนแทบกราบเท้าให้มันเขียนรีวิวแทนแล้ว
แต่มันก็ไม่ยอมเขียนนนนน...
จากที่นั่งดูมันเล่นบ้าง เดินไปเดินมา ทำธุระห่านจกปลวก แล้ววิ่งกลับมานั่งดูหน้าทีวีที่มันเล่นเรื่อย ๆ ก็จับประเด็นเรื่องได้ ถึงเรื่องราวของชอน พี่ชายวัย 16 ปีที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด โดนเข้าใจผิด เห็นตำรวจยิงพ่อตายต่อหน้าต่อตา แล้วจู่ ๆ แดเนียล น้องชายวัย 9 ขวบ ก็ระเบิดพลังพิเศษเหนือธรรมชาติอย่างเทเลคิเนซิสขึ้นมาโดยควบคุมไม่ได้ เป็นเหตุให้เกิดระเบิด มีผู้เสียชีวิต ทำให้กลายเป็นผู้ต้องหาหลบหนี (พร้อมกับน้อง) ทั้งที่ไม่ได้อยากจะเป็น...
แล้วก็เริ่มการผจญภัย เข้ารกเข้าพง หนีคดี สู่ถิ่นฐานบ้านเกิดที่เม็กซิโก
เนื้อหาและการกำกับ ยังคงสุนทรีย์ อบอุ่นใจ ยากแก่การตัดสินใจอย่างเช่นเคย ด้วยบรรยากาศเหงา ๆ แบบภาคแรก
ไว้ผมมีโอกาสได้เล่นเอง จะมาพูดถึงเนื้อหาอีกรอบ
แต่จากที่เห็นวันนี้ก็พอบอกได้แล้วว่า แฟน Life is Strange ภาคแรกและสาวกของอีแมกซ์ทั้งหลาย ต้องหาภาคนี้มาเล่นต่อให้ได้เลย
Saturday, September 29, 2018
โนมุระเย้า Subaseka -Final Remix- คือโอกาสสุดท้ายในการพิสูจน์ว่าจะได้มีภาคต่อ
คุณเท็ตสึยะ โนมุระ ผู้เป็น Creative Producer ให้กับเกม Subarashiki Kono Sekai ให้สัมภาษณ์ลงในเว็บไซต์ Nintendo ถึงความสำคัญของตัวเกมภาค Final Remix ที่พึ่งวางจำหน่ายบน Nintendo Swtich ว่านี่คือโอกาสสุดท้ายแล้ว ที่จะพิสูจน์ว่าเกมนี้สมควรถูกสร้างภาคต่อไป
"ตลอด 11 ปีที่ผ่านมาหลัง Subarashiki Kono Sekai วางจำหน่าย ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมอีเวนต์ในประเทศต่าง ๆ มากมาย หลายต่อหลายครั้ง ก็มีแฟน ๆ และสื่อสัมภาษณ์ผม เขาบอกผมว่าอยากให้ Subarashiki Kono Sekai มีภาคต่อมากมายแค่ไหน ที่ผ่านมาเราก็หาโอกาส มีบางครั้งที่เราพยายามจะเริ่มแล้ว แต่เวลาก็ผ่านไปโดยที่มันยังไม่เป็นจริงขึ้นมา"
"เบื้องหลังตัวเกมเวอร์ชั่น Final Remix นี้ มีความหมายแฝงอยู่มากมาย นอกจากความตั้งใจของผมที่อยากทำงานกับตัวเกมออริจินอลนี้เป็นครั้งสุดท้าย ผมว่ามันยังเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะสร้างหนทางไปสู่ก้าวถัดไป ซึ่งผมก็มีไอเดียอยู่แล้วตั้งแต่ที่มันวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อ 11 ปีก่อน ขอขอบพระคุณทุก ๆ คนที่ให้การสนับสนุนกันเรื่อยมา"
พูดกันถึงขนาดนี้แล้ว ก็คือการบอกว่าภาค Final Remix คือโอกาสสุดท้ายแล้วที่จะพิสูจน์ว่า เกม ๆ นี้มีฐานแฟนอยู่มากพอที่จะทำภาคต่อออกมาหรือไม่ครับ....
ถ้ายอดขายโอเคก็ได้ไปต่อ แต่ถ้าแป้กก็ปิดประตูถาวร...
Subarashiki Kono Sekai -Final Remix- วางจำหน่ายบน Nintendo Switch ในญี่ปุ่นแล้วตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2018 ที่ผ่านมา ส่วนเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ จะวางจำหน่ายนอกญี่ปุ่นวันที่ 12 ตุลาคม 2018 นี้
https://www.nintendo.com/whatsnew/detail/developer-notes-on-the-world-ends-with-you-final-remix
https://www.nintendo.com/whatsnew/detail/developer-notes-on-the-world-ends-with-you-final-remix
Thursday, September 27, 2018
อีก 3 วัน!! สู่การขายบัตร Distant Worlds : music from Final Fantasy
นับถอยหลัง อีกเพียง 3 วันเท่านั้น ก็จะถึงวันซื้อบัตรคอนเสิร์ต Disntant Worlds : music from Final Fantasy!!
(เปิดขายบัตรวันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2018 เวลา 10.00 น. โดยจะมีเจ้าหน้าที่ Five Four Records หลายชีวิต เฝ้ามอนิเตอร์ คอยตอบปัญหาทาง Inbox และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ซื้อบัตร ตลอดวันนั้น)
ใครยังจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตหรือ QR Code ไม่เป็นก็จงรีบไปหัด!
ใครยังตัดสินใจเลือกตำแหน่งที่นั่งไมได้ ก็รีบตัดสินใจ!! แนะนำว่าให้วางแผนสำรองไว้ด้วยว่าหากจองที่นั่งในโซนที่ชอบที่สุดไม่ได้ จะเปลี่ยนไปนั่งตรงไหนแทน วางแผน A B C ไว้ จะได้ตัดสินใจได้รวดเร็วไม่ล่องจุ๊น!!
ส่วนตัวนะ!! ผมอยากให้มีใครสักคนที่ไม่ได้กะจะซื้อบัตร ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ด้วยการ Live พากย์ถ่ายทอดบรรยากาศการซื้อ โดยคอย F5 รัว ๆ ว่าที่นั่งโซน Crystal และโซนอื่น ๆ ในชั้นล่างซึ่งน่าจะหมดก่อน จะถูกจองหมดลงไปภายในเวลาเท่าไหร่
ตรงนี้ก็เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง ที่อยากให้มีคนทำคลิปจารึกไว้ ผมเองก็คงจะเฝ้ามอนิเตอร์ดูอยู่ แต่คงไม่ได้ทะลึ่งทำพากย์อะไรแบบนั้น เพราะเอ่อ.... live ยังไงฟะ... ทำไม่เป็น lol
ผมเชื่อว่าที่นั่งโซน Crystal จะหมดลงก่อนภายใน 20-30 นาทีแรก หลังจากนั้นที่นั่งชั้นล่างบริเวณรอบ ๆ ก็จะทยอยถูกซื้อไป แต่ผมไม่ค่อยเชื่อว่าที่นั่งชั้นล่างจะขายหมดลงได้ภายในวันแรก อาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น
ที่น่าสนใจ และน่าทายคือ ภายในวันที่ 30 นั้น จากที่นั่งประมาณ 3,800 ที่นั่ง จะถูกจับจองไปกี่ที่ และเหลืออีกกี่ที่.....
แล้วไว้ใกล้ ๆ เรามาติดตามดูกันอีกทีครับ
Subarashiki Kono Sekai วางจำหน่ายแล้ววันนี้!!
คนหนึ่งบอกว่า โลกเน่าเหม็นเกินไป และต้องทำลายทิ้งก่อนที่อิทธิพลนี้ จะส่งต่อไปยังโลกคู่ขนานใบอื่น
คนหนึ่งบอกว่า ถ้ามนุษย์หลงผิด ก็ต้องล้างสมอง บังคับปรับทัศนคติ ให้คิดแบบคนดี ไปในทางที่ถูกที่ดี เพื่อจะได้ทำสิ่งดี ๆ และไม่ต้องทำลายทิ้ง
คนหนึ่งบอกว่า ช่างม่าง... หนวกหู แล้วก็ฟังเพลงจากเฮดโฟนต่อไป
คนหนึ่งบอกว่า นี่คือโลกของพวกเขา พวกเขาต้องเป็นผู้ตัดสินใจเอง ว่าจะให้โลกเป็นอย่างไร...
Subarashiki Kono Sekai -Final Remix- วางจำหน่ายบน Nintendo Switch แล้ว วันนี้
https://twitter.com/1stPD_PR/status/1045133693096886272
Wednesday, September 26, 2018
โนมุระชวนซื้อ Subarashiki Kono Sekai -Final Remix- เพื่อให้เข้าใจ KH2.8 มากขึ้น
เท็ตสึยะ โนมุระ โพสต์ข้อความเชิญชวนแฟน ๆ ซื้อ Subarashiki Kono Sekai -Final Remix- ของ Nintendo Switch ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 27 กันยายน 2018 นี้เพื่อให้แฟน ๆ มีความเข้าใจและสนุกกับเนื้อหาของ KH2.8 ให้มากขึ้น โดยแกได้เขียนไว้ในทวีตภพของ Kingdom Hearts ไว้ว่า
"ขอบคุณสำหรับ TGS มาก
"ใน Dream Drop Distance ภายใน KH2.8 ซึ่งเป็นบทนำของ KHIII ภายใน Traverse Town ก็มี Subarashiki Kono Sekai (すばらしきこのせかい) ซึ่งวางจำหน่ายให้ Nintendo Switch ในวันที่ 27 กันยายนนี้ โดยที่สตาฟฟ์ KH ก็มีส่วนร่วมด้วย
"ใครที่อยากจะสนุกกับ KH2.8 ให้มากขึ้น โอกาสนี้ต้องไปลองจัดแล้วครับ"
ลงชื่อ เท็ตสึยะ โนมุระ
https://twitter.com/_KINGDOMHEARTS/status/1044976669138673664
Tuesday, September 25, 2018
โช มินามิโมโตะ กลับมาอีกครั้งในเนื้อเรื่องใหม่ของ Subarashiki Kono Sekai -Final Remix-
จากโฆษณาตัวอย่างล่าสุดของ Subarashiki Kono Sekai -Final Remix- ที่จะวางจำหน่ายบน Nintendo Switch วันที่ 27 กันยายน 2018 นี้
ในเนื้อเรื่อง New 7 days ที่เพิ่มเข้าไปใหม่... พี่โช So Zetta Slowwww... ที่ในเนื้อเรื่องหลักตอนท้าย โดนทั้งรถและตู้กดน้ำล้มทับ แกกลับมาเล่นตลกแล้วววว
นับถอยหลัง 6 วันสู่การจองบัตร Distant Worlds 2018
นับถอยหลัง อีก 6 วัน สู่การเปิดซื้อตัวคอนเสิร์ต Distant Worlds : music from Final Fantasy ครั้งแรกในประเทศไทย ที่สิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
สำหรับช่องทางการชำระเงินนั้น แบ่งเป็น 2 ช่องทางคือ
1. ชำระผ่านบัตรเครดิต
2. ชำระด้วย QR Code
ส่วนตัวผมอยากแนะนำให้ชำระด้วย QR Code เพราะมันสะดวกรวดเร็วกว่ามากครับ จับสแกนส่องทีเดียว แป๊ปเดียวเสร็จ
ใครที่ตั้งใจจะจับจองบัตรให้ได้ ก็เตรียมพร้อมให้ดีครับ จริง ๆ อยากแนะนำให้ไปโหลด App ของธนาคารที่คุณใช้มา แล้วใช้ App ธนาคาร สแกนส่องจ่ายเนี่ยแหละ เวิร์ก!
วันถัด ๆ ไป จะทยอยประชาสัมพันธ์เรื่องที่ควรจะรู้ก่อนซื้อบัตรนะครับ วันนี้เอาเรื่องวิธีจ่ายเงินก่อนเนอะ! :)
-------------------------------
ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ตอนนี้ทีมงานเปิดให้ลงทะเบียนสร้าง Account สำหรับการซื้อบัตรแล้ว ไปลงทะเบียนกันได้ แล้วอย่าลืมทดสอบว่า Login ได้รึเปล่านะครับ lol
https://ticket.fivefourrecords.com/en/index.html
Monday, September 24, 2018
โนมุระหวังทำภาคต่อ Subarashiki Kono Sekai
จากงาน TGS 2018 วันนี้ คุณเท็ตสึยะ โนมุระ Creative Producer ของ Subarashiki Kono Sekai ได้กล่าวถึงเกมซีรีส์นี้ไว้ในงานว่า
"นี่คือเกมที่แฟน ๆ ให้การสนับสนุนมาอย่างยาวนาน และได้คืนชีพขึ้นมาใหม่หลังผ่านไปนาน 11 ปี แต่นอกจากรีมาสเตอร์แล้ว ผมอยากจะเริ่มต้นใหม่ อยากจะพัฒนามันต่อและทำให้พวกคุณรู้สึกว่าโชคดีที่ได้สนับสนุนเกมนี้มาอย่างยาวนาน"
พูดให้ถูกก็คือ แกเองก็สนใจจะทำภาคต่อ หลังจากภาคแรกออกมานานถึง 11 ปีแล้วนั่นเอง
อีก 4 วัน Subarashiki Kono Sekai -Final ReMix- จะวางจำหน่ายบน Nintendo Switch แล้ว... เกมนี้จะได้มีภาคต่อหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับยอดขายภาคนี้แล้วล่ะครับ
http://www.ff-reunion.net/blog/2018/09/23/twewy-tgs-new-scenario-and-nomura-message/
Sunday, September 23, 2018
KH III เผยสกรีนช็อต และเกมเพลย์ใหม่ดาว Toy Box และ Frozen
ภาพสกรีนช็อตใหม่ของ Kingdom Hearts III ที่เผยจากการเล่นโชว์บนเวทีงาน TGS 2018 วันนี้
อันที่จริงบอสตุ๊กตาผมน้ำเงินนี้และฉากกกบนี้ มีอยู่ในเดโมตั้งแต่งาน KH III Premiere Event แล้ว แต่ทีมงานห้ามแขกและสื่อต่าง ๆ ถ่ายในส่วนนี้มา (คนที่หยิบกล้องถ่ายแบบเปิดเผยเลยโดนหิ้วออกจากงาน) แต่สำหรับงานนี้ก็ให้บันทึกภาพในส่วนนี้แชร์ได้แล้ว
คลิปเกมเพลย์ใหม่ดาว Toy Box
https://youtu.be/5QgGSDzZezA





คลิปเกมเพลย์ใหม่ดาว Frozen
https://youtu.be/41EcAQ3qRlw


อันที่จริงบอสตุ๊กตาผมน้ำเงินนี้และฉากกกบนี้ มีอยู่ในเดโมตั้งแต่งาน KH III Premiere Event แล้ว แต่ทีมงานห้ามแขกและสื่อต่าง ๆ ถ่ายในส่วนนี้มา (คนที่หยิบกล้องถ่ายแบบเปิดเผยเลยโดนหิ้วออกจากงาน) แต่สำหรับงานนี้ก็ให้บันทึกภาพในส่วนนี้แชร์ได้แล้ว
คลิปเกมเพลย์ใหม่ดาว Toy Box
https://youtu.be/5QgGSDzZezA





คลิปเกมเพลย์ใหม่ดาว Frozen
https://youtu.be/41EcAQ3qRlw



FFXV ประกาศความร่วมมือกับ Terra Wars, Tomb Raider และ DJ Nobunaga
มาไกลแล้ว ก็เอาให้สุดไปเลยเพ่!! Final Fantasy XV เตรียมออก DLC Collaboration กับ 3 เกมรวด
ในช่วงขึ้นเวทีปราศรัยช่วงเช้าในงาน TGS 2018 สำหรับเกม Final Fantasy XV ในวันนี้ เดิมสื่อคาดกันว่า ถึงเวลาแล้วที่ทางค่ายจะต้องเปิดเผยรายละเอียดของ DLC เนื้อเรื่อง Season 2 ของอาร์ดีน-อราเนีย-ลูน่า-น็อคติส ตามที่ได้โปรโมทไว้ในเดือนเมษายนว่าจะเริ่มขายต้นปี 2019
ลิงก์ Road Map ที่ประกาศตอนเมษายน
http://re-ffplanet.blogspot.com/2018/04/ffxv-road-map-4-dlc-2019.html
หากทว่าเมื่อถึงเวลาขึ้นเวที ทีมงานได้ประกาศว่าขออภัยสำหรับความล่าช้าในการวางจำหน่ายโหมด Comrades ของเกมแบบ Standalone ที่เดิมบอกว่าจะขายแยกในช่วงฤดูร้อน 2018 และขออภัยที่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับ DLC Season 2 ทั้ง 4 Episode ได้ และขอให้แฟน ๆ อดใจรอกันอีกหน่อย
อย่างไรก็ตาม วันนี้ทีมงานก็ได้ประกาศ Collaboration FFXV กับเกมอื่นอีก 3 เกม โดยเกมที่จะ Collaboration เนื้อหาเข้ามาใน FFXV ได้แก่
- Terra Wars : เป็นเนื้อเรื่องใหม่
- Shadow of the Tomb Raider : เป็นสกินในโหมด Comrades
- DJ Nobunaga : เป็นลายเสื้อให้ใส่ในโหมด Comrades และเป็นมินิเกมใหม่
DLC ชุดนี้จะออกวันที่ 25 กันยายน 2018
คลิปตัวอย่าง : https://youtu.be/JOPDGm6ZDgk
Saturday, September 22, 2018
สรุปพรีเซนต์Kingdom Hearts III จากงาน TGS 2018
คลิปการพรีเซนต์บนเวทีของช่วง KH III แบบเต็ม
https://www.youtube.com/watch?v=tORuUe1oIUQ
- คุณมิยุ อิริโนะ ผู้พากย์โซระขึ้นเวทีมา โดยบอกว่าก่อนหน้านี้แกก็เดินเล่น ดูนู่นนั่นนี่ทั่วงาน แล้วก็พึ่งไปเข้าห้องน้ำหลังเวทีมา โดยไม่มีใครสังเกตว่าเป็นแก
- คุณเมงุมิ โทโยกุจิ ผู้พากย์อควอ ขึ้นเวทีมา และบอกว่าเริ่มกังวลที่แฟน ๆ ต่างประเทศ ก็กำลังดูถ่ายทอดสดอยู่ด้วย
- ส่วนคุณโนมุระ ไม่ปรากฏตัว แต่พูดเป็นเสียงตอบโต้กับคนบทเวที
- ที่ผ่านมา 16 ปี KH ได้ออกภาคที่แตกต่างกันมา 11 ภาค หากรวมพวก Final Mix ก็จะเป็น 19 ภาค มียอดขายรวมทั้งซีรีส์ 25 ล้านชุด
- คุณอิริโนะได้ยินแล้วก็ตกใจว่ามันเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ? ตอนภาคแรกวางจำหน่ายเมื่อ 16 ปีก่อน แกยังเรียน ม.ต้น อยู่เลย (ตอนนั้นแกก็อายุประมาณโซระในเรื่อง) แกก็ดูเนื้อเรื่องเรื่อยมา และก็อยากจะเติบโตไปพร้อมกับโซระ
- พอพิธีกรให้คุณโนมุระพูดถึงเนื้อเรื่อง KH คุณโนมุระบอกว่า 無理です หรือเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายนั่นเอง ทำเอาฮากันลั่น
- คุณโนมุระบอกอีกว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะย่อสรุปเนื้อเรื่อง พวกคุณต้องเล่นทุกเกมเอาเอง ถึงจะเข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมดได้
- ภาค III จะจบบท Dark Seeker Saga (ตำนานผู้แสวงหาความมืด) ที่ผ่านมาทั้งเรื่อง คือการต่อสู้กับเซอานอร์ทในร่างต่าง ๆ
- คุณโนมุระยืนยันรอบที่ล้านกว่า ๆ ว่า... ภาคนี้แค่จบเรื่องตำนานผู้แสวงหาความมืด แต่เนื้อเรื่องของโซระ ยังคงดำเนินต่อไป
- เปิดคลิปรวมเกมเพลย์ใหม่
https://www.youtube.com/watch?v=GRNuu3T63OY
- ในการขับ Gummi Ship จะมีมินิเกมย่อย เป็นชาเลนจ์ให้เล่นกัน ทีมสร้างมินิเกมส่วนนี้ มีด้วยกันประมาณ 30 คน
พิธีกร : ทำไมคุณโนมุระถึงทำมินิเกมย้อนยุคแบบนี้ให้เล่นครับ? (นาที 29)
โนมุระ : เอ่อคือ ตอนเด็ก ๆ เขาไม่ยอมให้ผมเล่น ก็เลย...
พิธีกร : เลยใส่ลงไปในเกมตัวเอง? นี่คือการ Revenge ใช่มั้ย!?
โนมุระ : อืม...
- มินิเกมทำอาหารกับเรมีจาก Ratatouille เป็นการให้ผู้เล่นทำอาหารฝรั่งเศส เพื่อบัฟสเตตัสตัวเอง
- พิธีกรถามคุณทาอิ ยาสึเอะ ผู้กำกับร่วมว่าคิดว่าเกมนี้มีมีนิเกมเยอะเกินไปรึเปล่า? แต่คุณทาอิบอกว่าสร้าง ๆ ไปมันก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ไม่เคยพอ
- คุณโนมุระบอกว่าจะเปิดคลิป ไม่ใช่ทั้ง PV และไม่ใช่ทั้ง Opening แต่เป็นเหตุการณ์ในเกม แล้วเปิดออกมาเป็นคลิปโซระสู้กับอควอในโลกแห่งความมืด
https://www.youtube.com/watch?v=3nJxXhLUPg4
- สังเกตว่าอควอ ใช้กระบวนท่าสู้เหมือนกับมิราจอควอ ในภาค 0.2 เลย... เท่ากับว่ายังคงรักษาคอนเซปต์ ใช้บอสลับเป็นตัวบอกใบ้ตัวละครในภาคถัดไป เหมือนที่เซมุนัสโผล่มาใน Final Mix ของภาคแรก (หวังว่าจูเลียสจะไม่ตามมาด้วย)
- คุณโนมุระบอกว่าโชคร้ายที่อควอตกสู่ความมืด แต่เขาบอกอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ไม่งั้นมันจะกลายเป็นสปอยล์ไป
- ถัดจากนี้พูดเรื่องเกม Tsum Tsum ขอข้ามไป
--------------------------------------------------
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A)
--------------------------------------------------
Q : เทอร์ร่า อควอ เวนตุส และเซอานอร์ท อายุเท่าไหร่?
โนมุระ : เราไม่ได้กำหนดอายุไว้ตายตัว เทอร์ร่าประมาณ 20, อควอราว 18, เวนตุสก็ 16 ส่วนเซอานอร์ท.... อืม... เซอานอร์ทหนุ่มประมาณ 18-20 มาสเตอร์เซอานอร์ทก็ราว ๆ 80 ได้
Q : ระหว่างโซระกับวานิทัศ พากย์ใครยากกว่ากัน
อิริโนะ : ตอนแรกการพากย์เสียงโซระเป็นเรื่องยาก แต่ผ่านไปหลายปีก็ทำได้คุ้นเคย ส่วนของวานิทัศ การพากย์ด้วยสภาพจิตใจอีกแบบหนึ่งก็ไม่ได้ยากอะไร ผมเองพอโตขึ้น เสียงก็เปลี่ยนไปด้วย ก็ต้องปรับเสียงให้เข้ากับตัวละคร
Q : KH III จะมีเกมเพลย์แบบ Online มั้ย?
โนมุระ : ไม่มีอยู่ใน KH III แต่ก็มีคุย ๆ กันในระหว่างการพัฒนา แต่เราอยากจะทำ KH III ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องอื่นทีหลัง
Q : KH III จะมี Secret Movie (ฉากจบลับ) มั้ย?
โนมุระ : มี ก็จะมี ผมไม่อยากจะพูดสปอยล์อะไรออกมา แต่ก็จะมีนำเสนอเป็นรูปแบบอื่น เช่น DLC Secret Movie หรืออะไรแบบนั้น
- ทีมงานกลับมาโฆษณา KH Union X ว่าพึ่งมีอัปเดตใหญ่เป็น 3.0.0.0 และเพิ่มมินิเกม Classic Kingdom เข้าไป
- ประกาศ Collabortaion กับ Tokyo Skytree ซึ่งเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 634 เมตร จะมีอีเวนต์ หอคอยแห่งแสงสว่างและความมืด ระหว่างวันที่ 8 ม.ค. 2019 - 3 มี.ค. 2019 เป็นการตกแต่งสถานที่ ให้เป็นธีม KH III ร้านคาเฟ่และร้านอาหารข้างใน Tokyo Skytree ก็จะขายสินค้าและเมนูพิเศษ
- ถัดมาก็เป็นขายของทั้งฟิกเกอร์ ตุ๊กตา ฮูด ปากกาคีย์เบลด ผ้าเช็๋ดมือ แก้วน้ำ พวงกุญแจชุดตัวละคร/คีย์เบลด/ไอคอนดาว
- Collaboration กับ SuperGroupies ทำชุดตัวละคร ทั้งโซระ ริคุ ไคริ ร็อคซัส แอ็คเซล ขาย
- พิธีกรบอกว่า Kingdom Hearts III จะวางจำหน่าย 25 มกราคม 2019, แล้วถามคุณโนมุระว่าโอเค (ทัน) ใช่มั้ย? คุณโนมุระก็ อืม... ถ้าไม่มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นก็โอเค
- คุณอิริโนะ กล่าวขอบคุณแฟน KH ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศที่ให้การสนับสนุนเรื่อยมา วันนี้ก็ขอให้สนุกกัน ขอบคุณมาก (หลังจากนั้นคุณเมงุมิ กับคุณทาอิก็กล่าวต่อมา)
พิธีกร : โนมุระซัง! กล่าวปิดท้ายให้แฟน ๆ หน่อยครับ
โนมุระ : ทุกคนก็กล่าวสิ่งที่ผมอยากพูดไปหมดแล้ว ก็เท่านี้แหละครับ!
Thursday, September 20, 2018
FAQS : Kingdom Hearts 3D
(เขียนขึ้นเมื่อ 9/03/2013)
ข้อสังเกตเรื่องพลังที่เกี่ยวข้องกับการท่องกาลเวลาในเกมนี้
Q = คำถามที่ยังค้างคา
1. เกิดได้จากการสละร่างเนื้อทิ้งไป
1. เกิดได้จากการสละร่างเนื้อทิ้งไป
- พลังในการท่องกาลเวลา เกิดได้จากการสละร่างเนื้อออกไปจนเหลือเพียงแต่หัวใจ
- สถานที่และยุคสมัยที่เดินทางไปได้ มีเพียงสถานที่และยุคสมัยที่ตนเองในอดีตหรืออนาคตอยู่เท่านั้น (ไปในที่ที่ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้)
- เวลาเดินทางท่องกาลเวลาก็จะไปทั้งรูปลักษณ์ที่เหลืออยู่
คนที่ได้พลังนี้มาคนแรกคือมาสเตอร์เซอานอร์ทที่เอาคีย์เบลดจิ้มหัวใจตัวเองออกจากร่าง และพลังนี้ก็คงอยู่มาจนถึงเซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลส (ซึ่งจริงๆ เจ้าร่างฮาร์ทเลสนี้ก็ได้ทิ้งร่างของตนเองไปอีกรอบ)
ในตอนท่องกาลเวลา เซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลสที่เหลือเพียงหัวใจ ก็ท่องกาลเวลาไปทั้งหัวใจที่ใส่ชุดคลุมน้ำตาล ส่วนเซอานอร์ทหนุ่มก็ไปครบทั้งร่างกาย หัวใจ วิญญาณ
2. มอบให้กันได้
พลังในการท่องกาลเวลานี้ สามารถมอบให้กันได้ เช่น ส่งต่อจากเซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลส มายังเซอานอร์ทหนุ่ม
[Q1] ประเด็นนี้น่าสงสัยว่า ผู้ที่รับพลังนี้มา จะสามารถมอบต่อให้แก่ผู้อื่นได้อีกหรือไม่? เพราะเซอานอร์ทหนุ่มเองก็ไม่ได้มอบความสามารถนี้ต่อให้ใคร
3. สืบทอดแก่กันได้
พลังในการท่องกาลเวลา สามารถสืบทอดแก่กันได้ เช่น สืบทอดจากมาสเตอร์เซอานอร์ท มายังเทอร์ร่า-เซอานอร์ท และไปถึงเซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลส
4. แม้ท่องไปในยุคอดีต ความทรงจำก็จะไม่ได้หายไป
ขณะที่ท่องกาลเวลากลับไปยังยุคอดีต ความทรงจำจากยุคปัจจุบันก็จะไม่ได้หายไป เช่น ตอนที่เซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลสย้อนไปหาเซอานอร์ทหนุ่ม และตอนที่โซระและริคุกลับไปยังเกาะแห่งชะตากรรมช่วงก่อนที่จะโดนความมืดกลืนกิน
5. แม้ท่องกาลเวลาไม่ได้ ก็อาจส่งผู้อื่นให้เดินทางข้ามกาลเวลาได้
เยนซิดไม่เคยสละร่างเนื้อทิ้งไป ตัวเขาจึงไม่สามารถท่องกาลเวลาได้ ทว่าเขากลับสามารถส่งโซระและริคุให้ท่องกาลเวลาได้ ถึงกระนั้น การจะส่งใครสักคนข้ามกาลเวลาไป ก็ต้องส่งไปยังที่ๆ คนๆ นั้นดำรงอยู่แล้วอยู่ดี
6. ผู้รับมอบพลัง นอกจากตัวเองจะข้ามกาลเวลาได้แล้ว ยังส่งผู้อื่นข้ามกาลเวลาได้
เซอานอร์ทหนุ่มได้รับพลังในการท่องกาลเวลา พร้อมแผนในการรวบรวมตนเองเวอร์ชั่นต่างๆ จากเซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลสมา (My future self gave me a task) จึงต้องท่องกาลเวลาไปส่งตัวเองเวอร์ชั่นต่างๆ ให้มารวมตัวกันในยุคที่มาสเตอร์เซอานอร์ทจะฟื้นขึ้น
[Q1] น่าสงสัยว่าเซอานอร์ทหนุ่มจะสามารถมอบพลังในการท่องกาลเวลาต่อให้กับตัวเองในเวอร์ชั่นต่างๆ ได้หรือไม่
[Q2] และน่าสงสัยว่า เซอานอร์ทหนุ่มสามารถจะสามารถส่งคนอื่น (นอกจากตัวเองเวอร์ชั่นต่างๆ ) ให้ข้ามกาลเวลาได้ด้วยหรือไม่
7. เซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลสรู้ว่าในอนาคตร่างสมบูรณ์ของเขาจะฟื้นกลับมาอีกครั้ง หลักฐานคือการที่เขาทราบเรื่องโนบอดี้ เขารู้ว่าตัวเขาเองมีร่างแยกมากมาย หากรวบรวมร่างทั้งหมดได้ก็จะเยี่ยม ดังนั้นจึงนำแผนนี้ไปบอกแก่เซอานอร์ทหนุ่ม
7. เซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลสรู้ว่าในอนาคตร่างสมบูรณ์ของเขาจะฟื้นกลับมาอีกครั้ง หลักฐานคือการที่เขาทราบเรื่องโนบอดี้ เขารู้ว่าตัวเขาเองมีร่างแยกมากมาย หากรวบรวมร่างทั้งหมดได้ก็จะเยี่ยม ดังนั้นจึงนำแผนนี้ไปบอกแก่เซอานอร์ทหนุ่ม
เซอานอ์ทหนุ่มจึงท่องกาลเวลาไปในยุคต่างๆ เพื่อส่งตัวเองเวอร์ชั่นต่างๆ มารวมกันในยุคเดียว โดยเขาเพียงทำการส่งเท่านั้น แต่ไม่ได้มอบความสามารถให้ [Q1]
8. พลังในการเร่งกาลเวลา
8. พลังในการเร่งกาลเวลา
นอกจากการท่องกาลเวลา การส่งผู้อื่นข้ามกาลเวลาแล้ว ยังมีการเร่งกาลเวลา ซึ่งพ่อมดเมอร์ลินและเหล่านางฟ้าได้ช่วยเร่งเวลาในสถานที่แห่งหนึ่งให้ดำเนินไปเร็วขึ้น เพื่อที่ลีอาจะได้ฝึกฝนการใช้คีย์เบลดได้อย่างรวดเร็ว
9. ลิขิตแห่งกาลเวลาที่จะลบความทรงจำที่ไม่ควรมี
เซอานอร์ทหนุ่มได้เดินทางมายังอนาคต เขากล่าวว่าหากเขากลับไปในยุคของเขา ความทรงจำที่ได้มาจากยุคอนาคตก็จะหายไป
ในเรื่องนี้ไม่ได้หมายความว่า หากย้อนอดีตแล้วความทรงจำจะหายไป... แต่หมายความว่าหากให้ตัวเองมีความทรงจำที่ไม่ควรมีในยุคปัจจุบัน เช่น รู้เรื่องอนาคต ระบบกาลเวลาจะทำการแก้ไขอัตโนมัติด้วยการลบความทรงจำดังกล่าวทิ้ง เพื่อป้องกันการฝ่าฝืนลิขิตแห่งชะตากรรม ซึ่งเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญในเรื่องนี้
ดังนั้น ตอนที่เซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลสเจอเซอานอร์ทหนุ่ม จึงได้มอบหมายเพียงหน้าที่ โดยไม่ได้บอกว่าเซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลสเป็นใคร เพราะจะทำให้เซอานอร์ทหนุ่มรู้เรื่องอนาคตที่ยังไม่ควรรู้ (หรือต่อให้บอกไปแล้วเซอานอร์ทหนุ่มก็คงโดนลบความทรงจำในส่วนนี้ไปแล้ว) ดังนั้นเขาจึงบอกโซระว่าในตอนที่เขาเจอเซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลส เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่นคือตัวเขา
10. กระแสเวลาใน Realm of Darkness ดำเนินไปช้ากว่า Realm of Light
นับแต่ที่อควอตกสู่ Realm of Darkness เวลาของ Realm of Light ก็ผ่านไปร่วม 10 ปี แต่อควอไม่ได้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปนานขนาดนั้น เพราะกระแสเวลาของ Realm of Darkness ดำเนินไปช้ากว่านั่นเอง
คำถามอื่นๆ ที่ชวนคิด
1. เซอานอร์ทหนุ่มเคยบอกโซระว่า The Grid ไม่ได้อยู่ใน Realm of Dreams, The Grid เป็นเพียงข้อมูล ไม่ใช่ความฝัน และมันก็ฝันไม่ได้
ขณะที่โจชัวบอกริคุว่าหากนี่เป็นความฝัน ก็ต้องมีคนที่โกหก พยายามทำให้ริคุหลงเชื่อว่านี่คือความจริง
คนโกหกที่พยายามทำให้ผู้เล่นหลงเชื่อว่าโลกแห่งนี้เป็นความจริงก็คือเซอานอร์ทหนุ่ม
คนโกหกที่พยายามทำให้ผู้เล่นหลงเชื่อว่าโลกแห่งนี้เป็นความจริงก็คือเซอานอร์ทหนุ่ม
ถึง The Grid จะเป็นเพียงข้อมูล แต่ข้อมูลก็สามารถให้กำเนิดหัวใจ และมีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
2. เมื่อโซระและริคุร่างความฝัน ออกมาสู่โลกที่ไม่เคยมีอยู่จริงในส่วนของความเป็นจริงแล้ว พวกเขายังคงมีสภาพเป็นเด็ก นั่นเป็นเพราะพวกเขาที่เห็นคือร่างความฝัน พวกเขาต้องกลับไปยังหอคอยเยนซิด ให้เยนซิดคลายมนต์และทำให้ตื่นขึ้นมาก่อน ถึงจะกลับสู่ร่างจริงได้
กรณีของริคุ หลังจากบู๊กับเซอานอร์ทเสร็จ เขาก็กลับไปหาเยนซิดและได้รับการคลายมนต์+ปลุกจากเยนซิด
3. ตอนที่โซระชนะเซมุนัสได้ แต่โซระกลับล้มและกำลังจะหลับไป เป็นเพราะหัวใจของโซระบอบช้ำจากการต่อสู้ ซึ่งเมื่ออยู่ในสภาพหัวใจที่บอบช้ำ ก็จะเหมือนอยู่ในสภาพเกือบจะหลับใหล
ในเรื่องนี้ก็เหมือนตอนที่เวนถูกมาสเตอร์เซอานอร์ททดลองแบ่งหัวใจออกไป ทำให้หัวใจแตกเป็นสองส่วน เวนจึงอยู่ในสภาพเกือบหลับใหล จนกระทั่งหัวใจของเวนไปเชื่อมโยงกับหัวใจของโซระ จนได้หัวใจของโซระช่วยประคองไว้ จึงค่อยๆ หลุดจากสภาพนี้มาได้ ส่วนตอนที่เวนทำลาย X-blade จำลอง หัวใจของเวนก็บอบช้ำเลยมาขออาศัย (หลับใหล) อยู่ในร่างของโซระ ทำให้ร่างของเวนหลับไม่ตื่น
กรณีของโซระ เขาตื่นขึ้นมาได้อีกครั้งหลังจากที่ริคุเข้าไปในความฝันของเขา เพื่อขจัดความมืด พร้อมเฝ้ากรอกหูว่าจะพาตัวคนสำคัญกลับมา ทำให้หัวใจที่บอบช้ำของโซระได้รับการเยียวยาและตื่นขึ้น
4. ภาพความสัมพันธ์ระหว่างความทรงจำ - ความฝัน - การหลับใหล - ความมืด
ความทรงจำ ทำให้เกิดความฝัน (ฝันในเรื่องที่จำได้)
ความฝันดำรงอยู่ภายในการหลับใหล และการหลับใหลก็ดำรงอยู่ภายในความมืดมิด
ในทางกลับกัน เมื่อตกสู่ความมืดมิด ก็จะเข้าสู่ความหลับใหล เกิดเป็นความฝันที่มาจากความทรงจำ
- ที่โจชัวบอกว่ากระแสเวลาของฟากริคุและโซระเดินเร็วไม่เท่ากัน เป็นเพราะโลกทั้งสองฟากคือความฝันของคน 2 คน ก็คือความฝันของโลก กับความฝันของโซระ
- การที่เยนซิดรู้สึกได้ว่าริคุอยู่ที่โลกที่ไม่เคยมีอยู่จริง แปลว่าริคุอยู่ในโลกแห่งความจริง จริงๆ
5. ปัจจุบันเวนหลับไม่ตื่น เพราะหัวใจของเขาแตกกระจายจากการทำลาย X-blade เทียมซึ่งเป็นร่างแทนหัวใจของเขา หัวใจที่แตกกระจายนั้นได้มาขออาศัยอยู่ในร่างของโซระ ทำให้ร่างจริงของเวนขาดหัวใจที่แตกกระจายนั้น จึงหลับไม่ตื่น
ส่วนกรณีของโซระ เขาเคยหลับไม่ตื่นเพราะขาดร็อคซัสและซิออน ซึ่งเป็นพลังและความทรงจำที่ขาดหายไปของเขา ทำให้ตัวตนไม่สมบูรณ์ จึงตื่นขึ้นไม่ได้
6. ตั้งแต่ช่วงออกเดินทางจากเกาะแห่งชะตากรรมแล้ว โซระโดน Hijack พอมาถึง Realm of Dreams ก็โดนจูงให้ออกนอกเส้นทางการทดสอบปกติ ไม่ได้ไปตามรูกุญแจที่ควร แต่ถูกชักนำมายังโลกที่ไม่เคยมีอยู่จริง (ของจริง) จากนั้นโซระก็ถูกทำให้หลับฝัน ในความฝันก็หลับไปอีก เกิดเป็นฝันซ้อนฝันเห็นเป็นร็อคซัส ซิออน และคนอื่นๆ นั่นแปลว่าบุคคลเหล่านี้ยังอยู่ในก้นบึ้งความทรงจำของเขา
ส่วนริคุ หลังจากปลดรูกุญแจทั้ง 7 แล้ว ก็ออกจากฝันซ้อนฝันของโซระมายังความฝันชั้นแรก แล้วก็เจอโซระนอนฝันอยู่ หลังจากสู้กับเซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลสแล้ว ริคุจึงออกมายังโลกแห่งความจริงได้ ทว่าโซระยังหลับไม่ตื่น หลังจากริคุบู๊กับพวกเซอานอร์ทแล้วจึงค่อยไดฟ์ไปปลุกโซระ
7 .การที่เซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลสเข้าครอบงำริคุตั้งแต่ภาคแรก นั่นคือความตั้งใจที่จะใช้ริคุเป็นภาชนะหนึ่ง
ตั้งแต่ภาค Chain of Memories แล้วเราจะเห็นว่าริคุเริ่มมีอาการประหลาดๆ ริคุสัมผัสได้ถึงเซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลสที่ยังคงอยู่ในตัวเขา นั่นคือการบอกว่าเมล็ดพันธุ์หรือหัวใจของเซอานอร์ทยังคงอยู่ในตัวเขาเรื่อยมา
ในภาค Birth by Sleep เซอานอร์ทก็ได้พูดเรื่องการหว่านเมล็ด ซึ่งหมายถึงการแบ่งหัวใจของเขาเข้าไปในร่างคนอื่น พร้อมระบุว่าเทอร์ร่าก็เป็นทางผ่านเส้นทางหนึ่งของเขา (เป็นภาชนะหนึ่ง)
8. ในภาค 2 และ 358/2 Days เมื่อริคุใช้พลังแห่งความมืด รูปร่างของเขาก็เปลี่ยนเป็นเซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลส นั่นคือเขาได้ยอมให้หัวใจของเซอานอร์ทปลดปล่อยพลังและมีอิทธิพลต่อตัวเขาเพิ่มขึ้นมามาก ไม่กั๊กไว้อย่างเดิม
8. ในภาค 2 และ 358/2 Days เมื่อริคุใช้พลังแห่งความมืด รูปร่างของเขาก็เปลี่ยนเป็นเซอานอร์ทร่างฮาร์ทเลส นั่นคือเขาได้ยอมให้หัวใจของเซอานอร์ทปลดปล่อยพลังและมีอิทธิพลต่อตัวเขาเพิ่มขึ้นมามาก ไม่กั๊กไว้อย่างเดิม
การที่ริคุกลายร่างเป็นแบบนั้น ก็คือกลายเป็นเวอร์ชั่นหนึ่งของเซอานอร์ทไปครึ่งตัวแล้ว เพียงแต่ยังคงประคองหัวใจไม่ให้โดนเซอานอร์ทครอบงำโดยสมบูรณ์ได้
ทว่าภายหลัง แสงจาก Kingdom Hearts เทียมที่สร้างจากหัวใจของสิ่งมีชีวิตก็ช่วยขจัดส่วนที่งอกเงยออกมาภายนอกให้ ทำให้ริคุกลับคืนร่างเดิม แต่ถึงกระนั้น หัวใจของเซอานอร์ทก็ยังคงอยู่ในตัวของริคุ และออกมาคุยกับริคุได้ในภาค 3D
9. เมื่อดวงดาวตกสู่ความมืดมิด ก็จะหลับฝัน เมื่อความฝันของดวงดาวทั้งหมดเชื่อมโยงถึงกัน ก็เกิดเป็นจักรวาลที่เซอานอร์ทเรียกว่า Realm of Dreams (เยนซิดเรียกว่า Realm of Sleep)
ในโลกของเรา ความฝันไม่ได้เชื่อมต่อกัน ทว่าในเกม ความฝันของทุกคนเชื่อมต่อกัน เวลาหลับไปจึงไปโผล่ใน Realm of Dreams เดียวกัน
เมื่อโซระหลับไป โซระก็เข้าสู่ความฝัน แล้วความฝันของโซระก็เชื่อมถึงความฝันของดวงดาวต่างๆ ทำให้เดินทางไปใน Realm of Dreams ได้ แล้วในความฝันนั้นก็มีโซระร่างความฝันอยู่ ขณะที่ริคุก็อยู่ในฝันซ้อนฝันของโซระ
ในฝันซ้อนฝันของโซระ ที่ริคุเข้าไปผจญภัย ยังไงเสียมันก็คือความฝันเหมือนกัน เรียกได้ว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของ Realm of Dreams เช่นกัน
10. ตอนที่โซระและริคุลุกขึ้นเตรียมไปฟังผลการทดสอบ พวกเขาชนเก้าอี้ล้มลง แต่ระหว่างการประกาศ เก้าอี้ที่ล้มมันก็ลุกขึ้นตั้งได้เองโดยที่ไม่มีใครเข้าใกล้มันแท้ๆ...
11. ดรีมอีทเตอร์โควโมริแบท วันดาเนียน ฯลฯ ซึ่งเป็นความฝัน สามารถออกมาจากโลกแห่งความจริงได้ (มาร่วมมือกับริคุที่เป็นดรีมอีทเตอร์เหมือนกันเพื่อช่วยโซระ) และจะไม่หายไป ตราบใดที่เจ้าของดรีมอีทเตอร์นั้นยังไม่ได้ตื่นขึ้นจากฝัน (โซระ)
12. อันเซมได้แปรสภาพตัวเขาและข้อมูลการวิจัยให้อยู่ในรูปดิจิตอลแล้วใส่ไปในตัวโซระ ซึ่งข้อมูลการวิจัยก็ถูกทำให้อยู่ในรูปของขวดแก้ว โดยอันเซมบอกว่าข้อมูลการวิจัยนั้น คือเงื่อนงำความหวัง ในการค้นพบพวกพ้องที่สูญหายไป และนำพาคนที่คิดว่าได้สูญเสียไปแล้วให้กลับมา
หมายความว่าร็อคซัส ซิออน อาจจะกลับมาได้
13. Kingdom Hearts มีแนวคิดว่า ทุกสรรพสิ่งล้วนมีศักยภาพที่จะก่อเกิดหัวใจขึ้นมาได้ ไม่ว่าสมบัติล้ำค่า ตุ๊กตา ต้นไม้ ดอกไม้ หัวใจต่างปรากฏอยู่ในทุกหนแห่ง... จริงๆ เรื่องนี้เพียงอยากบอกว่ามันสอดคล้องกับแนวคิดที่ผมยึดถือมาตั้งแต่เด็ก
14. จากที่เยนซิดบอกว่า ผู้ที่ปลดปล่อยรูกุญแจแห่งการหลับใหลทั้ง 7 จะได้รับพลังใหม่ในการปลดปล่อยหัวใจให้พ้นจากการหลับใหล เมื่อริคุมีพลังนี้แล้ว โซระที่ผ่านการปลดรูกุญแจทั้ง 7 ก็ต้องมีพลังนี้เช่นกัน
เวนเอง ก็อยู่ในสภาพที่หลับใหลอยู่ โซระน่าจะใช้พลังนี้ปลุกเวนขึ้นมาได้
ส่วนกรณีของร็อคซัสและซิออน น่าจะปลดให้ตื่นได้เช่นกัน แต่พวกเขาไม่มีร่างกาย... จึงน่าจะต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย ซึ่งเงื่อนงำน่าจะอยู่ในข้อมูลการวิจัยของอันเซม
บทความอื่นๆ
อธิบายเนื้อเรื่อง KH3D ตอนที่ 11 หอคอยปริศนา + ทฤษฎีโซ่แห่งความทรงจำของนามิเนะ
(เขียนขึ้นเมื่อ 9/03/2013)
หอคอยปริศนา (ความจริง)
*อธิบายเพิ่ม : เมื่อมาถึงจะเห็นริคุกลับคืนร่างเดิมแล้ว
แปลว่าแกริคุได้ตื่นจากการหลับใหล ออกจากสภาพร่างความฝัน (ดรีมอีทเตอร์:
สปิริตของโซระ) คืนสู่ร่างจริงเรียบร้อยแล้ว แต่เราไม่ได้เห็นเหตุการณ์ช่วงนี้
- พวกมิคกี้ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในเยนซิดฟัง
และมาดูโซระด้วยความเป็นห่วง หัวใจของโซระยังคงหลับไม่ตื่น
เยนซิดบอกว่าในระหว่างการทดสอบเป็นมาสเตอร์ริคุได้ปลดปล่อยรูกุญแจแห่งการหลับใหลทั้ง
7 ไปแล้ว ทำให้โลกเหล่านั้นได้ตื่นจากการหลับใหล
และได้มาซึ่ง "พลังในการปลดปล่อยหัวใจให้พ้นจากการหลับใหล" (โซระที่ปลดรูกุญแจทั้ง 7 มาแล้วเหมือนกันก็ย่อมได้ความสามารถนี้มาด้วย) การที่ริคุได้ปลดรูกุญแจเหล่านั้นภายในฝันของโซระ
เป็นเหตุที่ทำให้ริคุมีพลังในการปลุกหัวใจของโซระที่หลับใหลอยู่ (คิดในอีกแง่นึง
หัวใจของร็อคซัสและซิออนที่หลับใหลอยู่ในตัวโซระ ก็น่าจะปลดให้ตื่นได้ด้วย
แต่อาจจะต้องอาศัยปัจจัยมากกว่านั้น เช่นอาจจะต้องเตรียมร่างภาชนะให้พวกนั้นก่อน)
- มิคกี้ถามว่าเยนซิดอยากให้ริคุไดฟ์เข้าไปในความฝันของโซระอีกครั้งรึ? (ให้ไปที่ Destati ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวในฝันของโซระ) แต่ตอนนี้หัวใจของโซระตกอยู่ในอเวจีแห่งความมืด
ถ้าไม่ระวังให้ดี ริคุก็จะติดอยู่ในนั้นไปด้วย (หมายถึง Destati ตอนนี้โดนความมืดล้อมจนมิดไปหมด เดี๋ยวก็ได้ติดแหงกอยู่ในนั้นไปตลอด) มิคกี้จึงอาสาจะไปแทน
เยนซิดจึงประชดว่าอย่างกับเอ็งจะออกมาได้แน่ๆ อย่างงั้นแหละมิคกี้เอย...
ยังไงริคุก็น่าจะมีโอกาสรอดมากกว่า เพราะเขาก็เคยไดฟ์เข้าไปในหัวใจของโซระมาแล้ว
- ริคุบอกว่าเขาขอบใจมิคกี้ที่อาสาจะช่วยโซระ
แต่เขาจะไปเอง โซระมันยังหลับสบายทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรต้องกังวล
เป็นแบบนี้อยู่เสมอ แต่ก่อนตอนที่พวกเขาสามคน (รวมไคริ) กำลังช่วยกันสร้างแพ
โซระมันก็แอบมางีบริมหาด ดังนั้นฉันจึงมีหน้าที่เตือนให้เขาอยู่กับร่องกับรอย
มีคีย์เบลดมาสเตอร์ที่ไหนหลับระหว่างทดสอบกันบ้าง? โซระเคยช่วยเขามาก่อน
และเขาก็ได้ยินเสียงของโซระ... (หมายถึงตอนก่อนที่โซระจะหลับยาวไป
คำพูดสุดท้ายของโซระคือ..... "ริคุ") หมายความว่าโซระต้องการให้เขาช่วย
- มิคกี้สายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นได้ผูกพันพวกเราไว้ด้วยกัน
แม้ในความมืดมิด ริคุก็จะต้องหาโซระเจอแน่ ขอเพียงตามสายสัมพันธ์นั้นไป
ด้านลีอาได้ยินก็เสริมว่าถ้าริคุติดอยู่ในความมืด เขารับปากว่าจะไปช่วยออกมาเอง
- จากนั้นริคุก็โค้งให้เยนซิด แล้วเรียกคีย์เบลดออกมา ริคุในตอนนี้ได้พลังในการปลดปล่อยหัวใจให้พ้นจากการหลับใหลมาแล้ว ก็สามารถเรียก Portral ที่ใช้ในการเข้าไปยัง Destati ของโซระให้ออกมาได้ จากนั้นเขาก็เริ่มต้นไดฟ์เข้าไปในนั้น
Destati (ความฝันของโซระ)
- ริคุไดฟ์เข้าไปในก้นบึ้งของความฝันของโซระ เขาไดฟ์ฝ่าความทรงจำมากมายที่โซระได้ประสบพบเจอมา จนกระทั่งได้มาถึง Destati ซึ่งตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดทุกทิศทุกทาง มองไปทางไหนก็มืดตื๊อไปหมด แล้วริคุก็นึกสงสัยว่าอเวจีนี้คือความฝันของโซระเหรอ?(เป็นอีกจุดนึงที่ช่วยยืนยันว่า Destati เป็นความฝันของแต่ละบุคคล) ทันใดนั้นชุดเกราะของเวนที่ถูกอาบด้วยความมืดมิดและมีสัญลักษณ์แห่งไนท์แมร์ประดับไว้กลางหน้าก็ปรากฏตัวขึ้นมา นั่นคือเกราะของเวนที่อารักขาโซระไว้ด้านใน ทว่าบัดนี้มันได้ถูกความมืดครอบงำจนกลายเป็นฝันร้าย มันได้เข้าห้ำหั่นกับริคุผู้มาเยือนทำให้ริคุจำเป็นต้องต่อสู้ ซึ่งท้ายที่สุดริคุก็สามารถทำลายเกราะของเวนให้แตกยับได้ โดยที่โซระที่อยู่ภายในเกราะยังคงปลอดภัยดี
- เมื่อเกราะของเวนแตกออกไปแล้ว ร่างของโซระที่อยู่ในเกราะก็ล้มลงกับพื้นอันมืดมิด โซระถูกดูดกลืนเข้าไปในความมืด แต่แล้วความมืดทั่วบริเวณนั้นก็เข้าร่วมตัวกันที่ใจกลางของ Destati ก่อนที่จะหายลับไป เมื่อไม่เหลือความมืดแล้วภาพทิวทัศน์ของ Destati ที่คุ้นเคยก็ปรากฏกลับมา และในจุดที่โซระถูกความมืดดูดกลืนเข้าไปนั้น ก็ยังคงหลงเหลือ Kingdom Key ของโซระตกไว้ ริคุหยิบ Kingdom Key ของโซระขึ้นมา ทำให้รูกุญแจบริเวณใจกลางของ Destati ปรากฏขึ้น ริคุใช้คีย์เบลดเล่มนั้นปลดล็อครูกุญแจตรงกลาง ทำให้แสงสว่างพวยพุ่งขึ้นจากรูกุญแจ แสงนั้นได้โอบล้อมทั่วบริเวณ แล้วเมื่อริคุลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองมาถึงความฝันของโซระในส่วนที่เป็นเกาะแห่งชะตากรรม (ไม่ใช่ความฝันของเกาะแห่งชะตากรรม ตอนนี้เกาะแห่งชะตากรรมไม่ได้หลับใหลอยู่ - สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการเคลื่อนจาก Destati หรือพื้นที่ส่วนตัวในฝันของโซระ มาถึงส่วนที่โซระฝันถึงเกาะแห่งชะตากรรม)
เกาะแห่งชะตากรรม (ความฝันของโซระ)
- ริคุยืนอยู่ที่ปลายท่าเทียบเรือ จับจ้องมองไปยังท้องทะเล เมื่อเขาหันมามองด้านข้าง เขาก็เห็นร็อคซัสที่ถามเขาว่าอะไรคือสิ่งที่เขากลัว? ริคุตอบไปว่าเขากลัวที่จะสูญเสียสิ่งสำคัญไป เมื่อตอบไปแล้วร็อคซัสก็เลือนหายไป จากนั้นริคุก็เดินออกจากท่าเทียบเรือมาเจอกับเวน (ริคุรู้สึกว่าตาคนนี้ไม่ใช่ร็อคซัส แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะไม่เคยเจอมาก่อน) เวนถามริคุว่าสิ่งที่ริคุห่วงใยมากที่สุดคืออะไร? ซึ่งริคุก็ตอบว่าเพื่อนคนสำคัญ (แล้วเวนก็หายไป)
- จากนั้นริคุก็ไปเจอซิออนที่นั่งอยู่บนตนไม้ ซึ่งริคุก็ไม่รู้อีกว่าคนๆ นี้เป็นใคร ซิออนถามริคุว่าต้องการอะไร? ริคุหลับตาคิดแล้วก็ตอบไปว่าต้องการนำสิ่งสำคัญที่หายไปกลับคืนมา จากนั้นโลกทั้งใบก็สว่างวาบ เมื่อริคุลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองโดนย้ายมายืนอยู่ที่ริมชายหาด เขามองไปยังทะเลแล้วก็พบขวดแก้วที่กำลังลอยเข้าหาชายฝั่ง ริคุเก็บมันขึ้นมาแล้วก็งงว่ามันคืออะไร?
*อธิบายเพิ่ม : ขวดแก้วนั้นเป็นสัญลักษณ์แทนข้อมูลที่อันเซมตัวจริงใส่เข้ามาในตัวของโซระ ดังที่กล่าวไว้ในตอนจบของภาค BBS หลายคนอาจงงว่าจะเพิ่มข้อมูลเข้าไปในความทรงจำของคนอื่นได้ยังไง? ก็คงต้องบอกว่าเทคโนโลยีในโลกของ KH มันพิสดารอยู่แล้ว พิสดารมาตั้งแต่ที่อันเซมสามารถสร้างโลกที่จำลองขึ้นจากข้อมูล (Datascape) ของเมืองทไวไลท์ขึ้นมาได้แล้ว และยังส่งคนเป็นๆ เข้าไปอยู่ในโลกข้อมูลนั้นได้ (ในภาค Coded มิคกี้ก็สร้างโลกจำลองขึ้นมาและมีตัวละครหลายตัวเข้าไปผจญภัยในนั้นเช่นกัน) *ดูคำอธิบายเพิ่มต่อที่บทความด้านล่างสุดของ Entry
- เมื่อริคุเก็บขวดแก้วขึ้นมา ก็มีเสียงดังขึ้นบอกว่าไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะมาถึงที่นี่ได้ ริคุจึงหันไปยังต้นเสียงแล้วก็ได้พบจอมปราชฐ์อันเซม อันเซมบอกว่าบางทีเขาคงอยากจะไถ่บาปให้กับความผิดในอดีต แม้ว่าจะไม่มีการขอโทษใดที่จะไปแก้ไขความผิดของเขาได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ควรทำอะไรสักอย่าง ดังนั้นเขาจึงแปรสภาพตัวเขาและข้อมูลการวิจัยให้อยู่ในรูปดิจิตอล และซ่อนมันไว้ในตัวโซระ ริคุได้ยินก็เข้าใจว่าขวดแก้วนี้ก็คือข้อมูลการวิจัยนั้น
- อันเซมบอกว่า "ข้อมูลนั้น เป็นเงื่อนงำ เป็นความหวัง ในการค้นพบตนเองและค้นพบพวกพ้องที่สูญหายไปในยามที่จำเป็น หัวใจนั้นเป็นสิ่งที่สามารถเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว การเปิดรับแสงสว่าง สัมผัสธรรมชาติ และเชื่อมโยงกับผู้อื่น ได้สร้างรูปร่างให้กับหัวใจในตัวของพวกเรา ในเรื่องนี้โนบอดี้ก็ไม่ได้ต่างไปจากพวกเรา โซระเป็นคนเพียงคนเดียวที่สามารถกลับเป็นมนุษย์ได้โดยที่โนบอดี้ของเขาไม่ได้ถูกทำลาย นั่นคือหลักฐานของความรักในหัวใจที่เขามีต่อผู้อื่น และคือสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงพวกเขาเอาไว้ บางที... เขาอาจมีพลังที่จะนำพาหัวใจและตัวตนของผู้ที่เชื่อมโยงกับเขาให้กลับมา เพื่อที่จะสร้างผู้คนที่เราคิดว่าจะต้องสูญเสียไปชั่วนิรันดร์แล้วให้กลับคืน"
"ไม่ว่าสมบัติที่ล้ำค่าที่สุด ไม่ว่าตุ๊กตาอันว่างเปล่า ไม่ว่าต้นไม้ในป่าใหญ่ กระทั่งกลับดอกไม้ในสายลม หัวใจต่างก็ปรากฏอยู่ในทุกแห่งหนที่เราเมียงมอง และเราสามารถเห็นมันได้โดยไม่จำเป็นต้องมีพลังพิเศษแต่อย่างใด เราทุกคนย่อมระลึกได้ถึงวัยเด็กที่หัวใจของเราทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูสดใสและสมบูรณ์แบบ โซระก็มีหัวใจที่ซื่อตรงแบบนั้น เขามีเจตจำนงค์ที่จะมองเห็นส่วนที่ดีก่อนส่วนที่แย่ เมื่อเขามองเห็นหัวใจในอะไรบางอย่าง สิ่งนั้นก็จะกลายเป็นจริง เมื่อสายสัมพันธ์นั้นอาจพังลง เขาก็มีพลังที่จะฟื้นฟูมันให้กลับมา เขาได้สัมผัสกับหัวใจมากมาย ได้ยอมรับ และได้ช่วยหัวใจเหล่านั้นเอาไว้ และบางหัวใจนั้นก็ไม่เคยหนีจากเขาไป ไม่ว่าคนที่ตกสู่ความมืดมิด (เทอร์ร่า) หรือติดอยู่ในที่แห่งนั้น(อควอ) ไม่ว่าคนที่จะหลับใหลอยู่ในความมืดมิดภายในหัวใจของโซระ (เวน ร็อคซัส ซิออน) พวกเขาต่างได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เราสามารถช่วยพวกเขาได้ สิ่งที่โซระต้องทำมีเพียงการเป็นตัวของตัวเอง และเดินไปตามเส้นทางที่หัวใจของเขาเรียกร้อง นั่นคือเส้นทางที่ดีที่สุดเพียงหนึ่งเดียว ส่วนที่เหลือ ก็อยู่ในนั้น" (ในขวด)
- ริคุหยิบขวดขึ้นมาดูอีกครั้งแล้วขอบคุณอันเซม แล้วอันเซมก็ถามว่าทำไมริคุถึงมาที่นี่ ซึ่งริคุก็บอกว่าเขามาปลุกโซระ อันเซมจึงขำที่โซระตกสู่การหลับใหลอีกแล้ว ริคุเองก็ขำด้วย (ตอนที่อันเซมเจอโซระครั้งแรก ก็เป็นตอนที่โซระหลับใหลอยู่ในแคปซูลจัดเรียงความทรงจำ และโซระตื่นขึ้นมาไม่ได้เพราะบางสิ่งบางอย่างในตัวเขาขาดหายไป) แล้วอันเซมก็บอกว่าไม่ต้องห่วง โซระปลอดภัยดี เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ทันทีที่ริคุได้กำจัดไนท์แมร์ที่จองจำโซระเอาไว้ โซระก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อริคุมาถึงที่แห่งนี้ และถูกถามคำถามจากหนุ่มสาวทั้งสาม นั่นคือกุญแจสุดท้ายในการปลุกเขา โซระได้ตื่นขึ้นแล้ว เจ้าสามารถกลับบ้านได้แล้ว
- ริคุกล่าวคำขอบคุณและใช้ Kingdom Key เรียกรูกุญแจออกมาพร้อมกับปลดล็อค แต่ก่อนที่ริคุจะออกไปจากความฝันของโซระ อันเซมได้หันมาเรียก แล้วถามริคุว่าเจ้ายังไม่ได้บอกชื่อแก่ข้าเลย
- ริคุหันกลับมามองด้วยสีหน้าประหลาดใจ เพราะอันเซมควรรู้จักเขาดีอยู่แล้ว แต่ทันใดนั้นริคุเองก็เข้าใจเหตุผลที่อันเซมถามแบบนั้น เขายิ้มและตอบกลับไปอย่างภาคภูมิว่า "ริคุไง" จากนั้นริคุก็บินลับหายไป
*อธิบายเพิ่ม : ก่อนหน้านี้ริคุเคยยอมใช้พลังความมืดในจิตใจ ทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้ายหรือหัวใจของเซอานอร์ทที่อยู่ในร่างกายเขาเติบโตขึ้น จนแปรสภาพรูปร่างภายนอกของริคุให้กลายเป็นเซอานอร์ท ในตอนนั้นอันเซมตัวจริงได้แกล้งถามริคุว่าเขาเป็นใคร แล้วริคุก็ตอบประชดไปว่าเป็นอันเซม (ตัวปลอม) ในตอนนี้อันเซมตัวจริงจึงถามแบบเดิมกับริคุใหม่ เพื่อให้ริคุได้ตอบคำถามนั้นแก่ตัวเองอย่างภาคภูมิใจว่า เขาได้กลับเป็นริคุ ที่เป็นริคุจริงๆ แล้ว
หอคอยปริศนา (ความจริง)
- ริคุตื่นขึ้นมาโดยไม่มีขวดแก้วที่หิ้วมาด้วยอยู่ในมือ... (แล้วมันหายไปไหนล่ะฟะ!!) ท่ามกลางความยินดีของมิคกี้และเยนซิด ริคุตะโกนเรียกหาโซระ แล้วก็ได้ยินเสียงโซระคุยกับโดนัลด์ว่า
"เฮ้ย โดนัลด์! นายชักจะกินเยอะไปแล้วนะเฟ้ย!"
"โอ่ย เงียบ แล้วจิบชาของนายต่อไปดีกว่าน่าโซระ"
"กาวฟรสห์ รสเด็ดไปเลยจริงๆ สิ"
- ริคุเห็นดังนั้นก็ตะโกนเรียกโซระดัง "เฮ่ย" พวกโซระจึงหันมาเผยให้เห็นหน้าโซระที่ใส่แว่นปลอม จมูกปลอมและหนวดปลอม (แถมด้วยหมวกปาร์ตี้) โซระถอดแว่นนั้นทิ้งแล้วโผเข้ากอดริคุด้วยความยินดี ริคุยังนิ่งแล้วบอกว่าเอาไว้วันหลังไม่ได้เหรอ? ทำไมถึงมานั่งจิบปาร์ตี้น้ำชากันแบบนี้เนี่ย? แต่โซระไม่สนแล้วยังกระโดดกอดริคุอีกรอบ
- โซระบอกว่าเขาเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฝัน และได้ยินเสียงของริคุมาโดยตลอด ขอบใจมากริคุ ขอบใจมากทุกคน ซึ่งทุกคนก็ยิ้มรับ แล้วโซระก็ถามเยนซิดว่าตกลงพวกเขาผ่านการทดสอบใช่มั้ย? เยนซิดพยักหน้าแล้วก็บอกว่าทั้งสองแสดงความสามารถได้อย่างน่าชื่นชม ทั้งสองจึงรีบลุกขึ้นชนเก้าอี้ตัวหนึ่งล้ม แล้ววิ่งไปยืนรายงานตัวหน้าโต๊ะของเยนซิด
- เยนซิดกระแอมก่อนเริ่มรายงานผลว่า ที่สำคัญที่สุด เขายินดีที่ทั้งสองสามารถเอาตัวรอดจากแผนตบตาของเซอานอร์ทได้อย่างปลอดภัย และขอบคุณลีอาที่ไปพลิกสถานการณ์ให้ และขอโทษด้วยที่ไม่อาจคาดเดาถึงภยันตราย จนทำให้ทั้งสองต้องผจญกับการทดสอบที่เสี่ยงตาย ประสบการณ์ครั้งนี้ได้เปิดเผยความจริงที่ซ่อนไว้มากมาย และเราต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการฟาดฟันกับความมืดครั้งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า เขามั่นใจว่าเราจำเป็นต้องมีคีย์เบลดมาสเตอร์คนใหม่ ผู้ทีพลังแบบใหม่ ทั้งโซระและริคุต่างก็สมควรได้รับเกียรตินั้น (ถึงตรงนี้ ภาพจะฉายให้เห็นรอบห้องอีกครั้ง ปรากฏว่าเก้าอี้ที่โดนชนล้มไป มันกลับขึ้นมาตั้งได้อย่างลึกลับ!! ทั้งที่ไม่มีใครไปยุ่งกับมันแท้ๆ !!) ทว่า มีเพียงหนึ่งเดียวที่อาจหาญบุกเข้าไปใน Realm of Sleep อีกครั้งเพื่อปลดล็อครูกุญแจสุดท้ายและช่วยเพื่อนเอาไว้ได้ ริคุ ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นคีย์เบลดมาสเตอร์ที่แท้จริงคนใหม่
*สังเกตว่า เยนซิดเรียก Realm of Sleep แต่เซอานอร์ทเรียก Realm of Dreams
- โซระเข้าโอบไหล่ริคุและบอกว่าเขากะแล้วว่าริคุต้องผ่านฉลุยอยู่แล้ว เจ๋งสุดๆ ไปเลย.... ส่วนกู๊ฟฟี่ก็กัดว่าทำไมโซระทำหยั่งกับตัวเองสอบผ่านยังไงยังงั้น ขณะที่โดนัลด์ก็แซวว่า "บอกแล้วว่าโซระต้องฝึกอีกเยอะ" แล้วริคุก็เข้ามาแสดงความยินดีด้วย ริคุก้มลงไปจับมือกับมิคกี้และขอบคุณทุกคน เขาบอกว่าที่ผ่านมาได้ก็เพราะเพื่อนทุกคนนั่นเอง
- ถึงตรงนี้ลีอาก็โม้บ้างว่า เดี๋ยวเขาก็ตามริคุทันแล้ว... โซระจึงหันไปถามว่าลีอาก็อยากเป็นคีย์เบลดมาสเตอร์ด้วยเหรอ? พอลีอาอธิบาย ทั้งริคุกับโซระก็ตกใจ ลีอาเลยประชดว่าขอบคุณที่ช่วยตกใจอย่างพร้อมเพรียงกันเชียว ก็กะว่าจะมาเรียนวิธีเสกคีย์เบลดออกจากมือ แต่ก็เสกขึ้นมาไม่ได้สักที มันต้องสะบัดข้อมือหรือยังไงนะ... ทันใดนั้นลีอาก็สะบัดมือออกมาด้านหน้า แล้วคีย์เบลดเพลิงก็ปรากฏตัวขึ้นมาท่ามกลางเสียวโว้ววววว! ของทุกคน ไม่เว้นแม้แต่เยนซิดที่ตกใจตาถลนกับเขาด้วย
- หลังจากจบเรื่องแล้ว หลายคนก็แยกย้ายกันออกไป ลีอารีบกลับไปยังสวนประกายแสงด้วยจุดประสงค์ที่ไม่แน่ชัด โซระกลับไปยังโลกแห่งการหลับใหลเพื่อขอบคุณดรีมอีทเตอร์ที่ร่วมต่อสู้กันมา (ร่างของเวนตุสในปราสาทหลงลืม รู้สึกได้ถึงการกระทำของโซระ แล้วส่งยิ้มออกมา)ส่วนริคุไปพาตัวไคริมาหาเยนซิด ตามคำเชิญของเยนซิด
- เยนซิดกล่าวไว้ว่าภายหลังสงครามคีย์เบลด Kingdom Hearts ที่แท้จริงได้ตกสู่ความมืด (คาดว่าคงอยู่ใน Realm of Darkness) แล้ว X-Blade ก็แตกกระจายออกจากกัน แสงสว่างที่ยังคงเหลืออยู่ในจิตใจของเด็กๆ ได้สร้างโลกขึ้นมาใหม่กลายเป็นโลกที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ ส่วนแสงจาก X-blade ก็แบ่งออกเป็น 7 ส่วนเพื่อคุ้มครองหัวใจบริสุทธิ์ทั้ง 7 ในโลกของเรา (ส่วนความมืดใน X-blade ก็แบ่งออกเป็น 13 ส่วน) ด้านมิคกี้ได้ยินก็เข้าใจว่าแสงบริสุทธิ์ทั้ง 7 ก็คือแสงจากหัวใจของเจ้าหญิงทั้ง 7
- เยนซิดบอกว่าหัวใจบริสุทธิ์ทั้ง 7 ดวงนั้นเป็นแหล่งกำเนิดแสงทั้งหมดในโลกของพวกเรา (Realm of Light) หากสูญเสียไป โลกก็จะกลับสู่ความมืดมิด แต่หากพวกเขาไม่ตามหาแสงทั้ง 7 (จาก X-blade) เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะอันนำไปสู่สงครามคีย์เบลด เซอานอร์ทก็จะใช้เจ้าหญิงทั้ง 7 ร่วมกับความมืดทั้ง 13 สร้าง X-blade ขึ้นมาอยู่ดี
- มิคกี้เข้าใจแล้วว่ายังไงๆ ก็ต้องเกิดการปะทะระหว่างแสงสว่างทั้ง 7 และความมืดทั้ง 13 ไม่มีทางที่จะเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามคีย์เบลดได้เลย (ฝ่ายเซอานอร์ทมีความมืดทั้ง 13 ที่แยกออกมาจาก X-balde แน่นอนแล้ว ต่อให้พวกมิคกี้ไม่ตามหาแสงสว่างทั้ง 7 ของ 7 ผู้พิทักษ์ ที่แยกออกมาจาก X-blade เซอานอร์ทก็จะใช้แสงบริสุทธิ์ทั้ง 7 ของพวกเจ้าหญิง สร้างเป็น X-blade ขึ้นมาอยู่ดี)
- เยนซิดบอกว่าและเพื่อจะปกป้องหัวใจบริสุทธิ์ทั้ง 7 พวกเราก็จำเป็นต้องมีแสงสว่างทั้ง 7 ที่แข็งแกร่งพอจะต่อกรกับความมืดทั้ง 13 นั้นได้
- จากนั้นริคุก็โค้งให้เยนซิด แล้วเรียกคีย์เบลดออกมา ริคุในตอนนี้ได้พลังในการปลดปล่อยหัวใจให้พ้นจากการหลับใหลมาแล้ว ก็สามารถเรียก Portral ที่ใช้ในการเข้าไปยัง Destati ของโซระให้ออกมาได้ จากนั้นเขาก็เริ่มต้นไดฟ์เข้าไปในนั้น
Destati (ความฝันของโซระ)
- ริคุไดฟ์เข้าไปในก้นบึ้งของความฝันของโซระ เขาไดฟ์ฝ่าความทรงจำมากมายที่โซระได้ประสบพบเจอมา จนกระทั่งได้มาถึง Destati ซึ่งตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดทุกทิศทุกทาง มองไปทางไหนก็มืดตื๊อไปหมด แล้วริคุก็นึกสงสัยว่าอเวจีนี้คือความฝันของโซระเหรอ?(เป็นอีกจุดนึงที่ช่วยยืนยันว่า Destati เป็นความฝันของแต่ละบุคคล) ทันใดนั้นชุดเกราะของเวนที่ถูกอาบด้วยความมืดมิดและมีสัญลักษณ์แห่งไนท์แมร์ประดับไว้กลางหน้าก็ปรากฏตัวขึ้นมา นั่นคือเกราะของเวนที่อารักขาโซระไว้ด้านใน ทว่าบัดนี้มันได้ถูกความมืดครอบงำจนกลายเป็นฝันร้าย มันได้เข้าห้ำหั่นกับริคุผู้มาเยือนทำให้ริคุจำเป็นต้องต่อสู้ ซึ่งท้ายที่สุดริคุก็สามารถทำลายเกราะของเวนให้แตกยับได้ โดยที่โซระที่อยู่ภายในเกราะยังคงปลอดภัยดี
- เมื่อเกราะของเวนแตกออกไปแล้ว ร่างของโซระที่อยู่ในเกราะก็ล้มลงกับพื้นอันมืดมิด โซระถูกดูดกลืนเข้าไปในความมืด แต่แล้วความมืดทั่วบริเวณนั้นก็เข้าร่วมตัวกันที่ใจกลางของ Destati ก่อนที่จะหายลับไป เมื่อไม่เหลือความมืดแล้วภาพทิวทัศน์ของ Destati ที่คุ้นเคยก็ปรากฏกลับมา และในจุดที่โซระถูกความมืดดูดกลืนเข้าไปนั้น ก็ยังคงหลงเหลือ Kingdom Key ของโซระตกไว้ ริคุหยิบ Kingdom Key ของโซระขึ้นมา ทำให้รูกุญแจบริเวณใจกลางของ Destati ปรากฏขึ้น ริคุใช้คีย์เบลดเล่มนั้นปลดล็อครูกุญแจตรงกลาง ทำให้แสงสว่างพวยพุ่งขึ้นจากรูกุญแจ แสงนั้นได้โอบล้อมทั่วบริเวณ แล้วเมื่อริคุลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองมาถึงความฝันของโซระในส่วนที่เป็นเกาะแห่งชะตากรรม (ไม่ใช่ความฝันของเกาะแห่งชะตากรรม ตอนนี้เกาะแห่งชะตากรรมไม่ได้หลับใหลอยู่ - สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการเคลื่อนจาก Destati หรือพื้นที่ส่วนตัวในฝันของโซระ มาถึงส่วนที่โซระฝันถึงเกาะแห่งชะตากรรม)
เกาะแห่งชะตากรรม (ความฝันของโซระ)
- ริคุยืนอยู่ที่ปลายท่าเทียบเรือ จับจ้องมองไปยังท้องทะเล เมื่อเขาหันมามองด้านข้าง เขาก็เห็นร็อคซัสที่ถามเขาว่าอะไรคือสิ่งที่เขากลัว? ริคุตอบไปว่าเขากลัวที่จะสูญเสียสิ่งสำคัญไป เมื่อตอบไปแล้วร็อคซัสก็เลือนหายไป จากนั้นริคุก็เดินออกจากท่าเทียบเรือมาเจอกับเวน (ริคุรู้สึกว่าตาคนนี้ไม่ใช่ร็อคซัส แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะไม่เคยเจอมาก่อน) เวนถามริคุว่าสิ่งที่ริคุห่วงใยมากที่สุดคืออะไร? ซึ่งริคุก็ตอบว่าเพื่อนคนสำคัญ (แล้วเวนก็หายไป)
- จากนั้นริคุก็ไปเจอซิออนที่นั่งอยู่บนตนไม้ ซึ่งริคุก็ไม่รู้อีกว่าคนๆ นี้เป็นใคร ซิออนถามริคุว่าต้องการอะไร? ริคุหลับตาคิดแล้วก็ตอบไปว่าต้องการนำสิ่งสำคัญที่หายไปกลับคืนมา จากนั้นโลกทั้งใบก็สว่างวาบ เมื่อริคุลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองโดนย้ายมายืนอยู่ที่ริมชายหาด เขามองไปยังทะเลแล้วก็พบขวดแก้วที่กำลังลอยเข้าหาชายฝั่ง ริคุเก็บมันขึ้นมาแล้วก็งงว่ามันคืออะไร?
*อธิบายเพิ่ม : ขวดแก้วนั้นเป็นสัญลักษณ์แทนข้อมูลที่อันเซมตัวจริงใส่เข้ามาในตัวของโซระ ดังที่กล่าวไว้ในตอนจบของภาค BBS หลายคนอาจงงว่าจะเพิ่มข้อมูลเข้าไปในความทรงจำของคนอื่นได้ยังไง? ก็คงต้องบอกว่าเทคโนโลยีในโลกของ KH มันพิสดารอยู่แล้ว พิสดารมาตั้งแต่ที่อันเซมสามารถสร้างโลกที่จำลองขึ้นจากข้อมูล (Datascape) ของเมืองทไวไลท์ขึ้นมาได้แล้ว และยังส่งคนเป็นๆ เข้าไปอยู่ในโลกข้อมูลนั้นได้ (ในภาค Coded มิคกี้ก็สร้างโลกจำลองขึ้นมาและมีตัวละครหลายตัวเข้าไปผจญภัยในนั้นเช่นกัน) *ดูคำอธิบายเพิ่มต่อที่บทความด้านล่างสุดของ Entry
- เมื่อริคุเก็บขวดแก้วขึ้นมา ก็มีเสียงดังขึ้นบอกว่าไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะมาถึงที่นี่ได้ ริคุจึงหันไปยังต้นเสียงแล้วก็ได้พบจอมปราชฐ์อันเซม อันเซมบอกว่าบางทีเขาคงอยากจะไถ่บาปให้กับความผิดในอดีต แม้ว่าจะไม่มีการขอโทษใดที่จะไปแก้ไขความผิดของเขาได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ควรทำอะไรสักอย่าง ดังนั้นเขาจึงแปรสภาพตัวเขาและข้อมูลการวิจัยให้อยู่ในรูปดิจิตอล และซ่อนมันไว้ในตัวโซระ ริคุได้ยินก็เข้าใจว่าขวดแก้วนี้ก็คือข้อมูลการวิจัยนั้น
- อันเซมบอกว่า "ข้อมูลนั้น เป็นเงื่อนงำ เป็นความหวัง ในการค้นพบตนเองและค้นพบพวกพ้องที่สูญหายไปในยามที่จำเป็น หัวใจนั้นเป็นสิ่งที่สามารถเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว การเปิดรับแสงสว่าง สัมผัสธรรมชาติ และเชื่อมโยงกับผู้อื่น ได้สร้างรูปร่างให้กับหัวใจในตัวของพวกเรา ในเรื่องนี้โนบอดี้ก็ไม่ได้ต่างไปจากพวกเรา โซระเป็นคนเพียงคนเดียวที่สามารถกลับเป็นมนุษย์ได้โดยที่โนบอดี้ของเขาไม่ได้ถูกทำลาย นั่นคือหลักฐานของความรักในหัวใจที่เขามีต่อผู้อื่น และคือสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงพวกเขาเอาไว้ บางที... เขาอาจมีพลังที่จะนำพาหัวใจและตัวตนของผู้ที่เชื่อมโยงกับเขาให้กลับมา เพื่อที่จะสร้างผู้คนที่เราคิดว่าจะต้องสูญเสียไปชั่วนิรันดร์แล้วให้กลับคืน"
"ไม่ว่าสมบัติที่ล้ำค่าที่สุด ไม่ว่าตุ๊กตาอันว่างเปล่า ไม่ว่าต้นไม้ในป่าใหญ่ กระทั่งกลับดอกไม้ในสายลม หัวใจต่างก็ปรากฏอยู่ในทุกแห่งหนที่เราเมียงมอง และเราสามารถเห็นมันได้โดยไม่จำเป็นต้องมีพลังพิเศษแต่อย่างใด เราทุกคนย่อมระลึกได้ถึงวัยเด็กที่หัวใจของเราทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูสดใสและสมบูรณ์แบบ โซระก็มีหัวใจที่ซื่อตรงแบบนั้น เขามีเจตจำนงค์ที่จะมองเห็นส่วนที่ดีก่อนส่วนที่แย่ เมื่อเขามองเห็นหัวใจในอะไรบางอย่าง สิ่งนั้นก็จะกลายเป็นจริง เมื่อสายสัมพันธ์นั้นอาจพังลง เขาก็มีพลังที่จะฟื้นฟูมันให้กลับมา เขาได้สัมผัสกับหัวใจมากมาย ได้ยอมรับ และได้ช่วยหัวใจเหล่านั้นเอาไว้ และบางหัวใจนั้นก็ไม่เคยหนีจากเขาไป ไม่ว่าคนที่ตกสู่ความมืดมิด (เทอร์ร่า) หรือติดอยู่ในที่แห่งนั้น(อควอ) ไม่ว่าคนที่จะหลับใหลอยู่ในความมืดมิดภายในหัวใจของโซระ (เวน ร็อคซัส ซิออน) พวกเขาต่างได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เราสามารถช่วยพวกเขาได้ สิ่งที่โซระต้องทำมีเพียงการเป็นตัวของตัวเอง และเดินไปตามเส้นทางที่หัวใจของเขาเรียกร้อง นั่นคือเส้นทางที่ดีที่สุดเพียงหนึ่งเดียว ส่วนที่เหลือ ก็อยู่ในนั้น" (ในขวด)
- ริคุหยิบขวดขึ้นมาดูอีกครั้งแล้วขอบคุณอันเซม แล้วอันเซมก็ถามว่าทำไมริคุถึงมาที่นี่ ซึ่งริคุก็บอกว่าเขามาปลุกโซระ อันเซมจึงขำที่โซระตกสู่การหลับใหลอีกแล้ว ริคุเองก็ขำด้วย (ตอนที่อันเซมเจอโซระครั้งแรก ก็เป็นตอนที่โซระหลับใหลอยู่ในแคปซูลจัดเรียงความทรงจำ และโซระตื่นขึ้นมาไม่ได้เพราะบางสิ่งบางอย่างในตัวเขาขาดหายไป) แล้วอันเซมก็บอกว่าไม่ต้องห่วง โซระปลอดภัยดี เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ทันทีที่ริคุได้กำจัดไนท์แมร์ที่จองจำโซระเอาไว้ โซระก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อริคุมาถึงที่แห่งนี้ และถูกถามคำถามจากหนุ่มสาวทั้งสาม นั่นคือกุญแจสุดท้ายในการปลุกเขา โซระได้ตื่นขึ้นแล้ว เจ้าสามารถกลับบ้านได้แล้ว
- ริคุกล่าวคำขอบคุณและใช้ Kingdom Key เรียกรูกุญแจออกมาพร้อมกับปลดล็อค แต่ก่อนที่ริคุจะออกไปจากความฝันของโซระ อันเซมได้หันมาเรียก แล้วถามริคุว่าเจ้ายังไม่ได้บอกชื่อแก่ข้าเลย
- ริคุหันกลับมามองด้วยสีหน้าประหลาดใจ เพราะอันเซมควรรู้จักเขาดีอยู่แล้ว แต่ทันใดนั้นริคุเองก็เข้าใจเหตุผลที่อันเซมถามแบบนั้น เขายิ้มและตอบกลับไปอย่างภาคภูมิว่า "ริคุไง" จากนั้นริคุก็บินลับหายไป
*อธิบายเพิ่ม : ก่อนหน้านี้ริคุเคยยอมใช้พลังความมืดในจิตใจ ทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้ายหรือหัวใจของเซอานอร์ทที่อยู่ในร่างกายเขาเติบโตขึ้น จนแปรสภาพรูปร่างภายนอกของริคุให้กลายเป็นเซอานอร์ท ในตอนนั้นอันเซมตัวจริงได้แกล้งถามริคุว่าเขาเป็นใคร แล้วริคุก็ตอบประชดไปว่าเป็นอันเซม (ตัวปลอม) ในตอนนี้อันเซมตัวจริงจึงถามแบบเดิมกับริคุใหม่ เพื่อให้ริคุได้ตอบคำถามนั้นแก่ตัวเองอย่างภาคภูมิใจว่า เขาได้กลับเป็นริคุ ที่เป็นริคุจริงๆ แล้ว
หอคอยปริศนา (ความจริง)
- ริคุตื่นขึ้นมาโดยไม่มีขวดแก้วที่หิ้วมาด้วยอยู่ในมือ... (แล้วมันหายไปไหนล่ะฟะ!!) ท่ามกลางความยินดีของมิคกี้และเยนซิด ริคุตะโกนเรียกหาโซระ แล้วก็ได้ยินเสียงโซระคุยกับโดนัลด์ว่า
"เฮ้ย โดนัลด์! นายชักจะกินเยอะไปแล้วนะเฟ้ย!"
"โอ่ย เงียบ แล้วจิบชาของนายต่อไปดีกว่าน่าโซระ"
"กาวฟรสห์ รสเด็ดไปเลยจริงๆ สิ"
- ริคุเห็นดังนั้นก็ตะโกนเรียกโซระดัง "เฮ่ย" พวกโซระจึงหันมาเผยให้เห็นหน้าโซระที่ใส่แว่นปลอม จมูกปลอมและหนวดปลอม (แถมด้วยหมวกปาร์ตี้) โซระถอดแว่นนั้นทิ้งแล้วโผเข้ากอดริคุด้วยความยินดี ริคุยังนิ่งแล้วบอกว่าเอาไว้วันหลังไม่ได้เหรอ? ทำไมถึงมานั่งจิบปาร์ตี้น้ำชากันแบบนี้เนี่ย? แต่โซระไม่สนแล้วยังกระโดดกอดริคุอีกรอบ
- โซระบอกว่าเขาเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฝัน และได้ยินเสียงของริคุมาโดยตลอด ขอบใจมากริคุ ขอบใจมากทุกคน ซึ่งทุกคนก็ยิ้มรับ แล้วโซระก็ถามเยนซิดว่าตกลงพวกเขาผ่านการทดสอบใช่มั้ย? เยนซิดพยักหน้าแล้วก็บอกว่าทั้งสองแสดงความสามารถได้อย่างน่าชื่นชม ทั้งสองจึงรีบลุกขึ้นชนเก้าอี้ตัวหนึ่งล้ม แล้ววิ่งไปยืนรายงานตัวหน้าโต๊ะของเยนซิด
- เยนซิดกระแอมก่อนเริ่มรายงานผลว่า ที่สำคัญที่สุด เขายินดีที่ทั้งสองสามารถเอาตัวรอดจากแผนตบตาของเซอานอร์ทได้อย่างปลอดภัย และขอบคุณลีอาที่ไปพลิกสถานการณ์ให้ และขอโทษด้วยที่ไม่อาจคาดเดาถึงภยันตราย จนทำให้ทั้งสองต้องผจญกับการทดสอบที่เสี่ยงตาย ประสบการณ์ครั้งนี้ได้เปิดเผยความจริงที่ซ่อนไว้มากมาย และเราต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการฟาดฟันกับความมืดครั้งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า เขามั่นใจว่าเราจำเป็นต้องมีคีย์เบลดมาสเตอร์คนใหม่ ผู้ทีพลังแบบใหม่ ทั้งโซระและริคุต่างก็สมควรได้รับเกียรตินั้น (ถึงตรงนี้ ภาพจะฉายให้เห็นรอบห้องอีกครั้ง ปรากฏว่าเก้าอี้ที่โดนชนล้มไป มันกลับขึ้นมาตั้งได้อย่างลึกลับ!! ทั้งที่ไม่มีใครไปยุ่งกับมันแท้ๆ !!) ทว่า มีเพียงหนึ่งเดียวที่อาจหาญบุกเข้าไปใน Realm of Sleep อีกครั้งเพื่อปลดล็อครูกุญแจสุดท้ายและช่วยเพื่อนเอาไว้ได้ ริคุ ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นคีย์เบลดมาสเตอร์ที่แท้จริงคนใหม่
*สังเกตว่า เยนซิดเรียก Realm of Sleep แต่เซอานอร์ทเรียก Realm of Dreams
- โซระเข้าโอบไหล่ริคุและบอกว่าเขากะแล้วว่าริคุต้องผ่านฉลุยอยู่แล้ว เจ๋งสุดๆ ไปเลย.... ส่วนกู๊ฟฟี่ก็กัดว่าทำไมโซระทำหยั่งกับตัวเองสอบผ่านยังไงยังงั้น ขณะที่โดนัลด์ก็แซวว่า "บอกแล้วว่าโซระต้องฝึกอีกเยอะ" แล้วริคุก็เข้ามาแสดงความยินดีด้วย ริคุก้มลงไปจับมือกับมิคกี้และขอบคุณทุกคน เขาบอกว่าที่ผ่านมาได้ก็เพราะเพื่อนทุกคนนั่นเอง
- ถึงตรงนี้ลีอาก็โม้บ้างว่า เดี๋ยวเขาก็ตามริคุทันแล้ว... โซระจึงหันไปถามว่าลีอาก็อยากเป็นคีย์เบลดมาสเตอร์ด้วยเหรอ? พอลีอาอธิบาย ทั้งริคุกับโซระก็ตกใจ ลีอาเลยประชดว่าขอบคุณที่ช่วยตกใจอย่างพร้อมเพรียงกันเชียว ก็กะว่าจะมาเรียนวิธีเสกคีย์เบลดออกจากมือ แต่ก็เสกขึ้นมาไม่ได้สักที มันต้องสะบัดข้อมือหรือยังไงนะ... ทันใดนั้นลีอาก็สะบัดมือออกมาด้านหน้า แล้วคีย์เบลดเพลิงก็ปรากฏตัวขึ้นมาท่ามกลางเสียวโว้ววววว! ของทุกคน ไม่เว้นแม้แต่เยนซิดที่ตกใจตาถลนกับเขาด้วย
- หลังจากจบเรื่องแล้ว หลายคนก็แยกย้ายกันออกไป ลีอารีบกลับไปยังสวนประกายแสงด้วยจุดประสงค์ที่ไม่แน่ชัด โซระกลับไปยังโลกแห่งการหลับใหลเพื่อขอบคุณดรีมอีทเตอร์ที่ร่วมต่อสู้กันมา (ร่างของเวนตุสในปราสาทหลงลืม รู้สึกได้ถึงการกระทำของโซระ แล้วส่งยิ้มออกมา)ส่วนริคุไปพาตัวไคริมาหาเยนซิด ตามคำเชิญของเยนซิด
- เยนซิดกล่าวไว้ว่าภายหลังสงครามคีย์เบลด Kingdom Hearts ที่แท้จริงได้ตกสู่ความมืด (คาดว่าคงอยู่ใน Realm of Darkness) แล้ว X-Blade ก็แตกกระจายออกจากกัน แสงสว่างที่ยังคงเหลืออยู่ในจิตใจของเด็กๆ ได้สร้างโลกขึ้นมาใหม่กลายเป็นโลกที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ ส่วนแสงจาก X-blade ก็แบ่งออกเป็น 7 ส่วนเพื่อคุ้มครองหัวใจบริสุทธิ์ทั้ง 7 ในโลกของเรา (ส่วนความมืดใน X-blade ก็แบ่งออกเป็น 13 ส่วน) ด้านมิคกี้ได้ยินก็เข้าใจว่าแสงบริสุทธิ์ทั้ง 7 ก็คือแสงจากหัวใจของเจ้าหญิงทั้ง 7
- เยนซิดบอกว่าหัวใจบริสุทธิ์ทั้ง 7 ดวงนั้นเป็นแหล่งกำเนิดแสงทั้งหมดในโลกของพวกเรา (Realm of Light) หากสูญเสียไป โลกก็จะกลับสู่ความมืดมิด แต่หากพวกเขาไม่ตามหาแสงทั้ง 7 (จาก X-blade) เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะอันนำไปสู่สงครามคีย์เบลด เซอานอร์ทก็จะใช้เจ้าหญิงทั้ง 7 ร่วมกับความมืดทั้ง 13 สร้าง X-blade ขึ้นมาอยู่ดี
- มิคกี้เข้าใจแล้วว่ายังไงๆ ก็ต้องเกิดการปะทะระหว่างแสงสว่างทั้ง 7 และความมืดทั้ง 13 ไม่มีทางที่จะเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามคีย์เบลดได้เลย (ฝ่ายเซอานอร์ทมีความมืดทั้ง 13 ที่แยกออกมาจาก X-balde แน่นอนแล้ว ต่อให้พวกมิคกี้ไม่ตามหาแสงสว่างทั้ง 7 ของ 7 ผู้พิทักษ์ ที่แยกออกมาจาก X-blade เซอานอร์ทก็จะใช้แสงบริสุทธิ์ทั้ง 7 ของพวกเจ้าหญิง สร้างเป็น X-blade ขึ้นมาอยู่ดี)
- เยนซิดบอกว่าและเพื่อจะปกป้องหัวใจบริสุทธิ์ทั้ง 7 พวกเราก็จำเป็นต้องมีแสงสว่างทั้ง 7 ที่แข็งแกร่งพอจะต่อกรกับความมืดทั้ง 13 นั้นได้
- ซึ่งมิคกี้ก็เห็นว่าตอนนี้
พวกเขายังขาดผู้พิทักษ์ไป 1 คน (ว่าแต่มิคกี้นับยังไงให้ได้ 6 เนี่ย...)
----------------------------------------------------------------
ทฤษฎีโซ่แห่งความทรงจำของนามิเนะ
ในเรื่องการเพิ่มความทรงจำเข้า ไปในตัวคนอื่นนี้ ก็อธิบายได้ด้วยทฤษฎีโซ่แห่งความทรงจำตามที่นามิเนะชี้แจงไว้ในภาค CoM โดยนามิเนะเคยบอกไว้ว่าความทรงจำแต่ละเรื่องนั้น ก็เปรียบเสมือนโซ่แต่ละข้อ โซ่ข้อไหนที่มีข้ออื่นเกี่ยวพันด้วยอยู่มากมาย ก็เปรียบได้กับความทรงจำเรื่องหนึ่งๆ (A) ที่เกี่ยวโยงกับความทรงจำเรื่องอื่นๆ (B,C,D,E, ...) อีกมากมาย เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้ความทรงจำเรื่องนั้น (A) กระจ่างชัดและถูกนึกถึงได้ง่าย เนื่องจากมีอีกหลายความทรงจำ (B,C,D,E, ...) ที่สามารถเชื่อมโยงไปยังความทรงจำนั้น (A) ได้นั่นเอง
----------------------------------------------------------------
ทฤษฎีโซ่แห่งความทรงจำของนามิเนะ
ในเรื่องการเพิ่มความทรงจำเข้า ไปในตัวคนอื่นนี้ ก็อธิบายได้ด้วยทฤษฎีโซ่แห่งความทรงจำตามที่นามิเนะชี้แจงไว้ในภาค CoM โดยนามิเนะเคยบอกไว้ว่าความทรงจำแต่ละเรื่องนั้น ก็เปรียบเสมือนโซ่แต่ละข้อ โซ่ข้อไหนที่มีข้ออื่นเกี่ยวพันด้วยอยู่มากมาย ก็เปรียบได้กับความทรงจำเรื่องหนึ่งๆ (A) ที่เกี่ยวโยงกับความทรงจำเรื่องอื่นๆ (B,C,D,E, ...) อีกมากมาย เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้ความทรงจำเรื่องนั้น (A) กระจ่างชัดและถูกนึกถึงได้ง่าย เนื่องจากมีอีกหลายความทรงจำ (B,C,D,E, ...) ที่สามารถเชื่อมโยงไปยังความทรงจำนั้น (A) ได้นั่นเอง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป โซ่ข้อต่างๆ ที่เคยเกี่ยวพันกันไว้ก็จะค่อยๆ
คลายตัวออกจากกัน
ก็เปรียบได้กับการที่เราไม่สามารถหาจุดเชื่อมโยงระหว่างความทรงจำเรื่อง ต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกันได้ (A-B-C-D-E-...) ทำให้แม้เรานึกถึงความทรงจำเรื่องหนึ่ง
(A) ก็ไม่อาจนึกถึงความทรงจำเรื่องอื่นได้ (B,C,D,E,
...) เพราะสภาพที่เกี่ยวพันกันอยู่นั้นได้หายไป แต่ทั้งนี้โซ่เหล่านั้นหรือความทรงจำเหล่านั้นมันไม่ได้หายไปไหน
มันยังคงอยู่ในความทรงจำของเรา เพียงแต่เราหาจุดเชื่อมโยงระหว่างกันไม่เจอ
เมื่อเรานึกถึง A ก็จะนึกถึง B,C,D,E ... ไม่ได้
ผม อยากจะยกตัวอย่าง เช่น
A=ความทรงจำว่าเราเดินตกท่อจนกางเกงขายาวเปียกแฉะและเหม็นมาก
B=ความทรงจำที่เราโดนเพื่อนล้อว่าตกท่อ
C=ความทรงจำว่าเราต้องทนใส่กางเกงตัวนั้นด้วยความลำบากใจไปทั้งวัน
D=ความทรงจำตอนที่เราซักกางเกงตัวนั้น
B=ความทรงจำที่เราโดนเพื่อนล้อว่าตกท่อ
C=ความทรงจำว่าเราต้องทนใส่กางเกงตัวนั้นด้วยความลำบากใจไปทั้งวัน
D=ความทรงจำตอนที่เราซักกางเกงตัวนั้น
จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่าความทรงจำทั้ง 4 เรื่องนั้นเกี่ยวข้องกันหมด
ก็เปรียบได้กับโซ่ที่เชื่อมเกี่ยวกันโดยมีโซ่ข้อ A เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกับโซ่ข้ออื่นๆ
ในตอนแรกเมื่อเรานึกถึงความทรงจำเรื่องใดเรื่องหนึ่งใน 4 เรื่องนี้
เราก็จะพลอยนึกถึงอีก 3 เรื่องที่เหลือด้วย
เพราะมันเชื่อมโยงถึงกันหมด แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า
สภาพโซ่แห่งความทรงจำที่เชื่อมโยงกันอยู่นั้นแยกออกจากกัน
ทำให้แม้เรานึกถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่นเรื่อง D ขึ้นมา
เราก็จะนึกเรื่อง A,B,C ไม่ออก
เพราะโซ่ที่เคยเชื่อมต่อกันนั้นมันได้แยกออกจากกันแล้ว
(ลองนึกถึงเรื่องตอนเด็กๆ สักเรื่อง แล้วพยายามนึกเชื่อมโยงไปถึงเรื่องในวัยเด็กที่เกี่ยวข้องกันดู
จะพบว่ามันยากกว่าการนึกถึงเรื่องในปัจจุบันแล้วนึกเชื่อมโยงไปยังเรื่องที่
เกี่ยวข้อง)
ส่วนที่ว่า
แม้สภาพเกี่ยวพันนั้นจะแยกออกจากกันแล้วแต่ความทรงจำเรื่องต่างๆ ก็ยังไม่ได้หายไป
ก็อธิบายได้ว่าเมื่อมีความทรงจำใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมา
มันก็เหมือนกับเราซื้อหนังสือเล่มใหม่แล้วเอามาวางซ้อนทับหนังสือเล่มเก่าไป
เรื่อยๆ ผลคือหนังสือเล่มเก่ามันก็ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่เราหามันเจอยาก
นึกถึงมันยาก เพราะมันถูกทับอยู่หลายชั้นนั่นเอง
เรื่องที่ว่าแม้เราจะนึกถึงเรื่องเหล่านั้นไม่ออกแต่เราไม่ได้ลืมมันไปนี้
ก็ยังยืนยันได้ด้วยความฝัน
บ่อยครั้งคนเราก็มักพบว่าเราได้นึกถึงเรื่องในวัยเด็กไม่ออก
พยายามจะนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ได้ แต่พอเราหลับฝัน
มันก็เหมือนว่าตัวเราร่างความฝันได้ไดฟ์เข้าไปสู่โลกความฝันในวัยเด็ก
ทำให้เรานึกถึงเรื่องในวัยเด็กขึ้นมาได้....
...สาธยายมายืดยาวแล้ว
กลับสู่ประเด็นการเพิ่มข้อมูลเข้าไปในความทรงจำของผู้อื่น ซึ่งนามิเนะได้บอกไว้ว่า
1. เธอสามารถเพิ่มข้อลงไปให้กับโซ่แห่งความทรงจำได้
(ก็คือสร้างความทรงจำปลอมๆ ขึ้นมาแล้วใส่ลงไปในตัวโซระได้)
2. สามารถทำให้โซ่ข้อต่างๆ แยกออกจากกันได้ (ทำให้หลงๆ
ลืมๆ ราวกับว่าเรื่องนั้นผ่านมานานแล้วได้)
3. แต่เธอไม่สามารถทำลายโซ่ได้
(ทำให้ลืมความทรงจำไปโดยสมบูรณ์ไม่ได้)
ในเมื่อนามิเนะสามารถเพิ่มความทรงจำให้กับตัวโซระได้
แสดงว่าการที่อันเซมตัวจริงได้เพิ่มข้อมูลเข้าไปในตัวของโซระ ก็เป็นเรื่องที่ใช้หลักการเดียวกัน
ถือว่าสอดคล้องกับความสามารถของนามิเนะ
และเป็นไปในแนวทางที่เนื้อเรื่องได้ปูทางเอาไว้แล้ว
สุดท้าย ในโลกของ Kingdom
Hearts นี้
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เชื่อมโยงถึงกันได้ทั้งที่ในโลกแห่งความจริงของพวก เรา
สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เชื่อมโยงถึงกัน ตัวอย่างเช่น
1. หัวใจของตัวละครต่างๆ
ที่เชื่อมโยงถึงกันด้วยสายสัมพันธ์ ทำให้สื่อถึงกันได้
2. หัวใจของดวงดาวต่างๆ ที่เชื่อมโยงถึงกันด้วย Corridor
of Darkness และ Lane Between ทำให้เดินทางไปมาหาสู่กันได้
3. ความฝันของดวงดาวและผู้คนต่างๆ ที่เชื่อมโยงถึงกันจนกลายเป็น
Realm of Sleep
4. ความทรงจำของผู้คนต่างๆ ที่เชื่อมโยงถึงกัน
เพราะฉะนั้นเมื่อนามิเนะแก้ไขความทรงจำเรื่องของโซระในตัวของโซระ
ความทรงจำเรื่องของโซระในตัวของคนอื่นๆ จึงพลอยถูกแก้ไขไปด้วย....
----------------------------------------------------------------
ก็เป็นอันจบกันสักที สำหรับเนื้อเรื่องของ Kingdom Hearts 3D และบันทึกความฝันทั้ง 11 Entry ตอนนี้มีเรื่องเกี่ยวกับเกมนี้ที่ผมอยากเขียนอีก
2 เรื่อง คือเก็บตกประเด็นต่างๆ เช่น
สรุปความสามารถทางด้านกาลเวลาของตัวละครแต่ละตัว และ Timeline ของเซอานอร์ท เอาไว้จะรีบเขียนมาให้อ่าน ก่อนจะหมดไฟครับ
Subscribe to:
Posts (Atom)