Axel's Story เรื่องราวจากหนังสือ KH Series Character Files


ตัดตอนจากหนังสือ Kingdom Hearts Series Character Files ซึ่วางจำหน่ายวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2020 (หลัง DLC Re: Mind ออกเดือนนึง)

ดูรายละเอียดหนังสือได้ที่ https://store.jp.square-enix.com/item/9784757564930.html

--------------------------------

Axel's Story
"ไม่มีวันลืม"

*ชื่อไดอารีสอดคล้องกับของ Xion ที่ตั้งว่า "อย่าลืมฉัน"

**เป็นความนึกคิดของลีอาที่กำลังเหม่อลอยดูพระอาทิตย์ตกดิน ช่วงที่ไปฝึกวิชาพร้อมกับไคริใน KH III ซึ่งต่างจากตอนของซิกบาร์ที่เป็นเรื่องหลังจบ Re: Mind ไปแล้วอย่างชัดเจน https://www.youtube.com/watch?v=1JoOaHkOaGA

ทั้งความทรงจำที่แผดเผาอยู่ในหัวใจ และความทรงจำล้ำค่าที่ลืมเลือนไปแล้ว ต่างชักนำทำให้การมีชีวิตอยู่ของชั้นมีคุณค่า แล้วความทรงจำที่แสนล้ำค่า ก็ได้กลับเข้ามาสู่หัวใจ

(ลีอานึกถึงเหตุการณ์ในวัยเด็ก : https://www.youtube.com/watch?v=Qvl_7OLug7Y)

"ของนายเหรอ?"

ฉันหยิบดาบไม้ทรงประหลาดขึ้นมา ตอนนี้รู้แล้วว่ามันคือดาบทรงคีย์เบลด แต่ตอนนั้นไม่รู้เฟ้ย

"ลีอา อย่ามัวเถลไถลน่า" ไอซะพูดเร่งฉันขึ้นมา

"ใจเย็นน่าไอซะ ขอเวลาแป๊ป"

ตอนนั้นนายนี่เป็นคนที่ไม่รู้จักเล่นบ้างเอาซะเลย

"ยังเล่นดาบของเล่นอยู่อีกเหรอ? น่ารักเนอะ"

ฉันคืนดาบเล่มนั้นให้กับเจ้าของที่เป็นเด็กผมบลอนด์ และควักจานร่อนของตัวเองออกมา

"ส่วนนี่... ทาด๊าาา! เจ๋งป่ะ?"

"ก็ไม่เท่าไหร่"

"อิจฉาล่ะสิ! ฉันชื่อลีอา"

ฉันกวนหมอนั่นไป ก็โน้มตัวไปข้างหน้า แล้วก็ชี้ที่หัวตัวเอง

"เก็ตป่ะ? แล้วนายอ่ะชื่อไร?"

"เวนตุส"

"โอเค เวนตุส เรามาสู้กัน!"

นั่นคือการพบกันครั้งแรกของเรา จะว่าฉันแพ้ก็ได้ แต่ลองคิดดูดี ๆ ฉันจะไปชนะผู้ใช้คีย์เบลดได้ยังไงล่ะ

"ครั้งหน้าไว้มาเจอกันใหม่ แล้วตอนนี้ เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ! จำเอาไว้"

หลังจากนั้นเราก็แยกกัน ดูเหมือนไอซะจะรำคาญฉันหน่อย ๆ

"เป็นอะไรอยู่ดี ๆ ก็ไปเล่นกับคนแปลกหน้า?"

"ก็อยากให้ทุกคนที่เคยเจอ จดจำฉันเอาไว้ได้ ฉันจะมีชีวิตอยู่ตลอดไปในความทรงจำของทุก ๆ คน"

ไอซะได้ยินก็ยิ้มเจื่อน ๆ

"ฉันไม่มีวันลืมนายหรอก เชื่อเถอะ ก็พยายามมาตลอดนั่นแหละ"

ในตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าบางสิ่งบางอย่างก็อาจหายไปจากความทรงจำ ความทรงจำนั้นเป็นสิ่งที่ฟุ้งเบลอ แถมเวลาก็อาจเขียนทับสิ่งต่าง ๆ ลงไปได้

หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้เจอกับเวนตุสอีกเลย

วันนี้พระอาทิตย์ตกดินส่องแสงสีแดง หลังฝึกเสร็จ ฉันมักจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินบนยอดเขาของป่าลับแล

"ไม่รู้สินะว่าทำไมพระอาทิตย์ตกดินถึงเป็นสีแดง แสงสว่างน่ะประกอบขึ้นจากสีต่าง ๆ มากมาย แล้วในบรรดาสีเหล่านั้น สีแดง คือสีที่เดินทางไปได้ไกลที่สุด"

"ยังไม่ได้ถามสักหน่อย! พ่ออับดุล"

ในวันที่ 255 บนยอดหอนาฬิกา ฉันเคยคุยเรื่องนี้กับร็อคซัส และแม้ว่าจะมีความทรงจำล้ำค่าอยู่อีกเรื่องนึง แต่ก็พูดไม่ถูก เหมือนฉันลืมอะไรบางอบ่างไป และไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงลืมไปได้

แสงอาทิตย์ส่องแยงเข้ามาในตา พักหลังนี้ฉันขี้แยอยู่หน่อย ๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสัญลักษณ์หยดน้ำตากลับหัวหายไปแล้วรึเปล่านะ

"แอ็คเซล"

ฉันหันไปทางต้นเสียง แล้วก็พบไคริในชุดใหม่

"ตัดผมด้วยเหรอ"

"อือฮึ เอาบ้างมั้ยล่ะ?"

"อืมมมม... ไม่รู้สิ ไว้วันหลังดีกว่า"

ฉันตอบแล้วก็หันกลับไปมองพระอาทิตย์

"ใส่แต่ชุดเดิม ๆ ตลอดเลยนะ"

จริงแท้ ฉันใส่แต่โค๊ทดำนี่ตลอดแหละ

"แบบนี้แหละดีแล้ว ดูปุ๊บรู้เลยใช่ฉันแน่นอน เป็นวิธีการทำให้คนจำฉันได้ง่าย ๆ"

"หัวแหลมเปี๊ยว"

"เอ่อ ไม่หรอกมั้ง..."

คำชมของไคริทำให้ฉันอายอยู่หน่อย ๆ จากนั้นไคริก็มานั่งข้าง ๆ ดูพระอาทิตย์ด้วยกัน

"การฝึกวิชาของพวกเรา ใกล้จบลงแล้วนะ"

"อื้อ..."

"ที่ใดที่หนึ่งในตัวฉันก็มีนามิเนะอยู่ ถ้าเราสามารถปลดปล่อยร็อคซัสได้ เราก็ปลดปล่อยเธอได้เหมือนกัน"

"คงงั้นมั้ง"

หลังจากนั้นเราก็คุยกันอีกหลายเรื่อง ฉันเล่าเรื่องเวนตุสให้เธอฟังด้วย ทั้งที่ไม่เคยเล่าเรื่องนี้มาก่อน ที่ผ่านมาฉันกลัวว่าถ้าเล่าเรื่องเวนตุสให้ใครสักคนฟัง ฉันอาจไม่มีวันได้เจอเขาอีกเป็นหนที่สอง

"โอ้โห ความจำเป็นเลิศ"

ไคริหยอกด้วยการเลียนแบบท่าขี้ศีรษะของฉัน เล่นซะฮา

"ตอนนี้พอเราใกล้จะกลับไปแล้ว ฉันก็กังวลไปหมดทุกเรื่อง"

"เธอไม่ต้องเป็นกังวลอยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้วนะ แอ็คเซล"

แล้วดวงอาทิตย์ก็ลับหายไป... อย่างที่มันควรจะเป็น

https://twitter.com/CodedbyDays/status/1231696197552934918

ไม่มีความคิดเห็น