บทสัมภาษณ์ล่าสุด Kingdom Hearts III จากนิตยสารแฟมิซือ

สรุปบทสัมภาษณ์ล่าสุด Kingdom Hearts III ของคุณโนมุระ จากนิตยสารแฟมิซือ

- อธิบายเรื่องระบบ Kingdom Shader อีกครั้งว่า เป็นระบบที่ Shader จะเปลี่ยนไปตามดาวต่าง ๆ เพื่อให้เข้ากับสไตล์ภาพของเรื่องนั้น ๆ

- พูดอีกครั้งว่าฉากโขกหมากรุกที่เห็นในเทรลเลอร์ เป็นฉากเริ่มเกม Kingdom Hearts III และบทสนทนานั้นก็เป็นการบอกใบ้ถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้น** 

(ความเห็นผู้แปล : ประโยคที่เอราคุสพูดว่า "แสงที่ตามองไม่เห็น มันมีเยอะกว่าที่คิดนะเว้ย ระวังจะเงิบเอาละกัน" เป็นประโยคที่น่าตีความมาก)

- แม้จะมีเซอานอร์ทหนุ่มปรากฏตัวขึ้นใน KH3D ไปแล้ว แต่ฉากโขกหมากรุกนี้ มันเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นซะอีก**

(ความเห็นผู้แปล : ตอนแรกผมสับสนว่าคุณโนมุระหมายถึงเหตุการณ์โขกหมากรุกเกิดขึ้นก่อนที่เซอานอร์ทหนุ่มจะเจอกับอันเซมตัวปลอมและเดินทางไปโลกอนาคตรึเปล่า? ซึ่งหากเป็นแบบนั้นมันจะไม่สมเหตุสมผล ที่บอร์ดฝรั่งเองก็มีคนสงสัยและพูดเหมือนผมเป๊ะ แต่จากการหารือกัน ก็ได้ข้อสรุปว่าคุณโนมุระน่าจะต้องการสื่อเพียงว่า ฉากโขกหมากรุกมันแค่เป็นเหตุการณ์ก่อนการไดฟ์ในภาค 3D เท่านั้น ไม่ได้จะสื่อว่าเกิดขึ้นก่อนที่เซอานอร์ทหนุ่มจะเจออันเซมตัวปลอม)

- เอราคุสนั้นอายุน้อยกว่าเซอานอร์ท และในเทรลเลอร์นั้นเอราคุสก็ยังเด็กอยู่ ตอนนั้นทั้งคู่ยังเรียนการใช้คีย์เบลดอยู่กับมาสเตอร์ของพวกเขา

- ผู้สัมภาษณ์ถามว่าเรื่องราวในภาคนี้ จะเป็นการรวบรวมผู้พิทักษ์แห่งแสงใช่มั้ย? คุณโนมุระตอบว่าก็ประมาณนั้น โซระและเพื่อนได้ออกเดินทางครั้งใหม่ ภายหลังเหตุการณ์ใน KH3D ทันที ส่วนเหตุการณ์ในภาค χ และ Unchained X จะเกี่ยวข้องกับชะตากรรมของโซระ

- ทีมพัฒนาฝั่งโอซาก้าที่เป็นแกนหลักในการสร้างเกมนี้ ต้องการท้าทายตนเองกับผมของราพันเซล พวกเขาอยากจะใช้ผมของเธอในการต่อสู้ และทางผู้สร้างราพันเซลก็ยินยอมด้วยแล้ว

- คุณโนมุระบอกว่าก่อนหน้านี้เขาเอาแต่ทำดาวจากผลงานคลาสสิคของดิสนีย์ ทว่าคราวนี้เขาได้เอาพวกผลงานชิ้นใหม่ ๆ ของดิสนีย์มาทำ เขาจึงได้พบปะพูดคุยกับทีมงานของผลงานชิ้นใหม่นั้น การพูดคุยกับพวกเขาก็ทำให้สร้างโลกออกมาได้ตามไอเดียของผลงานนั้นมากยิ่งขึ้น

- ย้ำอีกรอบว่า ภายในดาว ไม่มีการตัดฉากระหว่างแมพแล้ว

- จุดที่กระโดดและ Free Run ไปไม่ถึง ยังเข้าถึงได้ด้วยอบิลิตี้ Glide เหมือนเคย

- A.I. ของศัตรูภาคนี้ สร้างให้เวลาศัตรูอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ก็จะร่วมมือกันและสู้ด้วยวิธีที่โหดกว่าเดิม

- สำหรับความสามารถในการแปลงรูปร่างคีย์เบลด จะมีการอธิบายเหตุผลไว้ตั้งแต่ช่วงต้นเกม

- การแปลงร่างคีย์เบลด จะทำได้เมื่อเข้าเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยคีย์เบลดแต่ละเล่มจะแปลงร่างได้หลายขั้น แต่ละขั้นก็มีอบิลิตี้เฉพาะที่แตกต่างกันออกไป (คีย์เบลดแต่ละเล่มก็แปลงร่างได้ไม่เหมือนกัน) คุณโนมุระบอกว่านี่ก็เป็นระบบที่วิวัฒนาการมาจากไดรฟ์ฟอร์มในภาค II

- สำหรับคนที่ชอบสู้ด้วยการรัวปุ่มง่าย ๆ ก็จะยังคงสนุกไปกับเกม แต่สำหรับสายเทคนิค ก็จะสนุกไปกับการหาทางทำคอมโบระหว่างระบบการสู้ต่าง ๆ ที่มีให้เลือกมากมาย

- ตั้งแต่มาใช้ Unreal Engine 4 ทั้ง tool และ feature ต่าง ๆ ของมันก็ทำให้การทำ KH ดีขึ้นมาก ตอนนี้งานก็คืบหน้าอยู่เรื่อย ๆ และกำลังพิจารณาเรื่องเนื้อหาของฉากจบลับ

ไม่มีความคิดเห็น