เราไม่ควรปฏิเสธความแตกต่าง 8 ปี ของ Subaseka


ประมาณ 8 ปีก่อน เคยมีเกม ๆ นึงแต่งทฤษฎีเกี่ยวกับชีวิตไว้อย่างน่าสนใจ

เนื้อเรื่องของเกมนั้นบอกว่าในชีวิตต่าง ๆ มันมีสิ่งที่เรียกว่า "Vibe" อยู่ ซึ่งใครอยากรู้ความหมายจริง ๆ ขอให้ลองเปิดพจนานุกรมดูเอง แต่ผมขอเรียกง่าย ๆ เป็นภาษาผมเองว่า "คลื่นชีวิต" ละกัน

ทุกคนมีคลื่นชีวิตอยู่ในตัว ยมทูตก็มี ยมราชก็มี เทวดาก็มี

ต่างกันที่เหล่าเทวดานั้น มีความถี่คลื่นชีวิตสูงที่สุด... รองลงมาเป็นเหล่ายมทูต ส่วนพวกมนุษย์นั้นมีคลื่นชีวิตต่ำที่สุด

ในเกมระบุว่าสิ่งที่มีคลื่นชีวิตใกล้เคียงกัน ก็จะรับรู้ถึงกันได้ เป็นเหตุผลให้มนุษย์มองเห็นกันได้

แต่ขณะเดียวกัน คนเราแต่ละคน ก็มี Range ของคลื่นที่รับรู้ได้ไม่เท่ากัน พวกที่มีสัมผัสที่ 6 ที่รู้สึกถึงสิ่งลี้ลับได้ ก็คือพวกที่ Range ในการรับรู้กว้างกว่าคนทั่วไป หากมนุษย์คนไหนสามารถรับรู้คลื่นชีวิตที่สูงกว่าปกติได้ ก็อาจรับรู้ไปถึงคลื่นชีวิตของยมทูตได้

ฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าภพสวรรค์ ภพนรก หรือโลก... มันก็คือที่ชุมนุมของเหล่าผู้ที่มีคลื่นชีวิตใกล้เคียงกัน ทั้ง 3 ภพนี้ดำรงอยู่ในมิติเดียวกัน ตำแหน่งเดียวกัน ต่างแค่มีคลื่นที่ไม่เท่ากัน ภพทั้ง 3 ภพ เปรียบไปแล้วก็เหมือนการตั้งค่ารับวิทยุที่แตกต่างกัน 3 สถานี

ตัวเกมยังอธิบายอีกว่า ผู้ที่มีคลื่นชีวิตสูง สามารถปรับลดคลื่นชีวิตตัวเองให้ลดต่ำลงมาได้ เป็นเหตุให้ยมทูตก้าวเข้ามายังโลกมนุษย์ได้ กรณีของเทวดาที่มีคลื่นชีวิตสูงขึ้นไปอีกก็เช่นกัน

นอกจากนี้ เกมยังพยายามอธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทางวิญญาณต่าง ๆ ทั้งเรื่องผีถ้วยแก้ว, สถานที่ ๆ คนตายชอบปรากฏตัวบ่อย ๆ, โลกคู่ขนาน และอะไรอื่นอีกมากมาย 

ฟังดูแล้วก็รู้ว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้นแหละครับ แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังเคลิ้มกับทฤษฎีคลื่นชีวิต ที่ทัตสึยะ คันโดะ... พยายามนำเสนออยู่ไม่หาย

แต่เหนือสิ่งอื่นใด แนวคิดที่เกมนี้พยายามนำเสนอผู้เล่น อยู่ในข้อความต่อไปนี้

"ตราบใดที่ยังมีความแตกต่างของแต่ละบุคคล ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดความโดดเดี่ยวให้หายไปโดยสมบูรณ์ ไอ้เรื่องที่ว่าคนเราสามารถร่วมใจกันได้มันไม่มีอยู่จริงหรอก กระทั่งผู้คนที่เชื่อว่าพวกเขาได้แบ่งปันสายสัมพันธ์ให้แก่กัน พวกเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันจริง ๆ พวกเขายังคงต้องมีการพูดคุย มีความขัดแย้ง และเรียนรู้กันและกันผ่านทางความแตกต่าง"

"ทว่าเราไม่ควรปฏิเสธความแตกต่าง; เราควรยอมรับและมีความสุขกับมัน"

เกม ๆ นี้นำเสนอแนวคิดว่าการทำให้ทุกคนคิดเหมือนกัน "เพื่อสันติภาพ" (แบบที่ตัวร้ายทำ) มันเป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย และนั่นไม่ใช่สันติภาพที่แท้จริง

มนุษย์เรามีความแตกต่างเป็นปัจเจกบุคคล การที่เราเห็นต่างคิดต่างกัน ในทางหนึ่งมันทำให้เกิดความขัดแย้งและฆ่าฟัน แต่อีกทางหนึ่ง เมื่อความคิดที่แตกต่างปะทะกัน แลกเปลี่ยน และบดบี้กันด้วยเหตุผล ข้อสรุปใหม่ที่เกิดจากการผสมผสานความคิดที่แตกต่างระหว่างบุคคลก็จะเกิดขึ้น และนั่นก็คือหนทางไปสู่แนวคิดใหม่

ในโอกาสครบรอบ 8 ปีของการวางจำหน่ายเกมนี้ อยากจะขอใช้พื้นที่เล็ก ๆ ตรงนี้ ระลึกถึงเกมนั้น

すばらしきこのせかい

ไม่มีความคิดเห็น