ครบรอบ 10 ปี Advent Children


เมื่อวานนี้ (14 กันยายน 2015) เป็นวันครบรอบ 10 ปี การวางจำหน่าย Final Fantasy VII –Advent Children- (ซึ่งผมมัวแต่ Edit  ชุดแข่งวินนิ่ง 2016 อยู่เลยไม่ได้สนใจ) ในตอนแรกสุดทีมงานกะว่าจะให้เรื่องนี้เป็นหนังสั้นที่มีความยาวเพียง 20 นาที โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับใครบางคนซึ่งพยายามส่งข้อความถึงคลาวด์ โดยส่งต่อผ่านเด็กหลายคน และเมื่อข้อความมาถึงคลาวด์ก็มีการเฉลยในท้ายเรื่องว่าเจ้าของข้อความนั้นเป็นใคร แต่จากการปรับเปลี่ยนเนื้อหาและขยายบท ทำให้ไป ๆ มา ๆ มันก็กลายเป็นหนังบู๊ชลมุนความยาวร่วม 100 นาทีไปซะได้

คุณโนมุระเผยว่าส่วนที่ดีไซน์ยากที่สุดในเรื่องนี้ คือฉากการต่อสู้ระหว่างพวกคลาวด์กับบาฮามุทชิน เนื่องจากฉากนั้นมีพื้นที่ขนาดใหญ่ จำนวนของที่ต้องใส่ลงไปในฉากเพื่อสร้างความสมจริงนั้นก็ต้องมีมาก อีกทั้งการเคลื่อนไหวสลับตำแหน่งของตัวละครต่าง ๆ รวมถึงบาฮามุทด้วย ล้วนทำให้ทีมงานต้องใช้เวลานานมากกว่าจะทำให้ภาพออกมาดูไหลลื่น อย่างไรก็ตามคุณโนมุระเคยย้ำกับทีมงานไว้ว่า ไม่ต้องไปสนเรื่องการสร้างฉากต่อสู้ให้สมจริงหรอก เพราะถ้าเราไปจำกัดว่าต้องทำให้มันสมจริง มันก็จะเป็นการจำกัดความเท่ของหนังด้วยเช่นกัน จริงอยู่ว่าฉากต่อสู้หลายฉากมีการทำ Motion Capture แต่หลายฉากที่ตั้งใจให้เว่อร์เกินจริง ก็ทำแบบดิจิตอลกันเอง

พูดถึงการออกแบบตัวละคร ทีมงานเห็นว่าคงเอาดีไซน์เดิมจาก FFVII มาใช้ในหนังเลยไม่ได้ เลยต้องออกแบบกันใหม่ ซึ่งสำหรับเซฟิรอธซึ่งปรากฏมาแต่ละครั้งก็หน้าตาไม่เหมือนเดิม (โดยเฉพาะเวอร์ชั่นแรกที่เหมือนคนติดยา) ทีมงานก็ต้องแก้ดีไซน์ของแกกันอยู่ร่วม 2 ปีกว่าจะลงตัว อีกตัวที่ออกแบบยากก็คือทิฟา คุณโนซึเอะบอกว่าการทำร่างกายเธอให้เซี๊ยะอย่างสมส่วนนั้นค่อนข้างยากเอาการ 

ส่วนที่ใครต่อใคร ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็ไม่รู้เรื่อง เปิดวนดูอยู่ 10 รอบก็ยังไม่เข้าใจในหลาย ๆ จุดนั้น คุณโนมุระแกเคยพูดไว้แล้วว่าหนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนัง Hollywood ที่ฉากแต่ละฉากอธิบายได้ในตัวเอง สำหรับ Advent Children นั้น ทีมงานอยากให้ผู้ชมมีอิสระที่จะตีความฉากต่าง ๆ ด้วยตัวเอง และให้แต่ละคนได้บทสรุปที่แตกต่างกันตามความคิดของตน หนึ่งในธีมของหนังคือความรู้สึกผิดและเศร้าสลดของคลาวด์ ที่ไม่อาจช่วยแซ็คและแอริธได้ ทุกครั้งที่คลาวด์คิดถึงพวกเขา ความรู้สึกนั้นจะถ่ายทอดออกมาผ่านสัญลักษณ์หมาป่าสีเทา ทว่าท้ายที่สุดหมาป่าตัวนั้นก็หายไป หมายถึงคลาวด์ที่เลิกจมปลักกับความเศร้า และได้ข้อสรุปแล้วว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ด้วยทัศนคติอย่างไรต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น