บทสัมภาษณ์ทีมงานเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปของ Final Fantasy XIII

ไม่เป็นไรครับถ้าคุณรู้สึกว่างาน Tokyo Game Show ที่เพิ่งผ่านมาไม่ค่อยจะมีข้อมูลอะไรใหม่ ๆ ของ Final Fantasy XIII ออกมาซักเท่าไหร่ เพราะเรามีบทสัมภาษณ์ของคุณ Yoshinori Kitase ผู้อำนวยการสร้าง และคุณ Shinji Hashimoto ผู้บริหารฝ่ายประสานงานของเกมในภาคนี้อยู่ด้านล่างนี้แล้ว สิ่งที่ทั้งสองท่านได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก็เป็นเรื่องของความเกี่ยวโยงกันในซีรีส์ Fabular Nova Crystalis เรื่องตัวละครหลัก ระบบการต่อสู้ ธีมหลักของเรื่อง และอื่น ๆ รวมไปถึงเรื่องขัดใจแฟน ๆ PS3 อย่างการลดอัตราความขลังของตัวเกม แต่อย่างไรก็ตาม CD/DVD บันทึกงานแสดงสดตัวล่าสุดของของ Linkin Park ที่มีชื่อว่า Road to Revolution จะเริ่มออกวางจำหน่ายในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้แล้วนะครับ ไปอ่านบทสัมภาษณ์กันได้เลย


แรงบัลดาลใจหลักในการเขียนเนื้อเรื่องของ Final Fantasy XIII คืออะไร
Kitase: เนื้อเรื่องของ Final Fantasy XIII นี่เขียนขึ้นโดยอิงจากเทพนิยายคริสตัลครับ มันก็เทียบได้กับเทพนิยายกรีกในชีวิตจริงของเรานี่แหละ เทพนิยายคริสตัลคือเรื่องเล่าของเทพเจ้าที่มีความเกี่ยวโยงกับคริสตัล ซึ่งถือเป็นเทพนิยายเฉพาะของตัวเกม การตั้งชื่อบางอย่างภายในเกมเราจะอิงตามเทพนินยายนี้ รวมไปถึงจะมีสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่มีอยู่ตามในเทพนิยายด้วยครับ และตัวเทพนินยายคริสตัลนี้ก็จะเป็นตัวเชื่อมเรื่องราวของเกม FFXIII ทุกภาคเข้าไว้ด้วยกันครับ
Hashimoto: แต่ละภาคของ Final Fantasy XIII รวมไปถึง Agito กับ Versus ถูกสร้างขึ้นโดยอิงเรื่องราวจากเทพนินยายคริสตัลครับ ผู้กำกับแต่ละคนมีสิทธิ์ที่จะตีความเทพนินยายเหล่านั้นได้ตามความคิดความเข้าใจของตัวเอง เพราะฉะนั้นผู้กำกับของเราแต่ละคนจึงจะสามารถสร้างเนื้อเรื่องรวมไปถึงรูปแบบของการเล่นได้อย่างอิสระครับ ถึงจะถูกเชื่อมโยงด้วยเทพนินยายเดียวกัน แต่ทั้งสามเกมจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมาก ๆ ครับ

Lightning จะได้รับบทนำตลอดทั้งเกมหรือเปล่า
Kitase: Lightning ตัวละครหญิงที่เห็นกันในเทรลเลอร์นี่จริง ๆ แล้วชื่อจริงของเธอไม่ใช่ Lightning นะครับ เธอแค่ถูกเรียกว่า Lightning เฉย ๆ และเธอก็เป็นตัวละครหลักครับ แต่อย่างว่าบางทีก็อาจจะมีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยมีตัวละครอื่นเป็นตัวดำเนินเรื่อง แต่โดยรวมแล้ว Lightning นี่แหละครับที่เป็นตัวละครหลักของเรื่องราวทั้งหมด

ทำไมถึงเลือกผู้หญิงมาเป็นตัวละครหลัก
Kitase: ในอดีตเราก็มีตัวละครหญิงที่มีบทเด่นอย่าง Terra จาก FFVI และก็ Yuna จาก FFX นะครับ ถึงถึงอย่างนั้นพวกเธอก็ยังไม่ใช่ตัวเอกแบบเต็มตัว เราก็เลยอยากจะลองปั้น Lightning ขึ้นมาเป็นตัวละครเอกและท้าทายตัวเราเองด้วยการแต่งเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอครับ

นี่ก็นานแล้วแต่เรายังไม่ได้เห็นรูปแบบของระบบปาร์ตี้เลย หรือนี่จะเป็นจุดเปลี่ยนของซีรีส์
Kitase: ระบบปาร์ตี้น่ะมีแน่นอนครับ แต่ตอนนี้เรายังบอกไม่ได้ว่าตัวละครในกลุ่มจะมีกันกี่คน แล้วในส่วนของระบบการต่อสู้ตรงจุดนี้ผมก็ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากนัก แต่ภาพรวมของมันก็จะคล้าย ๆ กันกับ FFXII ครับ จะมีศัตรูเดินไปมาในฉากแผนที่ ผู้เล่นจะสามารถโจมตีพวกมันได้ ในทางกลับกัน พวกมันก็จะโจมตีผู้เล่นก่อนได้เช่นกัน เพราะเราเขียน A.I. ครอบคลุมในส่วนนี้ไว้ด้วย และเมื่อเกิดการปะทะก็จะเกิดฉากต่อสู้ขึ้นมาครับ ก็ประมาณนี้ล่ะนะ ระบบต่อสู้ของ Final Fantasy XIII

Final Fantasy XIII จะเน้นไปทางนิยายวิทยาศาสตร์หรือว่าเนื้อหาที่เป็นแฟนตาซี
Kitase: เรื่องจะ Sci-fi หรือ Fantasy นี่เราได้ตัดสินใจกันตั้งแต่ช่วงต้นของการสร้างแล้วครับ ทีมงานของภาคนี้ก็คือทีมที่สร้าง Final Fantasy X ซึ่งเน้นความเป็นแฟนตาซีเป็นหลัก แล้ว Final Fantasy XIII ก็คืองานชิ้นถัดมาของพวกเขา เพราะฉะนั้นครั้งนี้พวกเขาก็เลยอยากจะทำมันออกมาโดยที่เพิ่มความเป็น Sci-fi ให้มากขึ้นครับ

การประกาศสร้างเวอร์ชั่น Xbox 360 จะส่งผลให้เกิดความล่าช้าขึ้นกับเวอร์ชั่น PS3 หรือเปล่า
Kitase: เราจะสร้างเวอร์ชั่น PS3 ให้เสร็จก่อนครับถึงจะเริ่มต้นงานในส่วนต่อไปได้ เราจะจับมันลงแผ่น Blu-ray ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน จนกว่าจะถึงตอนนั้นเรื่องอื่นก็ไว้ค่อยว่ากันทีหลังครับ

คุณคิดว่าเจ้าของเครื่อง PS3 จะผิดหวังกับการประกาศลง Xbox 360 ด้วยหรือไม่
Hashimoto: ไม่ว่าจะยังไงเราก็ไม่อยากจะทำให้เจ้าของเครื่อง PS3 ต้องมาเสียความรู้สึกครับ เราไม่ได้ยกเลิกหรือทำให้มันล่าช้าลง การพัฒนาจะยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิมครับ
Kitase: บางคนอาจจะกังวลเรื่องที่เราโกมัลติแล้วจะทำให้มันกลายเป็นเกมเกรด B ก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เป้าหมายในการพัฒนาของเราก็คือการดึงเอาประสิทธิภาพของเครื่อง PS3 ออกมาใช้ให้เต็มที่ พอเสร็จแล้วเราก็ค่อยพอร์ตมันไปลง Xbox 360 แล้วปรับปรุงให้เข้ากับความสามารถของตัวเครื่องอีกต่อนึง เราจะใช้ประสิทธิภาพของทั้งสองเครื่องอยางเต็มที่โดยไม่มีการปรับลดคุณภาพของตัวเกมครับ

ทุกวันนี้ความสัมพันธ์กับ Sony เป็นอย่างไรบ้าง
Hashimoto: ไม่มีความเปลี่ยนแปลงในด้านความสัมพันธ์ระหว่างเรากับ Sony ครับ อีกอย่างเราก็มีหลาย ๆ เกมที่กำลังจะลงให้กับ PSP ด้วย เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเราจะมีแต่มั่นคงขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

การเปลี่ยนมาลงเครื่องยุคใหม่ทำให้การพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปในด้านใดมากที่สุด
Kitase: สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือประสิทธิภาพของตัวเครื่องเกมครับ เมื่อก่อนอย่างมากเราก็ทำได้แค่ CG แบบพรีเร็นเดอร์ แต่ตอนนี้เราสามาระควบคุมภาพระดับ CG ได้ในแบบเรียลไทม์ รวมไปถึงการแสดงผลมอนสเตอร์พร้อมกันได้มากขึ้น ระยะการมองเห็นก็ไกลขึ้น บอกได้เลยว่าประสิทธิภาพของตัวเครื่องเกมน่ะเป็นกุญแจสำคัญในยุคนี้ครับ

ตัวเกมพัฒนาไปได้มากแค่ไหนแล้ว และคุณคิดว่าจะต้องใช้เวลาในการสร้างนานเท่าไร
Kitase: ขอบเขตงานของเรายังคงโตขึ้นเรื่อย ๆ ครับ เพราะฉะนั้นผมเลยยังบอกกำหนดเวลาที่แน่นอนไม่ได้ อย่างตัวระบบการต่อสู้ก็ยังไม่ได้ข้อกำหนดตายตัวครับ เรายังคงพัฒนามันไปเรื่อย ๆ ปรับนู่นแต่งนี่ลองผิดลองถูกกันอยู่ เนื้อเรื่องโดยรวมก็ค่อนข้างจะเรียบร้อยดีแล้ว แล้วในส่วนของงานศิลป์ฏ้เสร็จไปประมาณ 80% แล้วครับ

จะลองออกวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกเหมือนอย่าง MGS4 ไหม
Kitase: เราพยายามจะลดช่องหว่างระหว่างการวางจำหน่ายเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นกับเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษให้ได้มากที่สุดครับ แต่ก็อยางที่รู้ว่าเกม RPG เนี่ยพวกข้อมูลตัวหนังสือมันเยอะมาก แต่เราจะพยายามทำทำมันออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ

เราดูเทรลเลอร์ตัวเดิม ๆ มาสองปีแล้ว พอจะมีโอกาสที่จะได้เห็นอะไรใหม่ ๆ บ้างไหม
Hashimoto: (หัวเราะ) เราก็บอกไม่ได้นะครับว่าเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่เราตั้งเป้าไว้เป็นอันดับแรกในตอนนี้ก็คือตั้งใจพัฒนาตัวเกมให้เสร็จสมบูรณ์ เอาเป็นว่ายังไงก็รอดูกันต่อไปละกันนะครับ

จากการที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ คุณคิดจะเพิ่มความเป็นตะวันตกให้กับตัวเกมบ้างไหม
Hashimoto: Final Fantasy VII เป็นตัวเปิดโอกาสให้กับอะไรหลาย ๆ อย่างครับ ตอนนั้นทีมงานของเรากังวลเรื่องการวางจำหน่ายที่ต่างประเทศอยู่เหมือนกัน ก็เลยตัดอะไร ๆ ที่มันดูเป็นญี่ปุ่นจ๋าออกไปพอสมควร แต่กับภาค XIII เราจะพยายามเป็นธรามชาติให้มากที่สุดครับ ถึงทีมงานของเราเกิดที่ญี่ปุ่น โตที่ญี่ปุ่น แต่เราก็จะไม่กำหนดว่าเกมจะต้องเน้นไปตามวัฒนธรรมของที่ไหน เราจะปล่อยไปพวกเขาแสดงความคิดความเห็นออกมาตามธรรมชาติครับ

แรงกดดันจากแฟนเกมหลังจากที่ได้ชมเทรลเลอร์ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาหรือเปล่า
Kitase: ก็ไม่เท่าไหรนะครับ เพราะอินเทอร์เน็ตในทุกวันนี้ทำให้หลังจากที่เราปล่อยเทรลเลอร์ตัวใหม่ออกไป เราก็จะได้รับเสียงตอบรับจากแฟน ๆ กลับมาทันที แล้วถ้าเกิดมีความเห็นไหนที่ดูเข้าท่า เราก็จะนำมาพิจารณาครับ เพราะงั้นกระแสตอบรับจากแฟนเกมก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ครับ

คุณคิดว่าคุณค่าของ Final Fantasy อยู่ที่ตรงไหน
Hashimoto: แน่นอนว่าเกมแต่ละเกมมุ่งที่จะสร้างจุดเด่นให้กับตัวเอง สำหรับ Final Fantasy ผมคิดว่ามันคือการที่เราพยายามสร้างเกมที่เหมาะสมกับประสิทธิภาพของเครื่องเกมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาขีดความสามารถของตัวเราเองครับ

ตกลงว่า Final Fantasy จะได้ Final จริง ๆ สักทีไหม หรือมันจะอยู่ต่อไปอีกสัก 40 ปี
Hashimoto: (หัวเราะ) ตอนนั้นผมก็คงจะ 80 แล้วล่ะนะ ผมก็คงจขะไม่ได้ทำงานกับ Final Fantasy แล้ว จริง ๆ ก็อย่างที่รู้กันว่าเนื้อเรื่องของ FF ภาคหลักในแต่ละภาคน่ะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ FF แต่ละภาคจะเกิดขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อมีทีมพัฒนาที่ต้องการจะสร้างเกมที่สมบูรณ์แบบและเหมาะสมกับเครื่องเกมเครื่องนึง ตราบเท่าที่ยังมีกลุ่มคนที่คิดแบบนี้อยู่ ผมก็คิดว่า Final Fantasy ก็จะยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปครับ
Kitase: ตอนที่เกมสี่ภาคแรกออกมาผมยังเป็นแค่แฟนเกมคนนึงอยู่เลยครับ แล้วผมก็เพิ่งจะได้เข้ามาร่วมงานจริง ๆ จัง ๆ เอาตอนภาค VII ทีมงานของ FFXIII ในตอนนี้ก็มีแต่แฟนเกมรุ่น FFVII ไม่แน่ว่าต่อไปแฟนเกมรุ่นใหม่ที่มี FFXIII เป็นแรงบันดาลใจอาจจะเข้ามาทำงานที่นี่แล้วเป็นคนสร้าง Final Fantasy ภาคต่อ ๆ ไปในอนาคตเองก็ได้ครับ

แปลและเรียบเรียง : P5HNG_Gconsole
ที่มา : Official Playstation Magazine

ไม่มีความคิดเห็น