Thursday, November 14, 2013

ข้อมูลล่าสุด LRFFXIII จากนิตยสารแฟมิซือและเดนเกคิ PS ฉบับล่าสุดนี้!

สแกนล่าสุดของ Lightning Returns -Final Fantasy XIII- จากนิตยสารแฟมิซือ อัพโหลดมาเผยแพร่ในทวีตภพโดยคุณ Goli ซึ่งซื้อแฟมิซือแบบดิจิตอลแล้วแคปภาพจาก Tablet มาให้ชมกัน



*มี 18 หน้า แต่ในที่นี้ ผมขอลงแค่ 2 หน้า

ข้อมูลตัวละคร

ไลท์นิ่ง - ในฐานะผู้ปลดปล่อย ไลท์นิ่งได้รับมอบหมายให้นำพาดวงวิญญาณทั้งหลายไปสู่โลกใบใหม่ที่บูนิเบลเซ่เตรียมไว้ แต่แล้วไลท์นิ่งกลับเริ่มสงสัยในตัวของนายเหนือหัว และระแคะระคายในแผนของเขามากขึ้นเรื่อยๆ เธอพบว่าตัวเธอเองต้องการที่จะช่วยเหลือโลกที่กำลังจะล่มสลายนี้ ทว่าความปรารถนานี้ขัดกับความประสงค์ของบูนิเบลเซ่ ไลท์นิ่งคิดที่จะขัดขืนพระเจ้างั้นรึ...?

บูนิเบลเซ่ - เทพในตำนานผู้สังหารมารดาของตนแล้วเข้าครอบครองโลกแทน เขาได้เรียกตัวไลท์นิ่งมาและชี้นำชะตากรรมของเธอ และเขาก็คือคนที่หลอกลวงเธอ...

ซิด เรนส์ - เหล่าผู้ตายได้เลือกซิดให้เป็นตัวแทนของพวกเขา ด้วยเจตจำนงค์อันแข็งกล้า เขาได้ปรากฏตัวต่อหน้าไลท์นิ่งอีกครั้งพร้อมกับคำขอร้อง

ลูมิน่า - ลูมิน่าได้ปรากฏตัวขึ้นตลอดเรื่อง บางครั้งก็ช่วยเหลือ บางครั้งก็ขัดขวางไลท์นิ่ง ทว่าความปรารถนาที่แท้จริงของหญิงปริศนาผู้นี้คืออะไร? ทำไมเธอถึงคล้ายกับเซร่าห์มากนัก? จากน้ำตาที่ไหลอาบหน้าของเธอ เธอได้พร่ำร้อง "อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียว...."

สโนว - ผ่านไป 500 ปีแห่งความสิ้นหวัง เหมือนว่าแวบหนึ่งสโนวได้แสดงให้เห็นตัวเขาเมื่อสมัยก่อน หรือว่าในที่สุดเขาก็กลับเป็นสโนวผู้เร่าร้อนคนเดิมที่เรารู้จักและรักใคร่!?

โฮป - เช่นเดียวกันกับไลท์นิ่ง โฮปได้ถูกช่วงชิงอารมณ์ไป ในฉากนี้ เสี้ยวหนึ่งของอารมณ์ที่ถูกชิงไปได้หวนคืนกลับมา แต่นี่คือความโล่งใจหรือเศร้าสร้อยกัน?

ซัสซ์ วานิลล์ และแฟงก์ - ต่างมีปัญหาของตนเอง ซึ่งมีไลท์นิ่งเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยพวกเขาได้

ยูล - ความปรารถนาของยูลเกี่ยวข้องกับโนเอลและไคอัส


บทสัมภาษณ์ทีมงาน

ผู้กำกับ โมโตมุ โทริยามะ - เนื้อเรื่องของไลท์นิ่งซึ่งเริ่มต้นจาก FFXIII กำลังจะปิดฉากลง นี่คือเกมไตรภาคชุดแรกใน FF ซีรีส์ เราได้เดินเคียงข้างเธอมายาวไกล ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกเหมือนพ่อที่พาลูกสาวเดินผ่านเข้าไปในทุ่งดอกไม้ มีความสุขนะแต่ก็เหงาที่เธอกำลังจะจากไป ในภาคสุดท้ายนี้ผู้เล่นจะได้มีโอกาสสร้างไลท์นิ่งในแบบของตนเอง ชุดสวมใส่ก็ปรับแต่งได้หลากหลาย ตั้งแต่ชุดแต่งงานสุดหรูยันชุดสูทเก๋ๆ เราหวังว่าคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับหลากหลายด้านของไลท์นิ่ง มาร่วมฉลองไปกับบทส่งท้ายของไลท์นิ่งและไตรภาค FFXIII ไปด้วยกัน

ผู้อำนวยการ โยชิโนริ คิตาเสะ - เมื่อการเดินทางของไลท์นิ่งมาถึงบทสรุป เราหวังว่าแฟนๆ จะได้สนุกไปกับ Social Application ที่เราพัฒนาขึ้นมาด้วยกัน ขอให้ใช้มันเพื่อแชร์เงื่อนงำคำใบ้ในการต่อสู้ ความเห็นเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง แน่นอนว่ามันสามารถโพสต์ผ่านเน็ตเวิร์คยอดนิยมอย่าง Twitter และ Facebook ได้ หรือจะโพสต์ลงไปในเกมเองก็ได้ นี่คือมหกรรมใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนจะเริ่มต้นคอนโซลยุคใหม่! ขอให้ทุกคนซื้อเกมนี้มาเล่นกันตั้งแต่วันวางจำหน่าย แล้วสนุกกันเต็มที่ไปเลย!

ผู้ออกแบบเกม ยูจิ อาเบะ - ในภาคนี้ ผู้เล่นสามารถสนุกกับอะไรก็ตามที่พวกเขาต้องการโดยไม่ต้องสนใจเนื้อเรื่องหลัก ช่วงหลังมานี้เกมได้ถูกแบ่งออกเป็น JRPG กับ Western RPG แต่ผมเชื่อว่าเกมภาคนี้คือการผสมผสานระหว่างสองสิ่งนั้นอย่างลงตัว ส่วนตัวแล้วผมแนะนำให้ค่อยๆ เล่นเกมนี้ช้าๆ แล้วหลังจากจบเกมรอบหนึ่งแล้ว ก็ขอให้เล่นรอบที่สอง และรอบที่สาม เพราะยังมีหลายสิ่งหลายอย่างอีกมากมายที่รอการค้นพบ และรอให้เราทำ ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษถ้าผู้เล่นเริ่มต้นจาก Easy mode ก่อน แล้วก็สนุกไปกับโลกใบนี้อย่างเต็มที่

ผู้กำกับศิลป์ อิซามุ คามิโคคุเรียว - การเดินทางอันยาวนานของไลท์นิ่งและเพื่อนจะจบลงในภาคสุดท้ายนี้ โลกในเกมมีเมืองและสถานที่ใหม่ๆ มากมาย ผมแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เล่นทุกคนควรเปิดแผนที่ตอนเดินสำรวจไปด้วย ในความเป็นจริงแล้ว คนที่พยายามคลำหาเส้นทางที่ถูกต้องไปเรื่อยๆ กับคนที่กำหนดเป้าหมายในการเดินทางลงบนแผนที่ไว้ล่วงหน้าแล้ว ก็จะมีมุมมองต่อทัศนียภาพเดียวกันได้แตกต่างกัน ในเกมนี้เวลาเป็นสิ่งสำคัญ และผู้เล่นต้องรู้จักใช้มันให้เป็น แผนที่จะช่วยให้คุณไม่หลงทางและไม่เสียเวลาอันมีค่าไปโดยใช่เหตุ มันให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังทำเควสต์อยู่จริงๆ! ผมเชื่อว่าแผนที่จะช่วยเหลือการเดินทางของคุณได้อย่างมาก แต่ว่านะ บางครั้งการได้หลงทางและวิ่งพล่านไปมา มันก็สนุกดีเหมือนกัน!

ผู้ออกแบบตัวละคร เท็ตสึยะ โนมุระ - ผมยังจำความรู้สึกถึงปฏิกิริยาอันแรงกล้าตอนที่ผมร่างไลท์นิ่งขึ้นมาครั้งแรกได้ ผมรู้สึกจริงๆ ว่าตัวละครผู้ยิ่งใหญ่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว ไม่บ่อยนักหรอกที่ผมจะได้รู้สึกประทับใจขนาดนี้ ผมหวังว่าเธอจะค่อยๆ เติบโตและเป็นที่รักใคร่อย่างยาวนานเหมือนเช่นที่คลาวด์เป็น แล้วตอนนี้เธอก็ผ่านมาสู่ปีที่ 8 แล้ว! ผมอยากให้ผู้คนจดจำและรักใคร่เธออีกสัก 5 ปี หรือ 10 ปี ผมเชื่อว่าเธอมีสิ่งที่คู่ควรแก่การเข้าไปอยู่ในใจของผู้คน ด้วยเกมนี้ การต่อสู้อันยาวนานของไลท์นิ่งก็ได้มาถึงบทสรุปแล้ว สำหรับผมแล้ว ผมรู้สึกเหมือนว่าลูกสาวที่จากบ้านไปหลายปีในที่สุดก็ได้กลับถึงบ้านแล้ว ผมอยากขอบคุณทุกคนที่ร่วมมีความสุขกันมากับซีรีส์นี้ และผมว่าไลท์นิ่งจะยังคงเป็นที่จดจำต่อไป

*จากที่คุณอาเบะแนะนำให้เล่น Easy Mode, คุณคิตาเสะก็พูดในทวีตภพว่าให้เล่น Easy Mode ก่อน... แถมแฟมิซือก็รีวิวว่าขนาด Easy Mode ก็ยังยาก... นี่มันอะไรกันฟะเนี่ย....?

ข้อมูลจากฝั่งนิตยสารเดนเกคิ

  • การทำเควสต์จะช่วยเพิ่ม HP พลังโจมตี และพลังเวทย์ให้
  • มอนสเตอร์ในเกมจะปรากฏตัวตอนกลางคืนมากกว่าตอนกลางวัน
  • จำนวนไอเทมที่ถือได้ และจำนวนครั้งในการเข้าพักในโรงแรม มีจำกัด
  • หลังผ่าน Tutorial ไปแล้ว ตัวเกมให้อิสระสูงมาก สามารถไปไหนก็ได้ ทำให้นึกถึงเกม RPG ในวันเก่าๆ
  • การต่อสู้กับศัตรู ก็เหมือนการลองผิดลองถูกหาจุดอ่อนฝ่าอุปสรรคไปเรื่อยๆ เหมาะกับคอ RPG ขนาดแท้
  • 80% ของ Tester สามารถจบเกมรอบแรกใน Normal Mode ได้ แต่คุณโทริยามะ ผู้กำกับเอง... ทำบ่ได้
  • ในการเล่นรอบ 2 เป็นต้นไป พวกแวร์และอบิลิตี้ที่หาได้จากช่วงครึ่งหลังของเกมรอบแรก จะสามารถเอามาใช้ได้ตั้งแต่ต้น
  • ไม่มีแวร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเกมนี้ ความแข็งแกร่งมันขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นแต่ละคนจะเล่นกันสไตล์ไหน
  • การการ์ด (Guard) ในเกมนี้เลือกเซตได้ 3 แบบ แล้วแต่ว่าผู้เล่นถนัดแบบไหน ถ้าเลือกแบบ RPG ก็จะการ์ดยาก แต่จะเพิ่ม HP ให้เยอะ ถ้าเลือกแบบ Action จังหวะที่จะการ์ดได้สำเร็จก็จะยาวนานขึ้น แต่จะเพิ่ม HP ให้เล็กน้อย
  • ไม่แนะนำให้ใส่คอมมานด์การ์ดลงไปทั้ง 3 สไตล์ที่เลือกไว้ ใส่ไว้ในสไตล์เดียวก็พอแล้ว ที่เหลือเซตอบิลิตี้โหดๆ ลงไปแทนดีกว่า
  • คุณคิตาเสะแนะนำให้ใช้ Regen Guard ซึ่งจะฟื้น HP ในระหว่างการ์ดให้ไปด้วย
  • ถ้าเล่นตรงไหนไม่ผ่าน ก็จะอย่าพึ่งไปแก้ตัวซ้ำๆ มันจะเสียเวลา
  • NPC ตัวไหนที่บอกว่า "ไว้มาใหม่พรุ่งนี้นะ" แปลว่าเขาจะมีของดีมาขาย
  • ถ้าเจอ NPC ที่พูดแบบนั้นแล้ว ก็ให้ใช้ระบบ Marking ทำเครื่องหมายลงไปบนแผนที่แล้วไว้กลับมาใหม่ เวลาเจอพวกสมบัติที่ยังเอาไม่ได้ก็ให้ทำแบบเดียวกัน
  • การจะไปถึง Ending ในวันที่ 13 ได้ ก็ต้องเคลียร์เนื้อเรื่องหลักเพื่อยืดอายุขัยของโลก (ตัวเกมมี Trophy ก้าวสู่วันที่ 14)
  • หลังจบเกมแล้วก็เล่น Hard Mode ได้ แล้วก็จะสามารถปรับแต่งอาวุธและโล่ได้ เป็นการก้าวสู่ High Class
  • ไอเทมที่ดรอปจากศัตรูในแต่ละ Mode จะต่างกัน ใน Hard Mode จึงจะดรอปไอเทมชั้นสูงที่เอาไว้แต่งอาวุธ
  • ในเกมจะมันสถานที่ๆ พวกลาสต์วันไปชุมนุมอยู่ เป็นดันเจี้ยนลับ ซึ่งสามารถไปได้ตั้งแต่ช่วงต้นเกมเลย แต่เงื่อนไขในการพบสถานที่นี้ยังเป็นความลับ
  • ดันเจี้ยนลับมีระดับความยากที่สูง และพวกลาสต์วันจะยังไม่ปรากฏออกมาจนกว่าเราจะไปฆ่าเผ่าพันธุ์มันจนเหี้ยน
  • จะไม่มี DLC เนื้อเรื่องออกมา แต่จะมี DLC ที่เกี่ยวกับการต่อสู้ คือพวกแวร์ต่างๆ (ซึ่งก็จะมีไม่มาก เพราะในเกมก็มีแวร์ให้ 80 กว่าแบบแล้ว)

ข้อความฝากถึงผู้เล่น

  • คุณคิตาเสะ ในฐานะที่เป็น FF สุดท้ายของเจนฯ นี้ก็อยากให้ใช้ระบบ SNS เยอะๆ แล้วสนุกไปกับมัน
  • คุณอาเบะ เกมนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนผู้เล่นหลุดเข้าไปในโลกนั้นจริงๆ และสนุกได้กับสำรวจสถานที่ต่างๆ
  • คุณโทริยามะ นี่คือการเดินทางครั้งสุดท้ายของไลท์นิ่ง ก็อยากให้การเดินทางของเธอครั้งนี้มุ่งหน้าสู่ความสุข ส่วนจะเป็นยังไงนั้น ก็ต้องจับตาดูกัน

ภาพอาร์ทเวิร์คบูนิเบลเซ่แบบชัดๆ ใน Lightning Returns -FFXIII- อัพโหลดโดยทวีตภพหลักของเกม อีก 7 วันมหาเทพผู้นี้จะตื่นขึ้นมา


ภาพจากทวีตภพของเกม คุณคิตาเสะเขียนข้อความว่า "ตัวอย่าง OST ของเกม แม้ภาคนี้จะไม่มีเพลงธีม แต่ก็ได้ 3 ผู้ประพันธ์ของซีรีส์ช่วยกันแต่งเพลงให้อย่างเต็มที่ ช่วง End Roll จะเป็นเพลงออเครสต้าที่คุณจะได้ประทับใจไปกับเมโลดี้ต่างๆ ของซีรีส์ อันนี้ก็วางจำหน่าย 21 พ.ย. เช่นเดียวกัน"


เกร็ดเล็กๆ และความเห็นส่วนตัว

  • ชื่อโลกของเกมภาคนี้ เวอร์ชั่นญี่ปุ่นใช้ชื่อว่า Novus Partus เป็นภาษาลาติน หมายถึงทายาทคนใหม่ (เดาว่าเกี่ยวกับบูนิเบลเซ่มั้ง?)
  • ส่วนเวอร์ชั่นอังกฤษใช้ชื่อว่า Nova Chrysalia หมายถึงดักแด้ใหม่ (อันนี้ตั้งมาให้เกี่ยวข้องกับโลกเดิมที่ใช้ชื่อว่า Cocoon)
  • คุ้นๆ ว่านานมาแล้ว ตอนแรกทีมงานออกแบบให้เกมนี้เล่นจบได้โดยไม่จำเป็นต้องไปถึงวันที่ 13 ...สักวันที่ 7 ขึ้นไปก็จบได้แล้ว และตอนนั้นทีมงานก็บอกว่าเกมออกแบบมาให้เล่นหลายรอบ แต่ละีรอบเล่น 20 ชั่วโมงก็จบแล้ว ทว่าเมื่อเร็วๆ นี้คุณอาเบะออกมาบอกว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบตรงนี้ยกใหญ่ ทำให้เกมเล่นได้นานขึ้นจนกลายเป็นราว 40 ชั่วโมงจึงจะจบ ผมเลยเดาว่าไอ้ที่ว่าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คือการไปแก้ให้ผู้เล่นต้องไปยืดอายุขัยของโลกจนถึงวันที่ 13 เท่านั้นจึงจะจบเกมได้... การเล่นเกมในแต่ละรอบมันจึงยาวขึ้นนั่นเอง

ที่มา : Famitsu, Dengeki PS, 2chNova Crystallis

Wednesday, November 13, 2013

LRFFXIII ได้คะแนนรีวิว 37/40 จากแฟมิซือ

นิตยสารแฟมิซือฉบับล่าสุดได้ตีพิมพ์คะแนนวิจารณ์เกม Lightning Returns -Final Fantasy XIII- ไว้โดยการวิจารณ์ของกรรมการ 4 คน ซึ่งเกมดังกล่าวได้คะแนนไป 10,10,8,9 รวม 37/40 คะแนน ซึ่งต่างจาก FFXIII และ FFXIII-2 ที่เคยได้คะแนนวิจารณ์จากสื่อเดียวกัน 39 และ 40 คะแนนตามลำดับ

ในเนื้อหาของการสัมภาษณ์นั้น กรรมการได้บอกว่าระบบการต่อสู้ของเกมนี้มีความน่าสนใจ สปีดของการต่อสู้ยอดเยี่ยม แต่ถ้าผู้เล่นหาจุดอ่อนของศัตรูไม่เป็น กระทั่งศัตรูดาดๆ ก็จะยากได้ ตัวเกมระดับ Easy ก็ยังยาก

ตัวเกมมีเควสต์ให้ทำมากมาย เงื่อนงำของเควสต์ต่างๆ ให้มาค่อนข้างน้อย ผลลัพธ์คือทำให้ผู้เล่นทั่วๆ ไปลำบากหน่อย

ตัวเกมมีอิสระในการเล่นที่สูง มีกราฟฟิกที่ดี สามารถปรับแต่งกลยุทธในการต่อสู้ได้หลากหลาย ความกว้างของฉากก็ทำให้ผู้เล่นหลงทางได้

ระบบพัฒนาตัวละคร และระบบที่กำหนดเวลามาให้อย่างจำกัด ทำให้เกมสนุกไปกับการบริหารเวลา

นอกจากนี้ในแฟมิซือเล่มล่าสุดยังลงบทสัมภาษณ์ของเกมดังกล่าวไว้ยาวมาก ซึ่งหนึ่งในผู้ให้สัมภาษณ์มีคุณโนมุระอยู่ด้วย และคุณโนมุระก็ได้บอกว่ากระทั่งโหมด Easy ของเกมนี้ก็ยากเอาการอยู่

ใช้เวลาจบเกมราว 40 ชั่วโมง และจบสมบูรณ์ 200 ชั่วโมง

ที่มา : FF-Reunion, Hokanko

Thursday, November 7, 2013

See you later - FFXIV

บันทึกย้อนหลัง

-5 พ.ย.2013-

วันนี้ วันสุดท้ายของการเล่น FF14 หลังจากนี้จะไม่ได้เติมเงินแล้ว อย่างน้อยๆ ก็จนกว่าจะจบ ป.โท

จากที่เล่นมาแค่จบเนื้อเรื่องหลัก เงินในเกมมีอยู่ 187,000 กิล บริจาคเข้ากองทุนบ้านกิลด์ไป 150,000 กิล เหลือติดตัว 37,000 กิล

เมื่อกี้ ล็อคอินเข้าตัวน้องพาธ ไปวิ่งถ่ายรูปกับ NPC ที่น้องพาธชอบ (Bodwine) พร้อมกับชุดต่างๆ Minion ต่างๆ

จากนั้นก็ล็อคอินเข้าตัวเอง ไปล่ำลากับ Keitha, Minfilia และเหล่า Scion... โดยถ่ายรูปคู่กับ Minion ของตัวเอง แล้วก็โจโคโบะส่วนตัวที่ตั้งชื่อว่า Casper

ตอนวิ่งไป Vesper Bay พบ NPC ที่ให้เควสต์ A Relic Reborn เลยลองทำไปหน่อย ไปติดตรงที่ต้องหาคทา Madman's Whispering ที่ยัดมาเทเรีย Quicktongue ใส่ลงไป 2 ลูก ลองไปหาราคาตลาดแล้ว พบว่าราคาอยู่ที่ 40,000 กิล... อืมมม.. เงินไม่พอแล้วแฮะ แต่ยังไงก็ทำให้เสร็จไม่ได้อยู่แล้ว Abandon ไปละกัน

2 เดือนที่ผ่านมา อาจไม่ได้ประทับใจไม่รู้ลืมเท่า FFXI, อาจไม่ได้สนุกเท่าตอนเล่น WE2011 ไต่อันดับโลกจนติด top 100, แต่ก็ได้มีความทรงจำดีๆ หลายอย่าง ได้ช่วยคนอื่นบ้าง ได้โดนด่าเพราะความไม่รู้บ้าง (ตอนไปฮุกเกะแมนชั่นกับไตตั้นธรรมดา) ได้นั่งหัวเราะโง่ๆ บ้าง ได้นั่งดูหลานเล่นบ้าง และที่เจ๋งที่สุดก็ตอนไปตีบอสใหญ่ 8 คน

ว่าไปแล้ว ก็ทำให้คิดได้ว่า... เกมแนวนี้มันไม่มีคำว่า เก่ง-ไม่เก่ง หรอก.... มันมีแต่คำว่า รู้-ไม่รู้ และ เน็ตห่วย-เน็ตดี....... คนรู้วิธีการต่อสู้แล้วก็ผ่านได้ง่าย ส่วนคนไม่รู้ก็ลองผิดลองถูกกันต่อไป ไอ้ที่โดนด่ากันว่านู๊บ... ไม่ใช่ว่าเขาเล่นไม่เก่ง พวกเขาก็แค่คนที่ยังไม่รู้วิธีผ่าน ส่วนการหลบ AoE ....คนเน็ตดีก็มีเวลาหลบมากกว่าคนเน็ตห่วย ดังนั้น ต่อให้ประสาทตอบโต้ไว แต่ถ้าอยู่เมืองไทยและทะลึ่งไปเล่นเซอร์เวอร์อเมริกา ก็มีอันเป็นไปได้ง่ายๆ

นึกย้อนไปแล้ว ผมว่าผมเหมาะจะเล่นเกมแข่งขันในประเภทฉายเดี่ยวมากกว่า อย่างถ้าเล่น Winning หรือเล่น FPS แบบคนเดียวเนี่ยเก่งจัง แต่พอไปเล่นแบบเป็นทีม จะนำความฉิบหายมาสู่ทีมได้ตลอด เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไอ้เรื่องเล่น MMO-RPG แบบเป็นปาร์ตี้กับคนอื่นเลยไม่ใช่สไตล์สักเท่าไหร่

เดือนนี้ยังมี LRFFXIII รออยู่ แล้วเดือนหน้ายังต่อด้วย BDFTS, FFX HD Remaster ....ในขณะที่ KH -HD 1.5 ReMix- ยังไม่เริ่มเล่น แล้ว FFXIII-2 พึ่งเก็บได้ 154/160 Fragments (ปั๊มทีมมอนสเตอร์เสร็จแล้ว ปราบ Valfodr ไปแล้ว)

ชีวิตยังไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันต่อไป.... เรียนจบเมื่อไหร่ ข้าพเจ้าจะหาเวลานั่งจรวดไปนอนพักบนวงแหวนดาวเสาร์ให้ได้