โยชิดะเล่าความหลังตั้งแต่วันแรกที่รู้จักไมดี้ซัง


นาโอคิ โยชิดะ เล่าผ่าน Blog ของ Final Fantasy XIV ว่าเพื่อนผู้รักโลกแห่งเกมออนไลน์ไม่น้อยไปกว่าเขา ได้จากโลกนี้ไป... เขาคิดว่า 'มันเร็วเกินไป' และยังไม่อยากจะเชื่อเลย

โยชิดะซังเล่าว่าเขาได้รับแจ้งเรื่องนี้ตอนวันที่ 6 ธ.ค. 2020 จากอีเมลของ P ซัง โปรดิวเซอร์ที่เป็นคนนำเรื่องแผนกระชับความสัมพันธ์กับพ่อในนาม "โปรเจคท์คุณพ่อแห่งแสง" มาปรับแต่งเป็นละครดราม่า

ครั้งสุดท้ายที่โยชิดะซังได้คุยกับคุณไมดี้ ก็คือ 21 ต.ค. 2020 หรือประมาณ 6 สัปดาห์ที่แล้ว ตอนนั้นไมดี้ซังบอกว่าอาการไม่ค่อยดี เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว... ตอนนั้นโยชิดะซังบอกไมดี้ว่าเขามีอะไรบางอย่างอยากจะบอก วันถัดมาโยชิดะก็เขียนอีเมลยาวเหยียดส่งไปให้ไมดี้ซัง ทว่าไมดี้ซังไม่ได้ตอบกลับมา แต่มีเอ่ยถึงนิดหน่อยใน blog ของเจ้าตัว ซึ่งการที่เจ้าตัวตอบมาแบบนั้น แปลว่าสิ่งที่โยชิดะซังอยากบอก ได้สื่อถึงเจ้าตัวแล้ว และเจ้าตัวก็ได้ตอบผ่าน blog ตามวิถีของเจ้าตัวเอง

โยชิดะซังเล่าอีกว่า บังเอิญเหมือนกันที่เขาเริ่มรู้จักคุณไมดี้ ก็คือวันนั้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว (6 ธ.ค. 2010) ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ความย่อยยับของ FFXIV (เวอร์ชั่นเดิม) และคุณโยชิดะได้รับมอบหมายให้มาเป็นโปรดิวเซอร์และไดเรคเตอร์คนใหม่ เขาเริ่มคุยกับพวกสตาฟฟ์ในวันศุกร์ที่ 3 ธ.ค. 2010 แล้วสุดสัปดาห์นั้นก็ได้ไปดริงค์กับหลาย ๆ คน รับฟังพวกเขาระบาย เม้าธ์มอยปัญหาในการพัฒนา เรื่องทุกข์ใจต่าง ๆ พอวันจันทร์ที่ 6 ธ.ค. ก็เริ่มเช็คฟีดแบ็คของผู้เล่นตามเว็บไซต์ต่าง ๆ จนได้มาเจอกับ blog ของไมดี้ซัง

CEO ของค่ายในตอนนั้น (โยอิจิ วาดะ) ได้ออกแถลงการณ์ช่วยนั้นว่าเกมมันยังไปไม่ถึงระดับที่นับว่าสนุกได้เลย จึงจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงขนานใหญ่.... ซึ่งหลังแถลงการณ์นี้ออกมา ไมดี้ซังเขียน blog ระบายแบบเกรี้ยวกราดมาก ไม่ใช่เกรี้ยวกราดเพราะ "เกมมันยังไปไม่ถึงระดับที่นับว่าสนุก" แต่เพราะไมดี้ซังไม่อยากให้ SQUARE ENIX ผู้ยิ่งใหญ่ยอมรับเรื่องแบบนั้นออกมา! จำได้ว่าตอนนั้นไมดี้ซังเขียนว่า "เราก็สนุกกับเกมดีอยู่แล้ว! อย่ามาพูดอะไรไร้สาระน่า!"

ไมดี้ซังเป็นคนที่จะมักจะชอบมอบโลกในแง่บวก ค้นหาสิ่งดี ๆ ในตัวคนอื่น และพยายามใจดีกับผู้คนมากมายที่เขาได้พบเจอ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และ blog ของเขาก็นำเสนอบุคลิกนั้นออกมาอย่างเต็มเปี่ยม

แต่นั่นเอง โยชิดะซังเลยยิ่งรู้สึกโคตรผิด ที่เหมือนบังคับขืนใจให้ผู้เล่นต้องเล่นต้องคิดอะไรแบบนั้น และตัดสินใจว่าจะต้องสร้าง FFXIV ที่สนุกกว่าที่เป็นอยู่ตอนนั้นให้ได้ จากวันนั้นมา โยชิดะซังก็เข้าไปอ่าน blog ของไมดี้เป็นกิจวัตรประจำวัน ซึ่งไมดี้ก็เช็ค traffic แล้วก็รู้ว่ามีคนจาก Square Enix มาอ่าน ก็เลยมักจะเขียนว่า "ยังเล่นอยู่นะ!" ทุก ๆ วัน แล้วโยชิดะซังก็จะเข้า blog ไป เพื่อส่งสัญญาณตอบกลับว่า "กูก็อ่านอยู่!" แล้วก็เล่นแบบนี้วนกันไปมาเรื่อย ๆ 

จนกระทั่งไมดี้ซังคิดโปรเจคท์ "คุณพ่อแห่งแสง" ขึ้นมา โดยการฮั้วกับเพื่อน ร่วมกันพาคุณพ่อออกผจญภัยกระชับความสัมพันธ์ เรื่องนี้ก็ไปเข้าตาโปรดิวเซอร์คนหนึ่งมากจนอยากนำเรื่องเล่านี้ไปทำเป็นละครโทรทัศน์ออกมา

ในวันที่ 28 ก.ค. 2016 บนเส้นทางสู่การถ่ายทำละครดราม่า โยชิดะซังรู้สึกว่าควรจะต้องพบไมดี้ซังตัวเป็น ๆ แล้ว ก็เลยเชิญมาพบกันที่ห้องประชุมในออฟฟิศของ Square Enix ซึ่งไมดี้ซังก็เป็นคนสุภาพเรียบร้อยอย่างดีคิดไว้ แต่พอรู้ว่าเราต่างเป็นติ่งกันดั้มเหมือนกัน ก็เข้ากันได้แทบจะในทันที ยิ่งไปกว่านั้น การที่เขาไล่ตามอ่าน blog ของไมดี้มา 5 ปีครึ่ง มันก็ทำให้เขารู้จักไมดี้ไม่น้อยไปกว่าตัวเขาเอง

จากวันนั้นมา ไมดี้ซังกับโยชิดะซัง ก็ติดต่อกันในฐานะเพื่อนเกมเมอร์ที่เป็นคอเกมออนไลน์เหมือนกัน และในฐานะพวกพ้อง ได้หัวเราะร่วมกัน บางครั้งก็ได้คุยกันจริงจัง ถกเรื่องกันดั้มกันอย่างดุเดือด... จนกระทั่งพอบทละครโทรทัศน์กับฉบับภาพยนตร์ได้กลายเป็นจริง เราต่างแสดงความทึ่งต่อกันว่าเกมออนไลน์แม่งมีศักยภาพที่แสนมหัศจรรย์ หากไม่ใช่เพราะเกมออนไลน์ เราก็คงไม่ได้มารู้จักกัน แต่เพราะมีเกมออนไลน์อยู่ เราจึงได้มาคุยกัน เสมือนว่าเราเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาอย่างยาวนาน หลายต่อหลายคนได้เริ่มย่างเท้าเข้ามาใน Eorzea ก็เพราะละคร "คุณพ่อแห่งแสง" และก็เชื่อว่าผู้คนมากมายมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะละครเรื่องนี้ โยชิดะซังจึงอยากแสดงความเคารพและขอบพระคุณสูงสุด ที่ไมดี้ซังได้นำเสนอความเป็นไปได้อันมากล้น ที่เกมออนไลน์สามารถมอบให้แก่เราได้

หลังละครออกอากาศจนจบแล้ว โยชิดะซังก็ได้มีโอกาสไปดินเนอร์กับไมดี้ และคุณพ่อแห่งแสงคนนั้น

ก่อนวันนั้น พ่อของไมดี้เคยส่งข้อความมาสารภาพให้ฟังว่า "ผมภูมิใจในตัวลูกมาก"

ส่วนในวันที่เจอกันนั้น ที่คุณพ่อแห่งแสงได้มานั่งต่อหน้าโยชิดะซัง คุณพ่อบอกว่า "ลูกของผมยังมีเส้นทางอีกยาวไกล ช่วยเป็นเพื่อนกับเขาต่อไป และสั่งสอนอะไรต่าง ๆ ให้เขาด้วยนะครับ" 

ไมดี้ซังได้ยินก็ทำหน้าบูดเบี้ยว แล้วบอกว่า "พ่อผมก็เป็นซะแบบนี้แหละ" ว่าแล้วก็ยกเบียร์ขึ้นกระดก

ภาพในวันที่นั่งซดเบียร์กันนั้น ยังคงชัดเจนเสมือนว่าพึ่งเกิดขึ้นเพียงเมื่อวาน... ทว่าโยชิดะซัง จะไม่ได้เจอไมดี้ซังอีกแล้ว


ประมาณ พ.ย. 2018 ไมดี้ซังตรวจพบว่าเป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่าตัด ไมดี้พยายามหลีกเลี่ยงไม่บอกโยชิดะซังจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย ก็เพราะไม่อยากจะให้โยชิดะต้องเป็นห่วง แต่โยชิดะรู้สึกว่าทำแบบนี้ไม่น่ารักเลย

หลังตัดสินใจได้ว่าจะต้องไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล โยชิดะก็สอยนิวกันดั้ม Ver.Ka ติดมือไปเป็นของเยี่ยมไข้ เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้อยากให้ต่อกันพลาระหว่างที่ยังนอนเดี้่ยงอยู่ในโรงพบาบาล แต่อยากให้ไมดี้มีเป้าหมายในการต่อสู้กับโรคร้าย... ก็เลยทำสัญญาต่อกัน

"ต่อเสร็จแล้วเอามาคืนกูด้วย กูจะเอาไปตั้งโชว์บนโต๊ะทำงาน" โยชิดะพูด ว่าแล้วไมดี้แม่งก็มองเขาอย่างสตั๊น ก่อนที่ไมดี้จะหัวเราะออกมา "เออ เก๊ตละ"

แต่แล้วภายหลัง มะเร็งร้ายมันก็กลับมาหาไมดี้อีก ช่วงที่ไมดี้ได้ออกจากโรงพยาบาล โยชิดะตัดพ้อว่าเขาน่าจะแนะนำให้ไมดี้ไปหาผู้เชี่ยวชาญกว่านั้นเพื่อตรวจเช็คทุกอย่างอย่างละเอียด เขาน่าจะใส่ใจติดตามอาการของไมดี้ให้มากกว่านั้น แถมยังมีโอกาสตั้งมากมายที่จะได้ออกไปหาอะไรกินกันแท้ ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำลงไป เพราะโยชิดะซังเห็นไมดี้ยิ้มตลอดเวลา แล้วก็เข้าใจว่าไมดี้โอเคดี แต่ตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ไมดี้ก็ยังไม่ได้เริ่มต่อกันดั้มที่เขาให้ไปเลย อาจเพราะไมดี้รู้อยู่แก่ใจมาโดยตลอดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น... 



ถึงตอนนี้ โยชิดะซัง ก็ยังไม่ได้รับนิวกันดั้มที่ไมดี้ซังควรจะต่อให้เขา คืนกลับมา... แต่โยชิดะซังเชื่อว่าไมดี้คงหิ้วติดตัวไปโลกภพโน้นด้วย ไมดี้เป็นคนชอบของเล่นมาก ถ้าไม่มีกันพลาติดตัวไปด้วยคงแย่ ไมดี้เป็นคนจิตใจดีและมองโลกในแง่ดี ไมดี้จะต้องยังคงชักชวนเหล่านักรบแห่งแสง และออกเดินทางร่วมกันต่อไปในโลกภพโน้นอยู่แน่ ๆ ก็หวังว่าไมดี้คงกำลังต่อนูกันดั้มอย่างเป็นสุข พร้อมหัวเราะร้อง "ความโสดจงเจริญญญญญ"

โยชิดะซังบอกว่า ตอนนี้เขายังไม่พร้อมจะไปหาไมดี้ ...และไมดี้เองก็คงยังไม่อยากให้เขาไปหาด้วยเหมือนกัน

โยชิดะซังยังมีภารกิจ ในการเผยแพร่โลกของเกมออนไลน์ที่ไมดี้รัก ในนามของ FFXIV เพื่อที่คนมากมาย จะได้เข้ามาร่วมสนุกกันอีกต่อไปเรื่อย ๆ

ตอนที่ตัดสินใจเอา "คุณพ่อแห่งแสง" มาทำเป็นบทละคร โยชิดะกับไมดี้ได้สัญญากันไว้ ไมดี้จะต้องเล่น FFXIV ต่อไปเรื่อย ๆ ส่วนโยชิดะ ก็จะขยันสร้าง content ให้ต่อไป แต่นอกจากงานนี้แล้ว เราคือพวกพ้องที่รักในเกมออนไลน์ และกันดั้มเหมือนกัน

เมื่อถึงเวลา โยชิดะซังเชื่อว่าสักวันหนึ่งก็จะได้เจอกับไมดี้ซังอีกครั้ง ถึงตอนนั้น แกเชื่อว่าไมดี้จะเห็นต้นกล้าบนหัวของโยชิดะที่ไม่รู้เหนือรู้ใต้ (สัญลักษณ์ของ Newbie ใน FFXIV) แล้วไมดี้ที่มีพรรคพวกล้อมอยู่ก็จะยื่นมือออกมาพลางพูด "เฮ่ย newbie นี่นา! ไม่เป็นไรนะ ทางฝั่งนี้มีอะไรสนุก ๆ อยู่เพียบ ไปผจญภัยกันเถอะ!"

ซึ่งในอุ้งมือนั้น จะต้องมีนิวกันดั้มอยู่ด้วยอย่างแน่นอน...

สู่สุขคตินะไมดี้ นายทำได้ดีมาก จนกว่าจะได้พบกันใหม่


10 ธ.ค. 2020

มนุษย์ออนไลน์ & นักรบแห่งแสง, นาโอคิ โยชิดะ

https://na.finalfantasyxiv.com/blog/003072.html

ไม่มีความคิดเห็น