Tuesday, November 30, 2021

พี่ซันรำลึกครบรอบ 5 ปี Final Fantasy XV

ในโอกาสครบรอบ 5 ปีของการวางจำหน่าย Final Fantasy XV พี่ซัน (ประเสริฐ ประเสริฐวิทยาการ) เจ้าของวลี "อ่อนว่ะ" และ "มีให้จิ้ม ก็จิ้ม" หัวหน้าทีมดีไซน์ A.I. ของเกม ได้กล่าวไว้ในทวีตภพส่วนตัวว่า เขารู้สึกโชคดีมากที่ได้เพื่อนที่แสนดี และบรรยากาศการทำงานที่สนุก แล้วก็อยากกล่าวคำขอบคุณแก่ทุกคนมาก ที่คอยให้การสนับสนุนเขามาอย่างยาวนาน ขอบคุณมากจริง ๆ ตอนนี้เพื่อนที่เคยร่วมกันทั้งหลาย ต่างก็แยกย้ายกระจายไปคนละทิศคนละทางแล้ว แต่ถ้าเรายังเห็นคนที่ยังเล่นและไม่ลืม FFXV อยู่ ก็คงจะรู้สึกดี และพร้อมที่จะทุ่มเทเต็มที่กับการสร้างผลงานใหม่ ๆ ออกมา

พี่ซันทิ้งท้ายว่าสำหรับตัวพี่ซันเอง ถึงแม้หน้าที่การงานจะเปลี่ยนแปลงไปมาก (ตอนนี้อยู่ Nintendo) แต่เขาก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะได้สร้างผลงานที่ฝากเข้าไปอยู่ในใจทุกคนได้อีกครั้ง ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนกันมา จนกว่าจะถึงเวลานั้น...

https://twitter.com/suntimentalMood/status/1465108691997257730









Monday, November 29, 2021

FFXV ทำยอดขายแตะ 9.8 ล้านชุดแล้ว


จากที่เมื่อ 31 มีนาคม 2016 ตอนตอบคำถามในงานแถลงข่าวกับสื่อฝั่งตะวันตก ทาง Kotaku ถามคุณทาบาตะว่า ต้องขาย Final Fantasy XV ให้ได้เท่าไหร่จึงจะคืนทุน? แต่คุณทาบาตะ ซึ่งก็ไม่ได้คำนวณมาก่อนว่าต้องขายได้เท่าไหร่ถึงจะคืนทุน ก็ตอบเป้าหมายของโปรเจคท์ไปว่า ต้องทำยอดขายทั่วโลกให้ได้ 10 ล้านชุด ตลอดอายุการขายของมัน

(ซึ่งพอข่าวออกมาระลอกแรก เกิดความสับสนขึ้นว่า 10 ล้านคือคืนทุน? หรือ 10 ล้านคือเป้าหมาย ทางแฟมิซือจึงเข้าไปถามคุณทาบาตะอีกรอบ และได้รับคำตอบชัดเจนว่า 10 ล้านชุดคือเป้าหมายของโปรเจคท์)

http://re-ffplanet.blogspot.com/2016/04/ffxv-10.html

วันนี้ ผมพึ่งเห็นข่าวจากเว็บ Finaland ฝั่งฝรั่งเศส ทีชี้ข่าวว่าทางค่ายได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าหลังจากวางขายมา 5 ปี ปัจจุบัน FFXV ทำยอดจัดจำหน่ายไปได้แล้ว 9.8 ล้านชุด อีกเพียงแค่ 2 แสนเท่านั้น ก็จะถึงเป้าหมายตลอดอายุการขายของโปรเจคท์แล้ว

https://youtu.be/MJq0icmFfIw?t=176

ทั้งนี้ Finaland ยังลงยอดขายของ FFVII, FFVIII และ FFX แบบไม่รวมเวอร์ชั่น Remaster ไว้ ซึ่งเนื่องจากทาง Finaland ไม่ได้ระบุ source ให้ตรวจสอบข้อมูล เลยต้องฟังหูไว้หู ใช้อ้างอิงเป็นน้ำหนักไม่ได้ครับ

FFVII = 12.3 ล้านชุด

FFVIII = 9.6 ล้านชุด

FFX = 8.8 ล้านชุด

FFVII Remake = ~5 ล้านชุด

https://twitter.com/Finaland_/status/1463861678269947906

Thursday, November 25, 2021

อาลัยแด่ Roboloid ที่สูญเสียภรรยาอย่างกะทันหัน

มีเรื่องสะเทือนใจว่าจะเขียนถึงตั้งแต่วันเกิดเหตุละ แต่ลืม....

เอ่อ ไม่ใช่เวลาจะมาหยอดมุก 5 บาท 10 บาทนี่หว่า

เป็นเรื่องของคุณ Roboloid เทพแฮ็คเกอร์สาย Kingdom Hearts Union X ที่ตะลุย data-mine ข้อมูลในเกมปล่อยออกมาเรื่อย ๆ ให้แฟน ๆ ได้ดูก่อนบ้าง ได้เซฟไปใช้บ้าง และยังสร้างระบบคำนวณต่าง ๆ สร้างคุณอนันต์ให้แก่ผู้เล่นมากมายทั่วโลกมาหลายปี

คุณ Roboloid เล่าว่าภรรยาของแกที่แต่งงานกันมา 3-4 ปี ชื่อเล่นว่าคุณ Bree ที่แข็งแรงปกติ ได้เข้าแอดมิทที่โรงพยาบาลในช่วงเย็นของวันอังคารที่ 16 พ.ย. 2021 แต่แล้วเย็นวันถัดมา เธอก็เสียชีวิตด้วยอาการผิดปกติของหัวใจ

คุณ Bree เป็นคนมีเมตตาอารี และพยายามทำให้คนรอบข้างมีความสุขเสมอ และเล่นเกมเคียงข้างคุณ Roboloid เสมอมา เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของกันและกัน

ที่ผ่านมาหลายปี คุณ Bree ได้ชวน Roboloid เล่น Final Fantasy XIV ด้วยกันมาตลอด แต่ Roboloid ที่อุทิศชีวิตให้คอมมูฯ KHUX ก็ไม่สามารถปลีกตัวไปเล่นได้ จนกระทั่ง KHUX ปิดตัวลงในช่วงกลางปีที่ผ่านมา คุณ Roboloid ที่สามารถปล่อยมือจากสิ่งที่อุทิศตัวไว้ให้มาหลายปีได้แล้ว ก็เป็นอิสระ และได้เริ่มเล่น FFXIV ร่วมกับคุณ Bree เรื่อยมา จนกระทั่งเขาได้จบ Shadowbringers (Patch 5.3) ในวันที่ 15 พ.ย. 2021 (ก่อนที่คุณ Bree จะล้มป่วยกะทันหัน 1 วัน)

Roboloid บอกว่าคุณ Bree รัก FFXIV มาก และเสียดายที่ต่อจากนี้จะไม่มีเธอเล่น Endwalker เคียงข้างเขาแล้ว....

"อย่าลืมบอกคนที่คุณรัก ว่าเขามีความหมายกับคุณมากมายแค่ไหน เราไม่รู้หรอกว่าจู่ ๆ ใครจะล้มป่วยและจากไปในวันรุ่งขึ้น ช่วยกันทะนุถนอมคนรอบ ๆ ตัวด้วย"

"Remember to tell your loved ones how much they mean to you. You don't know if someone will fall ill and be gone the next day. Please cherish those around you." - Roboloid

https://twitter.com/Roboloid/status/1461752033673990144

มัตสึดะเศร้า.... ยอดขายชินซึบาเซไคไม่ได้อย่างที่หวัง!

โยสึเกะ มัตสึดะ กล่าวถึง Shin Subarashiki Kono Sekai ในประชุมรายงานผลประกอบการ Square Enix ประจำไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2021 (สิ้นสุด 30 ก.ย. 2021)

"ทั้งที่แฟน ๆ พึงพอใจ แต่ยอดขายกลับไปได้น้อยกว่าที่คาดหวัง"

"While “NEO: The World Ends with You” was well received by users, it has underperformed our initial expectations."

https://www.rpgsite.net/news/12018-neo-the-world-ends-with-you-underperforms-square-enixs-initial-expectations

https://www.hd.square-enix.com/eng/news/pdf/22q2outline.pdf

Shin Subarashiki Kono Sekai วางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2021 โดยปัจจุบันมีคะแนน Metascore อยู่ที่ 80 คะแนน ส่วนยอดขายในญี่ปุ่นก็เจ๊งยับ อยู่ที่ราว 3 หมื่นชุดเท่านั้น

http://re-ffplanet.blogspot.com/2021/08/3.html

Saturday, November 6, 2021

เปรียบเทียบ ETERNALS ความเหมือนและแตกต่างจาก Fabula Nova Crystallis


[SPOILER เต็มพิกัด] - โปรดอ่านหลังจากดู ETERNALS จบแล้ว เท่านั้น!

เปรียบเทียบบทบาทของตัวตนต่าง ๆ ใน Fabula Nova Crystallis (Final Fantasy XIII Series และ Final Fantasy Type-0) และ ETERNALS (Marvel Cinematic Universe)

---------------------------------

Fabula Novacrystallis

---------------------------------

บูนิเบลเซ่ (Bhunivelze) - สิ่งมีชีวิตที่ทรงอิทธิฤทธิ์ที่สุดในจักรวาล มนุษย์นับถือดั่งพระเจ้า บูนิเบลเซ่เป็นผู้สร้างฟัลซิพัลส์ ฟัลซิลินด์เซย์ และฟัลซิเอโทรขึ้นมา

ฟัลซิ (Fal'Cie) - ศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการเรียกจักรกลอัจฉริยะ มากด้วยพลังและปัญญา แต่ไม่สามารถพัฒนาได้ บูนิเบลเซ่สร้างฟัลซิที่ทรงพลังที่สุดขึ้นมาแค่ 3 ตน คือพัลส์ ลินด์เซย์ เอโทร ส่วนฟัลซิอื่น ๆ นั้นคือสิ่งที่พัลส์และลินด์เซย์สร้างขึ้นมา

เป้าหมายของบูนิเบลเซ่ - บูนิเบลเซ่ต้องการหาทางเปิดประตูสู่โลกที่มองไม่เห็น (โลกหลังความตาย) เพื่อที่บูนิเบลเซ่จะเข้าไปสังหารมูอิน มารดาของตนที่อยู่ในโลกที่มองไม่เห็น ด้วยความเชื่อว่าตนถูกมูอินสาปให้มีอายุขัย หากสังหารมารดาทิ้งแล้วก็อาจจะทำให้ตนเองเป็นอมตะได้

พัลส์ (Pulse) - ถูกบูนิเบลเซ่มอบหมายให้ไปท่องจักรวาล ตามหา และหาทางเปิดประตูสู่โลกที่มองไม่เห็น, พัลส์พยายามทำด้วย 2 วิธีใหญ่ คือวิธีแรกหาทางสร้างมนุษย์ที่สามารถเปิดประตูขึ้นมาได้ขึ้นมา โดยเรียกมนุษย์ผู้นั้นว่าอากิโตะ และวิธีสองคือฟูมฟักมนุษย์บนดวงดาวต่าง ๆ ให้อุดมสมบูรณ์จนถึงขีดสุด แล้วให้ลินด์เซย์หาทางสังเวยชีวิตทั้งหมดบนดาวในคราวเดียว เพื่อให้วิญญาณมหาศาลทะลักเข้าไปยังประตูสู่โลกที่มองไม่เห็น ประตูจะได้เปิดอ้าออก

ลินด์เซย์ (Lindzei) - ถูกบูนิเบลเซ่มอบหมายให้คอยปกป้องบูนิเบลเซ่ และทำลายล้างศัตรู, แต่ลินด์เซย์ว่างจัด เลยไปช่วยพัลส์หาทางเปิดประตูสู่โลกที่มองไม่เห็นด้วย ซึ่งลินด์เซย์จะคอยสนับสนุนแผนสองของพัลส์


---------------------------------

Eternals

---------------------------------

อริเชม (Arishem) - ผู้นำของเผ่าพันธุ์เซเลสเชียล ผู้สร้างและควบคุมสมดุลของจักรวาล ในมุมมองของอริเชม จักรวาลคือลูปของการแลกเปลี่ยนรูปแบบพลังงานอันไม่มีที่สิ้นสุด จึงต้องมีการทำลาย สร้างใหม่ ให้กำเนิด และสูญสลาย เพื่อส่งต่อพลังงานไปเรื่อย ๆ จักรวาลจึงจะได้คงอยู่

ดีเวียน (Deviant) - สิ่งมีชีวิตที่อริเชมสร้างขึ้นมา สามารถพัฒนาได้

ภารกิจของดีเวียน - กำจัดเผ่าพันธุ์นักล่าในดวงดาวต่าง ๆ เพื่อให้สิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญา เจริญเติบโต และขยายพันธุ์ได้ง่ายขึ้น แต่อริเชมบอกว่าเกิดความผิดพลาดในแปลนการสร้างดีเวียน ทำให้ดีเวียนกลายเป็นผู้ล่าซะเอง

อีเทอนอล (Eternal) - จักรกลอัจฉริยะที่อริเชมสร้างขึ้นมา ในเรื่องบอกไว้ว่าอีเทอนอลไม่สามารถพัฒนาได้ แต่เราดูแล้วก็เห็นว่ามันพัฒนาได้... 

ภารกิจของอีเทอนอล - ปกป้องมนุษย์ในดาวต่าง ๆ ที่ตัวเองอาศัยอยู่จากดีเวียน โดยช่วยกันฆ่าล้างบางดีเวียนให้หมด เมื่อดีเวียนสูญพันธุ์แล้วอีเทอนอลก็จะใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ซึ่งหลายคนก็เข้าไปใช้ชีวิตอย่างกลมกลืนร่วมกับมนุษย์ จนเกิดความรักต่อมนุษยชาติขึ้นมา

เป้าหมายของอริเชม - อริเชมได้ส่งเมล็ดพันธุ์แห่งเซเลสเชียลไปยังดวงดาวต่าง ๆ ทั่วจักรวาล ซึ่งทุกประมาณ 1 พันล้านปี เซเลสเชียลตนใหม่จะถือกำเนิดขึ้นมา โดยการดูดกลืนพลังงานจากสิ่งมีชีวิตทั้งดวงดาวเข้าไป เซเลสเชียลจะทะลวงออกจากดวงดาวเหมือนลูกเจี๊ยบที่ทะลวงออกมาจากไข่ จากนั้นเซเลสเชียลตนใหม่ก็จะช่วยทำให้สมดุลการแลกเปลี่ยนพลังงานของจักรวาลคงอยู่ต่อไป เพื่อให้เซเลสเชียลถือกำเนิดขึ้นมาได้ อริเชมจึงต้องการทำให้ดาวต่าง ๆ อุดมสมบูรณ์ด้วยพลังงานชีวิต

สาเหตุที่อีเทอนอลไม่ขัดขวางธานอส - ในเรื่องอธิบายว่าอีเทอนอลมีกฎว่าจะไม่ยุ่งกับปัญหาของมนุษย์ รวมถึงเรื่องของธานอสด้วย มนุษย์ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรค ก้าวผ่าน และเติบโตด้วยตนเอง เพื่อจะได้พัฒนาขึ้นได้อย่างที่ควรจะเป็น ถ้าให้อีเทอนอลช่วย มนุษย์ก็จะไม่ได้เติบโตขึ้นอย่างแท้จริง, แต่อีเทอนอลก็ประทับใจมากว่ามนุษย์ใช้เวลาเพียง 5 ปี ก็แก้ปัญหาคนหายครึ่งจักรวาลกันเองได้

ผลจากการ Blip - มนุษย์ที่หายไปครึ่งโลกปรากฏตัวกลับมาพร้อมกัน เกิดแผ่นดินไหวไปทั่วโลก พลังงานเพิ่มพูนขึ้นมาก จนทำให้เมล็ดพันธุ์เซเลสเชียลของโลก ซึ่งเป็นเมล็ดของเทีตมัต (Tiamut) พร้อมจะถือกำเนิดขึ้นมา ส่งผลให้แกนกลางโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น และส่งผลต่อเนื่องให้พวกดีเวียนที่หลงเหลืออยู่ในธารนำแข็ง ตื่นขึ้นมาได้

เมื่ออีเทอนอลรู้ถึงเป้าหมายของอริเชม - บางคนเห็นด้วยกับอริเชม บางคนรักมนุษย์และไม่ยอมที่จะสูญเสียดาวดวงนี้ บางคนลอยตัว

การแก้ปัญหา - อีเทอนอลทุกคนที่เหลือรอด รวมพลังกันส่งพลังให้เซอร์ซี (Sersi) อีเทอนอลที่มีพลังในการแปรธาตุแบบเอ็ดเวิร์ด เอลริค (Edward Elric) ซึ่งเดินเซอร์ซีทำได้เพียงแปรธาตุของสิ่งไม่มีชีวิต แต่ภายหลังเธอแปรธาตุสิ่งมีชีวิตได้ด้วย แล้วก็แปรเทียมัตที่กำลังจะเกิดขึ้นมาให้กลายเป็นหินอ่อนไป (ผมติดใจที่เซอร์ซีบอกว่า ตอนที่เธอทำนั้น เธอได้รับพลังจากเทียมัตเองมาด้วย)

Ebony Blade - ดาบเวทมนต์ที่ว่ากันว่าตัดได้ทุกอย่าง ทำให้ผู้ถือครองเป็นอมตะ (อย่างกับ Ten Rings) ป้องกันเวทย์ได้ แต่ผู้ถือครองจะต้องสาปให้กระหายความรุนแรงเลือดสาดและตายไป ดาบเล่มนี้ปรากฏใน Post-Credit 2, ในเรื่องตอนที่กลับยานโดโม ธีนาหยิบดาบเล่มหนึ่งขึ้นมา สไปรต์ถามว่าใช่ Eboby Blade รึเปล่า? แต่ธีนาบอกว่าที่เธอถืออยู่คือ Excalibur


---------------------------------

เปรียบเทียบ

---------------------------------

- อริเชม มีสถานะเทียบเคียง บูนิเบลเซ่

- อีเทอนอล มีสถานะใกล้เคียง ฟัลซิ แตก็แตกต่างกันตรงที่ฟิลซิทำตามโปรแกรมที่ถูกตั้งมาอย่างเคร่งครัด ขณะที่อีเทอนอลแอบแหกกฎได้ และถึงแม้จะบอกว่ามันพัฒนาไม่ได้ แต่ทำไปทำมา มันก็พัฒนาตนเองได้

- ฟัลซิพัลส์ ฟูมฟักดวงดาวให้อุดมสมบูรณ์ แล้วปล่อยให้ฟัลซิลินด์เซย์ มาคร่าชีวิตทั้งดวงดาวทิ้งในคราวเดียว

ก็คล้ายกับการที่อีเทอนอลคอยฟูมฟักมนุษย์บนดาวจนพลังงานเต็มเปี่ยม พอเซเลสเชียลถือกำเนิดขึ้นมาบนดาวนั้น ดาวก็บึ้มโบ๊ะไป

- Eternals จึงเหมือน Final Fantasy XIII ในสภาพ What if ว่าหากว่าฟัลซิทั้งหมดบนดาวพัลส์และโคคูน รับรู้ถึงเป้าหมายของบูนิเบลเซ่แล้ว... พวกเขาแต่ละตนจะทำอย่างไรต่อ? ....ทว่าเราก็คงคาดเดาได้ว่า ด้วยสภาพฟัลซิที่ค่อนข้างทำตามโปรแกรม คิดนอกกรอบได้น้อย มันก็คงก้มหน้าทำตามโปรแกรมหง่ก ๆ ไปนั่นแหละ


---------------------------------

รีวิว Eternals แบบตามใจฉัน

---------------------------------

- พล็อตน่าสนใจกว่า Fabula Novacrystallis และความคิดของอริเชมที่ต้องการรักษาสมดุลจักรวาล ก็เมคเซนส์กว่าการที่บูนิเบลเซ่เข้าใจผิดไปเองว่าตนถูกแม่สาปให้มีอายุขัย

- การแบ่งสิ่งที่อริเชมสร้างเป็นดีเวียนกับอีเทอนอล มีความแตกต่างชัดเจน และน่าสนใจกว่าการแบ่งสายพัลซิพัลส์-ลินด์เซย์ใน Fabula Novacrystallis ที่คุณสมบัติแทบไม่ต่างกัน

- อีเทอนอล ถึงจะถูกกำหนดว่าโดนโปรแกรมมาแล้ว พัฒนาไม่ได้... แต่เท่าที่เห็นคือมันเล่นใหญ่ ไปไกลแล้ว

- เซอร์ซี (Sersi) ยิ่งดูยิ่งสวยมีสเน่ห์ เป็นนางเอกแบบนางเอ๊กนางเอก

- ธีนา (Thena) สง่างาม แข็งแกร่ง มีจุดอ่อนที่น่าสนใจมาก จุดอ่อนบวกกับความแข็งแกร่งของเธอ ทำให้ตัวละครนี้สามารถทำอะไรที่คาดไม่ถึงออกมาได้ตลอดเวลา บทของเธอยังนำมาใช้ได้อีกไกล

- ฟาสโตส (Phastos) ตัวละคร LGBTQ ที่น่ารัก อบอุ่น อัจฉริยะ ดูน่าอยู่ด้วยมาก

- สไปรต์ (Sprite) อีเทอนอลที่มีปมจากการถูกสร้างร่างกายให้เป็นเด็ก ทำให้ไม่เคยได้รับการปฏิบัติในแบบของผู้ใหญ่เลย

- ดรูอิค (Druig) รักมนุษย์ เกลียดความขัดแย้ง เป็นคนแรกที่แหกกฎของอีเทอนอล ด้วยการใช้พลังจิตเข้าไปแทรกแซงยับยั้งความขัดแย้งของมนุษย์ ตอนชั่วโมงแรกผมค่อนข้างไม่ชอบความเอาแต่ใจของดรูอิคมาก แต่พอดูไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งรักเขาขึ้น และพบว่านี่แหละคือคนที่คิดนอกกรอบได้คนแรก และเลือกที่จะอยู่ข้างมนุษย์มาโดยตลอด คน ๆ นี้ทำให้นึกถึงคิตานิจิ เมกุมิ (Subarashiki Kono Sekai)

- มัคคารี (Makkari) อีเทอนอลที่ไม่ได้ยินเสียง แต่มีประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยม รับรู้ทุกอย่างด้วยการแปลความจากการสั่นสะเทือนของสิ่งต่าง ๆ เธอมีความเร็วกว่าแสง และมีความร่าเริงอยู่เสมอ

- คิงโก (Kingo) อีเทอนอลที่ผันตัวไปเป็นดาราบอลลีวูด แสดงเป็นพระเอกมากว่า 500 ปี โดยอ้างว่ารุ่นก่อน ๆ นั้นเป็นพ่อ ทวด โคตรเหง้ารุ่นก่อน ๆ ของเขาบ้าง ทั้งที่เป็นตัวเองแสดงทั้งหมดเลย

- การุณ (Karun) ตากล้องลูกกระจ๊อกที่ตามช่วยเหลือคิงโกมากว่า 50 ปี


---------------------------------

MVP ของเรื่อง

---------------------------------

- ให้คู่กันเลยทั้งการุณ (ตลกฉิบหายยย) และดรูอิค

Tuesday, November 2, 2021

3 ปีกับคำประดิษฐ์ "ผู้หญิงยิงหมา"


เมื่อกี้เห็นโพสต์คุณทไวไลท์ aka. Jiraphat โพสต์ถึงริโนอา
โดยเรียกสมญาว่า ผู้หญิงยิงหมา

ก็นึกได้ถึง โพสต์ที่เป็นวินาทีที่ผมประดิษฐ์คำนี้ขึ้นมาเมื่อ 3 ปีก่อน

อันที่จริง ผมเคยประดิษฐ์สมญาตัวละครไว้เยอะมาก ซึ่งแต่ละชื่อ มันก็มาจากจินตนากาวในขณะที่พิมพ์ล้วน ๆ

อันที่โดนใจมหาชนก็มี อันที่ไม่เป็นที่นิยมก็เยอะ

เด็กเส้น (Kingdom Hearts Re:coded) ผู้หญิงยิงหมา (Dissidia -Final Fantasy- Arcade) ชาวบ้านในตำนาน (Dissidia -Final Fantasy- 012) น้องนก (Kingdom Hearts Union X) พี่โม่ง (Kingdom Hearts Birth by Sleep)..... น่าจะเป็นตัวอย่างของอันที่ปังที่สุด

ส่วนคำว่าเจ๊เครียดนี่ ผมประดิษฐ์คำนี้มาตั้งแต่ FFXII ออก และใช้กับอาเช่ ในช่วงที่โจเซ่ มูรินโญ่ กำลังคุมเชลซี ....ซึ่งตอนนั้นคำนี้ก็เป็นที่นิยมใช้ได้ ต่อมาในช่วงยุค FFXIII ผมประดิษฐ์คำใหม่ว่า "เจ๊เหี้ยม" เพื่อใช้กับไลท์นิ่ง แต่ไม่ได้รับความนิยม แล้วมหาชนก็เอาคำว่าเจ๊เครียด มาสืบสานใช้ต่อกับไลท์นิ่งเอง แล้วคนก็พากันเลิกเรียนอาเช่ว่าเจ๊เครียด เพราะสมญานั้นกลายเป็นของไลท์นิ่งไปแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายคำที่พอผมอ่านข่าวจาก primary source ครั้งแรก ก็พยายามเขียนเรียกในแบบของตัวเอง ทั้ง วานิทั'ศ', เซ'อ'านอร์ท, การเอาคำว่า 'ตำราพยากรณ์' มาใช้ซ้ำไปหมดตั้งแต่ FFXIII-2 และ KHUX, การที่ผมเห็นยูลและอันโดเรีย ที่อยู่ใน FNC รับบทบาทเป็นโหรที่มองเห็นอนาคตได้ ช่วงก่อน 29 ส.ค. 2015 ที่คุณทาบาตะจะเผยว่า FFXV ที่รีบู๊ทซีนาริโอขึ้นใหม่ในปลายปี 2013 ไม่ได้อยู่ใน FNC แล้ว ผมจึงเรียกลูน่าเป็นโหร เพราะเข้าใจว่าเธอจะอยู่ในบทบาทผู้มองเห็นอนาคตเช่นเดียวกับสองคนดังกล่าว ซึ่งถ้าหากรู้แต่แรกว่าลูน่าไม่ได้อยู่ใน FNC ตั้งแต่แรกและบทบาทของเธอนั้นไม่ได้มองเห็นอนาคต ผมก็คงหาคำเรียกอื่นที่ไม่ใช่คำว่าโหร เพื่อลดความสับสนที่อาจเกิดขึ้น

อ่อ นอกจากนี้ ยังมึเรื่องที่คุณ Vicc ประดิษฐ์คำว่า "ชะนีขี่หมา" เพื่อเรียกริโนอา ซึ่งส่วนตัวแล้ว เป็นคำที่ผมชอบมากเหมือนกัน

แต่ที่เด็ดสุดเลยคือคำว่า "ร่างย้อนรวม" ที่แปลมาจากร่างรียูเนียน ใน Final Fantasy VII ที่พี่กระรอก Ratatosk ประดิษฐ์ขึ้น ก็เป็นการแปลให้ได้ 3 พยางค์เท่าคำต้นฉบับ และใช้คำยาวซึ่งขึ้นต้นด้วย ร. เหมือนกัน นับว่าเป็นอะไรที่สวยงามทางสติปัญญามาก อีกคำหนึ่งเช่น "รอยปานดวงดาว" ที่แปลมาจาก Geostigma ซึ่งแม้เสียงจะไม่ใกล้เคียงกัน แต่ฟังแล้วรู้สึกเปรื่องขั้นสุด.....



สุดท้ายผมอยากเอ่ยถึงคำ localize ที่ตราตรึงใจในหลาย ๆ ความหมายที่สุด

คำนั้นไม่ใช่จอมเวทย์มนต์ดำกาลู จัดจิแมน หรือนักรบแม่เหล็กบัลคิริออน ก๊าซออฟดราก้อน

แต่เป็น อัตนิยม❌ หรือ "ร่างนำใจ กายนำจิตตตตตต" ✅

อย่างที่แอดทรังซ์แจงหลายครั้งว่า วิชานั้นของโกคู เป็นการเคลื่อนไหวด้วย id, ไม่ใช่ ego, จึงแปลเป็นอัตตาไม่ได้

แต่ไอ้คำว่าอัตนิยมก็ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งส่วนตัวผมก็ฟังดูรู้สึกเป็นเสียงที่สวยมาก ไม่แปลกเลยที่จะได้รับความนิยม (แม้จะฟังแล่วไม่ค่อยเก็ต ต้องแปลอีกชั้นก็ตามที)