เปรียบเทียบ ETERNALS ความเหมือนและแตกต่างจาก Fabula Nova Crystallis


[SPOILER เต็มพิกัด] - โปรดอ่านหลังจากดู ETERNALS จบแล้ว เท่านั้น!

เปรียบเทียบบทบาทของตัวตนต่าง ๆ ใน Fabula Nova Crystallis (Final Fantasy XIII Series และ Final Fantasy Type-0) และ ETERNALS (Marvel Cinematic Universe)

---------------------------------

Fabula Novacrystallis

---------------------------------

บูนิเบลเซ่ (Bhunivelze) - สิ่งมีชีวิตที่ทรงอิทธิฤทธิ์ที่สุดในจักรวาล มนุษย์นับถือดั่งพระเจ้า บูนิเบลเซ่เป็นผู้สร้างฟัลซิพัลส์ ฟัลซิลินด์เซย์ และฟัลซิเอโทรขึ้นมา

ฟัลซิ (Fal'Cie) - ศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการเรียกจักรกลอัจฉริยะ มากด้วยพลังและปัญญา แต่ไม่สามารถพัฒนาได้ บูนิเบลเซ่สร้างฟัลซิที่ทรงพลังที่สุดขึ้นมาแค่ 3 ตน คือพัลส์ ลินด์เซย์ เอโทร ส่วนฟัลซิอื่น ๆ นั้นคือสิ่งที่พัลส์และลินด์เซย์สร้างขึ้นมา

เป้าหมายของบูนิเบลเซ่ - บูนิเบลเซ่ต้องการหาทางเปิดประตูสู่โลกที่มองไม่เห็น (โลกหลังความตาย) เพื่อที่บูนิเบลเซ่จะเข้าไปสังหารมูอิน มารดาของตนที่อยู่ในโลกที่มองไม่เห็น ด้วยความเชื่อว่าตนถูกมูอินสาปให้มีอายุขัย หากสังหารมารดาทิ้งแล้วก็อาจจะทำให้ตนเองเป็นอมตะได้

พัลส์ (Pulse) - ถูกบูนิเบลเซ่มอบหมายให้ไปท่องจักรวาล ตามหา และหาทางเปิดประตูสู่โลกที่มองไม่เห็น, พัลส์พยายามทำด้วย 2 วิธีใหญ่ คือวิธีแรกหาทางสร้างมนุษย์ที่สามารถเปิดประตูขึ้นมาได้ขึ้นมา โดยเรียกมนุษย์ผู้นั้นว่าอากิโตะ และวิธีสองคือฟูมฟักมนุษย์บนดวงดาวต่าง ๆ ให้อุดมสมบูรณ์จนถึงขีดสุด แล้วให้ลินด์เซย์หาทางสังเวยชีวิตทั้งหมดบนดาวในคราวเดียว เพื่อให้วิญญาณมหาศาลทะลักเข้าไปยังประตูสู่โลกที่มองไม่เห็น ประตูจะได้เปิดอ้าออก

ลินด์เซย์ (Lindzei) - ถูกบูนิเบลเซ่มอบหมายให้คอยปกป้องบูนิเบลเซ่ และทำลายล้างศัตรู, แต่ลินด์เซย์ว่างจัด เลยไปช่วยพัลส์หาทางเปิดประตูสู่โลกที่มองไม่เห็นด้วย ซึ่งลินด์เซย์จะคอยสนับสนุนแผนสองของพัลส์


---------------------------------

Eternals

---------------------------------

อริเชม (Arishem) - ผู้นำของเผ่าพันธุ์เซเลสเชียล ผู้สร้างและควบคุมสมดุลของจักรวาล ในมุมมองของอริเชม จักรวาลคือลูปของการแลกเปลี่ยนรูปแบบพลังงานอันไม่มีที่สิ้นสุด จึงต้องมีการทำลาย สร้างใหม่ ให้กำเนิด และสูญสลาย เพื่อส่งต่อพลังงานไปเรื่อย ๆ จักรวาลจึงจะได้คงอยู่

ดีเวียน (Deviant) - สิ่งมีชีวิตที่อริเชมสร้างขึ้นมา สามารถพัฒนาได้

ภารกิจของดีเวียน - กำจัดเผ่าพันธุ์นักล่าในดวงดาวต่าง ๆ เพื่อให้สิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญา เจริญเติบโต และขยายพันธุ์ได้ง่ายขึ้น แต่อริเชมบอกว่าเกิดความผิดพลาดในแปลนการสร้างดีเวียน ทำให้ดีเวียนกลายเป็นผู้ล่าซะเอง

อีเทอนอล (Eternal) - จักรกลอัจฉริยะที่อริเชมสร้างขึ้นมา ในเรื่องบอกไว้ว่าอีเทอนอลไม่สามารถพัฒนาได้ แต่เราดูแล้วก็เห็นว่ามันพัฒนาได้... 

ภารกิจของอีเทอนอล - ปกป้องมนุษย์ในดาวต่าง ๆ ที่ตัวเองอาศัยอยู่จากดีเวียน โดยช่วยกันฆ่าล้างบางดีเวียนให้หมด เมื่อดีเวียนสูญพันธุ์แล้วอีเทอนอลก็จะใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ซึ่งหลายคนก็เข้าไปใช้ชีวิตอย่างกลมกลืนร่วมกับมนุษย์ จนเกิดความรักต่อมนุษยชาติขึ้นมา

เป้าหมายของอริเชม - อริเชมได้ส่งเมล็ดพันธุ์แห่งเซเลสเชียลไปยังดวงดาวต่าง ๆ ทั่วจักรวาล ซึ่งทุกประมาณ 1 พันล้านปี เซเลสเชียลตนใหม่จะถือกำเนิดขึ้นมา โดยการดูดกลืนพลังงานจากสิ่งมีชีวิตทั้งดวงดาวเข้าไป เซเลสเชียลจะทะลวงออกจากดวงดาวเหมือนลูกเจี๊ยบที่ทะลวงออกมาจากไข่ จากนั้นเซเลสเชียลตนใหม่ก็จะช่วยทำให้สมดุลการแลกเปลี่ยนพลังงานของจักรวาลคงอยู่ต่อไป เพื่อให้เซเลสเชียลถือกำเนิดขึ้นมาได้ อริเชมจึงต้องการทำให้ดาวต่าง ๆ อุดมสมบูรณ์ด้วยพลังงานชีวิต

สาเหตุที่อีเทอนอลไม่ขัดขวางธานอส - ในเรื่องอธิบายว่าอีเทอนอลมีกฎว่าจะไม่ยุ่งกับปัญหาของมนุษย์ รวมถึงเรื่องของธานอสด้วย มนุษย์ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรค ก้าวผ่าน และเติบโตด้วยตนเอง เพื่อจะได้พัฒนาขึ้นได้อย่างที่ควรจะเป็น ถ้าให้อีเทอนอลช่วย มนุษย์ก็จะไม่ได้เติบโตขึ้นอย่างแท้จริง, แต่อีเทอนอลก็ประทับใจมากว่ามนุษย์ใช้เวลาเพียง 5 ปี ก็แก้ปัญหาคนหายครึ่งจักรวาลกันเองได้

ผลจากการ Blip - มนุษย์ที่หายไปครึ่งโลกปรากฏตัวกลับมาพร้อมกัน เกิดแผ่นดินไหวไปทั่วโลก พลังงานเพิ่มพูนขึ้นมาก จนทำให้เมล็ดพันธุ์เซเลสเชียลของโลก ซึ่งเป็นเมล็ดของเทีตมัต (Tiamut) พร้อมจะถือกำเนิดขึ้นมา ส่งผลให้แกนกลางโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น และส่งผลต่อเนื่องให้พวกดีเวียนที่หลงเหลืออยู่ในธารนำแข็ง ตื่นขึ้นมาได้

เมื่ออีเทอนอลรู้ถึงเป้าหมายของอริเชม - บางคนเห็นด้วยกับอริเชม บางคนรักมนุษย์และไม่ยอมที่จะสูญเสียดาวดวงนี้ บางคนลอยตัว

การแก้ปัญหา - อีเทอนอลทุกคนที่เหลือรอด รวมพลังกันส่งพลังให้เซอร์ซี (Sersi) อีเทอนอลที่มีพลังในการแปรธาตุแบบเอ็ดเวิร์ด เอลริค (Edward Elric) ซึ่งเดินเซอร์ซีทำได้เพียงแปรธาตุของสิ่งไม่มีชีวิต แต่ภายหลังเธอแปรธาตุสิ่งมีชีวิตได้ด้วย แล้วก็แปรเทียมัตที่กำลังจะเกิดขึ้นมาให้กลายเป็นหินอ่อนไป (ผมติดใจที่เซอร์ซีบอกว่า ตอนที่เธอทำนั้น เธอได้รับพลังจากเทียมัตเองมาด้วย)

Ebony Blade - ดาบเวทมนต์ที่ว่ากันว่าตัดได้ทุกอย่าง ทำให้ผู้ถือครองเป็นอมตะ (อย่างกับ Ten Rings) ป้องกันเวทย์ได้ แต่ผู้ถือครองจะต้องสาปให้กระหายความรุนแรงเลือดสาดและตายไป ดาบเล่มนี้ปรากฏใน Post-Credit 2, ในเรื่องตอนที่กลับยานโดโม ธีนาหยิบดาบเล่มหนึ่งขึ้นมา สไปรต์ถามว่าใช่ Eboby Blade รึเปล่า? แต่ธีนาบอกว่าที่เธอถืออยู่คือ Excalibur


---------------------------------

เปรียบเทียบ

---------------------------------

- อริเชม มีสถานะเทียบเคียง บูนิเบลเซ่

- อีเทอนอล มีสถานะใกล้เคียง ฟัลซิ แตก็แตกต่างกันตรงที่ฟิลซิทำตามโปรแกรมที่ถูกตั้งมาอย่างเคร่งครัด ขณะที่อีเทอนอลแอบแหกกฎได้ และถึงแม้จะบอกว่ามันพัฒนาไม่ได้ แต่ทำไปทำมา มันก็พัฒนาตนเองได้

- ฟัลซิพัลส์ ฟูมฟักดวงดาวให้อุดมสมบูรณ์ แล้วปล่อยให้ฟัลซิลินด์เซย์ มาคร่าชีวิตทั้งดวงดาวทิ้งในคราวเดียว

ก็คล้ายกับการที่อีเทอนอลคอยฟูมฟักมนุษย์บนดาวจนพลังงานเต็มเปี่ยม พอเซเลสเชียลถือกำเนิดขึ้นมาบนดาวนั้น ดาวก็บึ้มโบ๊ะไป

- Eternals จึงเหมือน Final Fantasy XIII ในสภาพ What if ว่าหากว่าฟัลซิทั้งหมดบนดาวพัลส์และโคคูน รับรู้ถึงเป้าหมายของบูนิเบลเซ่แล้ว... พวกเขาแต่ละตนจะทำอย่างไรต่อ? ....ทว่าเราก็คงคาดเดาได้ว่า ด้วยสภาพฟัลซิที่ค่อนข้างทำตามโปรแกรม คิดนอกกรอบได้น้อย มันก็คงก้มหน้าทำตามโปรแกรมหง่ก ๆ ไปนั่นแหละ


---------------------------------

รีวิว Eternals แบบตามใจฉัน

---------------------------------

- พล็อตน่าสนใจกว่า Fabula Novacrystallis และความคิดของอริเชมที่ต้องการรักษาสมดุลจักรวาล ก็เมคเซนส์กว่าการที่บูนิเบลเซ่เข้าใจผิดไปเองว่าตนถูกแม่สาปให้มีอายุขัย

- การแบ่งสิ่งที่อริเชมสร้างเป็นดีเวียนกับอีเทอนอล มีความแตกต่างชัดเจน และน่าสนใจกว่าการแบ่งสายพัลซิพัลส์-ลินด์เซย์ใน Fabula Novacrystallis ที่คุณสมบัติแทบไม่ต่างกัน

- อีเทอนอล ถึงจะถูกกำหนดว่าโดนโปรแกรมมาแล้ว พัฒนาไม่ได้... แต่เท่าที่เห็นคือมันเล่นใหญ่ ไปไกลแล้ว

- เซอร์ซี (Sersi) ยิ่งดูยิ่งสวยมีสเน่ห์ เป็นนางเอกแบบนางเอ๊กนางเอก

- ธีนา (Thena) สง่างาม แข็งแกร่ง มีจุดอ่อนที่น่าสนใจมาก จุดอ่อนบวกกับความแข็งแกร่งของเธอ ทำให้ตัวละครนี้สามารถทำอะไรที่คาดไม่ถึงออกมาได้ตลอดเวลา บทของเธอยังนำมาใช้ได้อีกไกล

- ฟาสโตส (Phastos) ตัวละคร LGBTQ ที่น่ารัก อบอุ่น อัจฉริยะ ดูน่าอยู่ด้วยมาก

- สไปรต์ (Sprite) อีเทอนอลที่มีปมจากการถูกสร้างร่างกายให้เป็นเด็ก ทำให้ไม่เคยได้รับการปฏิบัติในแบบของผู้ใหญ่เลย

- ดรูอิค (Druig) รักมนุษย์ เกลียดความขัดแย้ง เป็นคนแรกที่แหกกฎของอีเทอนอล ด้วยการใช้พลังจิตเข้าไปแทรกแซงยับยั้งความขัดแย้งของมนุษย์ ตอนชั่วโมงแรกผมค่อนข้างไม่ชอบความเอาแต่ใจของดรูอิคมาก แต่พอดูไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งรักเขาขึ้น และพบว่านี่แหละคือคนที่คิดนอกกรอบได้คนแรก และเลือกที่จะอยู่ข้างมนุษย์มาโดยตลอด คน ๆ นี้ทำให้นึกถึงคิตานิจิ เมกุมิ (Subarashiki Kono Sekai)

- มัคคารี (Makkari) อีเทอนอลที่ไม่ได้ยินเสียง แต่มีประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยม รับรู้ทุกอย่างด้วยการแปลความจากการสั่นสะเทือนของสิ่งต่าง ๆ เธอมีความเร็วกว่าแสง และมีความร่าเริงอยู่เสมอ

- คิงโก (Kingo) อีเทอนอลที่ผันตัวไปเป็นดาราบอลลีวูด แสดงเป็นพระเอกมากว่า 500 ปี โดยอ้างว่ารุ่นก่อน ๆ นั้นเป็นพ่อ ทวด โคตรเหง้ารุ่นก่อน ๆ ของเขาบ้าง ทั้งที่เป็นตัวเองแสดงทั้งหมดเลย

- การุณ (Karun) ตากล้องลูกกระจ๊อกที่ตามช่วยเหลือคิงโกมากว่า 50 ปี


---------------------------------

MVP ของเรื่อง

---------------------------------

- ให้คู่กันเลยทั้งการุณ (ตลกฉิบหายยย) และดรูอิค

ไม่มีความคิดเห็น