บทสัมภาษณ์แก็ง 3 โน...ว่าด้วยเรื่องของ AC

แฟมิซือได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ใหม่ล่าสุดของแก็ง 3 โนประจำ Square Enix ลงในเว็บไซต์ของตนแล้ว โดยเนื้อหาในบทสัมภาษณ์นั้นจะเจาะลึกไปที่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหนัง Advent Children Complete ซึ่งในที่นี้ 3 เทพประจำค่าย Square Enix อย่าง เท็ตสึยะ โนมุระ, คาสึชิเงะ โนจิม่า และทาเคชิ โนซึเอะ จะมาช่วยชี้แจงแถลงไขให้แฟนๆ ทุกคนได้ฟัง

เนื้อหาในบทสัมภาษณ์ดังกล่าวมีใจความที่คล้ายกับเนื้อหาที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสารแฟมิซือเมื่อสัปดาห์ก่อน ในที่นี้จะขอสรุปเฉพาะข้อมูลใหม่ๆ มาให้อ่านกัน ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวมีดังนี้


โนจิม่า :
 ในตอนที่กำลังสร้าง FF7 อยู่นั้น ผมมักคิดว่าเด็กและคนแก่น่ะมีความใกล้ชิดกับ "ไลฟ์สตรีม" มากที่สุด (ชีวิตที่ไหลเวียนอยู่บนดวงดาว เด็กก็คือผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สตรีมมาจนถึงไม่นานนี้ ขณะที่คนแก่คือคนที่ในไม่ช้าก็จะกลับคืนสู่ไลฟ์สตรีม เพราะเหตุนี้เอง ผมจึงอยากจะเขียนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวพวกเด็กๆ ในช่วงของ FF7AC ผมเองไม่มีโอกาสใส่เรื่องเหล่านี้ลงไปใน FF7 ทว่าท้ายที่สุดความหวังของผมก็เป็นจริงในครานี้

แฟมิซือ : ดูเหมือนเด็กจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรอยปานดวงดาวมากที่สุด นั่นเป็นเพราะว่าเขามีความใกล้ชิดกับดวงดาวมากที่สุดจนกระทั่งไม่นานมานี้เหรอครับ?

โนจิม่า : อื้อ ความรู้สึกอย่างความสุขและความหวาดกลัว มีผลกระทบต่อเด็กมากกว่าตอนที่พวกเขาโตขึ้น เช่น...ผมมั่นใจว่าตอนที่พวกเขาเห็นวิกฤตเมเทโอที่เกิดขึ้นในช่วง FF7 พวกเขาก็คงจะช็อคกันมาก ก่อนที่พวกเขาจะได้ฟื้นตัว รอยปานดวงดาวก็ได้แทรกซึมเข้าไปสู่พวกเขาแล้ว นั่นแหละคือภาพที่ผมอยากพรรณนาให้เห็น

แฟมิซือ : ขณะที่คุณกำลังเขียนบทนี่คุณมีทิศทางที่ชัดเจนรึเปล่าว่าจะบรรยายรอยปานดวงให้ออกมาในแนวไหน?

โนจิม่า : พวกเราอยากจะพรรณนาว่ามันเป็นอะไรบางอย่างที่คุณไม่สามารถเยียวยาหรือกำจัดมันออกไปได้ มันเหมือนสะเก็ดแผล ขณะที่ทำ FF7AC กันอยู่ พวกเรากลับรู้สึกว่าอิมเมจแบบนั้นมันออกจะรุนแรงไปหน่อย เลยพยายามลดเอฟเฟคของมันลงมา ส่วน ACC นี่แหละที่ใกล้เคียงกับภาพลักษณ์ที่แท้จริงของรอยปานดวงดาวที่เราอยากจะบรรยาย

โนซึเอะ : เดิมทีพวกเราได้รับบัญชามาว่าอย่าทำให้รอยปานดวงดาวดูน่าขยะแขยงเกินไปนัก แต่หลังจากสร้าง FF7AC เสร็จ พอได้สร้าง ACC เราก็ได้กำหนดรูปแบบของรอยปานดวงดาวใหม่ ด้วยการแสดงให้เห็นถึงส่วนที่ผู้คนคงไม่อยากที่จะได้เห็นกัน หลังจากการพูดคุยกับคุณโนมุระ พวกเราก็ตัดสินใจที่จะทำให้มันดูสมจริงมากขึ้น ระหว่างการพัฒนาเราก็อยากรู้ว่าเราจะสามารถพรรณนาอะไรบางอย่างที่ร้ายแรงเหมือนกับการกระอักเลือดได้รึเปล่า

โนมุระ : การพรรณนาภาพแบบนั้นค่อนข้างยากซักนิดเมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกเราเคยทำมาจนถึงตอนนี้ แต่หลังจากที่ได้ทำ Crisis Core มา พวกเราได้รู้ว่าความรู้สึกเจ็บปวดที่แท้จริง มันจะมาพร้อมกับการพรรณาให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด

แฟมิซือ : ฉากที่เรโนเลือดกำเดาออกนี่ ดูฮาใช้ได้เลย

โนซึเอะ : นั่นน่ะไอเดียของคุณโนมุระเลยครับ

โนมุระ : ผมบอกให้ใส่เลือดมากขึ้นก็จริง แต่ได้บอกให้ใส่เลือดกำเดาลงไปด้วยเหรอ? <<< =_=' ตัวการฉากฆาตกรรมค้าว

โนซึเอะ : สตาฟฟ์ที่รับผิดชอบการโมเดลลิ่งเป็นคนเพิ่มลงไปเพื่อแสดงให้เห็นถึงการบาดเจ็บที่เรโนได้รับน่ะครับ แต่เราก็ได้เอาเลือดกำเดาออกไปในในฉากหลังๆ แล้วนะ

โนมุระ : ในตอนแรกก็กะให้เลือดกำเดาของเรโนมันไหลย้อยไปตลอดเรื่องแบบนั้นแหละครับ แต่ฉากหลายๆ ฉากมันจะกลายเป็นหนังตลกแทน สุดท้ายเราเลยต้องเอาออกไป ผมกลัวคนจะพูดกันว่า "เมื่อไหร่เลือดจะหยุดไหลจากจมูกมันซะทีเนี่ย?" แต่เมื่อเราเอาเลือดกำเดาออกไป ฉากตลกเหล่านั้นกลายเป็นฉากธรรมดาในพริบตา ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าจริงๆ แล้วผมควรจะปล่อยมันไว้แบบนั้นดีรึเปล่า

แฟมิซือ : บอกหน่อยสิว่ามีอะไรที่คุณชื่นชอบหรือน่าจดจำใน ACC

โนซึเอะ : ผมเคยสงสัยว่าผมควรใส่เลือดลงไปในงานซักแค่ไหน ผมเลยเอาภาพ CGI ที่เป็นรูปคลาวด์ยืนโชกเลือดไปถามคุณโนมุระ และพูดว่า "ผมใส่เลือดมากขนาดนี้ได้มั้ย?"

โนมุระ : ส่วนที่ผมชอบที่สุดคือฉากสุดท้าย ซึ่งผมเปิดเผยมากไม่ได้ แต่โดยรวมแล้วฉากที่เดนเซลหวดแท่นน้ำก็โดนใจผมนะ

โนจิม่า : ผมเองก็ชอบฉากนั้นเช่นกัน ในบทเดิมนั้นเราให้เขาแสดงออกในรูปแบบอื่น ผมจึงแปลกใจมากที่มันกลายมาเป็่นเช่นนี้  มันเป็นสิ่งที่แสดงการตัดสินใจอย่างแน่วแน่ของเดนเซล....คล้ายกับไอเดียของผมที่ว่า "พยายามให้ถึงที่สุด" ซึ่งมันก็ดูไม่รุนแรงเท่ากับไอเดียทีคุณโนซึเอะคิดไว้นะ (ยิ้ม)

โนซึเอะ : ผมสร้างฉากนั้นตามคำขอของคุณโนมุระ เขาอยากให้เดนเซลใช้อะไรบางอย่างที่เขาพอจะใช้ได้ในสถานการณ์เช่นนั้น

โนจิม่า : อีกฉากก็คงเป็นฉากที่น้องม๊อคแบกน้องชายของตนเองไว้บนหลัง มันเป็นฉากที่เราคิดจะเพิ่มลงไปในบทตั้งแต่ช่วงแรกๆ (ของการทำ ACC) เลยล่ะ จากนั้นไม่นานเหล่าสตาฟฟ์ก็มาบอกผมว่า "เราทำถึงขนาดนี้เลยนะเนี่ย" แล้วก็โชว์ฉากที่ว่าให้ผมดู ซึ่งก็ประทับใจผมไม่น้อย

โนซึเอะ : เราถามว่า "เอาถึงแบบนั้นเลยดีมั้ย?" ตอนที่ผมอ่านบท ภาพไอเดียของฉากนั้นก็ปรากฏขึ้นมาในหัวผมทันที ซึ่งผมก็รู้สึกช็อคเล็กๆ และคิดว่า "โหวว คุณโนจิม่าคิดจะทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ" (ยิ้ม)

(แสดงว่าทีมงานเองก็รู้ว่าทำไปแล้วมันจะคริติคอลคนดูหลายคน โดยเฉพาะผม 555+)

โนจิม่า : ขนาดตอนอัดเสียงก็ยังมีคนมาถามเล้ยยย (ยิ้ม) น้องม็อคเองก็เป็นที่ชื่นชอบของผมนะ แม้ว่าจะภายในบทจะไม่ได้เขียนถึงการปรากฏตัวของเธอก็เหอะ ดังนั้นตอนที่ผมเห็นเธอครั้งแรก (ตอนทำ AC) ผมจึงแปลกใจมาก  นอกจากนี้ผมยังสงสัยว่าทำไมเธอถึงต้องถือตุ๊กตาม๊อคไว้ตลอดเวลา แล้วยังอะไรอื่นๆ ของเธอก็สะกดตาสะกดใจผมมาก

(แสดงว่าตอนแรกเธอไม่ใช่ตัวละครที่มีอยู่ในบท เป็นแค่ตัวประกอบธรรมดาๆ ที่ตั้งใจเรนเดอร์ขึ้นมาให้มีจุดเด่น แต่พอใช้ซ้ำๆ หลายครั้งก็ติดตาคน พอรู้ว่าเสียงตอบรับดี เธอเลยกลายเป็นตัวละครหลักตัวหนึ่งใน ACC แล้วก็มีการเขียนบทให้เธอเยอะแยะ)

โนซึเอะ : งั้นทำไมเธอถึงต้องถือตุ๊กตาม๊อคด้วยล่ะ?

โนมุระ : เป็นคำขอของพวกสตาฟฟ์มั้ง? ก็เป็นตุ๊กตาตัวเดียวกับที่ลูลู่ถือไว้ใน FFX น่ะแหละ ผมจำได้ว่ามีใครซักคนมาขออนุญาตผมเรื่องที่จะใส่ตุ๊กตาเข้าไปในฉากนะ

โนจิม่า : เป็นประสบการณ์ที่ดีนะ ที่ได้เห็นบทที่คุณคิดกลายมาเป็นหนังจริงๆ

แฟมิซือ : ยังมีความลับอื่นๆ ของ ACC อีกมั้ยที่อยากจะเล่าสู่กันฟัง?

โนซึเอะ : ผมมีเยอะเลยแหละครับ เสียงเรียกร้องจากแฟนๆ ได้ถูกตอบรับในฉากที่มีการแก้ไขใหม่แล้ว ดังนั้นพวกเราจึงอยากให้คุณๆ ไปค้นหากัน ถ้าให้ผมยกตัวอย่างก็คงเช่น ฉากการล่มสลายของชินระ ซึ่งเป็นภาพในความทรงจำของเดนเซล ก็เป็นอะไรที่มีการการพูดถึงในนิยายไปแล้ว

โนจิม่า : ความลับเหรอ....ผมว่าทุกคนน่าจะชอบบฉากหลังชนหลังกันนะ (ยิ้ม) ตอนที่แอริธปรากฏตัวครั้งแรกเธอได้ยืนแบบหลังชนหลังกับคลาวด์ ตอนแรกเรากะว่าจะให้เธอนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของคลาวด์ด้วยซ้ำ

โนมุระ : เพราะเสื้อผ้าของแอริธน่ะครับ เราเลยไม่สามารถให้เธอนั่งขี่ซ้อนหลังได้  ขณะที่รูปลักษณ์ของเฟนริลมันก็ไม่เอื้อให้เธอนั่งแบบหันข้างได้เช่นกัน ดังนั้นเราก็เลยเปลี่ยนแปลงฉากนั้นเสียใหม่ กลายเป็นไปโผล่ในอีกที่หนึ่งที่ไม่ใช่บนมอเตอร์ไซค์ไปเลย ฟังแล้วเหมือนกำลังอ่านนิยายสยองขวัญอยู่เลยเนอะ (ยิ้ม)

โนจิม่า : ด้วยเหตุนี้ผมก็เลยคิดว่าทุกคนน่าจะชอบฉากหลังชนหลังกันน่ะแหละครับ

ทุกคน : ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะพร้อมกัน) 

ป.ล. คำว่า "มาเล่นกันเถอะ" ของรอส...มาจากคำพูดที่ลูกชายวัย 2 ขวบของคุณโนจิม่าชอบพูด

ที่มา : FamitsuTheLifestream

ไม่มีความคิดเห็น