สัมภาษณ์ล่าสุด Dissidia 012 จากนิตยสารแฟมิซือ

นิตยสารแฟมิซือฉบับประจำสัปดาห์ล่าสุดได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์คุณมิซึนาริ ทาคาฮาชิ และคุณเท็ตสึยะ โนมุระ สองแกนนำคนสำคัญซึ่งเป็นผู้สร้าง Dissidia 012 -Final Fantasy- ขึ้นมา เราลองไปดูกันดีกว่าว่าทั้งสองได้กล่าวถึงภาคต่อของซีรียส์นี้ว่าอย่างไรบ้าง

เริ่มแรกเลย คุณโนมุระได้กล่าวนำก่อนว่า "ตั้งแต่ที่ทำ Dissidia เสร็จ ผมก็พบว่าเกมระดับนี้สมควรจะได้รับการขัดเกลาเสริมแต่ง ดังนั้นเราจะมาจบแค่ตรงนี้ไม่ได้ การสร้างเกมต่อไปให้สนุกยิ่งขึ้นต่างหากคืองานของเรา"

คุณทาคาฮาชิเริ่มกล่าวบ้างว่า "ภาคก่อนหน้านี้ถือเป็นของขวัญให้กับแฟนๆ ในวาระครบรอบ 20 ปีซีรียส์ ดังนั้นเราจะยังรักษาบรรยากาศงานฉลิมฉลองแบบนั้นไว้ แล้วเรายังเปิดใจรับฟังเสียงของผู้เล่นในวงกว้างขึ้น เราพยายามตอบสนองเสียงเรียกร้องของแฟนๆ กลุ่มเดิม รวมทั้งแฟนๆ ที่ไม่ได้เล่นภาคก่อนหน้านี้ด้วย เราพยายามวิเคราะห์ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่สนใจ และพยายามสร้างเกมใหม่ที่ถูกใจพวกเขามากขึ้น สำหรับแฟนของซีรียส์นี้ เราพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะรักษาสมดุลระหว่างการต่อยอดในฐานะของภาคต่อ กับการสร้างองค์ประกอบใหม่ๆ ที่จะมาปฏิวัติเกมเพลย์ มันมีองค์ประกอบใหม่ๆ มากมายนอกไปจากองค์ประกอบที่เพิ่มเข้าไปในระบบต่อสู้ ในมุมมองของเรานั้น...ยังยากที่จะประเมินว่าตัวเกมจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ลองเล่นมันดูครับ เราหวังว่าพวกคุณจะได้พูดกับตัวเองว่า นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ"

เมื่อทางแฟมิซือได้ถามถึงเรื่องของตัวละครใหม่ที่จะมาปรากฏตัวเพิ่มในภาคนี้ ทำไมถึงต้องเป็นไลท์นิ่งและไคน์? คุณโนมุระก็ได้ตอบว่า "ไคน์เป็นตัวละครที่ผมวาดฝันว่าจะเอามาใช้ในภาคต่อมาโดยตลอด หากมีโอกาสได้ทำนะครับ สำหรับเกมอย่าง Dissidia เนี่ย การกระโดดนั้นมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งเลย ผมเองก็อยากจะเห็นว่าทักษะการกระโดดของอัศวินมังกรนั้นจะนำมาใช้ได้ดีแค่ไหน นั่นเป็นข้อเรียกร้องเดียวจริงๆ ที่ผมมีต่อไคน์ ส่วนที่เหลือนั้นผมปล่อยให้คุณทาคาฮาชิเป็นคนจัดการครับ"

ถึงตรงนี้คุณทาคาฮาชิก็พูดเสริมบ้างว่า "เวลาพูดถึงอัศวินมังกรอย่างไคน์ คุณย่อมนึกถึงการปะทะกันกลางอากาศ การเคลื่อนไปมาบนฟ้า และอยู่เหนือตัวศัตรูขึ้นไป นั่นคือข้อได้เปรียบที่เขาหยิบฉวยไปได้ นอกจากนี้ไคน์ยังมีความสามารถแปลกๆ อย่างหนึ่งก็คือเขาสามารถในการอุดช่องว่างของตัวเองหลังจากที่โจมตีเบรฟออกไปได้ การกดสามเหลี่ยมหลังจากที่อัดศัตรูกระเด็นออกไปแล้ว จะทำให้ไคน์พุ่งตัวตามไปแล้วสามารถโจมตีต่อไปได้เลย ตำแหน่งการยืนจึงถือเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้ของเขา ดังนั้นยิ่งคุณเข้าใจในฉากและสิ่งกีดขวางในฉากมาเท่าไหร่ คุณก็จะใช้เขาสู้ได้ดีเท่านั้น"

"เมื่อพูดถึงไลท์นิ่งแล้ว เราจะลืมระบบ Optima ไปไม่ได้เลยบ ในช่วงแรกๆ นั้นการคิดว่าจะเอาระบบนี้มาใช้ใน Dissidia อย่างไร ได้สร้างความปวดหัวให้กับพวกเรามาก ครั้งหนึ่งเราเคยคิดจะให้เธอใช้การต่อสู้แบบอื่นไปเลย แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจว่าเราจะเอาตัวละครจาก Final Fantasy XIII มาใช้โดยที่ไม่ใส่ระบบ Optima ลงไปไม่ได้ ดังนั้นเราจึงให้เธอสู้โดยสามารถเปลี่ยนโรลไปมาระหว่าง Attacker, Blaster และ Healer แล้วการโจมตีเบรฟของเธอก็จะเปลี่ยนแปลงไปมาตามโรล ดังนั้นเธอจึงสามารถเปลี่ยนสไตล์การต่อสู้กลับไปกลับมาได้อย่างรวดเร็ว"

ทางแฟมิซือถามต่อไปว่า ตัวละครใหม่ๆ ที่จะปรากฏตัวใน Dissidia 012 คงไม่ได้มีแค่นี้ใช่มั้ย? ตรงนี้คุณโนมุระก็ตอบว่า "เราไม่ได้คิดจะเพิ่มตัวละครเป็นสองเท่า และก็ไม่ได้จะดึงตัวละครมาเพิ่มภาคละตัวด้วยครับ แต่ว่าเราก็ไม่ได้กะจะเพิ่มตัวละครใหม่แค่ 3-4 ตัวเช่นกัน ยังมีตัวละครใหม่อื่นๆ อีก แต่เราก็ติดข้อจำกัดในเรื่องเนื้อที่ของ UMD ดังนั้นเราเลยยังระบุจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ครับ"

ด้านคุณทาคาฮาชิก็เสริมว่า "ตัวละครทั้งหมดในภาคก่อนก็ยังอยู่ครบนะครับ ไม่มีตัวละครไหนเลยที่เราไม่ได้ปรับแต่งสมดุลให้ แทบทุกตัวต่างมีท่าใหม่ด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะฟรีโอนีลเนี่ย เรียกได้ว่าจะได้มาเกิดใหม่ในภาคนี้เลย เสียงตอบรับจากเกมเมอร์มากมายที่เราได้รับมา จะสะท้อนให้เห็นกันในเกมนี้แหละครับ"

คุณโนมุระและคุณทาคาฮาชิ ยังคงกั๊กไม่ยอมบอกเรื่องรายละเอียดของระบบเกมเพลย์ใหม่ให้ทางแฟมิซือได้รับฟังอยู่ดี พวกเขาเอาแต่บอกว่าให้ไปทดลองเล่นเดโมในงาน TGS ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามคุณทาคาฮาชิก็ยังเปิดเผยให้ฟังว่า "คุณจะสามารถอิมพอร์ทเซฟจากภาคก่อนมาใช้ได้ แต่ในตอนนี้เรายังพูดอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวข้องกับระบบเกมเพลย์ใหม่ที่เรายังไม่เปิดเผยครับ เราไม่อยากให้เกมเมอร์ที่เคยเล่นเกมภาคก่อนคิดว่าพวกเขาจะได้สัมผัสอารมณ์การเล่นแบบเดิม เกมนี้จะให้ความสนุกในรูปแบบใหม่ ดังนั้นมันจึงมีทั้งส่วนที่คุณอิมพอร์ทมาได้และไม่ได้ ส่วนจะอิมพอร์ทมาได้มากแค่ไหนนั้น ก็เป็นเรื่องที่เรากำลังประเมินกันอยู่ครับ"

ที่มา : Famitsu, 1up

ไม่มีความคิดเห็น