สรุปข้อมูลชุดสามจากหนังสือ Kingdom Hearts III Ultimania


คุณ Lune ผู้ใช้ทวีตภพรายหนึ่ง ได้แปลบทสัมภาษณ์ 6 หน้าของ เท็ตสึยะ โนมุระ ที่อยู่ในคอลัมน์ท้ายหนังสือ Kingdom Hearts III Ultimania ที่พึ่งวางจำหน่ายวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ตัวเนื้อหาในบทสัมภาษณ์นั้นทางผมได้หยิบยกมาเล่าตลอด 5 วันทีผ่านมา เป็นท่อน ๆ ไปแทบจะครบหมดแล้ว แต่เดี๋ยวจะตามเก็บงานด้วยการแปลแบบ word by word ทั้งบทสัมภาษณ์ให้สมบูรณ์ใหม่อีกทีนึง แบบเดียวกับที่ทำกับบทสัมภาษณ์ของคุณโนมุระใน KH Ultimania เล่มที่ผ่าน ๆ มา

ใครที่อยากจะไปอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มที่คุณ Lune แปลมา ก็เข้าไปอ่านได้ในลิงก์เลย

ส่วนด้านล่างนี้ ผมขอ recap ประเด็นที่ผมยังไม่เคยไว้ หรือเรื่องที่เคยโพสต์แล้วแต่อยากขยายความนะครับ

------------------------------------------

- คุณโนมุระบอกว่าเริ่มคิดคอนเซปต์ภาคนี้ตั้งแต่ที่ KH2 เสร็จ แต่การสร้างเกมจริง ๆ นั้นมาเริ่มหลัง PS4 วางจำหน่ายไปแล้ว ดังนั้น ข่าวลือที่ว่าเดิมทีเกมนี้ตั้งใจวางจำหน่ายบน PS3 จึงไม่เป็นความจริงสักนิด

- ที่จริงตอนทำ KH ภาคเสริม คุณโนมุระเคยขอให้อุทาดะ ฮิคารุ ร้องเพลงประกอบให้ใหม่ แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ โชคดีที่ในภาค 3 นี้ก็ขอไปอีก แล้วคุณอุทาดะ ก็ได้กรุณาร้องเพลงใหม่ให้ คุณโนมุระคิดว่าคงเป็นเพราะข้อความจากแฟน ๆ ทั่วทุกซอกมุมโลก ที่ช่วยกันส่งไปขอร้องคุณอุทาดะแน่เลย

- โครงเรื่องรวม ๆ ของตำนานผู้แสวงหาความมืด มาคิดเอาตอนสร้าง KH2

- ผู้สัมภาษณ์ถามว่า เรื่องที่อันเซมใน KH1 เป็นตัวปลอมนั้น เป็นเรื่องที่คิดไว้แต่แรก หรือว่ามา retcon เอาในภาค 2? คุณโนมุระตอบเลี่ยง ๆ ว่าในเนื้อเรื่องของ KH1 กระทั่งเขายังคิดว่าอันเซมเรียกตัวเองว่าจอมปราชญ์ (เก็นฉะ) แต่อันเซมเป็นเหมือนตัวร้ายไม่ใช่เหรอ? (หัวเราะ) ด้วยความรู้สึกนั้น ก็เลยเกิดเป็นเหตุการณ์ใน KH2 ขึ้นมา (สรุปว่ามา retcon เอาทีหลังนั่นแหละ)

- เรื่องซิกบาร์ คุณโนมุระบอกว่าตอนทำ KH2 แกแค่อยากโชว์ว่าหมอนี่มีบทบาทพิเศษ เลยให้แสดงออกด้วยท่าทางมีพิรุธ แค่นั้น... แต่เมื่อได้ยินคุณโอสึกะมาพากย์เสียงให้ซิกบาร์ ก็เกิดความคิดขึ้นมาว่าตาลุงนี่ต้องไม่ใช่ขี้ ๆ แต่มีความลับซ่อนอยู่ข้างใน แล้วพล็อตใหม่ (ตัวตนที่แท้จริงของซิกบาร์) ก็เลยเกิดขึ้นจากตอนนั้น บางครั้งเขาก็ได้แรงบันดาลใจจากตัวนักพากย์

- ตอนเขียนเนื้อเรื่อง ช่วงสุสานคีย์เบลดเขียนยากสุด คือถ้าเจาะแต่ละตัวมากเกินไป จังหวะจะโคนของเหตุการณ์ก็จะดำเนินไปอย่างเชื่องช้า แล้วยังต้องให้โซระมีส่วนในการต่อสู้ทั้งหมดด้วย เขาอยากให้ตัวละครทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกัน ได้ต่อสู้กัน และสะสางเรื่องราวระหว่างกันทั้งหมดให้จบสิ้น แต่ก็กังวลว่าจะทำยังไงไม่ให้มันยาวเกินไป ถ้าให้สู้กับศัตรูแค่ไม่กี่ตัว แล้วที่เหลือเล่าด้วยคัตซีนหมด แบบนั้นก็คงไม่สาแก่ใจ หลังจากกังวลอยู่นาน ก็ตั้งใจทำ พยายามรักษาจังหวะของเรื่อง แล้วก็นำเสนอออกมาอย่างที่เห็น

- Final World (Owari no Sekai) เป็นสถานที่ซึ่งอยู่ถัดจากความตายแค่นิดเดียว สถานที่นี้เชื่อมโยงไปยังสถานี (ใช้คันจิ 園 ตัวนี้นะ ไม่แน่ใจว่าแปลถูกมั้ย) แห่งการตื่นขึ้น  ซึ่งสถานที่ว่าก็คือมิติมืดที่มีสเตนกลาสอยู่ตรงกลาง ซึ่งแสดงภาพภายในหัวใจของบุคคล ในเกมนี้บอกว่าการหลับใหลกับความตายนั้นเกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิด ดังนั้น เมื่อหัวใจของใครเข้าสู่สภาพหลับใหล และมาปรากฏที่สถานีแห่งการตื่น ถ้าเดินทางไปจากที่นี่ ก็จะมาถึง Final World ได้เหมือนกัน (แปลว่า ความตาย <-> Final World <-> Destati เชื่อมต่อกันเป็นลำดับ)

- มีตัวละครปรากฏในเนื้อเรื่องหลักเยอะแล้ว แต่ไม่เหลือที่ให้ตัวละครจาก FF อันที่จริงมีสร้างโมเดลเลออน และคนอื่น ๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว และยังมีแฟรีก็อดมาเธอจากเรื่องซินเดอเรลล่า ที่สร้างมาแล้วสุดท้ายไม่ได้ใช้ ซึ่งก็ทำให้ทีมงานบางส่วนโกรธเหมือนกัน

- หลังจากโซระหายตัวไปในตอนจบ ก็มาถึงโลกที่อยู่ในฉากจบลับทันที

- เมื่อถามว่าโลกที่โซระเข้าไปอยู่ คือโลก Subarashiki Kono Sekai (The World Ends with You) ใช่มั้ย? คุณโนมุระบอกว่าถึงจะเห็นแบบนั้น แต่ชิบุยะนี้ (渋谷) ไม่ใช่ชิบุยะ ( シブヤ) ของ Subarashiki Kono Sekai และถึงแม้โซระจะสัญญากับเนกุว่าไว้เจอกันที่ชิบุยะ ( シブヤ) แต่ในคลิปนี้มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น

- ส่วนในสถานที่ซึ่งริคุไป คนที่มองลงมาจากด้านบนตึกคือโยโซระ ริคุไปถึงโลก Verum Rex และถึงแม้ว่าจะมีคนบอกว่ามันเหมือนกับเกมที่คุณโนมุระเคยวางแผนไว้แต่แท้งไป ถึงแม้จะดูทับซ้อนกัน แต่แกขอเถียงขาดใจว่าไม่ใช่ เป็นคนละอย่างกันโดยสิ้นเชิง ย้ำอีกรอบว่าคนละอย่าง~

- คนที่มือเป็นรูปหัวใจส่องไปยังดวงจันทร์ ก็คือ Master of Master คุณโนมุระบอกเป็นคนเดียวที่ใส่ชุดแบบนั้นแล้วยังกล้าทำท่าขบขันได้

- แกบอกว่าแทนที่จะแบ่งขาย DLC เป็นส่วน ๆ แผนตอนนี้คือรวมทั้งหมด แพ็คขายเป็นอันหนึ่งอันเดียว

- ผู้สัมภาษณ์ถามว่าไม่ออก Final Mix เหรอ? คุณโนมุระบอกว่าตอนนี้ไม่มีแผนปั๊มแผ่น Final Mix แยกขายต่างหาก ถ้าจะทำ Final Mix ก็จะทำในรูปของ DLC ที่รวมโหมดภาษาอังกฤษเข้าไปด้วย (ปกติ Final Mix ของซีรีส์นี้ จะมีเสียงภาษาอังกฤษ)

- จากที่เรียกร้องกันมาเยอะว่าอยากสู้กับศัตรูเก่งที่ขึ้น ก็เลยจะออก Critical Mode เป็น Free DLC, แต่ศัตรูโหด ๆ นั้นไว้ไปโผล่ใน DLC Final Mix แบบเสียเงินนะจ้ะ (บรรทัดนี้เป็นครั้งแรกที่แกเรียก DLC แบบเสียเงินที่ว่านั่นว่า Final Mix ดังนั้นก็ไม่น่าใช้ชื่ออื่นแล้ว)

- ตอนนี้แกต้องทำ DLC และเกมอื่น ๆ อีก รู้สึกอยากรีบจบ แล้วไปทำเกมถัดไปมาก ทั้งที่เสร็จ KH3 แล้วแต่ก็ไม่ได้พักเลย สำหรับเรื่อง KH ภาคถัดไป ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรอย่างเป็นทางการ ตอนนี้สิ่งสำคัญสุดคือทำ DLC KH3 ให้เสร็จ แล้วอัปเดตใหญ่ของ KHUχ ก็กำลังจะมาถึง แต่ตอนนี้ก็มีไอเดียอยู่ในใจ 2 ไอเดีย ดังนั้นถ้าจะทำ KH4 ก็ต้องทำเกมก่อนหน้านั้นสัก 1 ภาค (พิมพ์ว่าเลข 1 เลย) และในโอกาสที่ได้ก้าวผ่านตำนานผู้แสวงหาความมืดกันไปแล้ว ถึงแฟน ๆ ซีรีส์ KH ทั้งหมด ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันมาตลอด

- ปิดท้ายในคอลัมน์ ความลับที่รู้อยู่คนเดียว คุณโนมุระบอกว่า แมวข้างเวนตุสบนภาพปกเกม มีทฤษเดาชวนเชื่อกันว่านั่นคือจิริธี แต่นั่นคือแมวกู (โนมุระ) เอง แต่ว่า ร่างดำ ๆ ที่อยู่ตามยอด 4 มุมของหอนาฬิกา... นั่นคือพวกคนในชุดดำ....

------------------------------------------

"ใน KH เฉพาะภาคหลัก เท่านั้นที่จะได้ยินเสียงของคลื่นทะเลอยู่ใน Title Menu ของเกมด้วย นี่เป็นกฎลี้ลับของมัน เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ ที่เราจะได้ยินเสียงคลื่นชายหาดซ้อนอยู่เบื้องหลัง Dearly Beloved ในเกมภาคนี้"

ตัดตอนจากคำพูดของคุณ ยูคิ ฮิโรเสะ ในหนังสือ KH III Ultimania หน้า 593

KH3 Dearly Beloved - แบบ Reaction
https://youtu.be/Mtzhkvjz2IE

KH3 Dearly Beloved - แบบปกติ
https://youtu.be/Sm-sPU433V4

------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น