บทสัมภาษณ์ล่าสุด นาโอคิ โยชิดะ จากเว็บไซต์ Inverse


โยชิดะเข้าเรียนในโรงเรียนสังกัด Hudson Soft (Bomberman) ร่วมพัฒนาเกมแรกคือ Star Soldier: Vanishing Earth (1998) ของเครื่อง Nintendo 64 หลังจากนั้นได้ย้ายไปทำงานในสตูดิโอเล็ก ๆ หลายแห่ง จนรู้จักกับโยสึเกะ ไซโตะ (ผู้อำนวยการสร้าง NieR) ซึ่งชักชวนแกเข้ามาทำงานใน Squaresoft ก่อนที่จะควบรวมกิจการกับ Enix ได้ไม่นาน

โยชิดะกำกับเกมอาเขด Dragon Quest: Monster Battle Road แล้วก็มาเป็น Chief Planner ของ Dragon Quest X ต่อมาถูกถอดออกจากโปรเจคท์เป็นเวลา 2 ปี แล้วก็ถูกส่งไปช่วยงานโปรเจคท์หลายอย่าง จนกระทั่งมาถึง Final Fantasy XIV -A Realm Reborn-

โยชิดะบอกว่าคอนเซปต์ของเกมออนไลน์ จะค่อย ๆ หายไป เพราะทุกวันนี้แทบไม่มีเกมที่ไม่มีระบบออนไลน์พ่วงด้วยแล้ว ความแตกต่างของเกม Single-player และ Multiplayer จะลดน้อยลงเรื่อย ๆ

โยชิดะอยากให้ FFXIV เป็นความทรงจำแห่งรักของผู้คน ในฐานะเกมสุดมันส์ที่มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดให้ และอยากให้เกมยังคงเปิดให้บริการอยู่ในทศวรรษต่อ ๆ ไป

แต่โยชิดะคิดว่าเทคโนโลยีและอุปกรณ์ใหม่อย่าง VR จะปฏิวัติการเล่นเกม ตอนแรกคิดว่ามันจะมาเร็วกว่านี้ แต่ Covid-19 และปัจจัยต่าง ๆ ทำให้ semiconductors ขาดแคลน และดีเลย์การมาถึงของสิ่งใหม่ ๆ

นอกจากนี้ยังเชื่อว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้า การเอา quantum computing มาใช้ในการพัฒนาเกม จะทำให้การทำงานเปลี่ยนไป กำแพงระหว่างความจริงและโลกเสมือนจริง จะบางลงเรื่อย ๆ เพราะมันจะเพิ่มประสิทธิภาพของ Server และการ Simulate ทำให้สร้างโลกเสมือนจริงที่ใกล้เคียงความเป็นจริงได้มากขึ้น เป็นโลก Online จริง ๆ ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทั้งในวงการเกม และในชีวิตประจำวันของ

ในส่วนของคนสร้างเกม โยชิดะบอกว่าฝั่งตะวันตก พนักงานในบริษัทอย่าง Activision Blizzard และ Riot Games ยังพยายามตั้งสหภาพขึ้นมา เพื่อจะลดความ toxic ของที่ทำงานลง ในญี่ปุ่นเอง บริษัท Bandai Namco ก็มีนโยบายสร้างสมดุล Work-Life Balance ที่ดีขึ้นให้พนักงาน โดยโยชิดะให้เหตุผลว่าเพราะเกมเป็นธุรกิจบันเทิง ต่อให้ใครคนหนึ่งจะบ้างานขนาดไหน แต่เพื่อไม่ให้เขาประสบภาวะหมดไฟ มันก็จำเป็นต้องกำหนดช่วงเวลาให้เขาหยุดพัก เพื่อไปชาร์จไฟให้ชีวิตก่อนจะถึงขีดจำกัด

สุดท้ายพอสื่อถามว่า Final Fantasy ประสบความสำเร็จในการปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ของวงการหรือไม่? โยชิดะบอกว่าซีรีส์ FF กำลังดิ้นรนอยู่ อยู่ในจุดที่ได้รับรีเควสต์ถึงทิศทางการออกแบบเกมที่มีความเห็นแตกต่างหลากหลายไปมาก ดังนั้นพูดตามตรง มันย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเกม ๆ หนึ่งให้เป็นดั่งรีเควสต์เหล่านั้นทั้งหมดได้ สิ่งที่ทีมงานทำได้จริง ๆ ก็คือสร้างเกมหลาย ๆ เกม และตั้งใจทำให้ดีที่สุดเท่าที่เวลาจะอำนวย

โยชิดะทิ้งท้ายว่า บางครั้งแกก็คิดว่าอยากจะสร้าง MMORPG อีกสักเกมหนึ่ง ขึ้นมาจากศูนย์ให้ได้ ก่อนที่แกจะตายจากไป

https://www.inverse.com/gaming/final-fantasy-naoki-yoshida-luminaries-2022

1 ความคิดเห็น:

  1. จริง ๆ จากไอ้ที่โยชิดะ ให้สัมภาษณ์ Inverse ไว้ยาวเนี่ย
    ผมมองเห็นประเด็นสำคัญอื่น ๆ ที่น่าหยิบมาพาดหัวให้คนจดจำ
    .
    เช่น
    - เรื่องอยากให้ FFXIV อยู่ต่อไปอีกเป็น decades
    - เรื่องส่งเสริมค่านิยม Work Life balance เพื่อไม่ให้คนทำเกมหมดไฟ
    - เรื่องอยากสร้าง MMORPG อีกสักเกมก่อนตาย
    - เรื่องที่ว่าคอนเซปต์ของ Online Gaming จะสลายไป ทุกเกมจะมีระบบออนไลน์หมด ฯลฯ
    .
    แต่สื่อจำนวนมาก ก็จะพาดหัวตาม Inverse โดยเน้นที่ว่าซีรีส์นี้กำลัง 'ดิ้นรน' ในการปรับตัวตามเทรนด์ แล้วก็ขยี้วนไปวนมากับคำว่า "ดิ้นรน"
    .
    คนอ่านก็จะไม่รับรู้ ไม่รับทราบ จดจำประเด็นอื่น ๆ ที่โยชิดะพูดในรอบนี้ไม่ได้เลยนอกจาก "ดิ้นรน"
    .
    ซึ่งตรงนี้ Inverse ตัดมาจากท่อนที่โยชิดะพูดว่า
    .
    “In terms of whether Final Fantasy is successfully adapting to industry trends, I believe the series is currently struggling. We’re now at a point where we receive a wide variety of requests regarding the direction of our game design. To be honest, it’d be impossible to satisfy all those requests with a single title. My current impression is that all we can really do is create multiple games, and continue creating the best that we can at any given time.”
    .
    ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าการดิ้นรนมันไม่ใช่ประเด็น ไม่ใช่ใจความที่โยชิดะจะสื่อ และเป็นเรื่องที่โยชิดะพูดไปแล้วตอนให้สัมภาษณ์ FFXVI กับสื่อ 13 เจ้าในรอบล่าสุด ใจความคือยังไงเราก็ทำเกม ๆ หนึ่งตามความต้องการของผู้เล่นอัน wide variety ไม่ได้ ดังนั้นมันก็ต้องทำออกมาหลาย ๆ เกม
    .
    อีกทั้งโยชิดะ ก็ยังพุดในการสัมภาษณ์ FFXVI รอบล่าสุดเองว่า "เกมที่สร้างจากการรับฟังความเห็นของทุกคน ไม่มีทางเป็นเกมที่ดี" (ในความหมายถึง รีเควสต์ของทุกคนมันหลากหลายและขัดกันเอง ผู้พัฒนาจึงควรรักษา vision ของตัวเองไว้ให้ได้)
    .
    ด้วยเหตุนี้ ผมเลยมองว่าการที่ Inverse พาดหัวข่าวแต่แรกว่า "THE KING OF FINAL FANTASY REVEALS WHY THE SERIES IS “STRUGGLING” เป็นการพาดหัวที่ไม่ค่อยดี ในแง่ของคนที่จดจำบันทึกข้อมูลข่าวสารลงสมองสักเท่าไหร่ แต่มันคงเป็นพาดหัวข่าวที่ดีในแง่ของการ "เสี้ยม" "ปั่น" "เรียกยอดไลค์" ให้คนเข้ามาอ่าน ด้วยการหาประโยคสักประโยคนึงจากที่โยชิดะพูด มาเป็นประเด็นให้มนุษย์พากันระเบิดอารมณ์ลบและช่วยกันด่าอะไรสักอย่างได้ให้สนุกปากได้ พอ ๆ กับที่ตอนนี้แมนยูฯ เอามาทำอะไรก็อร่อย
    .
    โชคดีที่พวกนักข่าวอาวุโส เขายังมองแบบผมว่า พาดหัวข่าวแบบนี้มันใช้ไม่ได้เลย - https://twitter.com/TonyGarsow/status/1559258331369426944

    ตอบลบ