บทสัมภาษณ์ล่าสุด Dissidia -Final Fantasy-

นิตยสาร Dengeki Playstation ฉบับล่าสุดได้ลงบทสัมภาษณ์ของทีมพัฒนา Dissidia -Final Fantasy- เอาไว้ โดยบทสัมภาษณ์ชิ้นใหม่นี้ได้เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดที่น่าสนใจของเกม Dissidia ไว้มากมาย สิ่งที่คุณจะได้อ่านจากข้อความด้านล่างต่อไปนี้ก็คือสาระสำคัญส่วนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์ครับ

Dissidia -Final Fantasy-
Creative Producer 
- เท็ตสึยะ โนมุระ
Senior Director - ทาเคชิ อาราคาวะ
Planning Director - มิซึโรนิ ทาคาฮาชิ

ทาคาฮาชิ : ตอนนี้เราได้เปิดเผยข้อมูลของ Dissdia ไปแค่ 20% จากภาพรวมทั้งหมดเท่านั้น ในส่วนของระบบการต่อสู้นั้นยังมีองค์ประกอบอีกมากมายที่เรายังไม่ได้แสดงให้ดู ผมคิดว่าเหล่าแฟนๆ ที่เคยเล่นซีรียส์ไฟนอลแฟนตาซีมาก่อนจะต้องพอใจกับมันมาก จากการที่ตัวเกมดั้งเดิมนั้นเป็นแนว RPG ดังนั้นเราจึงมุ่งสร้าง Action-RPG ในแบบที่เน้นไปที่การต่อสู้ประชันกัน เราพยายามสร้างความสมดุลระหว่างการเป็นกึ่ง Action และกึ่ง RPG นอกจากนี้ในส่วนของการต่อสู้เรายังได้สร้างตัวละครหลักขึ้นมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เราจึงใช้เวลาไปกับการปรับแต่งสมดุลของระบบต่อสู้เท่านั้น

ทำไมถึงต้องเป็นเจคท์ ทำไมจึงไม่ใช่ซีมัวร์?

โนมุระ : เจคท์อาจจะไม่ใช่บอสใหญ่ของเกมก็จริง แต่ถ้าจะเอาซินมาแทนก็คงจะไม่เวิร์คเท่าไหร่นัก (หัวเราะ) ผมคิดว่าถ้าเราเลือกซีมัวร์มาแทนคงเป็นการยากที่จะแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับทีดัสออกมาได้ ถ้าจะทำแบบนั้นเราอาจจะต้องใส่ยูน่าเข้าไปด้วย ดังนั้นเราจึงตัดสินใจเลือกใช้เจคท์ที่มีความผูกพันกับทีดัสอย่างแน่นแฟ้นดีกว่า

อาราคาวะ : ฉากในเกมระหว่างทีดัสกับเจคท์จะเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ในเนื้อเรื่องหลักของ FFX นั้นเราจะเห็นสองคนนี้ได้มีโอกาสคุยกันก็ในตอนฉากสุดท้ายของเกมแล้วเท่านั้น ทว่าในคราวนี้เราจะได้เปิดเผยส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนภายในเกม

หมายความว่าเราจะได้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยปรากฏในเนื้อเรื่องหลักด้วยงั้นหรือ?

อาราคาวะ : ก็คงมีบ้างเล็กน้อย ตอนนี้เรากำลังพยายามจะแต่งเนื้อเรื่องหลักในส่วนของชาติกำเนิดของตัวละคร ความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ อย่างทีดัสนี่ก็ต้องคิดว่าจะให้เขามีความสัมพันธ์กับฮีโร่คนอื่นๆ อย่างไร แล้วเจคท์นี่จะให้ไปพัวพันกับคาแรคเตอร์ฝ่ายเคออสได้อย่างไร

ตัวเกมดั้งเดิมนั้นนักรบแห่งแสงไม่ค่อยได้มีบทพูดกับการ์แลนด์เลย?

อาราคาวะ : ใน FFI และ FFIII นั้นเราไม่สามารถที่จะเข้าใจลักษณะเฉพาะของตัวละครได้ เราเองก็อยากจะให้ผู้เล่นได้สัมผัสงานของเราอย่างเต็มที่ ดังนั้นในเมื่อเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นใน Dissidia แล้วเราก็ไม่ควรจะไปมองว่าการร่วมมือกันของตัวละครจากหลายๆ ภาคเป็นเรื่องที่แปลกแต่อย่างใด (ก็คืออย่าไปคิดถึงเรื่องเหตุผลเลย) ยิ้มเข้าไว้ แล้วอย่าเอามันไปคิดปนกับเนื้อเรื่องดั้งเดิมของเกมเลย

เมื่อพูดถึง RPG แล้วคุณหมายถึงการได้ควบคุมตัวละครเดินทางไปในดินแดนต่างๆ รึเปล่า?

อาราคาวะ : หมายถึงเกมที่มีการสร้างและการปรับแต่งตัวละครเป็นปัจจัยสำคัญ นี่เป็นเกมที่จะแสดงความยินดีของเราไปยังผู้เล่นที่ได้สนุกสนานไปกับ Final Fantasy ภาคที่ผ่านมา ฉะนั้นด้วยความสนใจที่มีอยู่เป็นทุนเดิม กระทั่งเกมเมอร์ที่ไม่สันทัดเกม Action ก็คงสนุกไปกับ Dissidia ได้ เกมๆ นี้จะไม่เหมือนกับ Kingdom Hearts ที่คุณสามารถเดินทางไปที่ต่างเพื่อต่อสู้กับศัตรู เกมนี้ไม่ได้ใช้ระบบ Encounter แบบต่อเนื่องอย่างนั้น แต่มันจะเป็นแบบว่า "ขอฉันซัดเจ้านี่คว่ำเป็นรายต่อไปได้มั้ย? อ่า หรือว่าฉันควรสู้กับเจ้านั่นแทนดีกว่า" หากให้สคอลล์ที่เลเวล 80 สู้กับนักรบแห่งแสงที่เลเวล 20 ถึงจะมีความแตกต่างในด้านเลเวลมาก แต่ตัวที่เลเวลน้อยกว่าก็มีหนทางที่จะล้มอีกฝ่ายได้

โนมุระ : การตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่างหากที่มีส่วนสำคัญมาก

อาราคาวะ : พวกเรากำลังคิดถึงเรื่องการสร้างคอมมูนิตี้ให้กับ Dissidia ก็กำลังมองหาและรวบรวมไอเดียเกี่ยวกับระบบสื่อสารที่เหมาะสมเอาไว้ อาจจะมีการใส่ระบบ Battle Ranking ลงไป แต่อย่างแรกเลยคือเราต้องการจะใส่ระบบที่ผู้เล่นจำนวนมากสามารถมีส่วนรวมใน Battle Comminity ได้ อยากจะให้มันเป็นโลกที่ไม่ได้มีแต่การแพ้ชนะ แต่เป็นการเชื่อมต่อระหว่างผู้เล่นที่ต้องการพิสูจน์ความสามารถของตนเอง เราอยากให้ผู้เล่นที่ชื่นชอบในไฟนอลแฟนตาซีได้มาเล่นร่วมกัน

ทาคาฮาชิ : เป็นการทำให้ผู้เล่นได้เจอกับการต่อสู้ที่ยากลำบาก และได้รู้สึกทำนองว่า "การปั๊มให้ถึงเลเวล 100 มันก็แค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น" (หัวเราะ)

อาราคาวะ : ปกติเรื่องราวมักจะมีจุดสิ้นสุดเสมอ แต่นั่นไม่จำเป็นเสมอไปในเวลาที่คุณเล่นเกม หลังจากที่จบเกมไปแล้วคุณอาจคิดได้ว่า "มันยังไม่จบนะ" ยังมีอีกหลายส่วนในเกมให้เล่น มีอะไรอีกหลายอย่างให้ทำ

อาราคาวะ : คุณโนมุระได้ไปกำกับการบันทึกเสียงแล้ว และสคริปต์ของเกมนี้จะยาวเป็นสองเท่าของ Crisis Core -Final Fantasy VII- เลยทีเดียว

โนมุระ : เรามีกำหนดการวางจำหน่ายอยู่ในใจแล้ว ตอนนี้เราก็กำลังเร่งทำงานกันอย่างหนัก ผมยืนยันได้ว่าอีกไม่นานนักหรอกก็จะได้ฤกษ์วางจำหน่ายแล้ว ดังนั้นก็ขอให้คอยจับตาดูกันได้เลย เราวางแผนว่าจะประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในอีเวนต์ตอนเดือนสิงหาคมนี้

ที่มา : Forever-Fantasy

ไม่มีความคิดเห็น