Saturday, April 25, 2015

Benchmark และคลิป 2D Fighting Parody โปรโมต FFXIV

เทรลเลอร์ Benchmark ของ  Final Fantasy XIV -Heavensward- ที่ปล่อยออกมาวันนี้ ทางค่ายกำหนดปล่อย Benchmark มาให้ทดลองกัน วันจันทร์ที่ 27 เมษายนนี้เอง


ส่วนคลิปด้านล่างนี้เป็นเทรลเลอร์พิเศษ ที่ใช้ Graphic Asset ของเกม มาทำเป็นคลิป 2D Fighting Parody ฮา ๆ ซึ่งท้ายคลิปก็มีการยืนยันว่าไม่ได้จะทำนะจ๊ะ


นอกจากนี้ยังได้ประกาศชุดบันเดิลของเกม ซึ่งจะประกอบด้วยเครื่อง PS4 มี 2 สีให้เลือกระหว่างดำกับขาว ยิงลายโลโก้ Hevensward ที่ปลอก HDD, รหัสดาวน์โหลด Custom Theme และสุดท้ายก็คือแผ่นเกม ปัจจุบันยังไม่ประกาศราคาแต่อย่างใด


Friday, April 24, 2015

Dissidia Arcade เผย EX Skill ใหม่ของ 6 ตัวละครแรก


ทาง Square Enix เริ่มเปิดเผยความเปลี่ยนแปลงของระบบ EX Skill ของ Dissidia -Final Fantasy- Arcade โดยในภาคก่อนนั้น เวลาตัวละครเข้าสู่สภาพ EX แล้วจะทำให้ได้ความสามารถพิเศษขึ้นมา ตัวอย่างเช่น ทีดัสหรือหัวหอมจะวิ่งเร็วขึ้น การโจมตีทั้งหมดของคลาวด์จะมี Priority สูงขึ้น พี่แสงจะมีดาบลำแสงโผล่ออกมาช่วยโจมตี ฯลฯ

แต่สำหรับภาคใหม่นี้ EX Skill จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ EX Skill เฉพาะตัว กับ EX Skill ทั่วไป ซึ่งผู้เล่นจะต้องกดเลือกว่าจะใช้ EX Skill อันไหนด้วยนั่นเอง

ทั้งนี้จากรายการ EX Skill ที่เปิดเผยออกมา จะเห็นว่า EX Skill ของตัวละครส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนแปลงไป โดยความสามารถเท่าที่เปิดเผยออกมาแล้วมีดังนี้

พี่แสง EX Skill - Holy Chain : ศัตรูทั้งหมดจะโดนบังคับให้ล็อคเป้ามายังพี่แสงคนเดียว

หัวหอม EX Skill - Job Change : เปลี่ยนจ็อบไปมาระหว่างนักปราชญ์กับนินจา (เหมือนเดิม)

ทีน่า EX Skill - Trance : เพิ่มพลังโจมตี ป้องกัน และสปีด

คลาวด์ EX Skill - Limit Break : การโจมตีทั้งหมด ออกท่าได้ว่องไวขึ้น (ใช้เฟรมน้อยลง)

ไลท์นิ่ง EX Skill - Scene Drive : เป็น Brave Attack ที่ฟื้น HP ให้ไลท์นิ่ง

ยาชทลา EX Skill - Ethereal Pulse : ทำให้เบรฟของเพื่อนทั้งกลุ่ม เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ส่วน EX Skill ทั่วไปที่ใช้กันได้ทุกคน มีดังนี้

Mighty Strike - เพิ่มพลังโจมตีฝ่ายเราทั้งกลุ่ม

Shield Break - ลดพลังป้องกันศัตรูทั้งกลุ่ม

Brave Share - แบ่งเบรฟของตนเองเป็น 3 ส่วน แล้วกระจายแต่ละส่วนไปให้เพื่อนอีก 2 คน

Regenga - ฟื้น HP เพื่อนทั้งกลุ่มชั่วเวลาหนึ่ง

Bioga - ปล่อยบอลพิษออกมา ถ้าโดนแล้วค่าเบรฟจะลดลงชั่วเวลาหนึ่ง

Vacuum - สร้างหลุมอากาศ ปล่อยลมดูดศัตรูให้เขามา

Dissidia -Final Fantasy- Arcade มีกำหนดเปิดให้หยอดเหรียญเล่นผ่านตู้เกมได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ นอกจากนี้ทางค่ายได้ทำสัญญา Exclusive ลงตู้เกมไว้เป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้นถึงค่อยวางจำหน่ายให้กับ PS4 ได้

-----------------------------------------

หมายเหตุ

Shield of Light นอกจากจะเปลี่ยนจาก HP Attack เป็น Brave Attack แล้ว ยังเพิ่มคุณสมบัติใหม่คือ
- ทุกครั้งที่ใช้ท่านี้ป้องกันการโจมตีได้ พลังป้องกันของพี่แสงจะเพิ่มขึ้น ทว่าค่าที่เพิ่มขึ้น จะค่อย ๆ น้อยลงเรื่อย ๆ (ครั้งแรก ๆ จะได้เพิ่มเยอะกว่าครั้งหลัง ๆ)
- หากสแปม Shield of Light ไอ้ค่าพลังป้องกันที่เพิ่มขึ้น จะโดนรีเซท

ไลท์นิ่ง มี Double Air Jump และเวทย์ทั้งหมดนอกจาก Thundaga เป็นการโจมตีระยะไกล และใช้แคนเซิลแดชได้

L2 R2 - เปลี่ยนเป้า

R1 - แดช (เดิมใช้สามเหลี่ยม)
การแดชภาคนี้ต้องใช้เกจ ซึ่งจะฟื้นเวลาอยู่ติดพื้นและไม่ได้โจมตี หรือโดนโจมตีอยู่

L1 - หลบ (เดิมใช้ R1+X)

L1 ค้าง - บล็อค (เดิมใช้ R1)
ของเดิมจะบล็อคได้สั้น ๆ แป๊ปเดียว ของใหม่จะบล็อคได้นานเท่าที่ยังกด L1 ค้างไว้อยู่ แต่ถ้าโดนโจมตีเข้ามารัว ๆ ก็จะ Guard Crush ได้

ปุ่มคริสตัลตรงกลาง - เรียกอสูร
ภาคนี้จะมี Summon Core ปรากฏขึ้นกลางฉาก พอตีแตกแล้วเกจเรียกอสูรจะเพิ่มขึ้น เมื่อเต็มก็ให้ทั้งทีมช่วยกันกดเพื่อเรียกอสูร

Wednesday, April 22, 2015

อะสะโนะเตรียมเสนอโปรเจคท์ Bravely Third หากภาคสองขายได้ดี


โทโมยะ อะสะโนะ ผู้อำนวยการสร้าง Bravely Second เกมสำหรับเครื่อง Nintendo 3DS ที่จะวางจำหน่ายในวันพฤหัสบดีนี้ เปิดเผยผ่านบทสัมภาษณ์ในนิตยสารแฟมิซือฉบับล่าสุดว่า ตัวเขานั้นได้มีคอนเซปต์ของ Bravely Third เอาไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว

จากบทสัมภาษณ์ของแฟมิซือในสัปดาห์นี้ มีคำถามหนึ่งที่ทางแฟมิซือถามไปว่า "อนาคตของซีรีส์จะเป็นอย่างไร" คุณอะสะโนะจึงได้เปิดเผยว่ากระทั่งในตอนนี้เขาก็มีคอนเซปต์ของ Bravely Third ไว้แล้ว อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกมแต่ละเกมได้มีภาคต่อหรือไม่ ก็อยู่ที่ยอดขายและกระแสตอบรับของเกมด้วย ดังนั้นคุณอะสะโนะจึงพูดต่อไปว่า "หากยอดขายมัน (Bravely Second) ดีพอ ผมก็กะจะยื่นข้อเสนอโปรเจคท์ไปให้อนุมัติทันที ดังนั้นก็ช่วยอุดหนุนกันด้วยนะครับ"

ในส่วนของเกมเพลย์ ทีมงานยังได้บอกไว้ว่าเล่นตามปกติ 70 ชั่วโมงก็จะเคลียร์ได้ โดยเนื้อเรื่องหลักจริง ๆ ยาว 50 ชั่วโมง แต่ถ้าเล่นแบบเพอเฟคท์เซฟ ก็จัดไป 100 กว่าชั่วโมงแน่นอน


ภาพประกอบด้านบนนั้นเป็นปกซิงเกิล Great Distance ของเกมนี้ ซึ่งจะวางจำหน่ายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2015 ภาคนี้ supercell จัดให้ทั้งเพลงเปิด และเพลงปิดเกม จะยิ่งใหญ่อลังการเท่า Moving Toward Hope ของภาคแรกได้หรือไม่ อีก 2 วันเตรียมหาโหลดมาฟังกัน

Sunday, April 19, 2015

คำพิพากษาคลาส 0 ไม่ได้เป็นอากิโตะ


ฉากกาล่า พูดผ่านปากของซิด เพื่อมอบคำพิพากษาว่าคลาส 0 มีพลังพอที่จะเป็นอากิโตะได้หรือไม่

ส่วนตัวผมว่าฉากนี้เป็นเนื้อเรื่องหลักส่วนที่เข้าใจยากที่สุดในเรื่องแล้ว คนเล่นต้องไปตามเก็บประเด็นให้เข้าใจก่อนว่าอเรเซียคือใคร กาล่าคือใคร พวกเขาต้องการอะไร และร่วมมือกันทำการทดลองอะไรมาโดยตลอด... ถึงจะเข้าใจฉากนี้ได้

อันที่จริงผมว่าทางค่ายมีการทยอยนำเสนอเนื้อหาในส่วนที่เป็น Fabula Nova Crystallis ที่ดี ค่อย ๆ ขยับเนื้อเรื่องไปทีละนิด ผ่านเกมแต่ละเกม กล่าวคือ

- เปิดด้วยใช้ FFXIII เกริ่นนำแผนและการกระทำของพัลส์และลินด์เซย์

- ถ่ายทอดคลิปพล็อตเรื่อง Fabula Nova Crystallis พร้อมเผยถึงบูนิเบลเซ่ที่อยู่เบื้องหลังพัลส์และลินด์เซย์

- ใช้ FF Type-0 นำเสนอโลกใบอื่นที่เดือดร้อนเพราะพัลส์กับลินด์เซย์ หยอดถึงเอโทรนิดหน่อย และเปิดประเด็นเรื่องของอากิโตะ ผู้ปลดปล่อยที่จะช่วยเหลือมวลมนุษย์ (ซึ่งในภาคนี้ ยังไม่มีใครได้เป็นอากิโตะ)

- ถัดมาให้ FFXIII-2 นำเสนอเรื่องราวถึงตอนที่เอโทรดับสูญไปแล้ว และประตูสู่โลกหลังความตายถูกเปิดออก โลกมนุษย์กับโลกหลังความตายรวมเป็นหนึ่ง ระบบชำระล้างวิญญาณถูกทำลาย เกิดสภาวะ ไม่เกิด ไม่โต ไม่แก่ ไม่ตายตามธรรมชาติ (แต่ทำลายกายหยาบให้ตายได้) ซึ่งมันฟังดูน่าสนใจ น่าคิดตามว่าเมื่อมนุษย์ตกอยู่ในโลกใบนั้น ทัศนคติต่อชีวิตของมนุษย์จะเปลี่ยนไปอย่างไร

- ใช้ LRFFXIII เผยโฉมบูนิเบลเซ่ และมอบบทบาทอากิโตะ ผู้ปลดปล่อยให้แก่ไลท์นิ่ง... เก็บเรียบทั้งบูนิเบลเซ่และลูกสมุน... แต่ไลท์นิ่งยังพูดทิ้งท้ายแบบปลายเปิดว่าไม่รู้บูนิเบลเซ่ดับสูญไปหรือตกสู่การหลับใหล สักวันหนึ่งเขาอาจจะกลับมาอีกครั้ง

ผมหวังว่าเรื่องของพวกบูนิเบลเซ่ มันจะจบลงเท่านี้แล้วจริง ๆ ไม่อยากให้ FFXV หรือ Type-1 กลายเป็นเรื่องการฟื้นขึ้นมาของบูนิเบลเซ่และลูกสมุน อยากให้ทั้งสองภาคนี้ เป็นแค่เรื่องราว side story ก่อนที่เอโทรจะดับสูญไปมากกว่าครับ

Thursday, April 16, 2015

ขยายความ End Credit ของ FF Type-0


พึ่งจบ Final Fantasy Type-0 HD ไปเมื่อคืน (หลังจากเล่นแบบหอยทากโดนตะคริวกินอยู่นาน)

สมัยที่ผมดูฉาก End Credit ของเกมนี้บน PSP ด้วยภาพที่เป็นขาวดำ ประกอบกับขนาดจอที่เล็ก ทำให้ผมเห็นรายละเอียดด้านหลังไม่ค่อยชัดนัก ต่างจากคราวนี้ที่เห็นรายละเอียดชัดหน่อยว่าอะไรเป็นอะไร

ภาพนั้นเปิดมาด้วยบ้านเมืองที่มีสภาพเละเทะจากผลของสงครามที่มนุษย์ฆ่าแกงกันเอง และจากการรุกรานของรูรซัส (พึ่งรู้ว่ามันสะกด Rursus หลังจากที่ก่อนหน้านี้แฟน ๆ ฝรั่งสะกดกันเองว่า Lulusath) ผู้คนทั้งโลกตกอยู่ในความสิ้นหวัง โกลาหล ซึมเศร้า

พลันนั้น ผมนึกถึงสภาพของประเทศญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สภาพที่ทุกอย่างพังพินาศ เละเทะ วินาศสันตะโร คงกลายเป็นภาพที่ฝังใจผู้คน และเป็นอุทธาหรณ์ที่จะถูกพร่ำสอนไปยังคนรุ่นหลังอีกตราบนานเท่านาน

ความล่มสลายนั้นได้กลายเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ ที่ทำให้ผู้คนที่ต่างประสบชะตาเดียวกัน หันมาสามัคคีร่วมแรงร่วมใจลุกขึ้นสู้ ฟื้นฟูสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่

กรณีของเกมนี้ การที่ทุกชาติที่เคยทำสงครามกัน ต่างจนตรอกกับความสิ้นหวังที่เห็นอยู่ตรงหน้า มันทำให้ต่างฝ่ายต่างยอมถอยคนละก้าว ลดทิฐิของตนเอง แล้วหันมาพึ่งพากันและกันเพื่อความอยู่รอด จนในที่สุดแนวคิดในการรวมชาติทั้ง 4 เป็นหนึ่งเดียวกันก็เกิดขึ้น

เหตุการณ์ที่ถูกเล่าผ่านภาพขาวดำนั้น เล่ามาจนถึงภาพหนึ่งที่มองโคตรลำบาก... นั่นคือภาพผู้คนมากมายจากทั้ง 4 ชาติกำลังยืนล้อมเชียร์ชายหญิงคู่หนึ่ง (ไม่แน่ใจว่าเป็นมาคิน่าและเรมตัวเป็น ๆ หรือเป็นรูปปั้น?) พวกเขาต่างโบกธงประจำชาติของตนเอง และโห่ร้องไปยังชายหญิงคู่นั้นอย่างพร้อมเพรียง

เมื่อชาติทั้ง 4 สามัคคีกัน การแลกเปลี่ยนทรัพยากรและเทคโนโลยีก็เกิดขึ้น ในที่นี้มีภาพคาสึซะที่ไปช่วยขนของที่อาณาจักรคอนคอร์เดียด้วย

ถัดมาก็เป็นภาพหน้ากากของนิมบัสที่แตกร้าว คุณทาบาตะเคยบอกไว้ว่าตามบทแล้ว พอคริสตัลหมดพลัง ลูซินิมบัสก็หมดพลังแล้วก็ปลิดชีพตัวเอง

ต่อมาก็ภาพเพอริสเตอเลียมของสุซาขุที่กลายเป็นสวนดอกไม้แถมมีกังหันลมตั้งอยู่ มนุษย์เริ่มเรียนรู้ที่จะเอาพลังงานลมมาใช้

ถัดมาก็เป็นภาพของอาณาจักรโลลิก้าที่พื้นฟูขึ้นใหม่ และภาพเรือเหาะของสุซาขุที่ให้มังกร 3 ตัวช่วยกันลากบินไปบนอากาศ..... (เย่เคร็ด... หยั่งกะรถม้า)

ภายหลังก่อความผิดพลาด ทำอะไรโง่ ๆ ลงไปเยอะแยะ หนุ่มน้อยมาคิน่าก็เติบโตขึ้นโดยมีภาพเพื่อนพ้องที่ล่วงลับไปก่อนเป็นแรงผลักดัน พวกเขาเหล่านั้นคือเพื่อนที่มาคิน่าเคยคิดร้ายเพราะความเยาว์วัยและขลาดเขลาของเขาเอง

เมื่อเมฆหมอกคลี่คลาย หลังเรื่องเลวร้ายผ่านพ้น มาคิน่าได้สำนึกผิดถึงความผิดพลาดของตน เขาได้เห็นความเสียสละของพวกพ้อง ได้รับรู้ว่าโลกนี้ยังคงอยู่เพราะความเสียสละนั้น

ความเสียสละของผู้ที่จากไปแล้ว...

แต่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะจดจำพวกเขาไว้ แล้วเอาเรื่องราวของพวกเขามาเป็นบทเรียนเพื่อก้าวต่อไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น

มาคิน่าอุทิศชีวิตอีก 50 ปีที่เหลือ ให้กับการไถ่บาปของตนเอง เขากลายเป็นผู้นำคนใหม่ของโอเรียนซ์ ที่ผลักดันให้ผู้คนช่วยกันคิดค้นการเอาพลังงานจากธรรมชาติมาใช้ และร่วมมือกันสร้างโลกขึ้นมาใหม่

ในวัย 67 ปี มาคิน่าจากโลกนี้ไปอย่างสงบด้วยรอยยิ้ม โดยมีภรรยาที่รักยิ่งดูแลเขาอยู่ข้างกาย คุณทาบาตะบอกไว้ว่าตอนแรกกะจะใส่รอยยิ้มของเอโทรลงไปในฉากนี้ด้วย เพราะในคัมภีร์นิรนามท่อนสุดท้ายก็บอกไว้ว่าท้ายที่สุดเอโทรก็ได้มอบรอยยิ้มให้แก่มนุษย์ ที่เขาเลี่ยงไม่เขียนชื่อเรมลงไปในตอนจบ ก็เพื่อให้เหตุการณ์นี้สื่อถึงรอยยิ้มของเอโทรด้วย

พูดถึงคัมภีรณ์นิรนาม 2 ท่อนสุดท้าย มีบอกใบ้เอาไว้แล้วว่าในเกลียวสุดท้าย (วัฏจักรสุดท้าย) เมื่อประกายทั้ง 12 ดับสูญ (คลาส 0 ตาย) เจตจำนงค์ของมนุษย์ก็จะกำเนิดขึ้นมาใหม่ (มนุษย์เปลี่ยนทัศนคติ)

บัดนั้นเอโทรก็มอบรอยยิ้มให้แก่มนุษย์ โลกได้ดำเนินต่อไป ต่างคนต่างได้รับพร ประกายแสง (คลาส 0) ได้ถูกปลดปล่อยสู่การเดินทางครั้งใหม่ สู่วัฏจักรอื่นที่กำเนิดขึ้น... ไม่รู้ว่ามันจะเป็นวัฏจักรแห่งความสิ้นหวัง ความสุขสันต์ หรืออื่นใด....

อันที่จริงผมเห็นเนื้อหาท่อนสุดท้ายของคัมภีรณ์นิรนามนี้มาก็หลายรอบละ แต่ไม่เคยอ่านเข้าใจเลย... พึ่งจะมาเข้าใจก็วันนี้แหละ ว่ามันหมายถึงการที่อเรเซียหอบวิญญาณพวกคลาส 0 ไปเริ่มต้นสู้รบกันในวัฏจักรใหม่ ที่จักรวาลอื่นแทน...

Wednesday, April 15, 2015

วาระสุดท้ายของคาโทรใน Final Fantasy Type-0


วาระสุดท้ายของคาโทรใน Final Fantasy Type-0
ฉากตายประเภทผู้กำกับสั่งให้ตายได้แล้ว

ในช่วงท้ายเกม ขณะที่กองทัพของเบียกโคและสุซาขุกำลังห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดที่เมืองหลวงมิลิเทส พลเอกคาโทรซึ่งเป็นกำลังสำคัญของมิลิเทส ก็พ่ายแพ้ให้กับคลาส 0 ของสุซาขุ (ซึ่งแห่กันมา 13 คน เพื่อช่วยกันรุมคาโทรคนเดียว)

ขณะที่คาโทรกำลังจะขี่หุ่นบินหนีเข้าโรงซ่อม เจ้าตัวก็พบว่ามีใครไม่รู้แอบใส่ระเบิดอัลเทม่าขนาดย่อมเข้ามาในหุ่นของเขาด้วย และระเบิดนี้พึ่งถูกสั่งให้ทำงานหลังจากความพ่ายแพ้ของเขา

แท้จริงแล้วคนที่แอบใส่ระเบิดมิลิเทสเข้ามา ก็คือพวกทหารวิศวกรของมิลิเทสที่ทำหน้าที่ปรับแต่งหุ่นยนต์ให้กับคาโทร โดยทหาคนนั้นคิดว่าถ้าไหน ๆ มิลิเทสกำลังจะพ่ายแพ้สงครามแล้ว ก็ให้ระเบิดอัลเทม่ามันช่วยระเบิด ทำให้ทุกอย่างมลายหายวับ ตาย ๆ กันไปให้หมดซะ

ทางด้านคาโทรนั้น สับสน ไม่รู้ว่าใครใส่ระเบิดมาในหุ่นของเขา แต่ขืนปล่อยไว้แบบนี้ ระเบิดอัลเทม่าจะสร้างความวินาศสันตะโรอย่างใหญ่หลวง แม้มันจะไม่ถึงขั้นทำให้ทวีปทั้งทวีปหายไป แต่ก็อาจจะทำให้เมืองทั้งเมือง หรืออาจจะทั้งอาณาจักรหายไปได้

เมื่อคิดได้เช่นนั้น คาโทรจึงตัดสินใจ ขับหุ่นคู่กายที่กำลังจะพังของเขา เหินฟ้าด้วยความเร็วสูงสุด มุ่งไปสู่นอกชั้นบรรยากาศ แล้วเอาระเบิดอัลเทม่าไปปล่อยไว้ด้านนอกโลกซะ

แม้จะเอาระเบิดไปปล่อยนอกโลกได้สำเร็จ แต่หุ่นของคาโทรก็สูญเสียการควบคุมจนไม่สามารถบินกลับโลกได้ ว่าแล้วระเบิดอัลเทม่าที่เคยระเบิดอาณาจักรเก็นบุทั้งอาณาจักรให้หายไป ก็ระเบิดคาโทรให้มลายหายไปด้วย

ถึงคาโทรจะตาย แต่วาระสุดท้ายของเขา ก็ยังได้ช่วยชีวิตชาวมิลิเทสทั้งหมด รวมทั้งผู้คนที่อยู่ในสนามรบ รวมทั้งเหล่าคลาส 0 ที่แห่กันมารุมเขาด้วย

นี่ก็เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่าคนที่ต่อสู้กับพวกตัวเอกนั้น ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเป็นคนที่เลวร้ายเสมอไป เพราะต่างคนต่างก็มีภาระหน้าที่อันแตกต่าง ยืนกันอยู่คนละฟากฝั่งของสังคม ทำงานไปตามหัวโขนที่ตนสวมไว้ แต่เมื่อถึงเวลาวิกฤต คนที่ยอมเสียสละเพื่อผู้อื่นต่างหาก คือผู้ที่น่าสรรเสริญอย่างแท้จริง

ป.ล. นอกจากซิงค์แล้ว ตัวละครที่ผมประทับใจที่สุดในเกมนี้ ก็คือคาโทร ซึ่งผมชื่นชอบทั้งสไตล์การต่อสู้ รวมทั้งบทบาทในเรื่องของเขาด้วย

ป.ล. 2 ฉากที่เฟลที่สุดของคาโทร คือตอนที่ทัพสุซาขุกำลังจะเรียกอเล็กซานเดอร์ออกมา ...คาโทรบอกเหล่าพลทหารว่า "ห้ามหนี" ให้อดทนฝ่าการโจมตีนี้ไปให้ได้ "ทางสุซาขุกำลังจะใช้ไพ่ตายออกมา หากเราอดทนฟันฝ่ามันไปได้ หนทางข้างหน้าก็จะเปิดออก" .....แต่แล้วเมื่ออเล็กซานเดอร์ยิงบีมดังเฟี้ยวออกมา ทหารเบียกโคก็ตายไป 180,000 คน.... ปล่อยให้คาโทรยืนเงิบอยู่กับมาคิน่า

โนมุระดันมินอูเข้า Dissidia Arcade พร้อมเตรียมประกาศ KH ภาคใหม่บนมือถือ

นิตยสารแฟมิซือฉบับล่าสุด ได้ลงบทสัมภาษณ์ของคุณเท็ตสึยะ โนมุระ ว่าด้วยเรื่องของ Dissidia -Final Fantasy- Arcade และ Kingdom Hearts III ซึ่งคุณโนมุระ ได้ให้ข้อมูลสั้น ๆ ไว้ดังนี้


Dissidia -Final Fantasy- Arcade

- คุณโนมุระปล่อยให้คุณคุจิราโอกะ ผู้กำกับ เป็นผู้ดูแลวิชวลของภาคนี้ (ภาคเดิมคุณโนมุระเป็น Creative Producer คิดคอนเซปต์ต่าง ๆ แล้วให้ลูกน้องที่เคยร่วมงานด้วย ไปเป็นผู้กำกับ)

- คุณโนมุระยกย่องว่าที่เกมเป็น 60fps ได้ก็เพราะฝีมือของ Team Ninja ซึ่งภาคนี้ก็จะเน้นเรื่องความเสถียรของเฟรมเรทเป็นอย่างมาก

- ทีมงานได้รับออเดอร์ตัวละครที่แฟน ๆ คาดหวังมาแล้ว ซึ่งนอกจากรัมซ่า มันก็มีตัวละครอื่น ๆ อีกเยอะ ทีมงานก็กำลังคัดเลือกตัวละครจากภาคต่าง ๆ ที่ยังไม่เคยปรากฏตัว

- ส่วนตัวแล้วเขาจะผลักดันให้ "มินอู" จาก FFII เข้ามาในเกมนี้


Kingdom Hearts III

- ทีมงานวางแผนจะเปิดเผยข้อมูลใหม่และอะไรต่อมิอะไรในงาน D23 Expo 2015 ที่จะจัดที่ญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายน

- การพัฒนาอ KHIII นั้นก็เป็นไปอย่างราบรื่นดี และจะมีการประกาศอะไรบางอย่างเกี่ยวกับภาคนี้ด้วย

- หนึ่งในเรื่องที่จะประกาศ คือเร็ว ๆ นี้จะมีการเปิดตัวเกมภาคใหม่ของซีรีส์นี้บน Smart Phone (ใครที่คิดว่าก่อนจะมีภาค 3 มันต้องมีอีกสักภาค คลอดมาแหง ๆ ก็เป็นจริงละ)

http://blog.esuteru.com/archives/8130332.html

Monday, April 13, 2015

เทรลเลอร์และคลิปเปรียบเทียบกราฟฟิก Dissidia Arcade

Square Enix ได้อัพโหลดคลิปเปรียบเทียบกราฟฟิกของ Dissidia -Final Fantasy- Arcade เวอร์ชั่น PS4 และ Arcade เอาไว้ สามารถชมได้ตามคลิปด้านล่างนี้


ส่วนอันนี้คือคลิปใหม่ Special Trailer 2015


และสุดท้าย ทางค่ายได้อัพโหลดไฟล์ Command List ของ 6 ตัวละครแรกให้ชมกัน ซึงในที่นี้มีสิ่งน่าสนใจอยู่คือ ท่า Shield of Light ของพี่แสง จากเดิมเป็นท่าประเภท HP Attack ได้ถูกเปลี่ยนกลายเป็นท่าประเภท Brave Attack ไปแล้ว 


Command List ทั้งหมด ดูได้ตามลิงค์นี้ : http://www.jp.square-enix.com/DFF/data/commandlist.pdf

นอกจากนี้ 6 โมงเย็นของวันนี้ยังมีการจัดรายการถ่ายทอดสดความคืบหน้าของเกม นำเสนอโดยทาเคโอะ คุจิราโอกะ ผู้กำกับ และคุณอิจิโระ ฮาซามะ ผู้อำนวยการสร้างของเกม ซึ่งทั้งสองได้บอกว่าในช่วงที่เริ่มตั้งตู้ให้เล่น จะมีตัวละครให้ใช้กัน 14 ตัว หลังจากนั้นจะทยอยอัพเดทตัวละครใหม่ทางออนไลน์ไปเรื่อย ๆ จนได้ครบ 50 กว่าตัวตามเป้าหมาย

Sunday, April 12, 2015

คลิปฉากเปิดเกม FFXIV 3.0 และความจริงอีกด้านก่อนเข้าสู่ 2.0

คลิปฉากเปิดเกม Final Fantasy XIV 3.0 Hevensward


Flame of Truth - ความจริงอีกด้านหนึ่งหลังจากที่เหล่านักรบแห่งแสงจะถูกส่งตัวมายังโลกอนาคต เนื้อหาบางส่วนในคลิปมีให้ดูหลังจบ Final Coil of Bahamut Turn Turn 3 (Turn 12)

Friday, April 10, 2015

Dissidia Arcade เผยรายละเอียดชุดใหญ่พร้อมระบุเป็น Arcade Exclusive เพียง 1 ปีเท่านั้น!!

 

ในวันนี้ Square Enix ได้จัดงาน Dissidia -Final Fantasy- Closed Conference เพื่อเปิดเผยข้อมูลชุดใหญ่ของเกมดังกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เคยปล่อยเทรลเลอร์แรกและเปิดเผยว่าเป็นเกมสำหรับเครื่องอาเขตมาแล้ว


สำหรับสาระสำคัญของงานในวันนี้ ทาง Square Enix ได้เปิดเผยว่าเกมดังกล่าวจะเริ่มเปิดให้หยอดตู้กันในญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ โดยได้ความร่วมมือจากค่าย Koei Tecmo และ Team Ninja มาช่วยพัฒนาเกมด้วย โดยค่ายอื่น ๆ จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเกมอย่างมาก แต่ตำแหน่งสูงสุดของการพัฒนาก็ยังดูแลโดย Square Enix โดยคุณอิจิโระ ฮาซามะ จะเป็นผู้อำนวยการ และมีคุณทาเคโอะ คุจิราโอกะ เป็นผู้กำกับ (บอกตรง ๆ ว่าผมไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อน) มีคุณทาเคฮารุ อิชิโมโตะ ซึ่งเป็นคนแต่งเพลงคนเดิมแต่งเพลงให้ และคุณเท็ตสึยะ โนมุระ ออกแบบตัวละครให้ตามเดิม

ในส่วนของการพัฒนา ตู้อาเขตของเกมมาจากการนำเทคโนโลยีของ PS4 ในส่วนของ Core System ไปปรับแต่งพัฒนา ทำให้การพอร์ทไปสู่ PS4 ไม่ใช่เรื่องยาก


ช่วงแรกของงานหลังจากฉายเทรลเลอร์ของเกมแล้ว คุณอาสึชิ โมริตะ ประธานของ SCEJ (Sony ญี่ปุ่น) ก็ออกมาบอกว่าเขาอยากจะให้เกมนี้ไปถึงมือผู้บริโภคเยอะ ๆ และก็กำลังหารือกับ Square Enix เพื่อให้นำเกมนี้มาลงสู่เครื่องคอนโซลอยู่ วันหนึ่งในอนาคตก็อาจจะประกาศอย่างเป็นทางการได้

ทว่าต่อมาทางคุณอิจิโระ ฮาซามะ หนึ่งในผู้อำนวยการของ Square Enix ก็ขึ้นมาตอบว่าขณะนี้ตัวเกมจะต้องเป็นเอกสิทธิ์ (Exclusive) สำหรับเครื่องอาเขตเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีก่อน ถึงจะพอร์ทไปยังเครื่องอื่นได้


จากนั้นก็มีการเปิดเผยตู้เกม ซึ่งมีคอนโทรลเลอร์ที่เหมือนไปเอาจอย Dual Shock 4 มาหั่นครึ่งแล้วแปะตู้ไว้ แล้วก็มีการโชว์ภาพเกมเพลย์จากตัวเกมเวอร์ชั่น PS4 (ซึ่งต้องออกหลังตู้ไปอย่างน้อย 1 ปี) ซึ่งแสดงผลด้วยภาพระดับ 60fps ซึ่งทางค่ายโชว์ฉากต่อสู้ฉากใหม่ เป็นฉากเตาปฏิกรณ์จาก FFVII และโชว์ UI ของเกม ซึ่งระบบ Brave ของเดิมก็ยังคงอยู่ แต่ที่เห็นเพิ่มมาคือแถบเวลา (ซึ่งแต่เดิมมันไม่จำกัด) และแถบ MP


ถัดมาก็มีการแนะนำรายละเอียดปลีกย่อยด้านระบบของเกม เช่น ระบบอัญเชิญอสูร แล้วทีมงานก็โชว์ไลท์นิ่งเรียกอิฟรีทให้ดู โดยอธิบายว่าเมื่อเกจอสูรเต็ม ผู้เล่นในปาร์ตี้จะต้องกดโหวตในการเชิญอสูรออกมา ซึ่งอสูรก็จะออกมาในฐานะตัวละครตัวที่ 4 ที่มาช่วยผู้เล่นชั่วคราว โดยอสูรแต่ละตัวก็มีอบิลิตี้ที่ให้ผลแตกต่างกันไป

ทางด้านสกิลของเกม มีการแนะนำระบบ EX Skill ซึ่งเป็นการใช้ท่าที่แตกต่างกันออกไปตามตัวละคร ตัวอย่างท่าเหล่านี้เช่น เวทย์ Protect, Slow นอกจากนี้ยังมีพวกท่าไม้ตายของแต่ละคน อย่างคลาวด์จะเป็น Limit Break ของทีน่าก็คือ Trance เป็นต้น

ในส่วนของการปรับแต่งตัวละคร การแก้เซตติ้งต่าง ๆ ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลาปรับที่ตู้ แต่สามารถปรับแต่งผ่าน App ที่จะออกมาได้เลย

ถึงตรงนี้ทีมงานก็เปิด Graphic Comparison ระหว่างเวอร์ชั่น PS4 กับ Arcade โชว์ให้เห็นภาพที่ต่างกันเล็กน้อย มีการโชว์ฉากใหม่คือฉากโคคูนจาก FFXIII (ถือเป็นฉากใหม่ต่อจากทุ่งหญ้าคอร์เนเลีย และเตาปฏิกรณ์) และบอกว่าตัวเกมยังคงคอนเซปต์เป็น FF All-Star, 3D Action และใช้ระบบ Brave เป็นหลัก ตัวเกมเป็นการสู้แบบปาร์ตี้ 3 ตัวละคร ซึ่งผู้ให้ชัดคือ ควบคุมด้วยผู้เล่น 3 คน คนละตัวนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีระบบ Online Matching ทำให้หาเพื่อนเล่นได้ทั่วญี่ปุ่นตลอดเวลา

ทางด้านเนื้อเรื่องของเกมนั้น ทีมงานก็เปิดเผยว่ายังคงเป็นการต่อสู้ระหว่างสองเทพ ซึ่งคราวก่อนเป็นคอสมอสกับเคออส แต่คราวนี้จะเป็น 2 เทพตนใหม่


นอกจากนี้ ทีมงานยังเปิดเผยว่าพวกเขาตั้งเป้าให้ภาคนี้มีตัวละครให้เล่น มากกว่า 50 ตัว โดยตอนแรกอาจจะมีไม่ถึง แต่ก็จะมีการอัพเดทตัวเกมผ่านอินเตอร์เน็ต ค่อย ๆ เพิ่มตัวละคร ฉาก อสูร เพลงประกอบ ชุดใหม่ของตัวละคร และของสวมใส่ต่าง ๆ ลงไปจนกว่าจะครบตามเป้าหมาย และยังจะมีการปรับแต่งสมดุลของเกมเพลย์ และเพิ่มระบบใหม่ลงไปด้วย


สุดท้าย คุณเท็ตสึยะ โนมุระ ซึ่งรับบทบาทออกแบบตัวละครให้เช่นเดิม ก็ขึ้นมาจับไมค์ประกอบยืนยันการกลับมาของตัวละครใหม่สุดเร้าใจ "รัมซ่า" จาก Final Fantasy Tactics ที่จะมาร่วมปรากฏตัวในภาคนี้ด้วย โดยตามแผนงานนั้นรัมซ่าจะถูกอัพเดทเข้าเกมทีหลัง ไม่ได้อยู่ในกลุ่มตัวละครชุดแรก


เว็บไซต์หลักของเกม http://www.jp.square-enix.com/DFF/PR/index.html

-------------------------------------------------------------

กำหนดการและสถานที่ทดสอบตู้เกมในประเทศญี่ปุ่น

วันที่ 17 - 19 เมษายน 2015
- HEY (Akihabara, Tokyo)
- Sendai Leisurelan Ichibansho Store (Sendai, Miyagi)
- Nagoya Leisurelan Sasashima Store (Nagoya, Aichi)

วันที่ 24 - 26 เมษายน 2015
- Sega Ikebukuro GiGO (Ikebukuro, Tokyo)
- Round One Stadium Sennichimae Store (Sennichimae, Osaka)
- Taito Station Fukuoka Tenjin Store (Tenjin, Fukuoka)

-------------------------------------------------------------

อ้างอิง

http://www.rpgsite.net/news/4218-square-enix-confirms-co-development-and-tactics-representation-for-dissidia-arcade

http://gematsu.com/2015/04/dissidia-final-fantasy-arcade-developed-team-ninja-uses-ps4-core-system

http://www.finalfantasy.net/xiii/dissidia-final-fantasy-closed-conference/

-------------------------------------------------------------









FF Type-0 HD ส่งออกเกินล้าน และเตรียมออนแอร์รัฐบาลทาบาตะฯ 28 เม.ย.


Square Enix ทวีตภาพขอบคุณในการสนับสนุนของแฟน ๆ ในโอกาสที่ Final Fantasy Type-0 HD ได้ส่งออกไปวางขายทั่วโลกผ่านหลัก 1 ล้านชุดได้แล้ว พร้อมแจ้งข่าวว่ารายการรัฐบาลทาบาตะพบประชาชนครั้งถัดไป จะถ่ายทอดสดวันที่ 28 เมษายน 2015 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) โดยคราวนี้คุณทาบาตะจะพูดเรื่องฟีดแบ็คของเดโม FFXV ว่าเป็นอย่างไร และนำเรื่องไหนมาแก้ไขปรับปรุงบ้าง

ป.ล. วันที่ 28 เมษายน 2015 ช่วงถ่ายทอดสดนั้น ผมคงกำลังนั่งรถไปปฏิบัติงานที่ต่างจังหวัดอยู่ คาดว่าจะไม่สะดวกมารายงานสดครับ แต่ถ้ามีจังหวะเมื่อไหร่ ก็จะรีบแปลข้อมูลใหม่จากรายการมานำเสนอทันที

แถมท้าย คลิปเบื้องหลังการสร้างตัวอย่างภาคต่อของ FF Type-0 จากงานสัมมนาที่แคลิฟอร์เนียครับ

TVCM - Bravely Second ความยาว 30 วินาที


คลิปโฆษณาทางโทรทัศน์ ความยาว 30 วินาทีของ Bravely Second -End Layer- วางจำหน่ายวันที่ 23 เมษายน 2015 นี้

Friday, April 3, 2015

บทสัมภาษณ์ล่าสุดทาบาตะจาก FF Portal App พร้อมผลสำรวจฟีดแบ็คเดโม FFXV


สรุปสาระสำคัญจากบทสัมภาษณ์คณทาบาตะ FF Portal App

FF Type-0 HD

- ตอนที่เปิดตัว FF Type-0 HD ในงาน E3 2014 ที่จริงทีมงานยังไม่พร้อมจะโชว์ภาพในเกม ภาพที่ทำออกมาโปรโมต 1 ภาพนั้นแท้จริงแล้วเป็นการเอาตัวละครของ Type-0 ไปสร้างด้วยกรรมวิธีเดียวกับ FFXV ในเวลาต่อมาก็เลยพัฒนากราฟฟิกของ Type-0 HD ไปในแนวทางนั้น (ภาพนี้ : คลิ๊ก)

- โมเดลใหม่ของพวกตัวละครหลัก เอาต้นแบบมาจากโมเดลที่ใช้ในฉาก Pre-rendered ของภาค PSP ซึ่งโมเดลพวกนั้นมันจะดูแก่กว่าโมเดลที่ใช้ในฉาก Real-time พอเอามาทำเป็นโมเดลของภาค HD ก็เลยปรับแต่งรูปหน้าให้ดูเด็กลงเพื่อให้ได้อารมณ์คงเดิม

- ชุดเกราะญี่ปุ่นที่เห็นในฉากจบ ที่จริงแล้วเป็นคอนเซปต์ดั้งเดิมแรกของซีรีส์นี้เลย (ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นกลุ่มนักเรียน) แต่แล้วมันก็กลายมาเป็นเป็นคอนเซปต์ของ Type ถัดไปแทน ซึ่งนี่ไม่ใช่ภาพตัวอย่างของภาคต่อไป แต่เป็นรูปแบบแนวทางที่เขาจะทำต่อ

เดโม FFXV 

- ตัวเกมจริง ๆ จะมีระบบปรับกลยุทธในการต่อสู้ของตัวละครในปาร์ตี้ แต่สำหรับในเดโมทีมงานเซ็ตค่าให้ "อิกนิสคอยอยู่ข้าง ๆ น็อคติส ช่วยโจมตีศัตรูตัวเดียวกัน" "พรอมพ์ โจมตีศัตรูไปทั่ว เคลื่อนไหวไปทั่วฉาก และโจมตีด้วยการยิง" "กลาดิโอลัส ทำหน้าที่เป็นโล่ให้น็อคติส"

- ในกลุ่มนั้น น็อคติสมีประสบการณ์ต่อสู้น้อยที่สุด ดังนั้นพอเริ่มเกมมา สมาชิกในทีมเลยมีเลเวลสูงกว่า ในช่วงแรกคนอื่น ๆ จึงเก่งกว่าน็อคติส (แต่ก่อนหน้านี้คุณซันเคยพรีเซนต์ที่อเมริกาว่าพรอมพท์ก็ไม่เคยมีประสบการณ์ต่อสู้มาก่อนนี่หว่า... สงสัยจะเคยสู้มากกว่าน็อคติสหน่อยนึงละมั้ง)

- เดโมนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเดโม FFVII ซึ่งเมื่อนึกถึงเดโมของ FFVII สิ่งที่เด่นชัดในสายตาคุณทาบาตะก็คือลิเวียธาน ซึ่งกราฟฟิกสมัยนั้นมันเจ๋งมาก เลยเป็นที่มาของการใส่ลามูและการอัญเชิญที่ดูยิ่งใหญ่ลงไปในเดโม FFXV นี้ เขาอยากให้แฟน ๆ ได้มีความรู้สึกเดียวกับตอนที่เคยเห็นลิเวียธานในวันนั้น

- การเรียกลามูในเดโมนั้น ถึงดูเหมือนว่าลามูจับตัวน็อคติสแล้วยกขึ้นไปบนฟ้า แต่ถ้าดูให้ดี จะเห็นว่าน็อคติสน่ะอยู่ที่พื้นตลอดเวลา

- ซิดนี่ มีอายุประมาณ 20 ปี แต่ยังไม่ได้กำหนดอายุที่ตายตัวลงไป คุณทาบาตะหวังว่าเธอจะได้รับความนิยม เธอเป็นคนคุยกับผู้ชายเก่ง เป็นคนคลั่งไค้ลเรื่องรถยนต์ ในตัวเกมจริง ๆ เรายังสามารถโทรเรียกให้เธอมาหาได้ด้วย (สงสัยโทรเรียกมาแต่งรถ)

- คุณทาบาตะมีพูดติดตลกด้วยว่า คอนเซปต์ของการสร้างพฤติกรรมของมอนสเตอร์และสัตว์ในเกมนี้คือ เอาให้มันสมจริงถึงขั้น National Geographic อยากมาสำรวจดูให้ได้

- คุณทาบาตะยังคาดหวังว่าจะสามารถปล่อยเดโมตัวใหม่ออกมาแบบฟรี ๆ ในอนาคตสำหรับ PS4 และ Xbox One

- ในอนาคตคุณทาบาตะอยากจะจัดอีเวนต์ให้แฟน ๆ ได้มาลองเล่นเดโมในดินแดนดัสก้านี้ แต่เป็นเดโมเวอร์ชั่นที่ระบบต่อสู้เสร็จสมบูรณ์แล้ว


นอกจากนี้นิตยสารแฟมิซือได้ลงผลการสำรวจฟีดแบ็คเดโมเกม Final Fantasy XV ซึ่งสำรวจในช่วงระหว่างวันที่ 20 - 23 มีนาคม 2015 และได้ผลสรุปออกมาดังนี้

ตัวละครยอดนิยม
1. น็อคติส 127 คะแนน
2. ซิดนี่ 91 คะแนน
3. พรอมพท์ 56 คะแนน
4. อิกนิส 45 คะแนน
5. กลาดิโอลัส 39 คะแนน

จำนวนชั่วโมงที่ใช้ในการเล่นเดโมจนจบ
1 ชม. - 9 คน
2 ชม. - 59 คน
3 ชม. - 80 คน
4 ชม. - 61 คน
5 ชม. - 58 คน
6 ชม. - 18 คน
7 ชม. - 12 คน
8 ชม. - 37 คน

คิดยังไงกับวัฏจักรเวลา วันละ 40 นาทีในเดโม?
เหมาะสมแล้ว 52.1%
สั้นไปนะ 40.2%
ยาวไปหน่อย 7.7%

ระบบแคมป์-เลเวลอัพในเกมเป็นยังไงบ้าง?
สะดวกสบาย-น่าสนใจ 40.8%
เฉย ๆ - 40.2%
ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น 19%

คิดยังไงกับระบบเซฟในเกม? (ในเดโมเซฟได้เฉพาะจุดแคมป์)
ไม่สะดวกเลย 49.6%
โอเคแล้ว 48.8%
น่าจะเพิ่มข้อจำกัดเข้าไปอีก 1.6%

ระบบต่อสู้ในเดโม เป็นยังไงบ้าง?
โอเคนะ 53.7%
ยากไป 35.6%
ง่ายไป 7.1%
โคตรยาก 2.8%
โคตรง่าย 0.8%

องค์ประกอบใดในระบบต่อสู้ที่น่าสนใจที่สุด?
1. ชิฟท์วาร์ป 235 คะแนน
2. ดาบมายา 216 คะแนน
3. มนต์เรียกอสูร 184 คะแนน
4. การบู๊ล้างผลาญทั่วไป 175 คะแนน
5. การปัดป้องการโจมตีของศัตรู 173 คะแนน
6. การโจมตีประสานกับเพื่อน 137 คะแนน
7. กด L1 แช่เพื่อหลบรัว ๆ 122 คะแนน
8. ระบบ Encounter 97 คะแนน
9. อบิลิตี้ในการต่อสู้ 75 คะแนน

การต่อสู้ที่ประทับใจที่สุดในเดโม?
1. เบฮีมอธ 177 คะแนน
2. ก็อบลิน 74 คะแนน
3. ทหารนิฟไฮม์ 38 คะแนน
4. การูล่า 22 คะแนน
5. เมสเมอไรซ์ 20 คะแนน
6. เซเบอร์ทัสค์ 19 คะแนน

หลังเล่นเดโมจบแล้ว คุณใช้เวลาไปกับอะไรมากที่สุด?
1. ออกเดินทางสำรวจ 27.8%
2. พยายามสู้กับเบฮีมอธโดยไม่ให้ลามูช่วย 23.4%
3. เก็บเลเวล 19.7%
4. สู้กับมอนสเตอร์อื่น ๆ นอกจากเบฮีมอธ 13.1%
5. ตามหากบ 12.3%
6. อื่น ๆ 3.7%

พอใจแค่ไหนกับเดโม FFXV?
พอใจมาก 19.7%
พอใจนะ 51.9%
เฉย ๆ 8.5%
ไม่พอใจ 12.4%
โคตรไม่พอใจ 7.5%

สิ่งที่ชอบที่สุดในเดโม
1. กราฟฟิก 19.3%
2. ดนตรี 18.6%
3. ตัวละครและอีเวนต์ 15.9%
4. ระบบต่อสู้ 15.8%
5. การสำรวจ 14.4%
6. โลกของเกม 13.5%
7. อื่น ๆ 2.5%

ฟีดแบ็คเรื่องที่ควรปรับปรุงที่ส่งเข้ามา
- มุมกล้องประชิดตัวมากเกินไป
- ระบบล็อคเป้ายุ่งยากเกิน
- ล็อคเป้าแล้วแต่ตัวละครก็ฟาดมั่วไปเรื่อย
- ล็อคเป้าแล้ว แต่ศัตรูมันก็หายไปจากจอเอาดื้อ ๆ

ตัวอย่างคำถามคำตอบจากการสำรวจ
"ส่วนไหนใน FFXV ที่แจ่มเป็ดสำหรับคุณ?"
"กราฟฟิกของอาหาร"

"เหตุผลที่ชอบน็อคติส?"
"ผมตื่นเช้าไม่ค่อยได้ ก็เลยเข้าใจความรู้สึกของเขาดี"
"เคยคิดว่าเขาจะเท่ แต่จริง ๆ แล้วก็เป็นแค่เด็กคนนึง"

"เหตุผลที่ชอบซิดนี่?"
"เซ็ก...ซี่..."
"ไม่เห็นจำเป็นต้องพูด"

"เหตุผลที่ชอบพรอมพท์?"
"เป็นตัวสร้างอารมณ์ขัน แค่ฟังเขาพูดก็ฮาแล้ว"
"แกมีท่าทางการแสดงออกใหม่ ๆ ตอนตลอดเวลา"

"เหตุผลที่ชอบอิกนิส?"
"ความฉลาดนำพามาซึ่งความเท่"
"ช่วยฮีลได้เยอะ"
"ดูเป็นพ่อบ้านที่ดี"
"ทำอาหารเก่ง"

"เหตุผลที่ชอบกลาดิโอ?"
"เวลาอยู่ในสถานการณ์ลำบาก แล้วเฮียแกพุ่งออกไปบู๊คนแรก มันโคตรเท่เลย"

"เหตุผลที่ชอบการต่อสู้กับเบฮีมอธ?"
"ถ้าไม่เรียกลามูออกมา ก็สู้ไม่ได้เลย"
"ไม่ได้เจอการต่อสู้ที่เข้มข้นขนาดนี้มานานแล้ว"

"เหตุผลที่ประทับใจการต่อสู้กับก็อบลิน"
"เคยโดนพวกมันฉกโพชั่นไปหมดเลย" (´;ω;`)

"เหตุผลที่ชอบสู้กับการูล่า?"
"ทั้งตัวใหญ่และน่ารัก"

สรุปข้อมูลจากบทสัมภาษณ์ในแฟมิซือ

- ตอนนี้ทีมงานกำลังปรับแต่งระบบเลเวล

- อาจจะใส่ตัวละครหญิงให้มาเป็น Guest Character แต่เนื่องจากในทีมประกอบด้วยตัวผู้ชาย 4 คนแล้ว ถ้ามีผู้หญิงเพิ่มเข้ามาเป็น Guest พฤติกรรมของตัวละครในทีมจะเปลี่ยนไป

- ตอนนี้ระบบต่อสู้สำเร็จไปแค่ 50% ตัวเกมจริง ๆ จะมีการโจมตีด้วยเวทมนต์ และการร่วมมือระหว่างตัวละครมากกว่านี้

- วิธีการเรียกอสูรในตัวเกมจริง ๆ จะไม่เหมือนในเดโม

- วัฏจักรกลางวันกลางคืนในเกม และระบบแคมป์ จะมีการปรับแต่งต่อไป

- คุณทาบาตะอยากใส่ระบบการผ่าชิ้นส่วนร่างกายของมอนสเตอร์ (เช่นตัดหาง ตัดแขนตัดขา) ลงไปบ้าง แต่เกรงว่าจะกระทบกับเรทเกม นอกจากนี้ยังตั้งใจว่าจะทำให้พฤติกรรมของมอนสเตอร์เปลี่ยนไปเมื่อมันบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ

- ถ้างบพัฒนา และเมโมรีของเครื่องเกมพอ คุณทาบาตะก็อาจจะปรับแต่งเบฮีมอธเด๊ดอายให้มีจุดอ่อนด้วย

- ในการสร้าง FFXV ให้เป็นเกม Open World คุณทาบาตะพบว่ามันค่อนข้างยากลำบาก ตอนนี้จึงตั้งใจว่าภาคต่อไปของ FF Type จะทำให้มันเรียบง่ายกว่านี้ (น่าจะหมายความว่าไม่เป็น Open World แล้ว)

- อาจจะใส่ระบบ Libra (ที่ใช้ดูสเตตัสของศัตรู) เข้าไปด้วย แต่จะไม่ใช่ในรูปของเวทมนต์

- ยังตั้งใจจะใส่มุมกล้องสำหรับการเฝ้าสังเกตการณ์ (เช่นมุมกล้องจากหมาและแมว) เข้าไปเช่นเดิม

Thursday, April 2, 2015

CGI ฉากเปิดเกม Bravely Second


CGI ฉากเปิดเกม Bravely Second - End Layer วางจำหน่าย 23 เมษายนนี้

ภาคนี้ดูอลังการงานสร้างกว่า สวยกว่า คาดว่าน่าจะได้งบลงทุนมากกว่าภาคแรกอีก แต่ผมยังไม่อยากคาดหวังว่าภาคนี้จะต้องสร้างความประทับใจให้กับทุกคนได้มากเท่าไหร่ภาคแรก เนื่องจากภาคแรกมันทำดีไว้มากจนเกินไป แต่ก็หวังว่าอย่างน้อยภาคนี้จะสอบผ่าน ทำให้ซีรีส์นี้ยืนหยัดต่อไปได้ครับ

Wednesday, April 1, 2015

วัน ฮาซเม่ร์ อัพสเตตัสลากลับไปเลี้ยงไก่ที่บ้านเกิดรับ April Fool


เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ คุณวัน ฮาซเม่ร์ หัวหน้าทีมออกแบบวัฒนธรรมใน Final Fantasy XV ได้โพสข้อความใน Facebook ของตัวเองว่าด้วยปัญหาสุขภาพที่รุมเร้า เฮียแกเลยตัดสินใจที่จะออกจาก Square Enix เพื่อกลับไปใช้ชีวิตที่มาเลย์เซีย บ้านเกิดของของเขาแทนแล้ว

ก่อนหน้านี้ใครที่เกาะติดสเตตัส การบ่น การใช้ชีวิตประจำวันของทีมงาน Square Enix มาตลอด น่าจะพอทราบว่าหลังกลับมาจากการพรีเซนต์ Final Fantasy XV ที่อเมริกาเมื่อต้นเดือนมีนาคม (งานที่ไปพรีเซนต์พร้อมกับคุณซัน-ประเสริฐ) คุณฮาซเม่ร์ก็ป่วยอย่างต่อเนื่อง ทั้งมีไข้ ไข้ละอองฟาง แถมยารักษาไข้ละอองฟางที่เฮียแกกินเข้าไป ก็ไปเพิ่มระดับกรดยูริกจนทำให้เป็นเกาต์ จนล่าสุดเฮียแกถึงกับต้องไปหาไม้ค้่ำมาช่วยในการพยุงเดิน

กระทั่งราว 3 ทุ่มที่ผ่านมา ผมเลื่อนผ่าน ๆ ไปเห็นสเตตัสของเฮียแก ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าหลังจากใช้ชีวิตในญี่ปุ่นมา 7 ปี ด้วยปัญหาสุขภาพที่เป็นอยู่ เขาจึงตัดสินใจที่จะกลับไปรักษาตัวและใช้ชีวิตในมาเลย์เซียตามคำแนะนำของแม่ โดยเขาจะทำงานดูแลฟาร์มไก่ของพ่อต่อไป... ตอนนี้มีสัมภาระอีกมากมายที่รอการแพ็คกระเป๋าอยู่

หลังจากสเตตัสนี้เผยแพร่ออกไป เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ของคุณฮาซเม่ร์ก็เข้ามางงว่าเฮียแกอำอะไรรึเปล่า ส่วนใหญ่ก็เชื่อว่าสเตตัสดังกล่าวคงเป็นเพียงมุก April Fool (จนเพื่อนบางคนมาถามว่าพ่อแกไปมีฟาร์มไก่ตั้งแต่เมื่อไหร่...?) อย่างไรก็ตามทุกคนก็สงสารกับอาการป่วยที่เฮียแกเป็นมาเกือบ 1 เดือน และขอให้คุณฮาซเม่ร์หายไปป่วยเร็ว ๆ

ล่าสุดสเตตัสดังกล่าว ได้ถูกลบออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมคาดว่าเป็นเพราะมันไม่เนียน และมันไม่ขำเนี่ยสิ