SQEX Support Center ระบุสถานะนิยายหญิงสาวผู้ท่องไปในดวงดาว เป็น Official


มีเรื่องน่าสนใจ เมื่อทวีตภพ #clerith ได้สอบถามไปยัง Support Center ของ Square Enix ว่านิยาย "หญิงสาวผู้ท่องไปในดวงดาว" หรือ Hoshi o Meguru Otome (The Maiden Who Travels the Planet)  ซึ่งอยู่ในหนังสือ Final Fantasy VII Ultimania Omega ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2005 นั้น มีสถานะความถูกต้องเป็น Official หรือไม่?

ซึ่ง Support Center ของ Square Enix ก็ตอบเรียบง่ายว่าหนังสือ Final Fantasy VII Ultimania Omega  เป็นหนังสือ Official ที่จัดจำหน่ายโดยบริษัท ดังนั้นนิยาย หญิงสาวผู้ท่องไปในดวงดาว จึงมีสถานะเป็น Official เหมือนกัน ก็อยากให้ไปพิจารณาซื้อหากันมาดูววว

https://twitter.com/CloudxAerith/status/1408313931303641090/photo/1


---------------------------

วิพากษ์

---------------------------

1. ประการแรก ผมเคารพคุณ clerith มาก ทั้งในฐานะหนึ่งในแหล่งข้อมูลชั้นยอด, เคารพที่แกเป็นมนุษย์ประเภทเดียวกัน ที่จะพูดแต่สิ่งที่มี reference อ้างอิงยืนยันได้เสมอ ไม่ใช่พูดแบบเลื่อนลอย  (แต่ ref ที่หยิบมาจะมีน้ำหนักแค่ไหนก็อีกเรื่องนึง) ตอนที่ FFVII Remake Ultimania ออกมา แกก็เป็นคนแรกที่แปลบทสัมภาษณ์ทั้งหมดออกมาเสร็จ ก่อนหน้าคุณ Audrey ซะอีก (แม้ว่าจะเนี๊ยบไม่เท่าคนหลัง)

2. แต่แม้จะเคารพมาก ผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับแกตลอด บ่อยครั้งผมก็ไม่ได้เห็นด้วยย หรืออยากบอกแกว่า เบาได้เบาววววว

3. ผมคิดว่าคำตอบของ SQEX Support Center ในครั้งนี้มันค่อนข้างกลวงอ่ะ สิ่งที่ Support ตอบว่า "นิยายมันอยู่ในหนังสือ Official ดังนั้นนิยายจึง Official"  support อาจเพียงหมายความว่านิยายนั้นเป็นลิขสิทธิ์และเผยแพร่โดย Official แต่ไม่ได้สื่อว่านิยายมัน canon หรือไม่....

4. ดังนั้นเลยอยากให้คุณ clerith เมลกลับไปถาม support ให้ไปถามทีมงานว่า แล้วนิยายมัน canon ล่ะเปล่า? 55555 จะได้จบ ๆ

5. ส่วนผมตอบเหมือนเดิมว่า ผมมองนิยายซึ่งแต่งโดยคุณเบนนี มัตสึยามะ (Benny Matsuyama) ซึ่งเป็นทีมงาน Studio BentStuff มีสถานะเป็น Official Fan-fiction  กล่าวคือแม้ว่าใจความของนิยายมันจะมาจาก Official ...แต่คนที่เขียนมันขึ้นมาก็ไม่ใช่ Official โดยตรง ดังนั้น เราอาจหยิบความเข้าใจหรือคอนเซปต์ต่าง ๆ ที่ได้จากนิยายไปใช้ตีความต่อไปได้ แต่ตัวนิยายฉบับนี้ อาจใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงไม่ได้ซะทีเดียว

คอนเซปต์ที่เราได้รู้ครั้งแรกจากนิยายนี้ ก็คือเรื่องที่ Spirit Energy ของมนุษย์นั้นมี Spirit Core อยู่ เมื่อคนเราตายแล้ว Spirit Energy จะกลับคืนสู่ไลฟ์สตรีม แต่ตราบใดที่ Spirit Core ยังไม่ได้หลอมละลายไป, Spirit Energy ของชาวเซทร่าก็สามารถฟื้นฟู Spirit Core นั้นให้กลับมาเหมือนตอนพึ่งตายใหม่ ๆ ได้ เรียกว่า retain Spirit ให้ยังคงอยู่ได้นานขึ้นว่างั้นเถอะ

ส่วน Spirit Energy ของชาวเซทร่า ก็เหมือนหยดเลือดที่ตกสู่แม่น้ำ มันใช้เวลานานกว่าที่จะหลอมละลายสลายไปกับไลฟ์สตรีม แต่สุดท้ายมันก็จะสลายไป

การที่ผีแอริธยังคงรักษา Spirit Energy ของแซ็คไว้ได้ จนถึงช่วง 2 ปีหลัง FFVII Original ไปแล้ว, รวมถึงการที่แอริธยังไม่สลายไปกับไลฟ์สตรีม มันก็อ้างอิงอยู่บนหลักการที่อธิบายไว้ในนิยายนี้แหละ ซึ่งหนังสือเล่มนี้มันออก 9 ก.ย. 2005 แล้วต่อมาวันที่ 14 ก.ย. 2005 Advent Children มันก็ออกมาเชื่อมโยงกัน

6. ด้วยความเชื่อมโยงต่าง ๆ นี้ ผมจึงสรุปของผมเองว่าเบนนีไม่ได้แต่งเนื้อหาขึ้นมาทั้งหมดลอย ๆ จากจินตนาการของตนเอง แต่แกก็ต้องไปจับเข่าคุยกับโนะ กับโนจิมะ คิตาเสะจัง แล้วรับไอเดียความเข้าใจต่าง ๆ เอาไปแต่งเติมเป็นนิยายแหละ มันจึงมีทั้งส่วนที่ใช้ได้ และใช้ไม่ได้

7. ในนิยายนี้ มีประเด็นน่าสนใจ ที่แอริธค่อนข้างถ่ายทอดความนึกคิดในใจของตัวเองออกมาอย่างชัดเจนกว่าตัวเกมหลัก ซึ่งแอริธแสดงเจตนาว่ามุ้ฟอรจากแซ็คไปแล้ว แล้วยังชมคลาวด์ว่าดีกว่าแซ็คยังไง ฯลฯ มีทั้งส่วนอิจฉาทิฟาที่ได้ดูแลคลาวด์ในช่วงไขปริศนาฟื้นฟูความทรงจำ ซึ่งในส่วนรายละเอียดปลีกย่อยนั้น.... คุณเบนนีแกอาจจะแต่งเติมขึ้นมาเอง แต่ผมว่า core concept ว่าแอริธนั้นหลงรักคลาวด์ไปแล้ว แกน่าจะได้มาจากโนจิมะจริง ๆ ดังนั้นในนิยาย Lifestream: White ของโนจิมะเอง โนจิมะจึงเขียนว่า she had loved him หรือในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นก็ใช้คำว่าคนรัก 恋人

----------------------------

ทั้งหมดคือเรื่องของ Timeline Original กรุณา เก็บข้อมูล และจดจำแยกต่างหากจาก Timeline Remake...

ข้อมูลเพิ่มเติม - http://re-ffplanet.blogspot.com/2020/04/final-fantasy-vii.html

ไม่มีความคิดเห็น