ครบรอบ 5 ปีจากวันที่แท็บบี้บอกว่าคนชอบ FF ภาคไหนที่สุด ก็ตู่เอาว่านั่นคือ FF ที่แท้ทรู

ช่วงนี้เมื่อ 5 ปีก่อน ตอน E3 2015

คุณ Schreier นักข่าวจาก Kotaku ได้ไปสัมภาษณ์แท็บบี้จัง ซึ่งเนื้อหาการสัมภาษณ์ทั้งหมด ผมไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ แต่มีสิ่งที่ผมจำได้ไม่รู้ลืม จนวันนั้นเอามาตั้งสเตตัสตัวเองอยู่ 2 ข้อ

อย่างแรกคือ แท็บบี้บอกว่าไอเดียที่ว่า Final Fantasy ที่แท้จริงของแต่ละคนเป็นยังไงนั้น... มันก็อยู่ที่ว่าคน ๆ นั้นชอบภาคไหนมากที่สุด ก็จะยกยอเอาว่าแบบนั้นแหละคือ Final Fantasy ที่แท้จริง 

😂 ซึ่งตั้งกะ 5 ปีก่อน ตอนผมอ่านถึงตรงนี้ก็ยืนขึ้น ปรบมือ ทำ standing ovation ให้แล้วครับ ตั้งกะเริ่มเล่นเว็บบอร์ดทั้งไทยและเทศในปี 2000 เป็นต้นมา ผมก็เห็นมนุษย์ส่วนใหญ่เป็นแบบนั้นกันนั่นแหละ

หลังจากนั้นคุณ Schreier ก็ถามต่อทันทีว่า มันมีทฤษฎีว่าการที่ผู้คนยึดติดกับ Final Fantasy ยุคเก่ามากกว่า นั่นก็เพราะมันไม่มีเสียงพากย์, มันเหลือที่ว่างมากมาย ให้ผู้เล่น ได้เติมแต่งจินตนาการเข้าไปในหัวตามแต่จริตของตน คุณเห็นด้วยมั้ย?

ซึ่งแท็บบี้ก็ตอบว่า "I completely agree with you" 😂 แล้วเสริมว่าสิ่งที่ผู้เล่นจินตนาการเสริมเติมแต่งเข้าไป แล้วคิดทบทวนย้อนกลับไปกลับมาในหัวมาเป็นเวลานาน มันเป็นสิ่งที่ฮาร์ดแวร์ล้ำขนาดไหน ก็ไม่มีทางสร้างให้ตรงใจได้ เราไม่สามารถไป recreate สิ่งที่คนคิดต่อเติมกันในหัวได้ มันก็เป็นเรื่องยาก แล้วผู้คนก็จดจำเกมยุคเก่า กันในแบบที่แต่ละคนอยากจะจดจำกันเองไปแล้ว

--------------------------------------------------

http://re-ffplanet.blogspot.com/2016/06/ffxv-ff.html

https://kotaku.com/an-in-depth-q-a-with-the-director-of-final-fantasy-xv-1782282444

--------------------------------------------------

ตอนนั้นที่ผมอ่านมาถึงท่อนนี้ ผมก็นึกถึงช่วงยุค 2000~2010 เวลาเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่แก่กว่าผม ยุคก่อน เล่าเรื่อง FF ให้ผมฟัง

บอกได้เลยว่าแทบทุกคน ร้อยละ 80-90% "เล่ามั่ว" โดยเสริมเติมแต่งจินตนาการของตนเอง การตีความของตนเอง เข้าไปแบบไม่ยั้ง 

กลายเป็นว่า ผู้เล่นที่ได้เล่นภาคก่อนหน้า 2000 แบบ realtime แทบทุกคนจดจำเนื้อเรื่องและการนำเสนอของ FF ยุคก่อน ในแบบที่เสริมเติมแต่งจินตนาการของตนเองลงไป แล้วแต่ละคนก็พรรณาเรื่องภาคเดียวกัน ฉากเดียวกัน ออกมาไม่เหมือนกัน แต่ก็เติมแต่งไปในแนวทางแบบที่พวกเขา จะอิ่มเอมกับเนื้อหามัน

อาจเป็นเพราะยุคก่อนมันไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มี youtube ให้เปิดดูฉากเดิมซ้ำ ไม่มีการพูดคุยถกเถียงอย่างแพร่หลายด้วย ทุกคนก็จดจำเนื้อหาในแบบของตนเอง จากการเล่นของตนเองเพียว ๆ เท่านั้น

แล้วด้วยการนำเสนอในตอนนั้น ที่ยังถ่ายทอดสีหน้าท่าทางน้ำเสียงได้ไม่สมบูรณ์ อีกทั้งหลายคนยังเล่นในวัยเด็ก ทักษะทางภาษาไม่แข็งแรง ทำให้มันเหลือที่ว่างมากมาย ให้คนได้จินตนาการเติมเข้าไป เพื่อเสริมความเข้าใจในหัวให้สมบูรณ์จริง ๆ

ผมยังจำได้ถึงตอนที่ฟังลุงต้นไม้ (พี่ Y.) เล่าเรื่องจุดประสงค์ของกอลเบซ่าใน FF4 แกก็เล่าแบบเมามันส์ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ไอ้ที่แกเล่าเกี่ยวกับวิธีคิดของกอลเบซ่า มันผิดหมดเลย.... แต่แกก็เข้าใจของแก ฟินกับเนื้อเรื่องในแบบที่แกจินตนาการของแกเอง

แล้วก็นึกถึงเวลาหลาย ๆ คนเล่าฉากประทับใจในยุคเก่า หลาย ๆ ภาคให้ฟัง (ยิ่งถ้าไปเปิดสารพัดกระทู้ถกเนื้อเรื่องที่ผมเซฟเอาไว้ในยุค 2000s คงบรรเทิง) ซึ่งมันก็กลายเป็นว่าส่วนใหญ่จำกันผิด ๆ แล้วก็เติมแต่งจินตนาการกันเองลงไปเยอะ

เรียกว่าเกมยุคเก่าที่การนำเสนอสีหน้าท่าทางน้ำเสียงมันไม่สมบูรณ์ มันเหลือที่ว่างให้คนต่อเติมในหัวตามใจชอบ ได้มากกว่าจริง ๆ .....

(พูดแล้วก็นึกถึง SaGa Frontier ที่แต่งเนื้อเรื่องกิ่งก้านสาขาไปเยอะมาก แต่ทุกอย่างแต่งไว้หลวม ๆ ไม่มีรายละเอียด แล้วคุณคาวาซึก็บอกใน The Essence of SaGa Frontier เองว่าแต่งตื้น ๆ ไว้หลวม ๆ ให้ที่เหลือไปจินตนาการเติมแต่งกันเอง.... ซึ่งเกมสมัยนี้ มันจะแต่งตื้น ๆ ทำบทหลวม ๆ แบบตอนนั้นไม่ได้แล้วล่ะ)

ไม่มีความคิดเห็น