เนื้อเรื่อง FF Origin DLC Trials of the Dragon King


ครั้งหนึ่งเคยมีกลุ่มนักรบที่ตกสู่ความมืดและถวายตนให้เคออส

นี่คือเรื่องราวที่ตามมา

การครอบงำของชาวลูเฟนได้สิ้นสุดลงแล้ว บัดนี้เคออสขึ้นเป็นผู้ปกครอง โลกที่เคยว่างเปล่าทะลักไปด้วยความมืด แจ็คและพวกพ้องท่องกาลเวลาไปในวัฏจักรอันเป็นอนันต์ (traverse time through endless cycles) เพื่อตามหาแสงแห่งความหวัง แสงที่เข้มแข็งพอที่จะขจัดความสิ้นหวัง และสะบั้นตรวนแห่งความมืดที่พันธนากับวงจรอันไม่สิ้นสุด มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นถึงจะสามารถยุติการแทรกแซงของชาวลูเฟนได้อย่างยั่งยืน และสืบไป

--------------------

[ต่อจากฉากจบเกม ที่พี่แสงเปิดประตูวิหารเคออสเข้ามาหาแจ็ค]


แจ็คทุบพี่แสงง่อยแบบง่าย ๆ แล้วก็บ่นว่าแสงของหมอนี่ยังจางเกิ๊น

แจ็คตัดสินว่าหมอนี่ไม่ควรค่าที่จะรับภารกิจอันยิ่งใหญ่จากเขา แล้วก็โกรธ ผิดหวังกับการรอคอยแล้วยังไม่เจอใครสักที แต่แล้วกลับสัมผัสได้ถึงสิ่งใหม่ ๆ ที่ปรากฏขึ้นในดินแดนนี้ เลยไปตรวจที่ Cardian Islands

ส่วนบาฮามุทที่หลับใหล ก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงที่อัญเชิญมา เรียกให้ตื่น

--------------------

[บันทึกของแอสโตส]

ขณะที่ความมืดปกคลุมโลก แต่ที่ถ้ำมังกรกลับปลอดภัย และรู้สึกถึงพลังลึกลับจากส่วนลึกของที่นี่ แต่ไม่น่าช่วยแผนของแจ็คได้ เลยไม่ได้สนใจ แต่แล้วกลับรู้สึกถูกดึงดูดโดยแสงที่ส่องประกายอยู่ในส่วนลึกของถ้ำ สักวันที่แจ็คชิงโลกนี้คืนมาจากชาวลูเฟนได้ บางทีต้นตอของแสงนั้นอาจเริ่มเคลื่อนไหว

--------------------


บาฮามุทเจอพวกแจ็ค แล้วต่างฝ่ายต่างสงสัยในกัน

บาฮามุทบอกให้ไปหาหลักฐานของความกล้าและพลังมา แล้วจะมอบพลังให้

โซเฟียก็งงว่ามีพลังอะไรที่จะมาให้พวกเธอได้อีก แต่แจ็คคิดว่าอาจเป็นสิ่งที่พวกเขาตามหาพอดี


บาฮามุทถามว่าทำไมถึงทิ้งความเป็นมนุษย์และยอมรับเคออส

เพื่อน ๆ บอกสัญญากับแจ็คแล้ว อยากเห็นโลกที่แจ็คสร้าง

แจ็คก็บอกว่าทนยอมให้พวกลูเฟน เล่นเป็นพระเจ้าไม่ได้


บาฮามุทถามว่าพวกลูเฟนมันทำไรอ่ะ

เจดบอกว่าก็ใช้โลกนี้ทำการทดลอง เห็นทุกคนเป็นหนูทดลอง

เนออนเสริมว่าเรายอมไม่ได้ เลยต้องกลายเป็นสิ่งที่พวกมันควบคุมไม่ได้

บาฮามุทบอกว่าฟังแล้วสับสน กลายเป็นเคออสมันก็มีแต่ทำลายอยู่ดี

เนออนบอกก่อนหน้านี้มีแต่ความว่างเปล่า ตอนนี้กลายเป็นความมืด เป็นดินแดนอันสมบูรณ์ที่แสงสว่างจะงอกเงยขึ้นมา

บาฮามุทเข้าใจ


สู้ทดสอบกับบาฮามุท ได้หางหนูมา เป็นสัญลักษณะของความกล้า

แจ็คงงว่าหางหนูเนี่ยนะ

บาฮามุทบอกว่ารูปร่างมันเปลี่ยนไปตามโลก แค่โลกนี้มันออกมาในรูปหางหนู

ผู้สร้างที่แห่งนี้คงคิดว่า ไม่น่ามีใครเอามันไปได้ แต่รูปร่างมันไม่เกี่ยวกับพลัง เฉพาะคนที่มีความกล้าและพลังที่จะเปลี่ยนอนาคตเท่านั้นถึงเอาไปได้

บาฮามุทบอกไปรวบรวมมา และรับพลังที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้อีกครั้ง


บาฮามุทบอกว่าในมิติไกลโพ้น มนุษย์บูชาเขาเป็นเทพเจ้า คุกเข่าให้ แต่แล้วกลับหักหลังแทงข้างหลังเขา ก็อยากรู้ว่าอะไรเป็นแรงขับดันของพวกมนุษย์

เนออนถามว่า แล้วการที่พวกเธอพิสูจน์ความกล้าและพลังให้เห็นได้ จะช่วยให้บาฮามุทเข้าใจเหตุผลนั้นเหรอ?

บาฮามุทบอกว่า "อาจจะ"

โซเฟียถามว่า จะทดสอบว่าเรามีพลังที่จะสังหารเทพเจ้ารึเปล่างั้นเหรอ

บาฮามุทหัวเราะ แล้วก็บอก "อาจจะ"


มีแต่มนุษย์ที่สามารแปรเปลี่ยนความอ่อนแอ อารมณ์ทั้งหมดเป็นพลังอาวุธได้ แต่พวกแจ็คกลับเลือกเส้นทางอื่นที่ต่างจากมนุษย์ และพิสูจน์ความกล้าจนผ่านการทดสอบได้ บาฮามุทจึงเข้าร่วม ยอมเป็นอสูรมายาให้ และปลดล็อกระบบ Class (ในแต่ละ Job จะเติบโตเป็น 2 Class แยกกันออกไป) โดยจะใช้หางหนู ที่สะสมได้จากความยากระดับบาฮามุท ไปพัฒนา Class


เจดงงว่าถ้าบาฮามุทเคยโดนมนุษย์มิติอื่นฆ่าไปแล้ว แล้วมาโผล่ที่นี่ได้ไง

บาฮามุทบอกว่าร่างโดนทำลาย แต่วิญญาณดริฟต์ข้ามช่องว่างมิติมา จนถูกอัญเชิญมาที่นี่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเชิญมา แต่เห็นว่าโลกนี้มีแสงสว่างส่องประกายกลางความมืด

เจดบอกว่าต้องเป็นแสงของนักรบแห่งแสงแน่เลย


แอชคิดว่าชาวลูเฟนอาจส่งบาฮามุทมา

แต่โซเฟียคิดว่าพวกนั้นไม่น่าใช้เทพที่ควบคุมไม่ได้

แจ็คบอกจะใครก็ไม่สน ต่อให้เป็นเทพเจ้า ถ้ามันคิดจะแทรกแซงโลกนี้


บาฮามุทเคยคิดว่าการที่มนุษย์จะมีความสุข ก็ต้องคุกเข่าให้เทพเจ้า ไม่งั้นก็จะหลงในความมืดบอด ไม่สามารถมีชีวิตที่รุ่งเรืองได้

โซเฟียบอกว่าความคิดแบบนั้นมันเหมือนชาวลูเฟนเลย จึงไม่แปลกที่บาฮามุทจะโดนมนุษย์หักหลังมา

บาฮามุทบอกมนุษย์นั้นอ่อนแอ เจอความยากลำบากก็สิ้นหวัง แทบยืนด้วยสองขาตนเองไม่ได้ ถ้าไม่มีเทพชี้นำแล้วจะเอาตัวรอดกันได้ไง

โซเฟียบอกท้ายที่สุด ทุกคนก็จะตื่นขึ้นมาเห็นความจริงของโลก อย่างที่แจ็คและแอสโตสเป็น

บาฮามุทก็เข้าใจว่าเมื่อมนุษย์ร่วมมือภายใต้เป้าหมายเดียวกัน ก็จะมีพลังที่เทพไม่อาจทัดเทียม พลังที่สามารถยืนหยัดต่อความยากลำบากใด ๆ ได้ แต่เมื่อพวกนั้นได้อาบเลือดเทพเจ้าแล้ว จะเห็นอนาคตแบบไหน?

แจ็คบอกก็อนาคตที่ไม่มีใครต้องตอบสนองต่อประสงค์ของเทพเจ้า โลกที่มนุษย์ต่อสู้กับความสิ้นหวังด้วยตัวเอง


บาฮามุทบอกว่าเขาเคยคิดว่ามนุษย์ต้องการโลกที่สว่างไสว ปราศจากความมืด แต่เขาคิดผิด

แอชบอกว่าอะไรมากไปก็ไม่ดีทั้งนั้น

โซเฟียบอกว่าทั้งสว่างมืด สันติสุขและโกลาหล ความหวังและสิ้นหวัง ความขัดแย้งระหว่างสิ่งเหล่านั้นและคือมนุษย์

บาฮามุทบอกว่าพูดจ้าเปรื่องปัญญาดั่งพระเจ้า พวกเจ้าไปเจออะไรมา

เจดบอก พวกกรูติดลูปมาเป็นพัน ๆ รอบ ไม่รู้กี่พันปี


เนออนบอกว่าไม่รู้หรอกว่า คนโลกเก่าที่บูชาบาฮามุทเป็นแบบไหน แต่คนโลกนี้ยืนหยัดกับความสิ้นหวังมานาน พวกเขาเข้มแข็งกว่าที่คิด

เจดบอกว่าแล้วยังมีแสงสว่างแบบเซร่าห์

โซเฟียบอกว่าถึงไม่มีความสิ้นหวังแล้ว แต่ผู้คนก็ยังต่อสู้กันเอง

แอชบอกว่าถึงต้องมีแสงสว่าง มาขับไล่ความมืด นำสันติสุข 


บาฮามุทยอมเป็น Chaos Collaborator (ใช้คำล้อเลียน Collaborator ของฝั่งลูเฟน ที่ยังไม่เปิดเผยว่าใคร)

แจ็คก็ให้บาฮามุทช่วยตามหานักรบแห่งแสง ถ้าเจอใครที่เห็นว่ามีแววมีของ ก็ใช้บททดสอบของบาฮามุท ทำให้มันเก่งขึ้นมา เก่งพอที่จะฆ่าพวกแจ็คได้

บาฮามุทก็ขำว่า ขอให้เขาปั้นคนขึ้นมาปิดฉากพวกแจ็คเนี่ยนะ แล้วบาฮามุทก็ตกลงรับปากจะมอบพลังให้คนที่มีแวว และขอให้สร้างโลกที่ถักทอด้วยแสงสว่างและความมืดคู่กัน

เจดบอกว่าฝากบอกไอ้คนที่มีแววนั่นด้วยว่า อย่าลืมไปเจิมคริสตัลด้วย

บาฮามุทก็ทักว่าคริสตัลก็มีบทบาทสำคัญเหมือนกัน (กับโลกเก่าของเขา) สินะ

พวกแจ็คก็บอกว่าเดิมทุกอย่างในโลกก็อยู่ได้ด้วยพรจากคริสตัล จนกระทั่งพวกเขากลายเป็นเคออส ตอนนี้ก็ต้องให้นักรบแห่งแสงมาช่วยเจิมคริสตัลล่ะ


แจ็คบอกว่าอย่าลืมสัญญาล่ะ

บาฮามุทก็บอกว่าไม่ลืมแน่เจ้านักรบแห่งเคออส เขาจะใช้การทดสอบของเขาปั้นนักรบแห่งแสงเอง

--------------------

สุดท้ายหลังพวกแจ็ควนลูป ท่องกาลเวลาไปเรื่อย ๆ ก็มาถึงยุคสมัยที่พี่แสงได้รับมอบพลังจากบาฮามุท จนโหดซั๊สแล้วว

แม้จะหืดขึ้นคอ แต่แจ็คก็เอาชนะพี่แสงได้อยู่ดี แต่ก็บอกว่าเขาจะรอดวลกันใหม่ในอีก 2,000 ปีข้างหน้า (ลูปใหม่ที่พี่แสงจะเก่งขึ้นไปอีก) แล้วแจ็คก็หายเข้าความมืดไป (คงใช้ Dimensional Crystal Matrix ท่องกาลเวลาต่อเลย)


แล้วก็จบ DLC โดยขึ้นข้อความว่าทีมงาน จะออก DLC ตัวที่ 2 ผู้ท่องช่องแยกมิติ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2022

ข้อความแนะนำเกริ่นนำมิชชั่น - บาฮามุท มาจากโลกที่เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ บาฮามุทพยายามช่วยมนุษย์แล้ว แต่มีมนุษย์มากมายปฏิเสธการช่วยเหลือ และคิดว่านี่เป็นเรื่องที่มนุษยชาติต้องปกป้องกันเอง

ไม่มีความคิดเห็น