นานาทรรศนะถึง PS3 จากมุมมองของ Kojima และ Nomura


ความเดิมเมื่อตอนที่แล้ว ในวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมานั้นทางนิตยสารเกมากะได้จัดการสัมภาษณ์ทีมงานผู้สร้างเกมแบบเป็นหมู่คณะขึ้นที่อาคารของทาง Square Enix โดยผู้ที่มาให้การสัมภาษณ์ในคราวนี้ก็คือคุณ ฮิเดโอะ โคจิม่า (ไดเรคเตอร์ของ MGS4) คุณ โยจิ ชินคาวะ (อาร์ทไดเรคเตอร์ของ MGS4) และคุณ เท็ตสึยะ โนมุระ (จับฉ่ายแห่ง Square Enix ผู้ที่ทำมันทุกอย่าง) โดยประเด็นหลักของเรื่องที่ทางนิตยสารเกมากะต้องการสัมภาษณ์นั้นก็คือทรรศนะของทั้งสามท่านที่มีต่อเครื่อง Playstation 3 นั่นเอง


พวกเราต่างก็เคยได้เห็นการที่ PS3 นั้นได้ถูกจับไปเปรียบเทียบกับ รถยนต์คันหรูหรือดินเนอร์สุดเลิศรสในภัตตาคารชั้นยอด ในขณะที่เมื่อไม่นานมานี้ คุณฮิเดโอะ โคจิม่า ไดเรคเตอร์มือฉมังของวงการที่กำลังสร้าง Metal Gear Solid 4 อยู่นั้น ก็พึ่งได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อนิตยสารเกมากะของประเทศญี่ปุ่นว่า PS3 นั้นก็เหมือนกับการที่คุณได้เข้าไปรับชมภาพยนตร์ในโรงหนัง ในขณะที่ Xbox 360 ก็เหมือนกับการซื้อ DVD หนังเรื่องหนึ่งมาดูที่บ้าน ในขณะที่ Wii นั้นก็เสมือนกับการดูรายการทีวีทั่วไปที่มีอยู่มากมายนั่นเอง

เกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น ผมได้เคยให้สัมภาษณ์ไปครั้งหนึ่งแล้วภายในงาน E3 และผมตอบไปว่า.. โคจิม่ากล่าวต่อไป PS3 ก็เหมือนกับหนังตามโรงภาพยนตร์ คุณจ่ายเงิน 1,800 เยนและได้ดูหนังด้วยระบบเสียงที่ยอดเยี่ยมและได้สัมผัสกับจอภาพขนาดยักษ์ มันไม่ใช่หนังเก่าๆที่รีเมคมาจากละครทีวี แต่มันคือหนังที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ และทุกคนก็ต้องการมัน ส่วน Xbox 360 นี่ก็เหมือนกับการรับชมภาพยนตร์อยู่ที่บ้าน ซึ่งก็เหมาะกับคนที่ต้องการจะดูหนังเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นจะยังไงก็ได้ ในขณะที่ Wii นั้นก็เหมือนกับรายการโทรทัศน์ คุณเปิดทีวี คุณได้ดูบอลและเพลิดเพลินไปกับวาไรตี้โชว์ทั้งหลายอย่างง่ายๆ

เมื่อลองพิจารณาดูจากความเห็นของคุณโคจิม่าที่ให้สัมภาษณ์ไว้กับทางเกมากะแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะให้ความชื่นชอบกับแผนการณ์ตลาดของโซนี่มากเลยทีเดียว เขากล่าวว่า หากคุณลองมองไปถึงอนาคตของอุตสาหกรรมและอนาคตของผู้ผลิตเกม ผมรู้สึกว่าผู้ชนะน่าจะเป็นฝ่ายหนังตามโรงภาพยนตร์น่ะนะ อืม...PS3 นั่นแหละ คงจะไม่มีใครพูดหรอกครับว่ามันราคาถูก อย่างไรก็ดี ผมมองว่า PS3 นี่แหละคือ อนาคต ตัวเครื่อง Wii เองก็น่าสนใจเช่นกันนะ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องฟังก์ชั่นของมันแล้ว มันเป็นเครื่องเล่นเกมที่มีคอนเซปต์ที่เก่าไป

อย่างไรก็ตาม คุณโคจิม่านั้นก็ชื่นชอบและสนับสนุนในตัวคอนโทรลเลอร์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Wii มาก เขากล่าวไว้ด้วยว่า คงจะเป็นการดีที่สุดหาก PS3 มีคอนโทรลเลอร์อย่าง Wii

คุณโคจิม่าได้แสดงความผิดหวังกับคอนโทรลเลอร์ของ PS3 โดยเขาบอกว่า เป็นเรื่องโชคร้ายทีเดียวที่ระบบการสั่นของคอนโทรลเลอร์นั้นต้องถูกตัดออกไป แต่แล้วคุณโนมุระก็ขัดขึ้นว่าในอนาคตอาจจะมีการเพิ่มระบบนี้ลงไปอยู่ดีก็ได้ คุณโคจิม่าเลยให้ความเห็นว่าหากสาเหตุที่ต้องตัดระบบการสั่นทิ้งเพราะว่ามันไปรบกวนการทำงานของโมชั่นเซนเซอร์จริงๆล่ะก้อ โซนี่ก็น่าจะทำปุ่มกดเลือกสำหรับสลับระบบการทำงานระหว่างการสั่นกับโมชั่นเซนเซอร์ด้วยน่ะนะ

หลังจากนั้นคุณโนมุระก็ได้ให้ทรรศนะถึง PS3 บ้างว่า ลองคิดไปถึง 2-3 ปีหลังจากนี้สิ PS3 จะต้องเป็นเครื่องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแน่ๆ พวกผมรู้สึกว่า เมื่อใดก็ตามที่เกมที่พวกผมกำลังสร้างอยู่ (Final Fantasy XIII) ได้วางจำหน่ายแล้วล่ะก้อ PS3 จะติดตลาดแน่นอน!!

โคจิม่าเองก็บอกว่า PS3 เป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้อุตสาหกรรมนี้ก้าวต่อไป หากว่าเส้นทางการวิวัฒนาการอย่างเครื่อง PS3 ปิดฉากลงเมื่อไหร่ อุตสาหรรมนี้คงยากที่จะขยายตัวต่อไปได้ คุณโคจิม่ายกตัวอย่างหนังเรื่อง Poseidons Adventure เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของวงการภาพยนตร์ที่เปลี่ยนจากการสร้างหนังด้วยต้นทุนที่จำกัดมาเป็นการใช้ต้นทุนแบบไม่อั้นแบบที่เราเห็นกันในปัจจุบันแทน เขากล่าวเสริมไปว่า การสร้างเกมให้กับเครื่อง PS3 นั้นอาจจะต้องใช้งบประมาณการลงทุนที่สูงมาก แต่ถ้าหากพวกเราต่างหยุดอยู่ที่ตรงนี้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับอุตสาหกรรมเกม? ดีแล้วหรือหากจะให้ผู้ผลิตเกมทุกคนหันมาทำเกมแบบวาไรตี้สไตล์? มันจะไม่ต่างอะไรกับรายการโทรทัศน์เลยนะนั่น ไม่เวิร์คน่า

การสนทนานั้นดูจะลดดีกรีความตึงเครียดลงเล็กน้อยเมื่อทางเกมากะถามถึงภาคต่อของ Zone of the Enders ซึ่งคุณโคจิม่าก็บอกว่า พวกเราเองก็ต้องการที่จะทำภาคต่อ แต่คนที่ว่างจะทำน่ะมันไม่มี อ่ะ! ตอนนี้ผมตัดสินใจแล้ว คุณโนมุระไปออกแบบตัวละคร ส่วนคุณชินคาวะก็ไปออกแบบพวกเครื่องจักรละกัน

หลังจากนั้นก็คุยกันถึงเรื่องของการร่วมมือกันระหว่างบริษัท คุณโนมุระบอกว่าตกใจมากที่เห็นสเน็คโผล่ไปแจมใน Smash Brothers ของ Wii คุณโคจิม่าก็เลยถามว่า อ้าว แล้วคลาวด์ของคุณไม่ได้ไปโผล่ด้วยเหรอครับ? คุณโนมุระก็ตอบว่า เอ่อ พวกเขาไม่ยอมมาชวนผมน่ะ 555+

ไม่มีความคิดเห็น