ทาบาตะสารภาพ FFXV ไม่เกี่ยวข้องกับนิยาย FNC อีกต่อไป


สรุปบทสัมภาษณ์ล่าสุด Final Fantasy XV ซึ่งคุณฮาจิเมะ ทาบาตะ ผู้กำกับ และคุณโทโมฮิโระ ฮาเซกาวะ ผู้ออกแบบมอนสเตอร์ ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Gamespot ไว้หลังจัดรายการในงาน PAX Prime 2015 ครับ

สิ่งมีชีวิตในเกม

- ลิเวียธานในภาคนี้ จะเป็นอสูรงูหญิงที่อาศัยอยู่ในแม่น้่ำรอบเมืองอัลทิสเซีย มีสติปัญญาสูงส่ง สามารถพรางตัวและเคลื่อนที่ไปมาในสภาพของเหลวได้ (คงเป็นไอ้กลุ่มฟองน้ำที่เด้งไปมาในเทรลเลอร์ E3 2013 ที่ผมก็ว่ารูปร่างและการเคลื่อนไหวมันไม่เหมือนน้ำ)

- สัตว์อสูรในภาคนี้มีบทบาทเป็นเสมือนเทพ และมีส่วนในการสร้างโลกขึ้นมา แต่ละตัวมีรูปร่างและบุคลิกที่แตกต่างกัน พวกมันมีเพศ และมีภาษาของตัวเอง

- เดิม FF Versus XIII ถูกสร้างให้เป็นส่วนหนึ่งของ Fabula Nova Crystallis ทว่าทาบาตะบอกว่า FFXV ในตอนนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับนิยาย FNC อีกต่อไป และมีธีมที่แตกต่างไปจากที่ Versus XIII เคยเป็น แม้องค์ประกอบบางอย่างที่ดีไซน์ไว้แล้วจะยังคงอยู่ก็ตาม

- ตอนนี้โลก FFXV ไม่ได้อ้างอิงอยู่บนนิยาย FNC แล้ว แต่ไปอ้างอิงอยู่บนเทพนิยายของญี่ปุ่น ซึ่งเอาองค์ประกอบจากศาสนาของชาวตะวันตกผสมผสานเข้าไป ในเกมผู้เล่นจะได้ค้นพบการกำเนิดโลก และเรื่องราวของเหล่าเทพที่สร้างโลกขึ้นมา

- มีการยืนยันเป็นครั้งแรกว่า โลโก้ของ FFXV (ซึ่งใช้ต่อมาจาก Versus XIII) ซึ่งวาดโดยคุณอามาโนะนั้น ไม่ใช่รูปฟัลซิเอโทร แต่เป็นเทพธิดาที่สำคัญที่สุดในโลกของ FFXV ภาพสเก็ตซ์ของคุณอามาโนะนั้นได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบแคแรคเตอร์ของเธอ (ผมฟังแล้วสงสัยว่าเดิมที ทีมงานตั้งใจให้รูปนี้คือเอโทร แต่พอรีบู๊ทใหม่ ก็เปลี่ยนชื่อและบทบาทไป โดยยังคงรูปลักษณ์เดิมรึเปล่านะ?)

- มอนสเตอร์ในเกม ไม่ได้เป็นศัตรูกับเราทั้งหมด คนออกแบบมอนสเตอร์ (โทโมฮิโระ ฮาเซกาวะ) บอกว่าออกแบบมาให้พวกมันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มันเกิดขึ้น มอนสเตอร์บางชนิดพอฆ่าแล้วก็จะได้ชิ้นส่วนไปปรุงอาหาร

- พอถูกถามว่าจะมีม็อค ทอนแบร์รี และซาโบเทนเดอร์หรือไม่? คุณฮาเซกาวะบอกว่าพวกเขาพยายามสร้างให้มอนสเตอร์ในเกมนี้มันสมจริง จึงเป็นเรื่องยากในการหาทางใส่มอนสเตอร์ (ที่ไม่สมจริง) แบบเจ้าพวกนี้ลงไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกคุณจะไม่ได้เห็นมันซะทีเดียว สุดท้ายก็คงจะได้เห็นบ้างแหละ

ผู้คนและสถานที่

- ก่อนหน้านี้มีเปิดเผยอัลทิสเซีย เมืองแห่งน้ำที่ได้แรงบันดาลใจจากเวนิซ, เลสทัลลัม เมืองที่สร้างอยู่บนหลุมอุกกาบาตซึ่งได้แรงบันดาลใจจากคิวบา, โรงงานฉลามหัวค้อน ซึ่งรับซ่อมเรกาเลีย และล่าสุดคือคาม ด่านริมน้ำที่มีเรือให้นั่งข้ามฟากไปยังดินแดนใหม่

- ทาบาตะบอกว่าความรักระหว่างลูน่ากับน็อค ไม่ใช่ความรักแบบทั่วไป ลูน่าเป็นคนที่มีความเข้มแข็งมาก เธอกับน็อคจะมีอิทธิพลต่อกันเป็นอย่างยิ่ง

- ผู้เล่นจะมีส่วนในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างน็อคติสกับพรรคพวก การพัฒนาความสัมพันธ์นั้นเกิดจากการทำกิจกรรมร่วม เช่น ทำเควสต์เฉพาะกิจกัน 2 คนอย่างที่เห็นในเดโม 2.0 เมื่อความสัมพันธ์พัฒนาขึ้น การโจมตีประสานระหว่างตัวละครก็จะรุนแรงขึ้น

- ในโรงงานฉลามหัวค้อน จะมีช่างเครื่องซึ่งเป็นตัวละครที่แฟน ๆ ซีรีส์รู้จักมาตลอด (ซึ่งก็ต้องเป็นซิด)

- เพื่อบาลานซ์การต่อสู้ใน FFXV ทีมงานได้เพิ่มอาวุธปืนและโล่ลงไปให้น็อคติสใช้ โดยอาวุธใหม่ ๆ ก็จะได้มาในระหว่างการเดินทาง และจำนวนของอาวุธที่มีให้ใช้ก็ค่อนข้างเยอะ

รถ

- เรกาเลีย เป็นชื่อรถที่น็อคติสรับช่วงต่อมาจากพ่อ เป็นสายสัมพันธ์ที่ระลึกถึงพ่อของเขา

- คุณทาบาตะอยากให้ผู้เล่นสนุกไปกับการขับรถในเกมนี้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนมุมกล้องได้หลายแบบ ไม่ว่าจะแบบมุมมองบุคคลที่สาม แบบเน้นไปที่วิว แบบมุมกล้องจากท้ายรถ หรือจากมุมมองจากสายตาคนขับ อีกทั้งการขับนี้ยังเลือกได้ว่าจะเอาแบบแมนนวลหรือออโต้ แถมยังมีระบบจอดรถอัตโนมัติ เป็นการจอดในจุดที่ทีมงานกำหนดไว้

- รถในเกม สามารถปรับแต่งได้ และเมื่อพังก็ต้องเอาไปซ่อม, รถในเกมต้องเติมแก็ส ผู้เล่นต้องแวะจอดเติมแก็สด้วย ถ้าแก็สหมดก็ต้องลงจากรถมาเข็นไปยังปั๊มที่ใกล้ที่สุด (ไอ้ที่ว่าต้องเข็นเนี่ย ไม่รู้ว่าแกพูดเอาฮารึเปล่า เพราะให้วาร์ปไปที่ปั๊มเลยน่าจะสะดวกกว่า)

- ตัวเกมจะมีการนั่งเรือไปยังทวีปอื่น นี่เป็นจุดที่เปลี่ยนไปจากที่เฮียแกพูดตอนต้นปี ก่อนหน้านี้เฮียแกบอกว่าแผ่นดินทั้งหมดในโลกเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน (แบบ Type-0) แต่ตอนนี้มีที่ ๆ ต้องนั่งเรือไปแล้ว ผู้เล่นไม่ได้เป็นคนควบคุมเรือเองโดยตรง และไม่ว่าจะไปที่ไหน พวกเขาจะเอารถเรกาเลีย ตามไปด้วยเสมอ


นอกจากนี้ในส่วนทวีตภพของเกม มีเขียนข้อมูลเล็ก ๆ เพิ่มไว้ดังนี้

- ถึงแม้จะบอกว่ารถส่วนใหญ่ในเกมอิมพอร์ทมาจากนิฟไฮม์ แต่ไม่ได้แปลว่ารถของเรจิสจะอิมพอร์ทมา

- ภาพลูน่าที่เห็นเป็นแค่เวอร์ชั่นชั่วคราว ซึ่งย่อขนาดมา

ไม่มีความคิดเห็น