เรื่องของโจชัว ตอน...โลกของเนกุ

โจชัว... 

เบื้องหลังบุคลิกภาพที่ดูเอื่อยเฉื่อยขี้คร้าน จริงๆ แล้วโจชัวเป็นคนที่มีสติปัญญาที่เฉียบแหลมและสามารถเข้าใจอะไรได้มากกว่าคนทั่วไป เขามักจะพูดยียวนคนอื่นและทำตัวลึกลับ เพราะนั่นเป็นวิธีแสดงออกที่จะทำให้สิ่งรอบๆ ตัวเขาดูสนุกขึ้นมา 

ในขณะที่ทุกๆ คนกำลังใช้ชีวิตไปตามปกติ โจชัวกลับมองเห็นยมทูตและเหล่าคนตายมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งโจชัวเติบโตขึ้นเขาก็ยิ่งสงสัยว่าคนเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร การมีชีวิตก็คือการทำงานที่ซ้ำซากในแต่ละวัน ผู้คนพยายามทำความเข้าใจกันและกัน แต่กลับไม่มีใครเอะใจเลยว่าคนเราไม่มีทางที่จะเข้าใจกันได้หรอก ด้วยเหตุนี้โจชัวจึงเริ่มเล่นเกมบางอย่าง เพื่อตัดสินชะตากรรมของชิบุยะ 

เนกุ... 

การแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการใคร ไม่ต้อนรับใคร เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเนกุ สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่เนกุไม่เคยมีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียว เขาไม่รู้จักการจับกลุ่ม ไม่รู้จักการไปไหนมาไหนกับใคร เนกุคิดว่าทุกๆ คนช่างน่ารำคาญ โลกใบนี้น่ะมีเขาคนเดียวก็พอแล้ว 

แต่ในก้นบึ้งของจิตใจ เนกุก็มอบหัวใจให้กับศิลปินคนหนึ่งที่ใช้นามแฝงว่า CAT ศิลปินผู้ที่ไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ และไม่เคยเผยแพร่ภาพออกสู่สาธารณะ แต่ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมและคติประจำใจที่ว่า "มีความสุขทุกวินาที กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็น" ก็ทำให้เนกุรู้สึกนิยมชมชอบในตัวของ CAT และอยากที่จะมีชีวิตที่อิสระ ไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งใดแบบเขาคนนั้น 

หลังจากที่โจชัวได้เข้ามาใน Under Ground (โลกหลังความตายซึ่งซ้อนทับอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง) เขาได้ชักชวนให้เนกุทำสัญญาเป็นคู่หูกับเขา ถ้าเนกุตาย...โจชัวก็จะตาย ในทางกลับกันหากโจชัวตาย...เนกุก็จะตายด้วย 

เนกุรู้สึกว่าโจชัวเป็นคนที่ประหลาด ชอบทำตัวเป็นปริศนาและไม่ค่อยยอมบอกอะไรกับเนกุ ในบางครั้งที่เนกุได้ลองใช้เข็มกลัดอ่านความคิดของโจชัวดู ภาพที่เขาเห็นก็คือภาพของโจชัวที่กำลังลั่นกระสุนใส่เขาด้วยสีหน้าของฆาตกร นั่นจึงทำให้เนกุปักใจเชื่อว่าโจชัวเป็นคนฆ่าเนกุอย่างแน่นอน 

ในวันที่ 5 ของการแข่งขันเกมยมทูต เกมที่จะคัดเลือกผู้ตายเพียงหนึ่งคนให้ได้รับสิทธิในการคืนชีพอีกครั้ง โจชัวได้สารภาพกับเนกุว่าเขาสามารถมองเห็นโลก UG ได้ตั้งแต่สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาเห็นทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่าง ทั้งเกมยมทูต ผู้เล่น ตัวยมทูต นอยส์ รวมทั้งการทำงานทั้งหมดของพวกมัน 

โจชัวยังคงพูดต่อไปด้วยสีหน้าที่แฝงด้วยเลสนัยว่าเกมยมทูตได้ดึงดูดให้เขารู้สึกสนใจ ยิ่งเขาได้ฟังเรื่องของ UG จากคุณลุงร้านกาแฟมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหลงใหลในเกมมากขึ้นเท่านั้น เขาหลงใหลในการแข่งขันเพื่อแบ่งแยกระหว่างความเป็นกับความตายของคนในเมือง มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น อย่างน้อยที่สุดมันก็น่าสนใจกว่าชีวิตประจำวันอันน่าเบื่อหน่ายที่ต้องทำแต่เรื่องเดิมๆ สำหรับโจชัวแล้วการมีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากการตาย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะมาอยู่ที่ UG ด้วยความต้องการของเขาเอง 

ครั้งหนึ่งเด็กหนุ่มอัจฉริยะคนนี้เคยพูดกับเนกุว่าการใช้เข็มกลัดทำให้เราสามารถอ่านใจผู้อื่นได้ และนั่นก็ทำให้เราสามารถเข้าใจผู้อื่นได้อย่างแท้จริง ถ้าอ่านใจคนได้ด้วยเข็มกลัด เราก็ไม่จำเป็นต้องพูดให้ยุ่งยาก และยังสามารถรับรู้เรื่องที่คนอื่นๆ พยายามโกหกเราได้อีกด้วย 

โจชัวคิดว่าต่อให้คนเราคุยกันไปจนวันตายก็ไม่มีทางได้รับรู้ความเป็นจริง เพราะทุกคนต่างก็เห็น ต่างก็มองสิ่งต่างๆ ไม่เหมือนกัน 

เนกุคิดว่าสิ่งที่โจชัวพูดมันก็จริง เราอาจไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของคนอื่น เราอาจไม่รู้ว่าคนอื่นกำลังคิดอะไรอยุ่ ดังนั้นผู้คนจึงพยายามที่จะหาคำตอบมัน CAT เคยบอกกับเขาว่าจงเปิดโลกของเรา จงเปิดใจของเราให้กับคนอื่นๆ นั่นคือหนทางที่จะทำให้เราสามารถมีความสุขได้ทุกเวลา เนกุคิดว่าด้วยเข็มกลัดอ่านใจอันนี้มันอาจจะทำให้เขาสามารถเป็นแบบ CAT ได้... แต่แล้วเขาก็รู้สึกสะกิดใจขึ้นว่าทำแบบนั้นแล้วจะสามารถมีความสุขได้อย่างไร CAT เองก็ไม่ได้ใช้เข็มกลัดอ่านใจ ดังนั้นตัวเขาเองก็ควรจะหาทางเปิดโลกกว้างด้วยวิธีของตัวเขาเองมากกว่า 

ตอนท้ายของการแข่งขันวันที่ 5 เนกุได้รู้ความจริงจากยมทูตว่าโจชัวยังมีชีวิตอยู่ ขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆ เป็นคนที่ตายไปแล้ว และต้องมาที่ UG ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากมา แต่โจชัวกลับเลือกที่จะหาทางเดินทางมายัง UG ด้วยวิธีพิเศษและด้วยความตั้งใจของเขาเอง พอเนกุได้รับรู้ความจริงเนกุก็รู้สึกหัวเสียเป็นอย่างมาก ยิ่งโจชัวบอกว่าเขามาที่นี่เพราะเขาเบื่อการใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง นั่นก็ยิ่งทำให้เนกุรู้สึกเกลียดโจชัว แต่แล้วเนกุก็ต้องสะอึกเมื่อถูกโจชัวโยนคำถามๆ หนึ่งมาให้ คำถามนั้นก็คือ "แล้วนายเข้าร่วมเกมเพราะอยากมีชีวิตใหม่จริงๆ เหรอ ยังอยากจะกลับไปใช้ชีวิตอีกเหรอ" มันเป้นคำถามที่เนกุที่ยังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่สามารถตอบได้ เพราะตัวเขาเอง...ไม่ว่าจะในโลกแห่งความเป็นจริงหรือจะเป็นโลกหลังความตาย เขาก็ปิดใจไม่ต้อนรับคนอื่น และทำตัวเหมือนอยู่คนเดียวมาตลอด 

ในวันที่ 6 ซึ่งเป็นวันที่มีนอยส์อาละวาดไปทั่วเมือง เนกุจะเสียใจมากที่ไม่สามารถไปช่วยคนอื่นๆ ได้ทันเวลา ยิ่งได้ยินคนที่กำลังจะหายไปพูดล่ำลาเขามากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้เนกุรู้สึกเสียใจมากขึ้นเท่านั้น พอเห็นเนกุรู้สึกแย่ โจชัวเลยหันไปถามว่านายรู้สึกเห็นใจคนอื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขานึกว่าเนกุจะไม่รู้จักแคร์คนอื่นซะอีก 

เนกุบอกว่าไม่...แม้ว่าทุกคนจะเป็นแค่คนแปลกหน้า ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ไม่รู้ว่าพวกเขามาจากไหน ไม่รู้ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร แต่ว่า...ตั้งแต่ที่ฉันได้เข้ามาใน UG ฉัน...ก็ได้เริ่มต้นพูดกับพวกเขาบ้าง ได้เริ่มรู้จักพวกเขามากขึ้นทีละเล็ก และเข้าใจพวกเขามากขึ้นทีละน้อย ฉันรู้สึกว่าโลกของฉันได้เติบโตขึ้น แม้จะแค่ทีละนิดก็ตาม... ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป พวกเขาไม่ใช่แค่คนแปลกหน้าอีกต่อไปแล้ว ฉันไม่สามารถปิดใจจากทุกคนแบบนั้นได้ 

พอโจชัวได้ยินแบบนี้ก็บอกว่าพูดแบบนี้ไม่เห็นเหมือนเนกุที่เขารู้สึกเลย ดี! แต่อย่าหวังสูงเกินไปนักล่ะ นายไม่มีวันเข้าใจผู้คนรอบข้างได้จริงหรอก แต่เนกุก็บอกว่าการมีความสุขทุกวินาที การมีความสุขไปกับโลกของเราก็คือการเปิดโลกของเราให้กว้างขึ้น ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว เพราะโลกที่คนๆ หนึ่งมองเห็นนั้นช่างดูเล็ก ดังนั้นเราจึงต้องรู้จักเข้าถึงผู้อื่นนั่นเอง 

เนื้อเรื่องในเกมดำเนินไปกว่า 60% แล้ว... เนกุในตอนนี้ได้เปลี่ยนไปจากเนกุในตอนเริ่มเกมเป็นอย่างมาก จากเดิมที่เขาเป็นคนที่ไม่เปิดใจให้ใคร ทว่าการที่เขาได้ทำตามคำสั่งสอนของคนที่เขาเคารพ การได้ลองใช้เข็มกลัดอ่านความคิดของผู้อื่น มันทำให้เขารู้สึกว่าโลกนี้กว้างใหญ่มากกว่าที่เขาคิด เขาเคยมีความคิดว่าโลกนี้ช่างน่าเบื่อ แต่นั่นคือโลกที่มีแต่ตัวเขาเองเพียงคนเดียว 

เนกุพูดอยุ่เสมอว่าเขาต้องการโลกที่มีแต่ตัวเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่จริงๆ เขาไม่ได้ต้องการแบบนั้น ที่เนกุมีความทุกข์ก็เพราะเขาปิดใจไม่ยอมให้ใครเข้ามาในโลกของเขา ทว่าตั้งแต่ที่เขาเริ่มใช้เข็มกลัดอ่านใจ มันทำให้เขาเข้าถึงโลกของคนอื่นได้ง่ายขึ้น พอได้คุยกับคนอื่น ได้ช่วยเหลือคนอื่น เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าโลกของเขาค่อยๆ เติบโตขึ้น และนั่นก็ทำให้ชีวิตของเขามีความสุขมากยิ่งขึ้น 

ถ้าไม้ค้ำช่วยพยุงคนที่เจ็บขาให้สามารถเดินได้ เข็มกลัดอ่านใจก็เหมือนสิ่งที่ช่วยพยุงให้เนกุผู้มีอาการป่วยทางจิตสามารถใช้ชีวิตอย่างคนปกติได้เช่นกัน ในไม่ช้าเมื่อเนกุหายดี เข็มกลัดอ่านใจก็คงไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับเขาอีกต่อไป เพราะในตอนนี้เนกุก็ได้รู้สึกตัวแล้วว่าต้องทำอย่างไร ถึงจะสามารถใช้ชีวิตให้มีความสุขได้ 

โลกจะน่าเบื่อหรือเต็มไปด้วยความสุข...มันขึ้นอยู่กับตัวของเราเอง 

เพราะนี่แหละคือ... The World Ends With You 

ไม่มีความคิดเห็น