โนมุระยันแล้ว! บอสสุดท้าย FFVII Remake เป็นบอสใหม่!

Square Enix ปล่อยภาพ Promotional Art, Artwork และ Screenshot ของ Final Fantasy VII Remake ออกมาชุดใหญ่ โดย 2 ภาพที่โดดเด่นที่สุดในนั้นคือ Promotional Art ของแอริธและแบร็เร็ต ซึ่งเป็นการรีเมกภาพ Wallpaper ประจำตัวอันโด่งดังของแต่ละตัวละครสมัย PS1 ขึ้นมาใหม่ (ก่อนหน้านี้ทำของคลาวด์ไปแล้ว)



มีจุดน่าสนใจว่า ภาพต้นฉบับของแอริธจริง ๆ ต้องแหงนหน้ามองเรือเหาะไฮวินด์... แต่เข้าใจได้ว่าเนื้อเรื่องใน Final Fantasy VII Remake Part 1 ยังไม่ได้ไปถึงจุดที่เจอไฮวินด์ ก็เลยยังไม่ได้ออกแบบขึ้นมาใหม่ (เอิ๊ก...)

นอกจากนี้ก็มีข้อความแนะนำเกมจากทีมงานหลักอีก 11 ชีวิต ซึ่งเดี๋ยวค่อยมาย่อยให้ฟังอีกที แต่ที่น่าสนใจคือตอนนี้ คุณโมโตมุ โทริยามะ อดีตผู้สร้างมินิเกมเรือดำน้ำใน FFVII Original, ผู้กำกับ FFX และซีรีส์ FFXIII ได้มาเป็น Co-Director ของ FFVII Remake ด้วยแล้ว โดยแกรับผิดชอบในส่วน Scenario

ข้อความจากทีมงาน
JP - https://www.inside-games.jp/article/2019/11/26/125936.html
EN - https://square-enix-games.com/en_GB/news/final-fantasy-vii-remake-developers

ภาพอื่น ๆ มีทั้ง
- เมนูอัปเกรด Buster Sword
- มินิเกมปาลูกดอก
- มนต์เรียกอสูรโจโคโบะ-ม็อก มีให้ใช้ในมิดการ์เลย
- คลาวด์ใช้ท่า Blade Beam (ของเดิมเป็น Limit 2 ท่าแรก)
- กราฟฟิกโซนบ้านของแอริธ และโบสถ์
- ฯลฯ

ดูเพิ่มเติมได้จาก
- https://blog.eu.playstation.com/2019/11/25/new-final-fantasy-vii-remake-screens-feature-moogles-weapon-abilities-materia-mini-games-and-more
- https://dengekionline.com/articles/18721
- https://game.watch.impress.co.jp/docs/news/1220293.html
- https://www.jp.playstation.com/blog/detail/9169/20191126-ff7r.html

ข้อมูลระบบใหม่อย่างนึงใน FFVII Remake

Weapon Ability


- อาวุธแต่ละชิ้นจะมีอบิลิตี้เฉพาะตัว (นึกถึง FFIX และ LRFFXIII เลย) อย่างใน Buster Sword มีท่า Focused Thrust อยู่

- เมื่อใช้อาวุธชิ้นใดต่อสู้ไปเรื่อย ๆ แล้ว ค่า Proficiency (ความชำนาญ) จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เมื่อค่านี้เต็ม 100% ตัวละครก็จะได้อบิลิตี้ของอาวุธนั้น ติดตัวไปใช้ถาวร (เอ่อ... นี่มันระบบ FFIX)

- อาวุธมีค่าสเตตัสของมัน และมีเลเวลของอาวุธ เราสามารถอัปเกรดเลเวลอาวุธ เพื่อเพิ่มสเตตัส หรือเพิ่มช่องใส่มาเทเรียได้

- Buster Sword เขียนรายละเอียดว่า ดาบเล่มโตซึ่งรับสืบทอดความหวังของผู้ที่เคยใช้มันต่อสู้มาก่อน....



ใน Final Fantasy VII Remake Part 1 มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการได้รับมาเทเรียมนต์เรียกอสูรต่าง ๆ ไปจากเกมภาคออริจินอลมากมาย และยังมีอสูรใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาด้วย

นอกจากก่อนหน้านี้ที่มีการเปิดเผย Ifrit และ Shiva เวอร์ชั่นรีเมกไปแล้ว ล่าสุดก็มาถึงคิว Chocobo/Mog มาเทเรียมนต์เรียกอสูร ซึ่งเดิมทีเป็นมนต์อสูรแรกของเกม ที่จะได้เมื่อไปถึงฟาร์มโจโคโบะ

ท่าโจมตีที่โชว์ในภาพ ล้วนเป็นท่าใหม่สำหรับภาครีเมก

- Mog Bomb ยิงลำแสงไฟฟ้าออกมา

- Stampede เรียกฝูงโจโคโบะมารุมกระทืบ


ระบบมนต์เรียกอสูรในภาครีเมก เมื่อเราติดตั้งมาเทเรียมนต์เรียกอสูรให้กับตัวละคร จะมีเกจพิเศษเพิ่มขึ้นมา เมื่อสะสมเกจนี้จนเต็ม ก็จะสามารถเรียกอสูรออกมาได้ โดยมันจะต่อสู้แบบ Auto แต่เราสามารถใช้เกจ ATB สั่งให้อสูรใช้ท่าพิเศษออกมาได้ (เหมือน FFXV Episode Ardyn) ระหว่างต่อสู้เกจอสูรจะลดลงไปเรื่อย ๆ และก่อนที่เกจจะหมด มันก็จะใช้ท่าไม้ตายส่งท้าย ก่อนจะหายไป

สิ่งที่ถูกเปลี่ยนชื่อเล็ก ๆ น้อย ๆ ใน FFVII Remake

- มาเทเรีย Sense เปลี่ยนเป็น Assess (การประเมิน)


- ท่า Blade Beam (Limit Break ขั้น 2 ท่าที่ 1 ของคลาวด์) เปลี่ยนชื่อเป็น Blade Burst


ข้อมูลตัวละครที่เปิดเผยเพิ่มขึ้นมา

- บิ๊กส์ เป็นคนที่เฉียบขาดและมีความสามารถสูงสุดในกลุ่ม Avalanche ชุดปัจจุบัน รับผิดชอบด้านการวางแผน ค่อนข้างหยวนยอมเวลาที่แบร์เร็ตเกรี้ยวกราด เป็นคนสะอาดสะอ้าน ชอบอาบน้ำและรักษาความสะอาด


- เวจด์ เป็นคนใช้คอนเนคชั่นและสเน่ห์ในการวบรวมข้อมูลให้ทีม มีนิสัยประนีประนอมกับศัตรู และยังมีหน้าที่เป็นคนทดสอบชิมเมนูใหม่ให้กับบาร์ 7th Heaven เป็น Mood Maker ของทีม Avalanche


- เจสซี ฝ่ายจัดหาของ Avalanchde คอยเตรียมยุทธภัณฑ์ทุกอย่างสำหรับการทำภารกิจ ทั้งระเบิด, ID ปลอม เจสซียังทีทักษะทางวิศวกรรม การผลิต และยังขายเครื่องกรองน้ำเป็นรายได้เสริมเข้าทีม เป็นคนที่ที่ห่วงใยคนอื่น และแพ้ผู้ชายหล่อ ๆ



โยชิโนริ คิตาเสะ (ผู้อำนวยการสร้าง)

- ตั้งแต่เริ่มเดินสายโปรโมตเกมรอบโลก เริ่มตั้งแต่ FFXIII ในปี 2009 ก็โดนนักข่าวและแฟนคลับถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะรีเมค Final Fantasy VII?

- ถึงจุดหนึ่ง เลยต้องท่องประโยคเอาไว้ชิงพูดก่อนจะถูกถามเลยว่า "ถ้าเราจะรีเมกมันขึ้นมาในตอนนี้ ก็คงจะต้องสร้างข้อมูลปริมาณมหาศาลมาก ใครจะไปรู้ว่ามันต้องใช้เวลาสร้างกี่ปี แต่เมื่อ 'ถึงเวลานั้น' เราอาจจะลงมือทำในสักวันหนึ่ง!"

- ในที่สุด เวลานั้น ที่ว่าไว้ ก็มาถึงแล้ว

เท็ตสึยะ โนมุระ (ผู้กำกับ)

- ในอดีตเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่มีตัวละครใหม่ แต่นั่นหมายถึงพวกตัวละครหลัก, เกมจะมีพวกตัวละครย่อยรอง ๆ ลงมาเพิ่มขึ้นมาท่วมมิดการ์

- คุณอาจจะคิดว่า Final Boss ของเกมซึ่งจบแค่หนีออกจากมิดการคือหุ่น Motor Ball (ภาครีเมกเปลี่ยนชื่อเป็น M.O.T.O.R.) แต่ในเวอร์ชั่น Remake Part 1 จะมีบอสใหม่โผล่มาสร้างความตื่นเต้นให้เนื้อเรื่องแทน

- เริ่มทำ Part ต่อไปแล้วนะ และมั่นใจว่า Part 1 จะทำให้แฟน ๆ คาดหวังกับภาคต่อไปมากยิ่งขึ้น ก็เหมือนกับโลกกว้างที่รอคอยอยู่นอกมิดการ์

คาสึชิเงะ โนจิมะ (คนเขียนสคริปต์)

- FFVII ฉบับออริจินอล ใช้การนำเสนอภาพแบบการ์ตูน และผู้เล่นได้ใช้จินตนาการของตัวเองเติมเต็มเนื้อเรื่องในส่วนที่พรรณาได้ไม่สมบูรณ์เข้าไป ดังนั้นคนเล่นแต่ละคน เมื่อดูฉากเดียวกัน ก็ได้ข้อมูลไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาแต่ละคนจะตีความยังไง

- แต่ในภาครีเมกนี้ พอเทคโนโลยีการนำเสนอภาพก้าวหน้าขึ้น ก็เหลือที่ว่างให้ผู้เล่นได้ใช้จินตนาการเติมเต็มลดลง มันทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไปเลย คนที่เล่นตัวเกมต้นฉบับมาอาจจะรู้สึกแปลกไปก็ได้ คุณโนจิมะเองก็รู้สึกกลัวเรื่องนี้

- แต่ว่าความเปลี่ยนแปลงนี้ ก็จะทำให้คุณรู้สึกถึงสายสัมพันธ์ที่มีต่อคลาวด์เพิ่มมากขึ้น เข้าใจเขามากขึ้น

โมโตมุ โทริยามะ (ผู้กำกับร่วม ในส่วนเนื้อเรื่อง)

- บอกว่าสมัยนู้น เขาเป็นคนสร้างตัวละครรองอย่าง จอห์นนี่ และผู้จัดการชินระด้วยนะ คอยจับตาดูลุคใหม่ของพวกเขาให้ดีล่ะ

- ส่วนซ่องผึ้งน้อยใน Wall Market เราได้คืนชีพขึ้นมาใหม่ ให้เป็นวิหารแห่งความสุขในแบบที่เมื่อก่อนไม่อาจสัมผัสได้แบบนั้น แน่นวล

- ไหนจะฉากคลาวด์แต่งหญิงอีก ขอให้ดูกันอย่างมีฟามสุข

ไม่มีความคิดเห็น