KHUχ เมล็ดพันธุ์แห่งแสงที่จะปลูกขึ้นมาในอนาคต

JP : https://youtu.be/F2xKZajyHQA

EN : https://youtu.be/9nI6U-KdMTg

ขยายความ Kingdom Hearts Union χ ตอนล่าสุด

..................................................

[Day Break Town ในโลกความเป็นจริง]

ลูซูที่เฝ้ามองจากเนินเขา เห็นความแปรปรวนของท้องฟ้า แล้วก็รำพึงว่าเวลาใกล้หมดลงแล้วนะ เหล่าแดนดิไลออน


[อดีตในห้องประชุมมาสเตอร์ฯ]

ลูซูหวนคิดถึงอดีตวันที่มาสเตอร์ออฟมาสเตอร์ส่งมอบกล่องดำให้เขา แล้วมาสเตอร์ฯ บอกว่าห้ามเปิดมันเด็ดขาด แต่ก็ได้กระซิบบอกลูซูว่าข้างในกล่องมีอะไรอยู่

มาสเตอร์ฯ ยังบอกอีกว่าเมื่อความมืดเข้าโจมตีรุ่งอรุณ แล้วเรืออาร์คได้ออกเดินทาง โลกนี้ก็จะสิ้นสุดหน้าที่ของมัน ถึงตอนนั้นให้ลูซูคอยเฝ้ามองโลกนี้ไปจนถึงจุดจบ แล้วออกเดินทางไปสู่โลกใหม่ให้ไวที่สุด

มาสเตอร์ฯ ย้ำว่ายังไงตอนนี้เราก็ไม่มีทางชนะความมืดได้ เราได้แต่ใช้เวลานี้รวบรวมเหล่าผู้ใช้คีย์เบลด เพื่อส่งมอบคบเพลิง (เปรียบเปรยถึงส่งต่อความหวัง) ไปยังยุคต่อไป

โลกนี้มีอยู่เพื่อฟูมฟักเหล่าแดนดิไลออน เมล็ดพันธุ์แห่งแสงที่หว่านออกไปให้มันผลิบานในอนาคต (ใน JP จะบอกว่าโลกนีเมีอยู่เพื่อดึงความมืดไว้จนกว่าเมล็ดพันธุ์นั้นจะพร้อมโบยบิน)

อนาคตที่พวกเขาจะ "หยุดยั้ง" ความมืดได้ แล้วดวงอาทิตย์ตกสู่ฟ้าอรุณที่ไม่มีพลบค่ำนี้ในท้ายที่สุด

แผนของเราก็จะสำเร็จ

[ปัจจุบันในห้องประชุมมาสเตอร์ฯ]

สคูลด์ เอเฟเมร่า เบรน เข้าปะทะกับยามิ

สคูลด์กระเด็นออกจากวงปะทะคนแรก

เบรนพลาดท่า โดนโจมตีใส่จนคีย์เบลดหลุดมือเป็นคนที่สอง

เอเฟเมร่าเองก็รู้ตัวว่าคนเดียวคงไม่ไหว

เบรนบอกว่าเขาไม่เชื่อที่ยามิบอกว่าไม่ได้มีเป้าหมายอะไร เพราะยามิพยายามขัดขวางพวกเขา มันต้องมีเหตุผลอะไรอยู่แน่

ยามิบอกว่าการส่งข้อมูลจะต้องใช้สัญญาณไฟฟ้าฉันใด หัวใจและจิตใจของมนุษย์ก็เฉกเช่นเดียวกัน ความมืดนั้นแพร่กระจ่ายไปได้โดยง่าย (ใน JP ยามิจะบอกว่า Data World ที่สร้างจากสัญญาณเหล่านั้นก็ไม่เคยละเลย แถมยังเป็นสภาพแวดล้อมที่ง่ายต่อการแพร่กระจายของความมืดซะอีก)

เบรนถามว่าเพราะงั้นก็เลยหลงเข้ามาใน Data World งั้นเหรอ? แต่ทำไมถึงต้องซ่อนอยู่ในตัวเวนล่ะ?

ยามิบอกว่าเพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้ว

สคูลด์ลุกขึ้นเถียงว่าเธอไม่เชื่อ จะมาหาว่าเพราะตำราพยากรณ์เขียนไว้แค่นั้นเนี่ยนะ ยังไงซะแกก็ครอบงำร่างของเวนแล้วเล่นงานน้องสาวของลอวเรียม แกต้องชดใช้

ยามิบอกว่า พวกเรามีกันมากมาย แต่เป็นหนึ่งเดียวกัน เจตจำนงค์เดียว แต่ด้วยการแทรกซึมเข้าไปในเวน เราจะยังคงแบ่งเป็นแสงสว่างบริสุทธิ์และความมืดบริสุทธิ์ได้อย่างชัดเจน เปลี่ยนให้ "ฉัน" กลายเป็นตัวตนที่มีเจตจำนงค์ของตนเอง (กลายเป็นเอกเทศ ไม่ได้เป็นเจตจำนงค์ร่วมกับยามิตนอื่น ๆ เช่นตัวที่ไปส่งมาเลฟิเซนต์)

ลอวเรียมลุกขึ้นมาอีกคน แล้วทวนสรุปว่าเวนไม่ได้มือเปื้อนเลือดของสเตรลิตเซีย แต่เป็นมือของแกเองสินะ ก่อนจะเดินชักคีย์เบลดขึ้นมาชี้ไปทางยามิด้วย

"ถึงจะเพิ่มมาอีกสักคน ผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยน" ยามิเอ่ย

"งั้นถ้าสองล่ะ?"

ว่าแล้วตัวเอกของเรา ก็เปิด Special Lane ออกมาจากโลก Wreck It Ralph ออกมาช่วยทุกคน กลายเป็นสภาวะ 5 ต่อ 1

ยามิบอกว่าไม่มีประโยชน์ ต่อให้ชนะเขาได้ พวกเราก็แพ้อยู่ดี

ลอวเรียมบอกว่าไม่สน ยังไงก็จะกำจัดแก แล้วเราจะกลับสู่โลกแห่งความจริง

ยามิบอกว่าจะกลับไปด้วยอาร์คแบบมาเลฟิเซนต์หรือไง พวกแกไม่รู้อะไรเลย ถ้าพวกแกกลับไป Daybreak Town ก็จะตกสู่ความมืดมิด

"พวกเพื่อนของแกทำอะไรกับโลกแห่งความจริง?" เอเฟเมร่าเอ่ยถาม

"พวกเราไม่ได้ทำอะไร มันถูกลิขิตไว้นานแล้ว เมื่ออาร์คทำงาน โลกนี้ก็จะตกสู่ความมืด มันเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว การเริ่มต้นของจุดจบ อาร์คคือหนทางสุดท้ายที่จะใช้ในกรณีที่กำจัดพวกเราไม่ได้ มันใช้เปิดกระบวนการผนึกโลกนี้ไปพร้อมกับพวกเรา การเดินทางของมาเลฟิเซนต์คือจุดเริ่มต้น ที่ไม่มีทางหยุดได้แล้ว"

*ผมสงสัยว่า เงื่อนไขของกระบวนการปิดผนึกโลก จะเกิดขึ้นเมื่ออาร์คลำแรกเดินเครื่อง หรืออาร์คทั้งหมดเดินเครื่อง

ลอวเรียมจะสงสัยว่างั้นพวกเขาเป็นแค่เบี้ยหมากในเกมที่จะต้องเสียสละตั้งแต่แรกงั้นเหรอ?

แต่เอเฟเมร่าบอกว่าเขาไม่เชื่อ อวาเป็นคนที่รวบรวมพวกเขาขึ้นมา เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมาสเตอร์คนอื่น แต่อวาไม่มีทางรวบรวมพวกเราเหล่าแดนดิไลออนไว้เพื่อทิ้งขว้างแบบนี้!!

เบรนเสริมว่าไม่สำคัญว่ามาสเตอร์ฯ คนอื่นจะวางแผนอะไรไว้กับพวกเรา แต่ฉันเชื่อมั่นในหัวหน้า (อวา) ของพวกเรา

แล้วทั้ง 5 ก็เข้าไปรุมทึ้งยามิ


หลังเอาชนะยามิได้ เอเฟเมร่าจะสงสัยว่าพวกเราชนะรึเปล่า?

แต่ยามิบอกว่าเขาไม่มีรูปลักษณ์ที่แน่นอน ฉะนั้นก็ไม่มีวันถูกทำลายได้

ทันใดนั้น Darkling 3 ตัวก็โผล่ออกมาล้อมเวน แล้วจากที่ปกติมันชอบพูดกับเราว่า "ไม่ใช่แก"

แต่คราวนี้ Darkling กลับพูดว่า "แกนี่แหละ"


ขณะที่เรากำลังงงว่า Darkling มันตามหาเวนมาตลอดทำไม เวนก็ลุกฟื้นขึ้นมา กุมมือไว้ที่หน้าอก แล้วเปล่งแสงออกจากร่าง เกิดเป็นพลังที่ทำให้ Darkling ทั้ง 3 สลายไป

เวนยืนขึ้นด้วยสายตาที่แน่วน่ เดินไปทางยามิ ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน

"ถ้าแกคือความมืดบริสุทธิ์ ที่ทำให้ฉันกลายเป็นแสงสว่างบริสุทธิ์ เพราะแกกลายเป็นหนึ่งเดียวกับฉัน แล้วได้ถือกำเนิดขึ้นใหม่เป็นความมืดบริสุทธิ์ที่มีจิตของตนเอง แกไม่มีร่างใช่มั้ย? งั้นชั้นก็จะทำให้แกมีร่างอีกครั้ง!"


เวนชักคีย์เบลดขึ้นมาจับในท่าอวานสตรัช

ลอวเรียมก็วิ่งเข้าไปดึงรั้งเวนไว้

"จะเสียนายไปอีกคนไม่ได้นะ"

"ขอบใจนะ ลอวเรียม" (ใน Official Eng จะแปลว่า ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี"

ว่าแล้วเวนก็หมุนควงคีย์เบลด แล้วโผทะยานเข้าไปหายามิ....

[ในโลกแห่งความจริง ห้องเก็บ Ark]

ยามิตัวที่พามาเลฟิเซนต์ออกจาก Data World แล้วส่งนางแม่มดออกไปยังโลกจริงในยุคอนาคตแล้ว ได้เดินมายังมอนิเตอร์ที่ใช้จับตาดูความเป็นไปของ Data World

แต่แล้วลูซูที่รออยู่ก็ทักขึ้นว่า "นึกว่าพวกยามิทั้งหมดจะมีจิตร่วมกันซะอีก"

แล้วลูซูก็หิ้วร่างที่ห่อด้วยผ้าคลุมสีขาวเข้ามาหายามิ

"หรือนี่ก็เป็นอีกคนที่แยกออกมาจากส่วนรวม และลงมือตามใจตัวเอง?"


ยามิก็อึ้งว่า ไม่น่ามีคีย์เบลดมาสเตอร์เหลืออยู่ในโลกนี้แล้วได้นี่นา... เจ้านี่เป็นใครกันนะ?

ลูซูก็บอกว่าเขาก็เป็นคนที่เฝ้าอยู่นี่แหละ แล้วยามิก็นึกขึ้นมาได้เองว่า... เจ้านี่คือลูซู

*ผมคิดว่ายามิเคยอ่านตำราพยากรณ์มาก่อน และอาจจะนึกขึ้นได้ว่าคนที่เหลืออยู่มีบอกไว้ในตำราแล้ว ก็คือลูซูเอง

แล้วลูซูก็บอกว่าถ้าไม่ได้อ่านตำราพยากรณ์มาจนจบ ก็จะไม่เห็นภาพรวมทั้งหมด ว่าแล้วลูซูก็เดินไปทางมอนิเตอร์ ทำให้ยามิต้องหลบให้

ยามิก็ถามว่ามาอยู่ที่นี่ทำไม นายมีหน้าที่แค่เฝ้าดู

ลูซูก็บอกว่าเพราะเพื่อนของแก หรือมาสเตอร์ของเขานั่นแหละ บอกให้เขาทำแบบนี้ มาสเตอร์ฯ บอกว่าถ้ากังวลก็ให้เฝ้าดู แต่ห้ามไปยุ่งเกี่ยว ดูแต่ตามืออย่าต้อง ตอนนี้ลูซูคิดว่าตนเองเข้าใจความหมายแล้ว

แล้วลูซูก็กดปุ่มหนึ่งหน้ามอนิเตอร์ ทำให้ฝา Ark ลำหนึ่งเปิดออก

ยามิก็บอกว่านายต้องดูเฉย ๆ สิ ถ้าลูซูใช้สิ่งนั้น (ใช้ Ark ข้ามไปยังอนาคต) แผนทั้งหมดจะสูญเปล่า

แต่ลูซูก็บอกว่าเขาไม่ได้จะใช้เอง ว่าแล้วลูซูก็เอาร่างในชุดคลุมขาวเข้าไปใส่ใน Ark แล้วปิดฝา


"นี่คือเมล็ดพันธุ์แห่งแสง ที่จะปลูกขึ้นมาไปในอนาคต"

"แดนดิไลออนที่แท้จริง"


[ย้อนอดีต บนเนินเขาของเดย์เบรกทาวน์ นานมาแล้ว]

ยามิถามมาสเตอร์ฯ ว่าวางแผนจะทำอะไรกับโลกนี้กันแน่?

มาสเตอร์ฯ ตอบว่าเมื่อยามสนธยาสิ้นสุดลง วันใหม่จะเริ่มต้นขึ้น โลกนี้ประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอน ขั้นแรกผู้ใช้คีย์เบลดมากมายมารวมตัวกัน จากนั้นพวกเขาจะสูญเสียแกนนำ ท่ามกลางความสงสัยเคลื่อนแคลง บางคนก็จะเรียนรู้ที่จะยืนด้วยลำแข้งตัวเอง แยกจากกลุ่มออกมา ท้ายที่สุดแล้ว คนที่เหลืออยู่จะต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรเมื่อเผชิญหน้ากับความมืดในโลกที่ถูกผนึกไว้ และเมื่อ Ark ทั้ง 7 ออกเดินทาง โลกนี้ก็จะสิ้นสุดลง

"แกเข้ามาอาศัยในโลกนี้ เพียงเพื่อจะทำให้มันจบสิ้นลงเหรอ?" ยามิเอ่ยถาม (แปลว่ามาสเตอร์ฯ มาจากโลกอื่น อันนี้ตรงกันทั้ง JP/ENG)

มาสเตอร์ฯ ตอบว่าการทำให้มันจบสิ้นลงนั้น ไม่ใช่เป้าหมายของเขา

ยามิว่า ในเมื่อมาสเตอร์ฯ มีตำราพยากรณ์อยู่ มีความรู้เรื่องทุกสรรพสิ่ง ก็ไม่น่าจะเสียเวลากับอะไรที่ใช้เวลานาน หรือแผนการที่ซับซ้อน

แต่มาสเตอร์ฯ กลับบอกว่าตำราฯ มันไม่ได้มีทุกอย่าง ....ถ้าฯ ตำรามันสำคัญขนาดนั้น แกคิดว่าตอนที่แก (ยามิ) แอบดูตำราฯ ฉันจะปล่อยแกไปโดยที่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเหรอ?

แล้วมาสเตอร์ฯ ก็อธิบายว่าตำราฯ มันไม่ได้รวมทุกสิ่งทุกอย่างในอนาคตเอาไว้ เอาเองก็เขียนทุกอย่างลงไปไม่ไหวด้วยซ้ำ เขารู้เพียงสถานที่และเหตุการณ์เท่าที่ตาที่อยู่ในคีย์เบลดที่ส่งมอบให้ลูซูไว้จะมองเห็นเท่านั้น แล้วก็เลือกเนื้อหาบางส่วนจากการเดินทางนั้นเขียนลงไปในตำราฯ

ดังนั้นแล้วหนังสือเขียนหรือไม่เขียนอะไรไว้ ก็ไม่ใช่ประเด็น เนื้อหามันไม่ใช่สาระสำคัญ แต่หมุดเวลาที่เรียงรายไปสู่อนาคตต่างหากที่สำคัญ

คนที่ใช้อาร์คที่ไม่สมบูรณ์เดินทางไปยังอนาคตจะสูญเสียร่างกาย แต่ถ้ามีสื่อกลางรออยู่ยังจุดหมายปลายทางในอนาคต และมีคนที่จดจำเราได้อยู่ หัวใจก็จะฟื้นร่างกายกลับคืนมาได้ สิ่งที่เขาเขียนลงไปในตำราพยากรณ์ ก็คือหมุดของแต่ละช่วงเวลา (ทำให้มาสเตอร์ฯ เลือกได้ว่าจะเดินทางไปยังยุคไหน ปีไหนดี โดยพิจารณาจากเหตุการณ์ เวลา สถานที่ ตามที่ระบุไว้)

ลูซูก็จะเป็นคนถือความทรงจำเกี่ยวกับมาสเตอร์ฯ ไว้ ส่วนตาบนคีย์เบลดก็จะเป็นสื่อกลางในการคืนชีพให้ และด้วยหมุดเวลาที่เชื่อมโยงนำทางไปสู่อนาคต มาสเตอร์ฯ ก็จะท่องไปในกาลเวลาได้

ยามิถามว่าสรุปคือ ใช้ลูกศิษย์กับตำราพยากรณ์ ก็เพื่อจะท่องไปยังอนาคตได้?


มาสเตอร์ฯ ตอบว่านี่ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย แต่เป็นขั้นตอนสำคัญ แล้วเขาไม่ใช่คนเดียวที่ใช้หมุดเวลาเหล่านั้น คนอื่น ๆ เองก็จะตามมา

ยามิก็รำพึงว่า... มีอาร์ค 7 ลำ และ มงกุฎ 7 อัน

มาสเตอร์ก็บอกว่าเพราะมีแสงสว่างทั้ง 7 ไง

ยามิก็ว่า 7 เมื่อนับรวมลูกศิษย์ของมาสเตอร์ฯ ด้วยสินะ

มาสเตอร์ก็บอกว่าไม่รู้สิ? เขาเองก็ดูอยู่ว่าเมื่อถึงเวลาแล้ว ใครจะได้ขึ้นอาร์คไปบ้าง

แล้วทั้งสองฝ่ายต่างก็ผลัดกันชมกันว่าร้อยเล่ห์ด้วยกันทั้งคู่ ต่างฝ่ายต่างมีแผนส่วนตัว

แล้วมาสเตอร์ฯ ก็จบท้ายว่าเขาเบื่อที่จะดูการต่อสู้ของยามิแล้ว เขามองไปยังอนาคตแล้วเห็นสิ่งที่น่าสนใจกว่า นั่นก็คือโลกที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้จัก

(ก็คือโลกที่ไม่อยู่ในขอบเขตที่ตาในคีย์เบลดที่ลูซูถือ เคยไปมาก่อน)

----------------------------------------------------------------------------

ตรวจทานจากบทแปลของ Goldpanner

https://www.khinsider.com/news/-SPOILERS-Union-X-The-World-s-End-18297

ปริศนาที่ค้างคาน่าสนใจ เช่น

- โลกที่มาสเตอร์ฯ ไม่รู้จัก คือ Quadratum ใช่มั้ย?

- เมล็ดพันธุ์ที่หว่านลงไปในอนาคต คือใคร?

- มงกุฎทั้ง 7 ที่ยามิพูดคืออะไร?

- ยามิตัวที่เผชิญหน้าลูซู มีจิตที่เป็นเอกเทศแล้วรึยัง?

- มาสเตอร์ฯ พูดแต่เงื่อนไขการใช้อาร์คที่ไม่สมบูรณ์ไปยังอนาคต แต่ไม่ยักพูดถึงเงื่อนไขการใช้อาร์คที่สมบูรณ์

- ในโลกจริง อาร์คที่ไม่สมบูรณ์พึ่งถูกป้ามะลิใช้ไป 1 ลำ ยังเหลืออีก 6 ลำ.... แสดงว่าทั้งมาสเตอร์ฯ และโหรคนอื่น ๆ ไม่ได้ใช้อาร์คที่ไม่สมบูรณ์เลย งั้นพวกเขาเดินทางไปยังอนาคตด้วยวิธีใด? ใช้อาร์คที่สมบูรณ์

- เงื่อนไขการที่โลกจะล่มสลายลง trigger เมื่ออาร์คเดินทางออกครบ 7 ลำ หรือ trigger ตั้งแต่ลำที่ 1 ออกเดินทางกันแน่?

- มาสเตอร์ฯ ไม่ใช่คนจากโลกนี้.... งั้นแกมาจากหนัยยยยย?

ไม่มีความคิดเห็น