เกร็ดข้อมูลน่าสนใจจาก Data Log ใน Final Fantasy XV -Episode Ardyn-



[Rakshasa Blade]

ดาบที่อยู่เคียงข้างอาร์ดีนมาร่วม 2 พันปี ถูกสร้างขึ้นพร้อม Blade of the Mystic ของซอมนัส

ดาบทั้งสองเล่มนี้มีพลังต่างกัน เมื่อใช้ร่วมกันจะเกิดพลังทำลายล้างมหาศาล ผู้คนเชื่อว่าดาบทั้งสองนั้นอาบไว้ซึ่งความหวังว่าสองพี่น้องไคลัมจะปกครองแผ่นดินร่วมกันไป .
ทว่าด้วยความริษยาและความทะเยอทะยาน ก็ทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกัน

[ภาพ The Prophecy]

ภาพวาดซึ่งไม่ปรากฏผู้วาด ที่พรรณาถึงคำทำนายในตำนานของ Cosmogony และถูกส่งต่อลงมาในตระกูลลูซิส

ภาพนั้นเล่าถึงชายคนหนึ่งซึ่งเป็นราชาผู้ถูกเลือก ร่วมมือกับเทพธิดาผู้เลอโฉม ชำระล้างโรคภัยไปจากโลก และนำแสงแห่งสันติสุขกลับคืนมา

[Angelgard]

เกาะที่ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของแผ่นดินใหญ่ลูซิส ว่ากันว่าเกาะนี้มีความเกี่ยวข้องกับวายุเทพ รามู .
เกาะนี้เป็นเขตหวงห้ามที่ราชวงศ์ลูซิสไม่ให้คนทั่วไปเข้า แต่ก็ไม่อาจต้านทานการบุกรุกของเวอร์สไตล์ในปี 721 ได้ .
เวอร์สไตล์ปลดปล่อยอาร์ดีนจากคุกหิน และพาออกไปยังศูนย์วิจัยที่ชานเมืองกราเลีย ปีต่อมาอดีตนักโทษถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น อาร์ดีน อิซึเนีย และได้รับเข้าเป็นพลเมืองของจักรวรรดิ

[ซอมนัส]

ซอมนัสเป็นทั้งน้องชายของอาร์ดีน เป็นปฐมกษัตริย์ของลูซิส และเป็นบรรพบุรุษของกษัตริย์เรจิสในทุกวันนี้

ด้วยความริษยาที่มีต่อพลังที่พี่ชายได้รับพรมา ซอมนัสทำให้ผู้คนพากันกบฎต่ออาร์ดีนโดยการตราหน้าว่าอาร์ดีนเป็นมอนสเตอร์ และซอมนัสก็แย่งชิงบัลลังค์มาเป็นของตนเอง

ทว่าบันทึกในประวัติศาสตร์นั้นกลับเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง โดยเล่าว่าซอมนัสได้ร่วมมือกับโหรเดินทางไปทั่วโลกและขจัดความมืดที่สร้างภัยพิบัติแก่ดวงดาว

หลังจากสวรรคตไปแล้ว แทนที่จะถูกเปิดโปงเรื่องการแย่งชิงราชบัลลังค์ ซอมนัสกลับถูกเรียกขานว่าเป็น "The Mystic" เนื่องจากความเกรียงไกรในการต่อสู้ และเขาก็กลายเป็นอมตะ อยู่ในรูปปั้นยักษ์ คอยเฝ้าดูเมืองหลวงนี้ตลอดไป



[เอร่า]

คู่หมั้นของอาร์ดีน บรรพบุรุษของตระกูล Fleuret

เอร่าถูกเลือกโดยบาฮามุทให้มาเป็นโหรคนแรก เธอได้รับพลังในการสื่อสารกับเทพ และเดินทางไปทั่วโลกพร้อมตรีศูลในมือ และเผยแพร่ความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าให้กับผู้คนทั้งหลายที่เธอพบเจอ

[อิฟรีท]

หนึ่งในหกเทพ เป็นอัคคีเทพ และแม้จะเคยมอบเพลิงแห่งปัญญาแก่มวลมนุษย์ แต่ด้วยความโอหังก็ทำให้มนุษย์หันมาแว้งกัดอิฟรีทที่เคยอุ้มชูพวกเขา เป็นต้นเหตุของจลาจลที่นำไปสู่สงครามระหว่างเทพ

ในท้ายที่สุด อิฟรีทก็พ่ายแพ้ต่อดาบของบาฮามุท จนร่างร่วงลงไปนอนแผ่หลาอยู่บนยอดเขาราวาโท และหลับใหลนับแต่นั้นมา

[Royal Guard]

หน่วยรบพิเศษที่ขึ้นตรงต่อราชวงศ์ลูซิสก่อนที่จะมีการก่อตั้งหน่วย Kingsglaive ขึ้นมา

Royal Guard ทำงานเป็นกลุ่มทีละ 4-5 คน ตั้งชื่อรหัสกันตามกัปตันทีม (เหมือนทีมตำรวจของไลท์นิ่งใน FFXIII) โดยมีทีมนิมบัส และคุนมิ (ชื่อจากลูซิของจักรวรรดิมิลิเทส FF Type-0) เป็นสองทีมที่โดดเด่นที่สุด

[Guardian]

รูปปั้นหินแบบ Mass Product ถูกสร้างขึ้นเพื่อคุ้มกันแอมป์กระจายสัญญาณให้บาร์เรียร์เมืองหลวง  มีทั้งโมเดลที่ถูกสร้างตาม The Fierce และ The Rogue

มีข่าวลือว่าวิญญาณของกษัตริย์โบราณองค์อื่น ๆ อาศัยอยู่ในรูปปั้น และวิญญาณเหล่านั้นก็พร้อมที่จะจัดการใครก็ตามที่คิดร้ายต่ออาณาจักรลูซิส

[กำแพงเก่า/กำแพงชั้นเอก - The Mystic]

รูปปั้นหินยักษ์ที่มีวิญญาณของซอมนัส ปฐมกษัตริย์แห่งลูซิสสถิตอยู่ แม้ปกติรูปปั้นนี้จะอยู่นิ่งเฉย แต่รูปปั้นนี้จะตื่นขึ้นจากการหลับใหลเมื่ออาณาจักรตกอยู่ในอันตราย

ตลอด 2 สหัสวรรษที่ซอมนัสคอยเฝ้าดูอาณาจักรมา ไม่เคยมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นมาก่อน จวบจนกระทั่งวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น