บทสัมภาษณ์ฉลองครบรอบ 25 ปี Final Fantasy VI จากนิตยสารแฟมิซือ
บทสัมภาษณ์ย้อนรอยความสำเร็จ ในโอกาสฉลองครบรอบ 25 ปีของการวางจำหน่าย Final Fantasy VI ตีพิมพ์ในนิตยสารแฟมิซือฉบับประจำสัปดาห์ล่าสุด
ผู้เข้าร่วมการสัมภาษณ์
เออิจิ นาคามุระ - อดีต Sound Engineer ของ FFVI ปัจจุบันเป็นประธาน Sound Racer
คาสึโกะ ชิบุยะ - อดีต Graphic Director ของ FFVI ตอนนั้นทำกราฟฟิก Pixel ให้ตัวละคร ปัจจุบันยังเป็น Pixel Artist ให้ Square Enix
ฮิโรโนบุ ซาคากุจิ - อดีต Producer ของ FFVI ปัจจุบันเป็นประธาน Mistwalker
โยชิโนริ คิตาเสะ - อดีต Drirector ของ FFVI ปัจจุบันเป็นผู้บริหารของ Square Enix
มิโนรุ อาคาโอะ - อดีต Sound Programmer ของ FFVI ปัจจุบันเป็นประธาน Red Spark
เนื้อหาการสัมภาษณ์ที่น่าสนใจ
- คุณนาคามุระเผาว่า ตอนสร้าง FFVI นั้นเขากลัวคุณซาคากุจิมาก เพราะช่วงนั้นเขาพึ่งเข้ามาทำงานใน Square ใหม่ ๆ แล้วพอเจอคุณซาคากุจิครั้งแรก ประโยคแรกที่ลุงแกพูดกับเด็กใหม่อย่างเขาก่อนเลยคือ "อย่าทำให้เสียชื่อ" พร้อมมองด้วยสีหน้าจริงใจ เป็นใครก็ต้องรู้สึกเครียดกดดันกันบ้างแหละน่า!
- คุณนาคามุระบอกว่าตอนนั้นยังใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ แล้วได้คุณอาคาโอะช่วยสอนให้ สมัยนั้นคอมพิวเตอร์ยังใช้ยาก ต้องมานั่งพิมพ์ป้อนเป็นคำสั่ง
- คุณอาคาโอะเล่าว่าสมัยยุค Famicom เกมของค่าย Konami คือที่สุดในด้านดนตรี ช่วงทำ FFVI คุณซาคากุจิเลยสั่งเขาว่า "ล้ม Konami ให้ได้"
- คุณซาคากุจิชมว่าคุณอาคาโอะเป็นคนวิเศษมาก และได้พยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อทำให้เพลงที่ลุงโนบุโอะ อุเอมัตสึแต่งขึ้นมา เข้าไปอยู่ในเกมให้ได้, คุณนาคามุระบอกว่าลุงโนบุโอะ เคยขอว่า เวลาตัดฉาก Battle กลับสู่ Map ขอให้เพลงมันเล่นต่อจากที่เล่นค้างไว้ก่อนหน้านั้นได้มั้ย? และยังขอให้ใส่เสียง Vibrato ลงไปในเกมให้ได้ด้วย
- คุณอาคาโอะบอกว่าก่อนทำ FFVI นั่น ไม่เคยมีใครเคยทำหน้าที่โปรแกรม Sound Effect ให้ FF เป็นการเฉพาะมาก่อน ก่อนหน้านั้นใครที่ทำกราฟฟิกเสร็จแล้ว คุณซากากุจิก็ไล่ให้ไปทำ Sound Effect ต่อ... ดังนั้นคุณอาคาโอะเลยเป็นคนแรกที่รับหน้าที่เป็น Sound Programmer ให้ซีรีส์นี้จริงจังคนแรก
- คุณซาคากุจิบอกจำได้แล้ว ตอนนั้นใครว่าง เขาก็โยน tool แล้วสอนวิธีการใช้ให้ไปทำ Sound Effect มาส่ง ระหว่างที่ลองผิดลองถูก ก็มักจะได้ยินเสียงแอร๊ดดดดดดดด (Error) บาดแก้วหูออกมา
- คุณชิบุยะบอกเขาโชคดี ตอนนั้นไม่เคยโดนให้ทำ Sound Effect ด้วย แต่จำได้ว่าสตาฟฟ์กราฟฟิกไม่น้อย โดนลากให้ไปทำ
- คุณคิตาเสะบอกว่าตอนนั้น FFVI สร้างด้วยทีมงาน 30 คน ซึ่งฟังดูโคตรน้อยสำหรับสมัยนี้ แต่ตอนนั้นถือว่าเป็นทีมที่ใหญ่แล้ว, คุณซาคากุจิบอกว่าสมัยนั้นเกมแนวอื่นสร้างกันแค่ 4-5 คนด้วยซ้ำ
- คุณคิตาเสะบอกว่าสมัย FFV เขากับคุณคิตาเสะ เขียน Event กันแค่สองคน แต่ตอน FFVI นั้นช่วยกันทำ Event 5 คน
- คุณซาคากุจิชมว่าสมัยนั้นพวกเขามีแต่ตัวเทพ ๆ อยู่ในทีม FFVI โดยเฉพาะลูกทีมฝั่งกราฟฟิก ตัวอย่างเช่นเท็ตสึยะ โนมุระ ที่ทุกคนรู้จักดี, เท็ตสึยะ ทาคาฮาชิ ปัจจุบันเป็นประธาน Monolith Soft, ยูสึเกะ นาโอระ และ ฮิเดโอะ มินาบะ
- คุณซาคากุจิบอกว่า FFIV และ FFV มันเริ่มขายดีจนพวกเขาเริ่มรู้สึกว่าเกมของตัวเองเป็นเกมฟอร์มยักษ์ในตอนนั้นเอง
- คุณซาคากุจิบอกว่าเขาคิดมาตลอดว่า Last Dungeon ของ FFIII นี่คือแย่ที่สุดแล้วจริง ๆ แต่ว่า FFIII ก็เป็นภาคแรกที่พวกเขาขายทะลุ 1 ล้านชุดได้ และพอขายได้ดี ก็ทำให้ได้ลูกทีมใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา ดังนั้น เจเนอเรชั่นที่ 2 ของ FF (4-6) จึงยิ่งใหญ่ตามมาได้
- คุณซาคากุจิเล่าว่าสมัยนั้นคิตาเสะนั่งติดกับโปรแกรมเมอร์ คอยสื่อสารกันตลอด คิตาเสะหาทางใช้ memory ให้พอดีกับ map, ทำการเชื่อมต่อฉากเข้าคัตซีน, และทำงานเบื้องหลังคัตซีนต่าง ๆ ที่เขาเองก็ไม่รู้ อย่างฉากตอนเดินลงไปในสุสานดารีล ฉากระหว่างมาดีนกับมาโดรีน ที่ทำเขาว้าวมาก
- คิตาเสะบอกว่าภาพสมัยยุค SFC มันยังไม่ต้องทำสมจริง ก็เลยสามารถนำเสนอในรูปแบบที่แตกต่างได้ อย่างฉากมาดีนกับมาโดรีนนั้น บทจริง ๆ สั้นมาก (ซาคากุจิเสริมว่ามีแค่ 4 บรรทัด) แต่ก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ที่ซาคากุจิอยากจะสื่อให้ได้
- คุณซาคากุจิแซวว่า ประโยคที่มาดีนพูดว่า "How can we know for sure unless we try for ourselves?" จริง ๆ แล้วคือคิตาเสะพูดกับเขาด้วยรึเปล่า (หัวเราะ) - https://youtu.be/n7lw7uxah1g?t=265
- คุณซาคากุจิบอกว่า แฟน ๆ ชอบพูดกันว่า FF ภาคเลขคี่จะเน้นระบบ ส่วนภาคเลขคู่เน้นเนื้อเรื่อง แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น มันก็แค่คนสร้างเบื่อ และไม่อยากทำอะไรซ้ำ ๆ กับภาคที่พึ่งผ่านมา ก็เลยเปลี่ยนสไตล์ที่นำเสนอเท่านั้นเอง
- คุณซาคากุจิบอกว่าพวกเขาไม่ได้ยึดติดกับคำว่า Fantasy แบบพิมพ์นิยมมาตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นเลยคิดว่าจะสร้างโลก Fantasy ที่มี Technology ผสมผสานอยู่ด้วยก็ย่อมได้ และด้วยพัฒนาการของฮาร์ดแวร์ เทคนิค และประสบการณ์ในการสร้างเกมของพวกเขาเอง ก็ทำให้สามารถนำเสนอสิ่งต่าง ๆ ในแนวทางหลากหลายออกไปได้ แถมสมัยนั้นเจ้าทาคาฮาชิ ก็กำลังบ้าหุ่นยนต์อยู่พอดีด้วย
- คุณซาคากุจิเผยความลับว่า แท้จริงแล้วตอนแรกไม่ได้จะสร้าง World of Ruin ด้วยซ้ำ
- คุณคิตาเสะเสริมว่าแผนตอนแรกคือ ตอนที่โลกกำลังจะถูกทำลาย พวกตัวเอกก็ช่วยโลกและกำจัดเคฟก้าได้ แต่แล้วพวกเขาก็มาเปลี่ยนทีหลัง
- คุณซาคากุจิบอกว่า "เกมมันพัฒนาราบรื่นยิ่งกว่าที่คิดเอาไว้ พวกเราเลยมีเวลาว่างในตารางเหลืออยู่ก่อนจะถึงวันวางจำหน่าย ก็เลยทำเพิ่มลงไป"
- คุณคิตาเสะบอกว่าเขาเป็นคนสร้างฉากจับปลามาให้ซิดเอง ที่ไม่มีคำใบ้อะไรให้เลย ก็เพราะอยากให้รู้สึกถึงความยากลำบาก และก็สร้างฉากนี้ขึ้นมาโดยให้เนื้อเรื่องออริจินอลเป็นแบบที่ซิดตาย แต่คิดว่าถ้าสร้างวิธีช่วยซิดเพิ่มเอาไว้ด้วย ก็น่าจะดีกว่า ก็เลยเพิ่มวิธีช่วยซิดขึ้นทีหลัง
- คุณนาคามุระแซวว่าคิตาเสะจะใส่นกลงไปบนชายหาดด้วยทำไม มันขวางทางจับปลา! แต่คิตาเสะก็บอกว่าเพราะเจ้านกตัวนั้นมันอยู่บนหน้าผาตอนที่เซเลสจะฆ่าตัวตายด้วยยังไงล่ะ เมื่อเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ชายหาดก่อนหน้านั้น นกนั่นก็เลยเป็นตัวที่ทำให้เซเลสตัดสินใจหลาย ๆ อย่าง
- คุณชิบุยะบอกว่าในฐานะที่เธอทำกราฟฟิกแคแรคเตอร์ และวาดท่าทางต่าง ๆ ออกมา ทั้งโบกมือ สลบ ฯลฯ เธอคิดไม่ถึงว่าพวกคิตาเสะจะเอากราฟฟิกตอนเซเลสได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้ ไปใช้ในฉากโดดหน้าผาได้
- คุณชิบุยะบอกว่าทุกวันนี้เธอก็ยังถูกถามว่า "ทีน่าผมสีบลอนด์หรือเขียวกันแน่?" ซึ่งหากใช้สีบลอนด์ตามที่คุณโยชิทากะ อามาโนะ ออกแบบมา ตัวละครทั้งหมดก็จะมีแต่ผมสีบลอนด์ และมันทำให้แยกตัวละครยาก ทำให้ลักษณะเด่นของแต่ละตัวลดลง ดังนั้นในขณะที่คุณอามาโนะ อยากจะวาดยังไงก็วาดตามใจชอบได้ แต่เธอจะเป็นคนควบคุมสีของตัวละครที่จะปรากฏบนหน้าจอเอง
- แฟมิซือถามว่าภาพอิลลัสฯ ของคุณอามาโนะ หรือภาพ Pixel ของคุณชิบุยะ เสร็จออกมาก่อน? คุณซาคากุจิยืนยันว่าภาพ Pixel ของคุณชิบุยะ ทำออกมาก่อนภาพอิลลัสฯ ของคุณอามาโนะ แทบทุกกรณี
- แฟมิซือถามว่าตอนออกแบบ คุณชิบุยะวาดในกระดาษก่อนแล้วค่อยแปลงเป็นกราฟฟิกแบบ Pixel ทีหลังรึเปล่า? คุณชิบุยะบอกว่าเปล่า การวาดในกระดาษก่อนมันเสียเวลา เธอเริ่มมาก็วาดเป็น Pixel ไปเลย และสมัยทำ FFVI นั้น โปรเจคท์จะไม่สามารถเดินหน้าได้จนกว่าเธอจะทำกราฟฟิก (ตัวละคร) ใหม่ ๆ ออกมาได้ การทำอะไรเสร็จสักอย่างก็เหมือนได้ชัยชนะเล็ก ๆ แล้ว
- คุณชิบุยะบอกว่าตอนแรกเธอออกแบบทีน่าให้ผมสั้น แล้วรีบส่งข้อมูลให้โปรแกรมเมอร์ไปใช้ต่อ แต่เธอได้แก้ไขต่อมาเรื่อย ๆ จนกลายมาเป็นทีน่าแบบที่ทุกคนเห็น
- คุณซาคากุจิบอกว่า FFVI ใช้เวลาสร้างแค่ราว 1 ปี, คุณชิบุยะบอกว่าพวกเธอเริ่มทำต่อจากที่ FFV เสร็จทันที อาจจะไม่ถึง 1 ปีเต็มด้วยซ้ำ
- คุณนาคามุระบอกว่าตอนนั้นเขาเป็นพนักงานใหม่ที่ยุ่งมาก และในเมื่อเขาเป็นคนทำ Sound Effect ก็ต้องเห็นอาวุธที่ตัวละครจะใช้ก่อน ถึงจะทำ Sound Effect ออกมาได้ กว่าจะได้เห็นก็คือตอนทดลองเล่นและ Debug เกม ช่วงนั้น ได้หลับนอนที่ออฟฟิศกันจนเป็นเรื่องปกติ
- คุณซาคากุจิบอก สมัยนั้นเขานอนบนเก้าอี้ที่พับเป็นเตียงได้ด้วยซ้ำ
- คุณคิตาเสะข่มบ้างว่าเขานอนในถุงนอน!
- คุณอาคาโอะบอก เขาเอาฟูกพับได้มากาง
- คุณซาคากุจิบอกว่า Dragon Quest คือแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ ทั้งมีเอกลักษณ์เฉพาะ เนื้อเรื่องสุดมหัศจรรย์จากฝีมือยูจิ โฮริอิ ก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องก้าวข้าม Dragon Quest ไปให้ได้, คิตาเสะแซวว่าตอนสร้าง FFV ซาคากุจิยังพูดด้วยว่า "พวกเรากำลังจะก้าวข้าม Dragon Quest ได้แล้ว... ในแง่จำนวนภาค"
- คุณซาคากุจิรับว่าตั้งแต่ตอนนั้น เขาคิดว่าพวกเขาไม่เคยชนะ Dragon Quest ในแง่ของเกม ๆ หนึ่งได้ (หัวเราะ) ทว่าตั้งแต่ภาคแรกมาเลย เขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาแพ้ DQ ในเรื่องกราฟฟิก ถึงแม้พวกเขาจะทุ่มสุดฝีมือลงไปทั้งในด้านระบบและเนื้อเรื่อง แต่มีเพียงด้านกราฟฟิกเท่านั้นที่เขามั่นใจว่าชนะ DQ ได้
- คุณซาคากุจิบอกว่ามีอีเวนต์นึงใน FFVI ที่โดนคิตาเสะปัดตกไป คือใน FF เนี่ย เวลาตัวละครเดินบน Map จะมีตัวละครเดินแค่ตัวเดียว เสมือนว่าทั้งปาร์ตี้รวมร่างอยู่ในตัวคนเดียว เป็นตัวแทนทั้งกลุ่ม แต่มีอีเวนต์นึง ที่ตัวละคร 4 ตัวพยายามรวมเข้าด้วยกันเป็นตัวเดียว แต่รวมไม่ได้ และพูดว่า "เอ๊ะ รวมไม่ได้!?" แล้วก็เลยต้องเดินเรียงต่อแถวกันแบบ DQ, คิตาเสะบอกว่าเขาปฏิเสธไปเพราะมัน ตลกเกิ๊นนน
- คุณซาคากุจิบอกว่าอาจจะฟังดูเหมือนเขาร้องเพลงอวยตัวเอง แต่ FFVI นี่ก็ยังคงสนุกมาจนถึงทุกวันนี้ แม้จะเป็นเกมเก่า แม้ว่าเกมจะกลายเป็น 3D และพัฒนาไปไกลแล้ว แต่ก็คนละเรื่องกัน นี่คือเกมที่คุณเล่นแล้วก็ยังคงสนุกได้มาจนถึงทุกวันนี้ แถมนกบนชายหาดก็โคตรเกะกะด้วย (หัวเราะ) คิตาเสะก็ตบท้ายว่า ขอโทษษษษ (หัวเราะ)
--------------------------------
ตัวละครและเหตุการณ์ที่แต่ละคนชอบ
ฮิโรโนบุ ซาคากุจิ - ชอบตัวละครทั้งหมด เลือกไม่ถูก | ชอบฉากรถไฟผี และคิดว่าฮิเดโอะ มินาบะได้ใส่ฝีมือทั้งหมดในฉากนี้แล้ว แต่ก็ชอบฉากโอเปร่า และฉากเปิดเกมด้วย
โยชิโนริ คิตาเสะ - ชอบเซเลส มีความผูกพันกับเธอเป็นพิเศษหลังจากที่สร้าง World of Ruin ที่ไม่อยู่ในแผนตอนแรกขึ้นมา และเริ่มเขียน Chapter 2 ที่เธอเป็นตัวเอก | เหตุการณ์ที่ชอบสุดคือโอเปร่า
คาสึโกะ ชิบุยะ : ชอบเคฟก้า เป็นตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในซีรีส์ FF | เหตุการณ์ที่ชอบสุดคือในสุสานดารีล
มิโนรุ อาคาโอะ : ชอบมาช | เหตุการณ์ที่ชอบสุดคือโอเปร่า ตอนนั้นลุงโนบุโอะบอกว่าอยากให้มันพิเศษกว่าปกติ เขาก็ลองผิดลองถูกทำจนสำเร็จออกมาได้
เออิจิ นาคามุระ : ชอบชาโดว์ | เหตุการณ์ที่ชอบสุดคือชาโดว์กับอินเตอร์เซปเตอร์ ในตอนจบ
ขอบคุณสำหรับบทความและคำแปลครับ
ตอบลบสุดยอดเลยครับ
ตอบลบ