ประสบการณ์สอบ SAT (STIC) จากฉลาดเกมส์โกงของหลาน


วันนี้ไม่ได้มารีวิวความรู้สึกจากการดูจูเน่ Dark Road แต่มาเล่าเรื่องที่หลาน (ม.6) ไปสอบ SAT หรือที่ชื่อ STIC ในเรื่องฉลาดเกมส์โกงมา

หลานพึ่งไปสอบรอบวันเสาร์ที่ผ่านมาที่ศูนย์สอบแห่งหนึ่งในไทย จากที่มีอยู่ด้วยกันหลายที่

หลานบอกว่าบรรยากาศการสอบ แตกต่างจากที่เห็นในฉลาดเกมส์โกงโดยสิ้นเชิง

อย่างแรกคือ ครูคุมสอบไม่ได้ดุเข้มเคร่ง แบบที่เห็นในละคร/ภาพยนตร์เลยสักกะนิด แม้การสอบจะวางกฎระเบียบไว้มากมาย แต่ก็ไม่ได้ enforcement ให้มันเป็นไปตามกฎระเบียบเหล่านั้น เช่น

- สตาฟฟ์ไม่ได้รับฝากโทรศัพท์ แต่ให้ผู้เข้าสอบแต่ละคน เอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋า แล้วไปวางไว้หน้าห้อง

- ไม่มีการค้นตัว แต่ละคนจะแอบเอาโทรศัพท์พกติดตัวมานั่งสอบ ก็ทำได้

- ห้องน้ำเป็นแบบชักโครก ไม่มีถังพักน้ำ (แบบในละคร) แต่ก็ไม่ได้มีการป้องกันอะไร จะเอาโทรศัพท์มาวางมาซ่อนกันก็ได้ตามสบาย คนไม่รู้จักกันก็ไม่ได้มายุ่งกัน สตาฟฟ์ก็ไม่ได้ตามเข้ามาควบคุม

- ข้อสอบที่มี 4 Part จะถูกส่งให้ผู้เข้าสอบตั้งแต่เริ่ม, การสอบจะแบ่งเวลาสอบเป็น 4 Session และมีพักเบรกหลัง Session 1 (10 นาที) และ 3 (5 นาที), โดยแต่ละ Session ก็ให้ผู้เข้าสอบทำแต่ข้อสอบ Part นั้น ๆ ....ห้ามทำข้อสอบ Part ที่ไม่ตรงกับ Session ....เช่น ถ้าตอนนี้เข้า Session 2 แล้วคุณก็ห้ามย้อนกลับไปทำข้อสอบ Part 1.... คนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎก็จะถูก cancel score

- ทว่าในทางปฏิบัติ... ผู้คุมสอบก็ไม่ได้มาคุมเข้มให้มันเป็นไปตามระเบียบแบบนั้น... ผู้เข้าสอบจึงสามารถทำข้อสอบข้าม Part ข้าม Session กันได้

- นอกจากนี้ยังมีกฎว่า ห้ามผู้เข้าสอบพูดคุยเรื่องคำตอบกันในช่วงเวลาพัก... ทว่าในความเป็นจริง ก็มีการคุยเรื่องข้อสอบกันระหว่างเวลาพักอย่างโจ๋งครึ่ง บ้างก็คุยกันต่อหน้าผู้คุมสอบเลย แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่ประการใด....


หลานสรุปว่าหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุด สำหรับการสอบที่สามารถเลือกสถานที่สอบได้... คือคุณต้องทำการบ้าน หาความแตกต่างระหว่างศูนย์สอบก่อน แต่ละศูนย์มีปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม เสียงรบกวน ระดับการ enforcement ให้เป็นไปตามกฎของผู้คุมสอบ ฯลฯ การเลือกสถานที่สอบที่ดี ก็จะส่งผลให้คุณแสดงสมรรถภาพในการสอบได้ดียิ่งขึ้น

ดังนั้น สิ่งที่หลานคิดว่าลินพลาดที่สุด ก็คือลินไม่ได้ทำการบ้านเรื่องสถานที่สอบมา... ลินควรจะหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องสถานที่สอบ และเลือกสถานที่ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับแผนของลิน มากกว่านั้นตั้งแต่แรก....

ทั้งนี้หลานผมมองว่า คะแนน 1,460 ที่ขบวนการโกงแบงค์ลินทำกันได้ เป็นคะแนนที่ไม่ได้มหัศจรรย์อะไร ไม่สมศักดิ์ศรีตัวละครในเรื่องที่บทพยายามเขียนให้ดูเป็นยอดมนุษย์นัก.... แต่ผมแย้งว่า ก็เป็นไปได้ว่าอย่างลิน ต้องพยายามทำข้อสอบให้เสร็จไวที่สุด เพื่อจะได้แบ่งเวลามาโฟกัสกับการจำคำตอบให้ได้ เมื่อประกอบกับสภาพจิตใจที่กำลังกดดัน ไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด จึงสมเหตุสมผลที่สมรรถภาพในการทำข้อสอบจะตกลง

หลานบอกว่าคะแนนที่สูงพอจะเข้า Top-U ของโลกได้คือ 1,500+ ขึ้นไป.... (เต็ม 1,600 คะแนน) ตัวหลานเองไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งนัก และไม่ได้เรียนติวสอบ SAT ซึ่งคอร์สละเป็นหมื่นมาก่อน แต่จากการนั่งฝึกทำข้อสอบเก่ามา ก็คิดว่าน่าจะได้คะแนนเกิน 1,400+ ได้ .... พวกเพื่อนในโรงเรียนแนวหน้าของประเทศ ก็คาดหวังคะแนนระดับ 1,400+ เหมือนกัน

ผลสอบ SAT ของไทยรอบล่าสุด จะประกาศวันที่ 21 ก.ย. 2020 ก็ไว้มารอดูกันว่าหลานผมจะทำคะแนนสู้ทีมครูพี่ลิน+แบงค์ได้รึเปล่า...


#จูเน่DarkRoad
#ฉลาดเกมส์โกงEP9

1 ความคิดเห็น: