Sora's Story เรื่องราวจากหนังสือ KH Series Character Files



ตัดตอนจากหนังสือ Kingdom Hearts Series Character Files ซึ่งวางจำหน่ายวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2020 (หลัง DLC Re: Mind ออกเดือนนึง)

ดูรายละเอียดหนังสือได้ที่ https://store.jp.square-enix.com/item/9784757564930.html

--------------------------------

Sora's Story
"First Journey"

"เหลือเวลาไม่มากแล้ว"
"มันสายไปแล้ว ฉันถอยไม่ได้"
"แต่อย่าได้ร้อนรน"
"ไม่ต้องหวาดกลัว"
"ประตูยังคงปิดอยู่"

แล้วฉันก็ตื่นขึ้นมาจากฝัน

ท้องฟ้าทะเลสีน้ำเงิน และหาดทรายสีขาว - ที่นี่คือ Destiny Islands บ้านเกิดของเรา หลังจากลุกขึ้นมานั่งแล้วหาวปากกว้าง ๆ ฉันก็หงายหลังไปอีกรอบ ความฝันนั้น - คืออะไรกันนะ? รู้สึกตาจะปิดอีกแล้วสิ แต่แล้วไคริกลับโผล่มาจ้องหน้าฉัน - เหวอ!

ด้วยความตกใจ ฉันเหวี่ยงตัวกลับขึ้นมา และหันไปหาไคริ

"อย่าทำให้ตกใจแบบนั้นสิ ไคริ!"

"ไม่แปลกใจเล้ย ~ กะแล้วว่าต้องแอบอู้อยู่นะ โซระ"

"ไม่ใช่นะ! อะไรไม่รู้ดำ ๆ สูบฉันเข้าไป แล้วก็หายใจไม่ออก แถม...!"

ฉันอธิบายอย่างตาเหลือกตาพอง ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องที่อธิบายไปนั้นเป็นความฝันรึเปล่า แต่ไม่ได้อู้นะ - เดี๋ยว หรือว่าอู้ฟะก็เพราะหลับไปนี่นา?

"นี่ยังไม่ตื่นใช่มั้ย?"

"ไม่ได้ฝันนะ - หรือว่าฝันหว่า... คือแบบ ฉันไปอยู่ในโลกที่ไม่รู้จัก เป็นที่ ๆ แปลกมาก ๆ แถม..."

"อืม จ้า~" ไคริตอบอย่างเคือง ๆ เธอหันหลังให้และเดินออกไป

"นี่ไคริ เมืองที่เธออยู่ตอนเด็ก ๆ เป็นแบบไหนอ่ะ?"

"เคยบอกแล้วนี่ว่า จำไม่ได้"

ในตอนนั้น ฉันรู้เพียงว่าเมืองที่ไคริเคยอยู่ตอนเด็ก ๆ ไม่ใช่ Destiny Islands และถึงได้ยินว่าเธอเคยอยู่ในเมือง เธอก็จำรายละเอียดอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

"ก็คิดว่าเผื่อจะนึกอะไรออกบ้างไง"

"ไม่เลยสักนิด"

ฉันนั่งบนชายหาด มองไปยังไคริที่ยืนอยู่แล้วเอ่ยถาม "ไม่อยากกลับไปเหรอ?"

"อืมมมม.... อยู่ที่นี่ก็แฮปปี้ดีนะ-" ไคริจ้องมองไปยังทะเลด้วยสีหน้าที่เดาไม่ถูก ไม่ได้ดูเหงา ไม่ได้ดูเศร้า แต่ก็ไม่ได้สุข เหมือนคิดอะไรบางอย่าง เธอชอบทำหน้าแบบนั้นบ่อย ๆ "แต่ว่าถ้าได้ไปเห็นก็ดีนะ"

"-ฉันอยากไปเห็นเหมือนกัน" ไคริหันกลับมามองฉัน แล้วฉันก็พูดต่อ "ถ้านอกจากโลกนี้ยังมีโลกใบอื่นอยู่จริง ไม่ต้องคิดเลย ก่อนตายยังไงก็ต้องไปดูให้ได้"

ตอนนั้นนั่นคือความปรารถนาสูงสุดของฉันเลย - ไอ้การได้ไปเห็นสถานที่ที่ไม่ได้อยู่ "ที่นี่" - เมืองที่ไคริเกิดมา

"งั้นก็ไปด้วยกันสิ" พอไคริพูด เสียงริคุก็แทรกขึ้นมาพอดี:

"ลืมใครไปแล้วรึเปล่า?" เขาอุ้มขอนไม้มาด้วย "สงสัยคงมีฉันที่ตั้งใจต่อแพอยู่คนเดียวซะแล้ว"

ฉันตะกายรับขอนไม้ที่ริคุโยนมา ไคริเห็นก็หัวเราะ

"เธอเองก็อู้กับเขาด้วยเหรอ ไคริ!"

"ฮิ ฮิ โดนจับได้ซะละ" ไคริหัวเราะพลางยักไหล่

"เอางี้ทั้งสองคน ไปช่วยกันทำให้เสร็จ! วิ่งแข่งกันนะ!"

"ห๊ะ?"

"อะไรเนี่ย?"

"ระวัง ไป!"

แม้ริคุพึ่งได้ยั่งลงข้าง ๆ ฉัน พอไคริตะโกนให้สัญญาณ "ไป!" ริคุกับฉันก็หันมาสบตา เราลุกขึ้นแทบจะพร้อมกัน แล้วออกวิ่งไป

เราทะยานตรงไปยังทางเข้าหาด

เย็นวันนั้น ไคริกับฉันนั่งข้างกันอยู่ที่ปลายสะพานใต้ต้น Paopu บนเกาะเล็ก ๆ ริคุที่อยู่ถัดออกไปก็กำลังพิงกับต้นอยู่

ดวงอาทิตย์กำลังจมลงไปในขอบฟ้า

"ถ้าพวกเราออกเดินทางไปเหนือโพ้นทะเล ก็จะพบโลกที่เธอจากมาใช่มั้ย?" ฉันถามไคริ แต่ริคุตอบแทรกขึ้นมา

"ไม่รู้สิ - ถ้าเราไม่ลองก็คงไม่รู้" ริคุเองก็พูดพลางมองขอบฟ้าไป ฉันเลยถามริคุบ้างเพราะไม่รู้ยังไงเหมือนกัน

"คิดว่าแพจะพาเราไปได้ไกลแค่ไหน?"

"ใครจะไปรู้ - ถ้าเกิดแตกขึ้นมาเราก็ต้องคิดหาหนทางอื่น"

แม้ริคุจะโตกว่าฉันแค่ปีเดียว ทว่าเรากลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง

"นี่ริคุ บอกหน่อยสิว่าถ้าได้ไปโลกอื่นแล้วจะไปทำอะไรที่นั่น?" คราวนี้เป็นไคริที่ถาม แล้วเธอก็พูดต่อ "เหมือนโซระรึเปล่า ที่แค่ได้ไปเห็นก็ฟินพอแล้ว?"

"บอกตามตรง ก็ยังไม่ได้คิดเหมือนกัน ฉันแค่- ฉันแค่อยากรู้ว่าทำไมฉัน ทำไมพวกเรา ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ถ้าข้างนอกมีโลกใบอื่นอยู่ แล้วทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?" เสียงของริคุซ้อนกับเสียงของคลื่นทะเล "ถ้ามีโลกใบอื่นอยู่ งั้นที่นี่..."

ริคุเริ่มพูดช้าลง ฉันว่าเขากำลังเลือกคำอย่างปราณีต "งั้นที่แห่งนี้ ก็เปรียบเสมือนชิ้นส่วนหนึ่งของโลกใบใหญ่ แล้วถ้าเป็นชิ้นส่วนจริง เราจะอยู่บนชิ้นนี้หรือชิ้นไหน ก็ไม่สำคัญจริงป่ะ?"

"ไม่เก็ตโว้ย"

ฟังทั้งหมดจนมาถึงตรงนี้ ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลยแม้แต่น้อย ว่าแล้วฉันก็นอนหงายเอนลงไปบนกิ่ง เมียงมองขึ้นไปด้านบน

"แค่นั้นแหละ" ริคุค่อย ๆ เดินออกไปช้า ๆ "ถ้าเรานั่งอยู่ที่นี่ เอาแต่จ้อง ก็จะไม่มีวันรู้อะไร ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง ก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอะไรได้ มันก็จะมีแต่วิวเดิม ๆ ดังนั้นเราถึงต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง"

ไคริเองก็มองขึ้นไปบนฟ้า ส่วนฉันยังเอนต่อ มองไปทางทะเล มันก็จริงอยากที่ริคุพูด ถึงแม้พระอาทิตย์ตกดินที่ตกดินอยู่ทุกวันจะแสนงาม แต่มันก็ไม่มีวันเปลี่ยน ถึงแม้บางครั้งจะเป็นคืนที่พายุโหมกระหน่ำ ทว่าท้องฟ้ากับทะเลก็ไม่เคยเปลี่ยน ฉันถึงอยากไปเห็นโลกใบอื่น

"-ริคุนี่ วิเคราะห์อะไรไว้เยอะแยะเลยสินะ?" ไคริพูดเบา ๆ

"ทั้งหมดนี้ก็ต้องขอบคุณไครินะ" ริคุหันมาตอบเธอ "ถ้าไคริไม่ได้มาที่เกาะนี้ ฉันก็คงไม่มีวันนึกเรื่องพวกนี้ขึ้นมาได้หรอก ขอบใจนะ"

"โอ๊ย เล่นซะเขินเลย"

ไคริหัวเราะ ฉันมองดูทั้งสองคน เรามักจะเป็นแบบนี้กัน สดใสเริงร่าภายใต้อาทิตย์ที่กำลังตกดิน อืม ทุกอย่างจะคงเป็นเหมือนเดิม ไม่แปรเปลี่ยน

จุดนั้นเองคือที่ที่การเดินทางของพวกเราเริ่มต้นขึ้น พวกเราไม่อยากอยู่ "ที่นี่" อีกต่อไปแล้ว เราอยากเดินทางไปที่ไหนก็ได้ ในไม่ช้าก็ได้ออกจากเกาะและได้ออกเดินทาง แต่ฉันว่า ท้ายที่สุดแล้วการเดินทางของพวกเราก็จะมาสิ้นสุดลงที่จุดนี้อีกเช่นกัน อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

และแล้ว - การเดินทางของพวกเราก็ได้เริ่มต้นขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น