FFXVI เผยรายละเอียด 2 DLC ในงาน The Game Awards

จากงาน The Game Awards 2023 มีอัปเดตใหม่ Final Fantasy XVI


- เปิดเผยชื่อ 2 DLC ใหม่ “Echoes of the Fallen” และ “The Rising Tide.” 

- “Echoes of the Fallen” ขายเลยทันที $9.99

- “The Rising Tide.” จะมาในฤดูใบไม้ผลิ (หลังฤดูหนาว)

- ถ้าซื้อมัดรวม 2 ตัว สนนราคา $24.99


------------------------------------

ข้อมูล DLC “Echoes of the Fallen”

------------------------------------

- เมื่อแสงอาทิตย์ทัววาลิสเธียอับลง คริสตัลประหลาดสีดำที่แพร่หลายกันในตลาดมืด ไม่รู้ว่าเป็นผลของมาเธอร์คริสตัลที่หลับใหลมายาวนาน ที่โลกไม่เคยรู้มาก่อน 

- ไคลฟ์และพวกออเดินทางไปหาพ่อค้ที่น่าสงสัย แกะรอยไปจนถึงหอคอยร้างโบราณสมัย The Fallen ที่ชื่อว่า Sagespire

- เควสต์นี้เริ่มทำได้หลัง Origin ปรากฏออกมา (ท้ายเกมเลย) และผ่านเควสต์ “Where There’s a Will” และ “Priceless.” ไปแล้ว (ก็คือควรเอาเซฟก่อนไปจบเกม มาเล่น)

- เผชิญหน้า Omega Aionios

- ทาเคโอะ คุจิราโอคะ ผกก. DLC (อดีต ผกก. Dissidia NT มาก่อน) บอกว่าตอนแรกจะใช้บอสตัวอื่น แต่คุยไปคุยมา ใช้บอสที่คุ้นเคยกันใน FF ก็จะทำให้เป็น FF ได้มากกว่า หวยเลยมาลงที่โอเมก้า

- Sagespire เป็นโบราณสถานตั้งแต่ยุค The Fallen อารยธรรมนั้นล้ำไปกว่ายุคของไคลฟ์ แล้วก็อยากสร้างทั้งโลกและเพลงให้ต่างจากเกมหลัก

- การต่อสู้กับ Omega เกิดในฉากหลังที่เป็น Cybernetic World และเพลงก็ต้องสะท้อนตัวตนแบบนั้น

- Final Track นั้นโซเคน เรียบเรียงใหม่จาก eScape ของ FFXIV Online ก็อยากให้แฟน FFXIV ไปฟังและเทียบดู

- ใน DLC นี้ยังไม่มีอบิลิตี้ใหม่ เลยใส่เครื่องประดับใหม่ลงไปแทน อย่าง Aerial Bit ทำให้การโจมตีบนฟ้า ทำดาเมจใส่ Will Gauge เพิ่ม 20% และทำให้ใช้ Stomp เพิ่มได้เป็น 3 เท่า ทำให้โจมตีกลางอากาศได้นานขึ้น

- DLC นี้จะขยายเรื่องยุค The Fallen ที่จริงทีมงานมี Lore เยอะจะสร้างเป็นเกมใหม่อีกเกม นอกจากสิ่งที่เล่าใน DLC นี้แล้ว ก็จะเหลือที่ว่างให้ไปเดากันต่อว่าเกิดอะไรขึ้น ก็อยากให้ดู environment และ Active Time Lore กัน


------------------------------------

ข้อมูล DLC “The Rising Tide”

------------------------------------

- full of contents (กว่าตัวแรก) เพราะมีเวลาทำนานกว่า

- ไปมิซิเดีย หาทอนแบรีคิง เจอเรื่องราวของลิเวียธาน

- ไคลฟ์จะได้รับพลังของมันมา

- ได้รู้เหตุผลที่มันไม่ปรากฏตัวในเนื้อเรื่องหลัก

- field area ใหม่ ท้องฟ้าสีครามที่ทอดยาว แต่ทำไมวาลิสเธียถึงมีท้องฟ้าสีครามได้ ทั้งที่โดน Primogenesis ไปแล้ว? จะได้รู้กัน

- มีโจชัวและจิล เดินทางไปด้วย

- เรียวตะ ซึสึกิ ตั้งใจทำมากกก และหวังว่าเมื่อได้พลังลิเวียธานไปแล้ว พวกเจ้าจะเอาพลังลิเวียธาน ไปใช้เป็น 1/3 พลังหลัก

"การได้รับพลังลิเวียธานมา หมายความว่าพลังของ Eikon ทั้งหมดได้มารวมกันครบแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับไคลฟ์หลังจากนั้น?" (โยชิดะพูด)

https://www.square-enix-games.com/en_GB/news/final-fantasy-xvi-echoes-of-the-fallen

https://www.gematsu.com/2023/12/final-fantasy-xvi-dlc-echoes-of-the-fallen-and-the-rising-tide-announced


------------------------------------

Bonus

------------------------------------

- อัปเดตเพิ่ม Bustwer Sword เข้าไปในเกม

- เพิ่มเพลง Away (1987) เข้าไปในตู้เพลง


------------------------------------

เทรลเลอร์

------------------------------------

JP - https://youtu.be/Xs3_T1Xdfeg

ENG - https://youtu.be/JMejkm0NwIc


ในเกม มีเล่าว่า The Fallen สร้างอาวุธที่รูปร่างเหมือนสิ่งมีชีวิต แต่มีพลังทำลายล้างเทียบเท่าเทพเจ้าในตำนาน พงศาวดารเก่าเรียกอสูรนั้นว่า Eikonoklastes (Breaker of Icon) คำว่า Eikon ที่ใช้ในปัจจุบันนี้ ก็ล้อมาจากตรงนั้น

และยังเล่าอีกว่า The War of the Magi หนึ่งในความขัดแย้งมากมายที่เกิดขึ้นในช่วงใกล้หมดยุคของ The Fallen ที่ซึ่งมนุษย์ใช้กองทัพเครื่องจักรที่ขับเคลื่อนด้วยเวทมนต์ทรงพลัง (ก็มาโดวอาเมอร์นั่นแหละ) ต่อสู้เพื่อแย่ง Mothercrystal แต่กลับเป็นการเร่งให้สูบ aether ไปจากแผ่นดิน ทำให้เกิดโซนดำ กว่าจะหยุดสู้กันและกลับมาสันติสุข แผลที่เกิดกับทั้งมนุษย์ชาติและแผ่นดิน ก็ลึกเกินจะเยียวยา อารยธรรมเริ่มล่าถอย ค่อย ๆ เข้าสู่ความมืดมิดอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ เวลาผ่านไป ความรู้นับพันปีที่ใช้สร้าง Magitek ขึ้นมาก็หายไป และสูญหายไปจากประวัติศาสตร์

ศัตรูใหม่ Omega Aionios - คำว่า Aionios (ไอโอนิโอส) มักถูกแปลว่า eternal/everlasting หรือชั่วนิรันดร์ แต่หลายแหล่งบอกว่าความหมายออริจินอลในกรีกมันคือ 1 age/eon

ในที่นี้ผมเลยมองว่า Aionios น่าจะใกล้เคียงกับคำว่า "ชั่วกัปชั่วกัลป์" ก็คือชั่วอายุของโลกนั่นเอง (ซึ่งมันไม่ได้เป็นนิรันดร์)


------------------------------------

บทสัมภาษณ์แฟมิซือ

------------------------------------

- DLC กำกับโดยทาเคโอะ คุจิราโอคะ (ผกก. Dissidia NT)

- โยชิดะบอกว่าจะผลสำรวจ พบว่า 10% ของคนเล่น FFXVI Digital ไม่เคยจับซีรีส์ FF มาก่อน และส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มวัยรุ่นตอนปลายอายุ 20 ต้น ๆ ผลแบบนี้ก็โอเค บรรลุเป้าหมายที่อยากให้คนทุกวัยได้เล่นกัน (ไอ้บ้าาา เรทเกมมันก็คุมไม่ให้เด็กเล่นอยู่แล้ว)

- FFXVI ได้รางวัลหลายอย่างในงาน Equinox LATAM Game Awards 2023 ของลาตินอเมริกา โยชิดะบอกว่าเขาเองพึ่งเคยไปอเมริกาใต้และอเมริกากลางครั้งแรก ตอนที่เกมพึ่งออกแล้วไป South East Asia ครั้งแรก (มาเลย์เซีย) ก็สัมผัสถึงความคลั่งไคล้ของแฟน ๆ ได้แบบเดียวกัน

- แฟมิซือถามว่า แฟน ๆ มีรีแอคชั่นไง กับการเปลี่ยนแนวเกมเป็น Action? โยชิดะบอกว่าฝั่งอเมริกาเหนือนี่ ฟีดแบ็คเป็นลบเลย โซนอื่น ๆ ก็มี แต่ก็น้อยกว่าที่จินตนาการไว้ แต่ก็มีหลายคนที่คาดหวังกับพัฒนาการและความเป็นไปได้ใหม่ ๆ อย่างที่ FFXVI นำเสนอ

- โยชิดะรับว่าเรื่องเปลี่ยนคอสตูมได้ เป็นสิ่งที่วางแผนกันไว้ตั้งแต่แรกแล้ว, แต่ส่วน Paid DLC นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจแต่แรก แต่ในแง่ของการเหลือพื้นที่ไว้ให้ขยายความหากจะสร้างต่อ เราก็ออกแบบเกมแบบที่ทิ้งไว้ให้สามารถสร้าง DLC ต่อได้หากผู้เล่นเรียกร้อง การตัดสินใจสุดท้าย จะขึ้นอยู่กับฟีดแบ็คหลังเกมออก แต่เราก็มีเตรียม ๆ ไว้ก่อนเกมออกแล้วแหละ

- คุจิราโอคะ (ต่อไปจะเรียกว่าคุจิ เพราะขี้เกียจพิมพ์) แนะนำตัวว่าเขาอยู่บริษัทมา 20 ปีแล้ว จริง ๆ เคยอยู่กับทีมพัฒนาที่ 1 (ทีมคิตาเสะ) เคยทำ Kingdom Hearts II, FFXIII, Dissidia มาก่อน ตัวเขาเองเคยปรึกษาโยชิดะ ว่าจะเอาตัวอะไรจาก FFXIV ไปลง Dissidia NT ดี แล้ววันนึง พวกโยชิดะก็ติดต่อมาว่ากำลังทำ FFXVI ที่เน้น Action อยู่ อยากมาจอยด้วยมั้ย? ผมก็ว่าน่าสนใจ เลยย้ายออกจากทีมเก่ามา

- โยชิดะบอกว่าคุจิเข้าร่วมทีมหลังจบช่วง Alpha Ver. และเริ่มพัฒนาเต็มรูปแบบ ตอนนั้นเรียวตะ ซึสึกิ ก็มาแล้ว พื้นฐานระบบต่อสู้ก็เป็นรูปร่างแล้ว

- คุจิถูกมอบหมายให้ไปเข้าร่วม Battle Team และทำ Eikon Battle ทำพวกการควบคุมอสูรมายา ทำ Garuda Battle ที่ทำอยู่ครึ่งทางจนจบ, ไปปรับ Titan Battle ร่วมกับ Platinum Games, ส่วน Bahamut Battle นั้นเขาอยู่ตั้งกะวางแผนตอนแรก

- แฟมิซือถามว่า มึงคือคนที่ส่งไคลฟ์ไปสู้กับบาฮามุทในอวกาศใช่มั้ย? คุจิบอกว่าอันนั้นเป็นไอเดียของเค็นจิ สุโดะ (須藤賢次) Lead Combat Designer ซึ่งเป็น FFXIV Battle Content Designer

- โยชิดะเสริมว่า คุจิเป็นคนเสนอเองว่าบาฮามุทร่างสุดท้ายมันต้องเป็นสีทอง, คุจิก็บอกว่า ทีมงานเรียกมันว่า "คินบาฮา" (บาฮาทอง)

- ทาคาอิ เปิดปากพูดประโยคแรกว่า ในอวกาศมันไม่มีแหล่งกำเนิดแสงนะโว้ย โคตรยากที่จะทำให้เป็นสีทอง แล้วมันก็ดูไม่ทองเลย

- แฟมิซือถามว่าคุจิ เป็น ผกก. DLC ทั้งสองตัวเลยเหรอ? คุจิก็บอกใช่

- โยชิดะบอกว่าคุจิมีแบ็คกราวด์แปลกดี เป็นตัวแทน SQEX ทำงานร่วมกับบริษัทอื่นก็แล้ว (Dissidia NT) แล้วยังมาร่วม FFXVI เขาเห็นว่าคิจุออกแบบได้ดี สร้าง Battle Content ได้สนุก ก็เลยต้องจิ้มคนนี้ละ

- ทาคาอิบอก ตอนนี้ก็ให้ทุกคนทำตามนโยบายของคุจิไป เขาก็ดูภาพรวม ถ้ามีอะไรก็ค่อยมาปรึกษา

- สำหรับ DLC ก็เล่าจากมุมมองของไคลฟ์ ในเนื้อเรื่องหลักมันก็เผื่อพื้นที่ให้ขยายความไว้อยู่แล้ว 賢者の塔 (Sagespire) เดิมจะเน้น battle content มากกว่านี้ แต่เห็นว่า FFXVI มันก็เน้นเนื้อเรื่องและโลกจากมุมมองของไคลฟฺ ก็เลยเขียนเนื้อเรื่องใหม่ขึ้นมาขยาย

- คุจิบอกว่า มีรีเควสต์มากมาย บอกว่าอยากให้ควบคุมตัวละครอื่นได้นอกจากไคลฟ์ มันก็ถูก แต่การเปลี่ยนไปควบคุมตัวละครอื่น แปลว่าระบบต่อสู้จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มันก็เป็นการละมือจากไคลฟ์ที่พวกเขาพัฒนาระบบต่อสู้ขึ้นมาตลอด แล้วในเมื่อเราจะขยายเนื้อเรื่อง FFXVI ในมุมมองของไคลฟ์ การให้ควบคุมไคลฟ์ต่อไป มันก็เป็นสิ่งที่จำเป็น

- แฟมิซือถามว่าตั้งใจแบ่ง DLC ออกเป็น 2 ตอน แต่แรกเลยมั้ย? ทาคาอิบอกว่า ถ้าจะสร้าง 1 DLC ที่รวมเนื้อหา 2 ตอนไปเลย มันก็ใช้เวลานาน และทำให้ลูกค้าต้องรอนานขึ้นไปอีก เลยตัดสินใจแต่แรก ว่าแบ่งไอ้ 2 ตอนนี่เป็น 2 DLC ละกัน

- โยชิดะบอกว่า คุจิเห็นว่าเนื้อเรื่องหลักตั้งกะออริจินโผล่มาไปจนจบเกม มันดราม่ามาก ก็อยากให้สร้างพื้นที่ไว้เทสความสามารถของไคลฟ์ก่อนเข้าดันเจี้ยนสุดท้าย เขาก็เห็นว่าดี เลยกลายเป็น DLC แรก

- คุจิบอกมีศัตรูใหม่ที่โผล่แค่ใน DLC นี้ แต่ก็มีหลายตัวที่เคยปรากฏตัวมาแล้วในอดีต ทำให้การต่อสู้นี้เหมือนเป็น All-Star Battle เลย เราสร้างเนื้อเรื่องที่จะให้ศัตรูทั้งหมดนั้น ปรากฏตัวได้อย่างมีเหตุผลรองรับ

- แฟมิซือถามว่าแล้วไหงมี Omega มาเป็นบอสด้วยล่ะ? คิจุบอกว่าตอนแรก วางแผนให้เป็นศัตรูออริจินอล (ศัตรูใหม่ไปเลย) โยชิดะบอกว่าพอคิดว่าอยากจะทำให้เกมมีความเป็น FF มากขึ้น มันก็ควรใส่ศัตรูที่คุ้นเคยกัน มากกว่าศัตรูใหม่, คิจิบอกว่าพูดถึงศัตรูของ FF แล้ว จิตใต้สำนึกทุกคนน่าจะคิดตรงกันว่าเป็น Omega

- ทาคาอิเสริมว่า เคยเถียงกันด้วยนะว่าจะเอา Omega หรือ Shinryu แต่พูดถึงศัตรูโหด ๆ ที่โผล่มาหลายภาค Omega มันก็เหมาะสมกว่า


- คุจิบอกว่า DLC แรกเป็นเรื่องอารยธรรมลอยฟ้า แต่ตัวที่สองจะคนละธีมละ หลายคนเล่นตัวเกมหลักแล้วคงสงสัยว่ามันเป็นไงบ้าง แต่ผมก็ตั้งใจว่าคงไม่เอามาเล่าทั้งหมด ตั้งใจว่าก็ต้องเหลือพื้นที่ให้คนได้เอาไปจินตนาการกัน / ทาคาอิเสริมว่าถ้าจะเล่าทั้งหมด คงได้สร้างเพิ่มอีกเกม

- ในการสู้กับ Omega มีเพลงที่เรียบเรียงใหม่จาก eScape ที่บรรเลงใน FFXIV 次元の狭間オメガ:アルファ編3 คือเดิม Omega มันไม่ได้มีเพลงประจำตัวมาก่อน เราก็ให้โซเคนแต่งให้ คนที่เคยเล่น FFXIV มาก่อนคงดีใจ แต่คนที่ไม่เคยเล่นมาก่อนก็อาจจะไม่รู้สึกแบบนั้น เราก็พยายามไม่ให้มันให้ฟีล FFXIV จนเกินไป

- โยชิะเสริมว่า มันเลี่ยงไม่ได้ที่ FFXVI จะมีกลิ่นของ FFXIV อยู่ในเกม แต่เขาไม่อยากให้มันเยอะไป ก็บอกว่าสำหรับ eScape อยากให้ arrange ไปเยอะ ๆ เลย อยากให้เล่นโดยไม่ต้องไปคิดว่ามันเป็นเพลง FFXIV มาก่อน ให้คิดว่ามันเป็นเพลงออริจินอลของบอส สุดยอดอาวุธจากอารยธรรมลอยฟ้า

- คุจิเสริมว่าตัวเนื้อเรื่องหลัก เน้นเพลงออเคสตร้า แต่ใน DLC1 เป็นอารยธรรมลอยฟ้าที่ล้ำไปกว่ายุคของพวกไคลฟ์แล้ว ดังนั้นในการดวลกับ Omega ก็อยากใช้เพลงที่ตื่นเต้น ให้ความรู้สึกแบบยุคอนาคต เป็น Digital Rock

- ในการตั้งชื่อ DLC คุจิบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่ชื่อญี่ปุ่น มันมีคำว่าท้องฟ้าใน DLC แรก กับทะเลใน DLC 2 ตรงข้ามกันพอดี

- DLC 1 ยาวประมาณ 3 ชั่วโมง ก็เป็น 1 ดันเจี้ยนกับเนื้อเรื่อง ปกติแล้ว DLC เกมอื่นที่ออกประมาณ 1 ปีหลังเกมออก ก็มีเนื้อหาประมาณนี้, ส่วน DLC ตัวที่ 2 จะเนื้อหาเยอะกว่า มีเพิ่ม Side Quest ด้วย ถ้าเล่น Main Quest และ Side Quest ก็ 8 ชั่วโมง ถ้าทำคอนเทนต์อื่นที่ใส่ไปด้วย ก็ประมาณ 10 ชั่วโมงได้

- โยชิดะเสริมว่า DLC 2 จะมีฟิลด์ขนาดเท่า 1 แอเรียในเกมหลัก

- แฟมิซือถามว่าใน DLC 2 ทำไมท้องฟ้ามันเป็นสีครามแบบนั้นล่ะ ในเนื้อเรื่องหลักตอนออริจินโผล่ ท้องฟ้ามันวิปริตไปแล้วนี่นา? ทาคาอิบอกเดี๋ยวเล่นแล้วก็เข้าใจ ตัวทีมงานเองก็อยากผจญภัยในที่ ๆ มันอากาศดี (หัวเราะ) โยชิดะบอกว่าดูดี ๆ มันเป็นที่ ๆ เคยเห็นกันมาแล้ว

- โยชิดะบอกว่ามันเป็นสถานที่ ๆ คนเล่นเนื้อเรื่องหลัก เคยตั้งข้อสงสัยกันมาแล้ว ไอ้แมปนั้นแหละ (มองได้จากตอนเหนือของ Northreach)

- คุจิก็ยืนยันว่าจะใช้พลังลิเวียธานได้ ตอนนี้กำลังปรับแต่งอยู่

- ทาคาอิบอกว่าการเพิ่ม action ของอสูรใหม่เข้าไป ก็ทำให้คุณต้องเปลี่ยนวิธีการเล่นในเนื้อเรื่องหลักไปด้วย ยุทธวิธีในการเล่น Arcade Mode ก็จะเปลี่ยนไป

- คุจิบอกว่า DLC 1 มีการเพิ่มเครื่องประดับไปหลายอัน ทำให้วิธีการสู้เปลี่ยนไป ใน DLC 2 ก็จะเพิ่มเครื่องประดับลงไปอีก แน่นอนว่าต้องมีของเพิ่มพลังให้อบิลิตี้ของลิเวียธาน

- แฟมิซือถามถึงไฮไลต์ของ DLC ทาคาอิบอกว่ามันคือความลับดำมืดของวาลิสเธีย ประวัติศาสตร์ที่ถูกฝังไว้

- โยชิดะบอกว่า ตอนคิดเนื้อเรื่องหลัก ก็มีคิดเซตติ้งต่าง ๆ ที่หวังว่าสักวันจะได้เฉลยออกไป รวมถึงปริศนาว่าทำไมลิเวียธานถึงอยู่ในสภาพจิตรกรรมผนัง และมันถึงหายไปอย่างลึกลับ ไม่เพียงแค่ปริศนา คนที่รักไคลฟ์ยังได้เห็นอีกด้านอันอ่อนโยนของไคลฟ์ด้วย

- ทาคาอิเสริมว่าใน DLC นั้นก็ได้เดินทางไปกับจิลและโจชัวด้วย คนที่ชอบตัวละครก็จะชอบบรรยากาศกัน / โยชิดะหวังว่าจะเป็นการตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อรีเควสต์ที่แฟน ๆ อยากเห็นพวกเขาสามคนพร้อมกัน

- คุจิราโอคะบอกว่า ใต้ท้องฟ้าสีคราม Photo Mode มันถึงทำภาพได้สวยกว่า (เออสิวะะะ) ก็รอที่จะเห็นคนแคปไปแชร์ ในเนื้อเรื่องหลัก ตอนได้โจชัวเป็นพวก ท้องฟ้ามันก็วิปริตไปแล้ว

- คุจิบอก DLC 2 ยิ่งยากกว่าตัวแรก ราวกับเป็น Death Game

- โยชิดะบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไคลฟ์ได้รับพลังของอสูรมายาทั้งหมดไป... ผมพูดอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ ก็รอไปเล่นในเกมกันเอานะ

- โยชิดะบอกว่าเวอร์ชั่น PC ซึ่งรวม DLC ด้วย ก็รอประกาศรายละเอียดวันวางขายไปก่อน ส่วนเรื่องสเปค ก็ขอให้เตรียม SSD กันไว้เลย FFXVI นั้นมีเรื่องสปีดการโหลดข้อมูลเป็นสำคัญ ดังนั้น HDD คงลำบาก ลำพังเราคงไม่สามารถก้าวข้ามกำแพงด้านฮาร์ดแวร์ได้

- โยชิดะบอกว่าทีมพัฒนา FFXVI นั้นสลายร่างแล้ว เหลือแค่ทีมทำ DLC เท่านั้น ดังนั้น คงไม่ได้ทำภาคต่อหรือ spin-off แล้ว พวกเขาก็ได้ความรู้ใหม่มากมายจาก FFXVI ก็จะเอาความรู้นี้ไปทำเกมถัดไป แต่หากถามว่าในอนาคตจะมีอะไรเกี่ยวกับ FFXVI ออกมาอีกมั้ย โยชิดะบอกว่าเขาก็ไม่รู้หรอก ไม่ขอฟันธง (หัวเราะ)

- โยชิดะบอกว่าทั้ง Sagespire และลิเวียธาน เป็นสิ่งที่ตั้งใจคาไว้ตั้งแต่ระหว่างการพัฒนา เพื่อเป็นช่องว่างให้ขยายต่อได้หากจะทำ แต่ถ้าต่อไปมีรีเควสต์ว่าอยากให้เจาะลึกถึงปริศนาของอารยธรรมลอยฟ้าอีก ก็คงต้องปล่อยให้จินตนาการกันเอง หรือออกเป็นหนังสือ World Setting ละ

- แฟมิซือถามว่ามีโอกาสมั้ย ที่จะใส่คอนเทนต์จาก FFXIV เข้าไปด้วย? โยชิดะตอบว่าหลังจากนี้ต้องทำไปเวอร์ชั่น PC ก่อนโว้ย ดังนั้นโอกาสไม่ได้เป็น 0 แต่... (ก็ยาก) ถ้าเวอร์ชั่น PC ได้รับความนิยม และมีเงินเหลือให้ถลุง คงน่าสนใจที่จะเพิ่มฟีเจอร์อย่างการควบคุมจิลและซิดในเนื้อเรื่องหลัก มากกว่าจะไปโคฯ กับ FFXIV ทว่าอันนี้แค่ยกตัวอย่างนะ

https://www.famitsu.com/news/202312/08325585.html

ไม่มีความคิดเห็น