Thursday, June 27, 2013

บทสัมภาษณ์ล่าสุด FFXV จากเว็บแฟมิซือและนิตยสารเดนเกคิ

เคยเห็นบางคนเข้าใจผิดไปไกลว่าพอ Final Fantasy Versus XIII เปลี่ยนชื่อเป็น Final Fantasy XV แล้วเนื้อหาก็จะเปลี่ยนไปด้วย ทว่าเอาเข้าจริงแล้วเนื้อเรื่องของเกม บทนำ รายละเอียดของตัวละครที่ทางค่ายเปิดเผยมาก็ยังคงเดิม และเกมนี้ก็ยังดำเนินอยู่บน Fabula Nova Crystallis จักรวาลที่สองจักรกลเดินทางไปยังดวงดาวต่างๆ เพื่อหาทางเปิดประตูวิญญาณ และมีเทพธิดาเอโทรสถิตอยู่ ณ อีกฟากหนึ่งของประตูเช่นเดิม

2 วันก่อน เว็บไซต์แฟมิซือ ได้ลงบทสัมภาษณ์เกม Final Fantasy XV เอาไว้ บทสัมภาษณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาใหม่ที่สรุปได้ดังนี้

- เนื้อเรื่องไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมที่แต่งไว้แต่แรก

- สามารถปีนขึ้นไปขี่มอนสเตอร์ตัวใหญ่ และวิ่งพล่านรอบตัวมอนสเตอร์ได้ในการต่อสู้ และยังสามารถเล็งโจมตีบางส่วนของร่างกายได้

- เกมเพลย์ พยายามเน้นเรื่องความรวดเร็ว จนผู้เล่นอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น

- ด้านมุมกล้อง มุมกล้องที่เห็นกันอยู่นั้นยังไม่ดี และเขาหวังจะสร้างมุมกล้องที่สมจริงกว่านี้ ให้มันเหมือนกับว่าผู้เล่นได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวในชีวิตจริง มุมกล้องนั่นจะไม่ใช่แค่สิ่งที่วิ่งตามตัวละครไปเรื่อยๆ แต่มันต้องทำให้ผู้เล่นรู้สึกได้ว่าใครบางคนกำลังบันทึกภาพเหตุการณ์ในเกมมาให้ดู ดังนั้นตัวเกมจริงๆ จะมีมุมกล้องที่ต่างไปจากนี้

- ช่องว่างระหว่างภาพ Real-time กับ Pre-rendered มันแคบเข้ามาเรื่อยๆ ตัวเกมจริงๆ ก็จะให้ภาพที่ดียิ่งกว่านี้

- คอร์เป็นหนึ่งในตัวละครที่ผู้เล่นควบคุมได้  อาวุธของเขาคือคาตานะ (ดาบญี่ปุ่น) ซึ่งเรายังไม่ได้เห็นกัน เขามีอายุ 42 ปี ซึ่งสำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว มันคือช่วงดวงกุดของผู้ชาย (เรียกว่ายาคุโดชิ) คล้ายกับวัยเบญจเพสของไทย (เบญจเพสแผลงจากศัพท์บาลี "ปญฺจวีส" หมายถึงยี่สิ้บห้า)

- ชายผมแดงในเรื่องกับชายแก่ที่เดินมาด้วยกันเป็นศัตรูของน็อคท์ ในเรื่องยังมีศัตรูที่ยังไม่เปิดเผยอีกหลายคน

- สาเหตุที่ตัวละครตัวนั้นต้องมีผมสีแดงก็เพราะพากย์โดยฟุจิวาระ เคอิจิ ผู้พากย์เรโน่และแอ็คเซลนั่นเอง

- คุณโนมุระบอกว่าแม้เทรลเลอร์นี้จะเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตเพศผู้ แต่เขาก็ได้เปิดตัว ตัวละครหญิงคนใหม่แล้วในภาพแว้บๆ ท้ายเทรลเลอร์...

- คุณโนมุระอธิบายว่าคงเป็นการลงทุนลงเวลาที่สูญเปล่า หากเกมนี้มีแต่โหมดออฟไลน์ที่เล่นจบแล้วจบเลย ดังนั้นเขาจึงกำลังหาทางใส่เนื้อหาออนไลน์ลงไป

- ตัวเกมจะนำความคืบหน้าไปแสดงอีกครั้งในงาน TGS 2013 และจะอัพเดทย่อยเรื่อยๆ ผ่านสื่อต่างๆ

- คุณโนมุระยืนยันว่าในเจนฯ นี้ หลายคนว่ากันว่าผู้พัฒนาชาวญี่ปุ่นได้พ่ายแพ่ให้กับผู้พัฒนาฝั่งตะวันตก เขาอยากใช้ FFXV นี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้งในเจนฯ ถัดไป

-------------------------------------------

ส่วนด้านล่างนี้เป็นสรุปจาก นิตยสารเดนเกคิ ฉบับล่าสุด (545)

- ผู้พากย์คอร์ คือโดยฮิโรคิ โทวจิ  คนพากย์คนเดียวกับโชวเฟอร์รถในเทรลเลอร์ปี 2011

- ตัวร้ายของเรื่องมาจากนิฟไฮม์ เสื้อผ้าของเขาถูกออกแบบมาไม่ให้สมมาตรกัน (アシンメトリー) ฝั่งซ้ายขวาจะเป็นคนละสี ตอนแรกพวกเขาก็แสร้งทำเป็นยอมสงบศึกด้วย แต่ก็แทรกซึมเข้ามาช่วงชิงคริสตัลชิ้นสุดท้ายไป

- สำหรับตัวละครหญิง ทั้งสเตลล่า นักรบมังกรสาวจากเทรลเลอร์เก่า สาวผมดำจากเทรลเลอร์ล่าสุด จะมีการเปิดเผยรายละเอียดในอนาคต

- การตัดสินใจเปลี่ยนมาพัฒนาให้กับเครื่องเกมเจนฯ ถัดไป หมายความว่าจะทำเกมแบบครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้ สเกลของเกมนั้นมีความใหญ่มาก และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกมนี้ใช้เวลาพัฒนานาน คุณโนมุระยอมรับว่า ณ จุดหนึ่งทีมงานเคยคิดที่จะลดสเกลของเกมลงมา แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจคงทุกอย่างไว้ตามเดิม

- ด้านกราฟฟิกเองก็มีการปรับปรุงขึ้น ทีมงานกำลังะยายามลดช่องว่างระหว่างภาพ Real-time และ Pre-rendered ลง

- ทาง Roen เองก็ยังคงทำงานปรับปรุงเสื้อผ้าของตัวละครหลักทีละเล็กละน้อย

- น็อคติสมีการเคลื่อนไหวอยู่หลายแบบ โดยคอนเซปต์การเคลื่อนไหวของเขาคือ "ความรวดเร็ว" คำสั่งวาร์ปที่ปรากฏให้เห็นในเทรลเลอร์นั้น เป็นคำสั่งพิเศษเฉพาะตัวเขาคนเดียว ซึ่งนั่นเป็นการวาร์ปแบบสั้น หลังจากนี้จะมีอบิลิตี้ในการวาร์ประยะไกลออกมาอีก แต่การวาร์ปนี้ก็มีขีดจำกัดของมัน โดยดูได้จากเกจใต้ชื่อของน็อคติสนั่นเอง

- ทีมงานกำลังวิเคราะห์ถึงการนำองค์ประกอบพิเศษของแต่ละเครื่องมาใช้ อย่างปุ่มแชร์ของ PS4

ทิ้งท้ายในส่วนของ Kingdom Hearts III สั้นๆ จากนิตยสารเดนเกคิ

- สำหรับเทรลเลอร์ทีเห็นในงาน E3 นั้น อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วว่ามันไม่ใช่ภาพ Real-time แต่เป็นการจำลองภาพสิ่งที่พวกเขากำลังทดสอบกันอยู่

- ในฐานะบทสุดท้ายของตำนานผู้แสวงหาความมืด พวกเขากำลังหาทางทำให้ผู้เล่นใหม่ตามเนื้อเรื่องเกมให้ทันอยู่

- ตอนนี้ยังเลือกดาวที่จะปรากฏในภาคนี้กันไม่เสร็จ

- จากเรื่องที่นิตยสารแฟมิซือฉบับสัปดาห์ก่อน ลงข้อมูลคำบรรยายของโซระใน Kingdom Hearts III ว่า "คีย์เบลดมาสเตอร์ผู้เป็นตัวเอกของซีรีส์" และข้อความดังกล่าวก็ได้สร้างความงุนงงไปทั่ว เนื่องด้วยแฟนๆ ต่างทราบดีว่าโซระมันสอบคีย์เบลดมาสเตอร์ไม่ผ่านสักหน่อย แล้วจู่ๆ ไปใช้เส้นอีท่าไหนถึงผ่านออกมาได้ ล่าสุด นิตยสารเดนเกคิฉบับสัปดาห์นี้ ได้ออกมาให้ข้อมูลที่ขัดกับแฟมิซือ ซึ่งนิตยสารดังกล่าวได้ลงข้อมูลที่น่าเชื่อถือกว่า โดยได้ลงคำบรรยายของโซระไว้ว่า "เพื่อนรักของริคุ ผู้ตั้งใจจะเป็นคีย์เบลดมาสเตอร์" (อ้างอิง)

- สรุปว่าแฟมิซือฉบับก่อน น่าจะลงข้อมูลผิดจริงๆ แหละ

-------------------------------------------

เก็บตกเพิ่มเติมจากที่ Gematsu สรุปมา

แฟมิซือ : เคยคิดที่จะทำ FF เป็นแบบ FPS มั้ย? หากทำเป็น FPS แล้วปริมาณข้อมูลที่ต้องสร้างขึ้นมา และเมโมรี่ที่เกมต้องใช้ มันจะน้อยลงนะ

โนมุระ : ไม่เคยคิดแบบนั้น เราเคยคิดจะเอา UI ออก เอาเลขดาเมจออก ทำให้น็อคติสเป็นตัวละครที่ควบคุมได้ตัวเดียว แต่ขืนทำแบบนั้น มันก็เสี่ยงว่า FF ที่ถูกสร้างขึ้นมาจะเป็นเพียงเกม Action ธรรมดาอีกเกมหนึ่ง เราต้องตระหนักให้ดี และไม่ลืมว่านี่คือ FF

แฟมิซือ : FF คืออะไร?

โนมุระ : ในด้านระบบต่อสู้แล้ว ต้องสู้กันเป็นปาร์ตี้โดยอยู่บนพื้นฐานของจำนวนตัวเลข ผู้เล่นจะควบคุม HP, เลขดาเมจ ค่าฟื้นพลัง เวลาสู้ก็ต้องคำนวณตัวเลขกันไป

- เมืองแห่งสายน้ำ Accordo เอาภาพทิวทัศน์มาจากเมืองเวนิส
- คุณโนมุระบอกว่าไม่อยากให้แฟนๆ ต้องรอ FF ภาคต่อไปนาน ดังนั้นเราจะเริ่มสร้างภาคถัดไปทันทีที่สร้าง FFXV เสร็จ (คงเป็นภาคต่อของ XV ตามที่เคยพูดไว้) ตอนนี้ก็กำลังพยายามทำให้ FFXV ออกมาเร็วที่สุด
- ในเกมจะมีชาติใหญ่ๆ ด้วยกัน 4 ชาติ โดยจะมีเมืองและหมู่บ้านยิบย่อยกระจายตามที่ต่างๆ อีกด้วย

ที่มา : HokankoFamitsuGameFaqsNova CrystallisGematsu

Tuesday, June 25, 2013

โนมุระเผยเทรลเลอร์ FFXV ในงาน E3 เป็นภาพจากเอนจิ้นเก่า

สรุปบทสัมภาษณ์ล่าสุดของคุณ เท็ตสึยะ โนมุระ ผู้กำกับเกม Final Fantasy XV กับเว็บไซต์เดนเกคิออนไลน์ ข้อมูลส่วนใหญ่ในบทสัมภาษณ์เป็นเรื่องเก่าที่คุณโนมุระเคยพูดกับสื่ออื่นมาแล้ว แต่มีข้อมูลใหม่และการขยายความข้อมูลเก่าในประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

เดิมทีแล้ว FFXV หรือชื่อเดิม Final Fantasy Versus XIII ถูกพัฒนาขึ้นบนเครื่อง PlayStation 3 แต่ระหว่างการพัฒนาคุณโนมุระก็พบถึงขีดจำกัดของเครื่องซึ่งทำให้ไม่สามารถเขาถ่ายทอดสิ่งที่เขาต้องการออกมาได้ คุณโนมุระยกตัวอย่างเช่นว่า ถ้าเราไปเร่งสปีดเครื่องยนต์เช่นรถบนเวิลด์แมพ เครื่องเกมมันก็จะประมวลผลไม่ทัน (โหลดวัตถุต่างๆ ให้ปรากฏขึ้นมาบนแมพไม่ทัน) แต่ถ้าย้ายมาบนเครื่องเกมเจนฯ หน้า ปัญหาในด้านกราฟฟิกดังกล่าวก็จะหมดไปได้

ส่วนทางด้านระบบออนไลน์ที่กำลังวางแผนให้กับเกมนี้อยู่นั้น คุณโนมุระเคยว่ากำลังพิจารณาถึงรูปแบบต่างๆ ทั้งแบบ Multiplayer หรือแบบ Co-op และยังพิจารณาถึงองค์ประกอบในการเอาสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตต่อเชื่อมกับเกมด้วย ทั้งหมดนี้คือความพยายามในการทำให้ผู้เล่นได้เล่นเกมดังกล่าวยาวนานขึ้น

ขณะที่การนำ DirectX11 มาใช้ ก็ทำให้กระบวนการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปมาก และทำให้ความแตกต่างระหว่างกราฟฟิกแบบ Real-time และ Pre-rendered ลดน้อยลง เมื่อเป็นแบบนั้นคุณโนมุระก็อยากจะสร้างฉากทั้งหมดที่ไม่มีการควบคุมตัวละครให้เป็นแบบ Pre-rendered CG แต่มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

การทำกราฟฟิกของเกมนี้ก็ใช้เทคนิคเดียวกับที่ใช้สร้าง Agni's Philosophy คือทีม Visual Works ก็จะสร้างไฟล์องค์ประกอบพื้นฐานสำหรับคัตซีนสวยๆ ขึ้นมาก่อน จากนั้นก็ส่งองค์ประกอบต่างๆ ไปให้ Luminous Engine ประมวลผลเป็นแบบ Real-time

คุณโนมุระรับว่าเทรลเลอร์ที่พึ่งเผยแพร่ไปในงาน E3 นั้น ถูกสร้างขึ้นโดยเอนจิ้นตัวเดิมและเครื่องไม้เครื่องมือเก่า ทว่าหลังจากนี้ตัวเกมจะย้ายการพัฒนาทั้งหมดไปยัง Luminous Engine ที่เกิดขึ้นภายหลัง (สัปดาห์ก่อนคุณโนมุระให้สัมภาษณ์กับทางแฟมิซือว่าตัวเกมตอนนี้มีการแบ่งส่วนในการพัฒนาอยู่ มีทั้งส่วนที่พัฒนาขึ้นด้วยเอนจิ้นเดิม, Luminous Engine และ Middleware Solution แต่ท้ายที่สุดจะย้ายการพัฒนาทั้งหมดไปรวมบน Luminous Engine) ด้วยเหตุนี้ หลังจากนี้ไปคุณภาพของเกมซึ่งย้ายไปพัฒนาบน Luminous Engine ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน คุณโนมุระยืนยัน

ทั้งนี้คุณโนมุระยังกล่าวถึงการเพิ่มทีมงานขึ้นมาช่วยหลายคน ทั้งการแต่ตั้งคุณฮาจิเมะ ทาบาตะ ขึ้นมาเป็นผู้กำกับร่วม และตั้งคุณทาเคชิ โนซึเอะเป็นหัวหน้าทีมผู้กำกับศิลป์ ขณะที่ทีมงานชุดเดิมที่ประกาศมาตั้งแต่แรกนั้นก็ยังอยู่กันครบ ตอนนี้ทีมพัฒนาเกมนี้จึงมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก

คุณโนมุระยังได้กล่าวถึงไอค่อนที่ปรากฏขึ้นเวลาที่เราล็อคเป้าไปยังตัวศัตรู บัดนี้มันได้มี Lens Flare ปรากฏขึ้นมา ซึ่งนี่มาจากคำแนะนำของคุณโนซึเอะนั่นเอง

ขณะที่เรื่องของสัตว์อสูรนั้น ได้รับการยืนยันว่าจะกลับมาในภาคนี้เช่นกัน ซึ่งผู้เล่นต้องเอาชนะมันให้ได้ก่อน มันถึงจะยอมมาเข้าพวกกับเรา โดยสัตว์อสูรในภาคนี้ก็จะมีระบบแรงค์ของมันด้วย สำหรับ Leviathan นั้นก็เป็นหนึ่งในสัตว์อสูรชั้นสูงของเกม

ธีมของเกมนี้คือ "ความผูกพัน" (絆 - ธีมเดียวกับ Birth by Sleep) เนื้อเรื่องค่อนข้างซีเรียส แต่ก็จะมีใส่มุกหลายๆ อย่างลงไป เนื้อหาของเกมค่อนข้างเรียบง่ายคือเรามีจุดหมายในการทวงคริสตัลคืนมา คริสตัลชิ้นสุดท้ายซึ่งเป็นของราชอาณาจักรลูซิส

คุณโนมุระยืนยันเหมือนกับที่พูดกับสื่ออื่นๆ ว่าพบกับข้อมูลถัดไปของ FFXV ได้ในงาน TGS2013

ที่มา : DengekiNova Crystallis

Friday, June 21, 2013

SQEX เตรียมจัดกิจกรรมในงาน Japan Expo ที่ปารีส 4-7 ก.ค. 2013

ภายในงาน Japan Expo ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงปารีสช่วงวันที่ 4 - 7 กรกฎาคมนี้ ซึ่งในงานก็มีการแสดงวัฒนธรรมหลายอย่างของชาวญี่ปุ่น เอ่อ รวมถึงวีดีโอเกมด้วยนั่นแหละครับ ซึ่งทางค่าย Square Enix ก็ไม่พลาดที่จะนำทีมงานหลายแหล่ ทั้งคุณคิตาเสะ คุณโทริยามะ คุณโยชิดะ และคุณชินจิ ไปร่วมในงานด้วย

กิจกรรมของทางค่าย ก็จะมีทั้งการพรีเซนต์ Lightning Returns -FFXIII-, Final Fantasy X l X-2 HD Remaster, Final Fantasy XIV -ARR- , ช่วยแจกลายเซ็นโดยคุณคิตาเสะ โทริยามะ และโยชิดะ

ทั้งนี้ในช่วงเย็นวันที่ 6 จะมีการพรีเซนต์ Kingdom Hearts -HD 1.5 ReMix- โดยคุณชินจิ ซึ่งทางค่ายบอกว่าจะเอาเซอร์ไพรซ์ไปโชว์ สื่อบางเจ้าเดาว่าอาจจะเป็น KH -HD 2.5 ReMix- ก็เป็นได้ แต่ผมไม่เชื่อออออ~

ที่มา : Nova Crystallis

โนมุระเลือกขึ้นเวทีปราศรัย Sony เพราะเห็นว่าเหมาะสมกว่า

สรุปบทสัมภาษณ์จาเว็บไซต์ Edge-online โดยเลือกมาเฉพาะข้อที่น่าสนใจครับ

Edge : ทำไม Kingdom Hearts III ถึงได้มาถึงช้าเหลือเกิน?

โนมุระ : KHII ของเราได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดี ทำให้ความคาดหวังที่มีต่อภาค III นั้นสูงยิ่งขึ้น เพื่อที่จะทำให้เกมมีความเหมาะสมทั้งทางด้านเนื้อเรื่อง ระบบ และโลก เพื่อให้ได้ดั่งความคาดหวังของแฟนๆ มันเลยต้องใช้เวลาสักหน่อย

Edge : การต่อสู้ใน FFXV ดูเป็น Real-time มากกว่าจะเป็น Turn-based นั่นคือการเปลี่ยนแปลงซีรีส์ไปอย่างสมบูรณ์เลยรึเปล่า? ตอนนี้คุณกำลังจะหันไปทำเกม Action แล้วรึเปล่า?

โนมุระ : เมื่อคุณมองลงไปในซีรีส์ FF แต่ละภาคมันก็จะมีระบบและเนื้อเรื่องที่แตกต่างกันไป นั่นคือเทรนด์ของ FF ในอดีต ตอนที่เราตัดสินใจทำ Versus XIII เป็น Action-based ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า "มันคือ FF เหรอ?" นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกมนี้เคยมีชื่อว่า Versus XIII ไม่ใช่ภาคหลัก ภาคใช่ภาคต่อของซีรีส์ FF แต่เมื่อคุณมองไปยังภาคอื่นๆ เช่น XI และ XIV ซึ่งเป็น MMORPG พวกเขาก็ใช้ระบบต่อสู้แบบ Command-based และระบบ Turn-style ซึ่งนั่นไม่ใช่ RPG ต้นตำรับ... นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เราตัดสินใจได้ว่า FFXV ก็สามารถเป็น Action-based ได้เช่นกัน ในอนาคตหากทีมอื่นๆ ตัดสินใจที่จะทำระบบต่อสู้แบบอื่นๆ นั่นก็เป็นเรื่องที่พวกเขาต้องตัดสินใจ

***จากที่รวบรวมมา เหตุผลที่ตอนแรกใช้ชื่อเป็นภาคเสริม ก็มีทั้งเรื่องของของแนวเกมที่มีความเป็น Action สูง และทีมงานอยากให้ซีรีส์ FNC จำกัดอยู่แค่ในภาคเลข XIII เมื่อภาคของไลท์นิ่งเป็นภาคหลักไปแล้ว ภาคอื่นๆ ก็ต้องกลายเป็นภาคเสริมที่มีเลข XIII ห้อยท้ายไป.... แต่ภายหลังเมื่อพิจารณาจากสเกลเกม เงินทุน ระยะเวลาที่ใช้ไป การที่ภาคของเอซหลุดจากเลข XIII ไปแล้ว อีกทั้ง FFXI และ FFXIV มันก็แหกคอกไปจากแนว RPG ดั้งเดิมแล้ว เหตุผลเหล่านี้ก็รวมกันทำให้เกิดการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงภาคของน็อคท์ให้กลายเป็น XV ได้

Edge : ทำไมคุณถึงไปที่งานปราศรัยของ Sony แทนที่จะเป็น Microsoft ล่ะ? แปลว่าคุณเลือกข้างแล้วใช่มั้ย?

โนมุระ : ทำไมถึงไม่ใช่ Microsoft น่ะเหรอ? กระทั่งวินาทีสุดท้าย เรา (SQEX) ก็ไม่รู้หรอกว่าเราจะได้ไปอยู่ในงานปราศรัยไหน ที่จริงก็อาจจะไม่ได้ไปอยู่ในงานปราศรัยของ Sony ด้วยซ้ำ มันก็เป็นเรื่องการตกลงกันระหว่างบริษัท ซึ่งเดิมที Versus XIII มันก็ประกาศทำให้กับ PS3 เมื่อหลายปีก่อน ดังนั้นผมเลยคิดว่าถ้าเราไปคุยกับพวกเขาก่อน (Sony) มันก็น่าจะเหมาะสมกว่า แล้วค่อยดูว่าพวกเขาจะให้เรา (VDO Clip ที่ถ่ายมา) ไปโผล่ในงานปราศรัยด้วยหรือไม่

Edge : ตอนนี้คุณสบายใจแล้วหรือยัง หลังจากที่ได้เห็นเกมของคนอื่นๆ และผลักดันเกมของคุณให้เทียบเท่าเกมของพวกเขาได้

โนมุระ : ยิ่งเห็นเทรลเลอร์ใหม่ๆ ต่อหน้าต่อตาผมมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งกังวล (หัวเราะ) แหงล่ะว่าผมเห็นเทรลเลอร์ของตัวเองมาหลายต่อหลายครั้ง ผมคุ้นเคยกับมันจนไม่อาจบอกได้ว่ามันดีหรือไม่ เพราะผมดูจนชินชาแล้ว ผมรู้ว่าทีมงานทำงานกันหนัก และทุกคนก็เห็นด้วย ทว่าผมก็ไม่เคยเอาเทรลเลอร์ของผมกับของคนอื่นมาเปรียบเทียบกัน ดังนั้นผมก็เลยกังวลอยู่

Edge : คอนโซลเจนฯ ถัดไปมีความหมายกับคุณอย่างไร ทั้งเกมที่คุณสร้าง และทั้งต่อ Square Enix โดยทั่วๆ ไป?

โนมุระ : ในแง่ของเกมที่ผมกำกับ สำหรับเจนฯ นี้ ทางด้านการพัฒนาเกมแล้วผมต้องยอมรับว่าบริษัทของเราตามหลังคนอื่นอยู่บ้าง พูดถึงเกมของผม KH -HD 1.5 ReMix- สำหรับ PS3 ก็ยังไม่ได้วางจำหน่ายใน UK EU และ US เลยทั้งที่มีการเปิดตัวคอนโซลเจนฯ ถัดไปแล้ว แต่ในเวลาเดียวกันเราก็ได้เริ่มพัฒนา KHIII และ FFXV ให้กับคอนโซลเจนฯ ถัดไปแล้ว ด้วยเกมเหล่านี้เราก็ต้องไล่ตามเกมทั้งหลายในสากลโลกนี้ให้ได้ ในอนาคต FFXV ก็น่าจะได้วางจำหน่ายก่อน KHIII แน่ ผมคิดว่า FFXV จะเป็นเกมชูโรงให้กับ Square Enix คอนโซลเจนฯ ถัดไป แล้วหลังจากนั้นเราก็จะสร้างเกมอื่นๆ ตามมาอีก

ที่มา : Edge-online

Wednesday, June 19, 2013

เทรลเลอร์ซับนรก + ซับไทย Final Fantasy XV จากงาน E3 2013

 ซับไทย


ซับนรก : โลกแห่งการหนีตายของโนมุระ

โนมุระหวังใช้ Final Fantasy XV กู้ชื่อเสียงให้ค่ายเกมฝั่งญี่ปุ่น


แปลรายละเอียดจากบทสัมภาษณ์คุณ
 เท็ตสึยะ โนมุระ ผู้กำกับ Final Fantasy XV จากนิตยสารแฟมิซือฉบับล่าสุด

- FF Versus XIII เปิดตัวเมื่อปี 2006 หลังจากนั้น 1-2 ปีก็เริ่มมีการพูดกันภายในว่าควรเปลี่ยนชื่อเป็น FFXV หรือไม่ ซึ่งแน้วโน้มก็ไปในทางไม่เปลี่ยนชื่อมาตลอด จนกระทั่ง FF Agito XIII วางจำหน่ายในชื่อ FF Type-0 ในปี 2011

- ที่ประกาศ ณ ช่วง งาน E3 ปีนี้ก็เพราะเป็นช่วงที่ประกาศเปิดตัวแจงข้อมูลพวกเครื่องเกมเจนฯ ถัดไปกัน แต่เป็นการตัดสินใจของหลายๆ ฝ่าย การพัฒนาให้กับ PS4 และ Xbox One นั้นเกิดขึ้นเมื่อราว 2 ปีก่อน ในเวลานั้นทีมงานก็ตัดสินใจจะมุ่งไปยังเจนฯ ถัดไปมากกว่าที่จะทำตัวเกมเวอร์ชั่น PS3 ต่อ

- เดิมตั้งใจจะประกาศ FFXV ในช่วงปลายปี 2012 แต่ด้วยเหตุผลหลายประการจึงต้องเลื่อนออกไป โดยเฉพาะเรื่องอายุของเจนฯ นี้

- ตัวเกมนั้นมีความทะเยอทะยานอยากสูงมาก ทีมงานหลายคนอยากสร้างมันขึ้นมาบนเครื่องเกมเจนฯ นี้แต่ก็ทำไม่ได้ ก็มีการลองผิดลองถูกกันอยู่มาก จนได้ผลลัพธ์คือการย้ายมาสู่เครื่องที่สเปคสูงขึ้น สิ่งที่ทีมงานอยากจะทำให้ได้ก็คือคุณภาพของภาพ ซึ่งคุณโนมุระก็ต้องการสร้างเกมที่ไร้การตัดฉากให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งในการนั้นก็จำเป็นต้องใช้เมโมรี่อย่างมหาศาล ที่จะรวมข้อมูลตัวละคร ข้อมูลฉากขนาดใหญ่ และข้อมูลศัตรูมากมาย ทั้งหมดจะถูกโหลดเก็บไว้ในเมโมรี่พร้อมกัน

- เหตุที่ภาคนี้ต้องเป็น Action-RPG นั้น ที่จริงมีความต้องการที่จะทำ FF สักภาคให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ความคิดนั้นเกิดจากการที่การควบคุมตัวละครนั้นจะเน้นไปที่น็อคติส และ UI ก็จะถูกทำออกมาให้เล็กที่สุด แต่ทีมงานก็ไม่ได้ลืมว่ามันคือเกม FF นะ

- เพราะเป็น FF การต่อสู้จึงต้องเป็นแบบปาร์ตี้และมีตัวเลขปรากฏขึ้น หมายถึงตัวเลขที่แสดง HP และดาเมจ โดยผู้เล่นจะสามารถสลับการควบคุมตัวละครในปาร์ตี้ได้อย่างอิสระ พวกตัวละครที่อยู่นอกปาร์ตี้ก็จะต้องมีบทบาทในทางใดทางหนึ่งด้วยเช่นกัน

- สำหรับตัวเกมเจนฯ ถัดไป ชัดเจนว่าน็อคติสสามารถวาร์ปขึ้นไปบนฉากที่อยู่สูงกว่าได้ และสภาพแวดล้อมในเกมก็ทำลายได้

- FFXV ถูกพัฒนาขึ้นโดยมี Direct X11 เป็นฐาน ก่อนจะพอร์ทไปยังเครื่องอื่นๆ จากที่ทั้ง PS4 และ Xbox One ใช้แผ่นบลูเรย์เหมือนกัน ทำให้ไม่มีความแตกต่างกันในด้านนี้ แต่ด้วยการที่เกมถูกพัฒนาขึ้นบน Direct X11 คุณโนมุระจึงยังไม่แน่ใจว่ารายละเอียดต่างๆ จากเข้ากับเครื่องเกมจริงๆ ได้แค่ไหน มันถูกปรับแต่งมาให้เข้ากับ PC สเปคสูง เขาก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าท้ายที่สุดแล้วตัวเกมทั้ง 2 เวอร์ชั่นจะแตกต่างกันแค่ไหน

- ส่วนจะมีตัวเกมเวอร์ชั่น PC หรือไม่นั้น? ก็อยู่ที่การเรียกร้อง เพราะเกมคงต้องใช้ PC ราคาแพงมากในการเล่น แน่นอน ทีมงานรู้ว่ามีกลุ่มคนที่อยากเล่นเกมในคุณภาพสูงสุด ตอนนี้การพัฒนามีทั้งส่วนที่ทำขึ้นโดย Luminous Studio ,เครื่องไม้เครื่องมือของทีมออริจินอล รวมทั้งส่วนที่ทำขึ้นโดย Middleware Solution ด้วย ซึ่งท้ายที่สุดพวกเขาก็จะย้ายการพัฒนาทั้งหมดไปอยู่บน Luminous Engine เพียงอย่างเดียว ทว่าตัว Engine เองนั้นยังมีส่วนที่ไม่สมบูรณ์ และคงจะสายเกินไปหากพวกเขาจะรอให้เสร็จแล้วค่อยเริ่มสร้างใหม่ ที่ผ่านมา Luminous Studio และทีมพัฒนา FFXV ได้ทำงานสร้าง Engine และพัฒนาเกมขึ้นไปพร้อมๆ กัน

- Luminous Studio เน้นไปที่การทำฉากที่มีการเล่นมุมกล้อง การไหลลื่นของคัตซีน และฉาก Pre-rendered

- นอกจากการเปลี่ยนชื่อแล้ว คุณฮาจิเมะ ทาบาตะ ผู้กำกับ FF Type-0, Crisis Core, The 3rd Birthday ก็ได้มาเป็นผู้กำกับร่วมเคียงข้างคุณโนมุระด้วย ด้านคุณทาเคชิ โนซึเอะเองก็อัพเกรดตำแหน่งเป็น Total Visual Director (เดิมเป็นมือทำ CGI) แม้ว่าคุณโนซึเอะจะเป็นหัวหน้าทีม Visual Works แต่ตอนนี้เขาก็มาร่วมทำงานกับทีมพัฒนาด้วย โดยมีเป้าหมายคือการทำคัตซีน Real-time ให้ใกล้เคียงกับภาพแบบ Pre-rendered ให้ได้มากที่สุด โดยใช้เทคนิคเดียวกับ Agni's Philosophy ซึ่งก็คือการให้ Visual Works สร้างมูวี่แบบ Pre-rendered ขึ้นมาก่อน แล้วค่อยพอร์ทมาเป็นแบบ Real-time โดย Luminous Studio เทคนิคนี้เรียกว่า "Look Development"

- ตัวน็อคติสที่เห็นในงาน E3 เป็นตัวที่เลเวลสูงในระดับหนึ่งแล้ว คือสามารถควบคุมอาวุธหลายชิ้นพร้อมกันและวาร์ปไปมาได้อย่างอิสระ ซึ่งตัวเกมจริงๆ จะไม่ได้เริ่มต้นมาเทพแบบนั้น

- ทีมงานอยากจะทำการควบคุมที่เรียกง่ายแต่รวดเร็วแบบ Kingdom Hearts

- สมาชิกในทีมก็จะมาช่วยโจมตีด้วย อย่างที้เห็นในเทรลเลอร์ จะมีท่าที่เกิดขึ้นตามสถานการณ์อยู่เรื่อยๆ เช่นการที่กลาดิโอลัสมาช่วยรับการโจมตีแทนน็อคติส หรือพร็อมท์วาร์ปเข้ามายิงใส่ศัตรูแทน โดยตัวละครสามารถวิ่งไปมาได้อย่างอิสระ ไม่ใช่แค่ในฉากแผนที่ แต่ทั้งในระหว่างการต่อสู้ด้วย ทั้งนี้ยังสามารถปีนขึ้นไปบนศัตรูตัวใหญ่ หรือโจมตีบางจุดของร่างกายได้ด้วย

- การต่อสู้กับบอส Leviathan ซึ่งสร้างไต้ฝุ่นขึ้นมา ผู้เล่นต้องกระโดดข้ามตึกที่จะถล่มทลายไปมาทีละตึกจนเข้าไปสู้กับมันได้ ไม่ใช่แค่ Leviathan เท่านั้น การต่อสู้กับบอสอื่นๆ ก็จะมีสถานการณ์ที่วินาศสันตะโรอย่างยิ่งใหญ่เช่นกัน

- ทีมงานเน้นไปที่ความรวดเร็วของระบบการต่อสู้ ซึ่งแม้ผู้เล่นจะควบคุมการเคลื่อนไหวได้ แต่คนดูไม่รู้หรอกว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น สำหรับเกมนี้การทำ Motion Capture เป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก โดยปกติแล้วการใช้คนจริงเพื่อจับการเคลื่อนไหวนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่เขาต้องคำนึงถึงความสมดุลระหว่างความสมจริงกับความเป็นเกมด้วย

- คำว่า "เพื่อ 15 ที่กำลังจะมาถึง" ในเทรลเลอร์ เป็นเพียงมุกที่ใช้ในการประกาศเปิดตัวเท่านั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่อง ภาคนี้ก็จะดำเนินไปถึงไคลแมกซ์ของเรื่อง ทว่าเนื้อเรื่องก็จะยังดำเนินต่อไปตามแผนที่วางไว้ เป้าหมายในการสร้างคือ "ความอลังการแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน" ซึ่ง FFXV เองก็ถูกออกแบบให้มีเนื้อเรื่องต่อเนื่องด้วย ตั้งแต่แรกแล้ว

- ทว่าภาคต่อจะปรากฏในรูปแบบใดนั้น? คุณโนมุระบอกว่าสำหรับข้อมูลนั้นคงไม่ต้องรอกันนานนัก สำหรับโปรเจคท์เกมคอนโซลสเกลยักษ์แบบนี้ พวกเขาจำเป็นต้องทำให้ผู้คนสนใจกันเป็นระยะเวลายาวนานให้ได้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้องค์ประกอบด้านการ Online เข้าช่วย คงไม่ได้มีแค่โหมด Single Player อย่างเดียว แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีแผนอย่างเป็นรูปธรรมว่าจะทำระบบ Online ยังไง แต่ก็กำลังมองความเป็นไปได้หลายๆ แบบ เพื่อจะหาแบบที่เหมาะสมที่สุด

- ทั้งนี้ Square Enix ยังสนใจที่จะขยาย FF ภาคใหม่ไปสู่ PS Vita ด้วย ซึ่งจริงๆ FFXV เองก็เล่นผ่าน Remote Play ของทาง Sony ได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะทำระบบบางอย่างให้ใช้กับ Smartphone หรือ Tablet ด้วย

- ตอนนี้คุณโนมุระยังไม่สามารถพูดถึงระดับความคืบหน้าในการพัฒนาหรือวันวางจำหน่ายได้ ก็บอกให้รอตามข่าวกันต่อไป เขาขอโทษจากใจจริงที่ทำให้แฟนๆ ต้องรอคอยกันมาอย่างยาวนาน เขาหวังว่าการพรีเซนต์ในครั้งนี้จะสมดั่งความคาดหวังของทุกคนที่รอคอยกันมา จากนี้ไป คุณภาพของเกมจะยิ่งๆ สูงขึ้น เขาอยากใช้อีเวนต์ใหญ่ๆ แบบนี้ในการนำเสนอข้อมูลใหม่ อย่างเช่นในอีเวนต์ TGS ครั้งถัดไป ดังนั้นโปรดคอยดูพัฒนาการของ FFXV กัน

- คุณโนมุระทิ้งท้ายว่า "ในเจนฯ นี้ ทีมพัฒนาเกมฝั่งญี่ปุ่นสู้ชาติอื่นๆ เขาไม่ได้ ทว่าในเจนฯ ถัดไป ผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้อีกแล้ว ผมอยากจะแสดงให้เห็นด้วยเกมนี้"

ที่มา : Hokako , Nova Crystallis

Final Fantasy XV ได้ทาบาตะร่วมกำกับด้วยอีกคน!

 รวมพวกสะเก็ดข้อมูลใหม่ของ Final Fantasy XV จากนิตยสารแฟมิซือฉบับล่าสุดครับ เห็นในทวีตเตอร์และบอร์ดญี่ปุ่นมีการหยิบยกข้อมูลในเล่มมาพูดถึงกันบ้าง ผมก็รวบรวมมาเป็นข้อๆ ได้ราวๆ นี้

- ตัวเกมได้ผู้กำกับร่วมเพิ่มเข้ามาคือ ฮาจิเมะ ทาบาตะ ซึ่งเป็นผู้กำกับ FF Type-0 นั่นเอง (หลังจากที่คุณทาบาตะทำ FF Type-0 เสร็จเมื่อปี 2011 เขาก็เงียบหายไปนาน ที่แท้ก็แอบมาทำ FFXV ด้วยน่ะเอง)

- นอกจากนี้ยังได้คุณทาเคชิ โนซึเอะ ที่รับผิดชอบด้าน Movie Director ให้กับหลายๆ เกมมาเป็น Total Visual Director เรียกได้ว่าเข้าสู่วิถีของแอ็คชั่นอย่างเต็มตัว

- ย้ำข้อมูลเก่าว่าหลังจาก Versusa เปิดตัวได้ 1-2 ปี ก็เริ่มมีการคุยกันในบริษัทว่าน่าจะเปลี่ยนเป็น FFXV ตอนแรกคุณโนมุระก็ยังลังเล แต่พอเห็น FF Agito XIII เปลี่ยนชื่อเป็น FF Type-0 คุณโนมุระก็เริ่มเห็นชอบยอมรับการเปลี่ยนชื่อเป็น FFXV

- การพัฒนาเกมให้กับ PS4 และ Xbox One เริ่มขึ้นขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ก็เพื่อที่จะให้เกมตีตลาดทั้งเครื่องเกมเจนฯ นี้ และเจนฯ หน้า (ทว่าตัวเกมเวอร์ชั่น PS3 ก็ถูกยกเลิกไปเมื่อราว 1 ปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลว่ายิ่งทำไป ตัวเกมทั้ง 2 เวอร์ชั่นก็ยิ่งแตกต่างกันมากเกิน : อ้างอิง) แล้วตอนนั้นก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเป็น FFXV ไปเลย

- ตอนแรกทีมงานก็ตั้งใจจะพรีเซนต์ FFXV ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ก็ต้องเลื่อนออกไปด้วยเหตุผลอย่างๆ ประการ อายุของเจนฯ นี้คือปัญหาสำคัญ

- การย้ายมาทำลงบนเครื่องเจนฯ หน้าอย่างเต็มตัว ทำให้องค์ประกอบใหม่ๆ ในเกมเกิดขึ้นมาได้ เช่น การวาร์ปขึ้นไปบนที่สูงลิบดังที่เห็นในเทรลเลอร์ หรือการที่ฉากถล่ม

- ตัวเกมพัฒนาขึ้นบน PC สเปคสูงโดยใช้ Direct X11 ทำ ดังนั้นจึงสามารถพอร์ทไปยังเครื่องที่รองรับ Direct X11 ได้ (ซึ่ง Wii U ไม่มี)

- ส่วนเวอร์ชั่น PC นั้น ทีมงานยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ ทว่าตอนนี้ก็มีแผนจะร่วมมือกับทีม Luminous Studio ทำอะไรบางอย่างในอนาคต ทั้งนี้ถ้าจะทำ FFXV บน PC ก็คงต้องรันบน PC ที่สเปคสูงมาก เลยอยากรอดูก่อนว่าจะมีผู้เล่น PC ที่เรียกร้องให้ทำลง PC กันมามากมายแค่ไหน

- สำหรับ PS Vita ที่มีระบบ Remote Play กับ PS4 ตอนนี้ทางค่ายกำลังคิดว่าจะเอาเจ้าเครื่องนี้มาใช้กับ FFXV ด้วยหรือไม่ นอกจาก Vita แล้วก็ยังสนใจการเอาสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมาใช้ร่วมเสริมด้วยเช่นกัน

- ตัวเกมเปลี่ยนทิศทางจากระบบ Turn-based และ Time-based (ATB) มาสู่ทิศทางใหม่

- เกมให้ความรู้สึกของแอ็คชั่นมาก วิ่งเข้าทำมอนสเตอร์ได้อย่างเสรี สามารถเล็กโจมตีเฉพาะจุดบนตัวมอนสเตอร์ได้ และกำลังเพิ่มระบบปีนขึ้นไปบนตัวมอนสเตอร์ตัวใหญ่ด้วย ดังที่สาธิตในเทรลเลอร์เกมเพลย์ว่าน็อคติสและเพื่อนสามารถปีนเบฮีมอธได้

- ปาร์ตี้ในภาคนี้มีด้วยกัน 3 คน สามารถสลับเปลี่ยนไปคุมตัวไหนก็ได้ตลอดเวลา

- เบฮีมอธและเท็ตสึเคียวจินนั้นถูกออกแบบขึ้นใหม่เพื่อ FFXV (คุณโนมุระเคยออกแบบมอนสเตอร์ทั้ง 2 ให้กับ FFVII และ FFVIII มาแล้ว)

- คนในชุดขาวของฝั่งนีเฟิลไฮม์ชื่อ Idola Eldercapt (ถึงไม่บอกก็น่าจะเห็นชื่อเขาอยู่ในธงสัญญาสงบศึกอยู่แล้ว) จริงๆ ก็เห็นชื่อเขาได้จาก PV ตั้งแต่ปี 2008 แล้ว

- คุณชินจิ ฮาชิโมโตะหวังว่าแฟนๆ รุ่นเก่าจะไม่ผิดหวัง และจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงจากระบบ ATB ที่ใช้กันมานาน 22 ปี มาเป็นระบบใหม่ ตอนนี้ทางค่ายก็กำลังรอรับฟังเสียงตอบรับของการเปลี่ยนมาเป็นการต่อสู้ที่เน้นแอ็คชั่นมากขึ้น ทั้งนี้ยังรับประกันว่าแฟนๆ จะได้รับข้อมูลใหม่ๆ ของเกมในไม่ช้า วันคืนแห่งความไม่ซื่อสัตย์ ที่ข้อมูลของเกมที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาเงียบหายไปนั้น ได้สิ้นสุดลงแล้ว (คุณชินจิใช้คำเดียวกับตอนที่คุณมัตสึดะ ว่าที่ประธานคนใหม่แถลงกลยุทธปี 2013 ของบริษัท ซึ่งคุณมัตสึดะบอกว่าการที่สร้างเกมแล้วเงียบหายไป เป็นการไม่ซื่อสัตย์)

KHIII กำลังพิจารณาว่าจะให้เอาริคุ+ไคริมาใช้ได้ด้วยหรือไม่!?

คุณ aibo เว็บมาสเตอร์ของ FF-Reunion ที่ได้อ่านนิตยสารแฟมิซือฉบับล่าสุดแล้ว ทวีตข้อความบอกว่าในนิตยสารฉบับดังกล่าวได้ลงบทสัมภาษณ์คุณโนมุระ ถึงเรื่องของ Kingdom Hearts III เอาไว้ ซึ่งคุณโนมุระย้ำอีกรอบว่า KHIII นี่คือตอนสุดท้ายของตำนานผู้แสวงหาความมืด และเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับเซอานอร์ท

สำหรับเรื่องของการเอาตัวละครอื่นนอกจากโซระมาใช้ ตอนนี้คุณโนมุระยังไม่ได้ตัดสินใจว่านอกจากโซระแล้ว จะให้ผู้เล่นได้เล่นเป็นริคุและโซระด้วยหรือไม่

นอกจากนี้คุณโนมุระยังพยายามบรรยายถึงสรรพคุณของระบบ Kingdom Shader ที่จะช่วยทำให้สีสันเทกเจอร์ของภาพ มีความใกล้เคียงกับการ์ตูน Disney ตัวต้นฉบับมากยิ่งขึ้น

ส่วนการเปิดเผยรายละเอียดครั้งต่อไปนั้น โปรดรอติตามชมกันได้ในงาน TGS เดือนกันยายนและงาน D23 เดือนตุลาคม

=======================================

เพิ่มเติม

- ยืนยันว่าผู้กำกับร่วมคือทาอิ ยาซึเอะ และผู้อำนวยการคือริเอะ นิชิ

- โซระออกเดินทางไปยังโลกดิสนีย์ต่างๆ เพื่อตามหา กุญแจในการนำหัวใจกลับคืนมา

- คุณโนมุระบอกว่าภาคนี้เป็นเนื้อเรื่องต่อจากภาค 3D ตอนนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกดาว นี่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับเซอานอร์ท ในตอนสุดท้ายของตำนานผู้แสวงหาความมืด

- พอถามว่าจะเล่นตัวอื่นนอกจากโซระ เช่นริคุและไคริได้มั้ย? คุณโนมุระบอกว่ามันก็มีความเป็นไปได้อยู่

- ทีมงานพยายามคิดกันมาตลอดว่าจะทำภาคของ KH เจนฯ หน้าอย่างไร และพยายามสร้างเทกเจอร์ให้ใกล้เคียงกับภาพของทาง Disney ให้ได้มากที่สุด

- จากความพยายามซ้ำแล้วซ้ำอีก คุณโนซึเอะ ก็เป็นคนสร้าง Kingdom Shader ที่พัฒนาด้านภาพให้สร้างเทกเจอร์แบบที่เห็นขึ้นมาได้

- ภาคนี้จะใช้ปาร์ตี้ 3 ตัวละครเหมือนเดิม NPC แต่ละโลกก็จะเข้าร่วมกลุ่มได้เหมือนเดิม ยิ่งเล่นๆ ไป AI ของเพื่อนและศัตรูก็จะมีรูปแบบที่หลากหลายแตกต่างกันมากขึ้นเรื่อย

- ระหว่างการทดสอบเป็นมาสเตอร์ โซระก็ได้เรียนรู้พลังที่แท้จริงของคีย์เบลดเข้าไปแล้ว

- ทีมพัฒนา FFXV กับ KHIII ได้แข่งขันกันน่าดู (แบบเพื่อนๆ) ตอนนี้กำลังพิจารณาเรื่องระบบออนไลน์ให้กับ KHIII อยู่ จะเปิดเผยข้อมูลครั้งต่อไปในงาน TGS เดือนกันยายน และ D23 ในเดือนตุลาคม

ที่มา : Hokanko , KHinsider

Tuesday, June 18, 2013

สรุปบทสัมภาษณ์ FFX l X-2 HD Remaster จากงาน E3 โดย Erren

เป็นการถามตอบระหว่างคุณ Erren จากเว็บ Nova Crystallis กับคุณคิตาเสะ ผู้อำนวยการสร้าง Final Fantasy X l X-2 HD Remaster ภายในงาน E3 ครับ ขอสรุปแค่สั้นๆ พอ

คุณคิตาเสะเผยว่าจริงๆ อยากควบ X-2 ไปด้วยตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ใช่แค่ X หรอก แต่การทำรีมาสเตอร์เป็น Full HD เป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเขา เลยอยากเอาให้ชัวร์ว่าสามารถทำได้แน่ๆ ก่อน ตอนแรกเลยประกาศไปแต่ X ก็ไม่อยากประกาศเป็นโปรเจคท์ใหญ่ไปจนกว่าจะมั่นใจว่าทำได้จริงๆ ยังไงมันก็เป็นซีรีส์เดียวกัน ก็ไม่อยากทำให้ค้างคาครึ่งทาง

ทั้งนี้คุณคิตาเสะยังเผยว่าแค่การเอามาสร้างใหม่โดยทำให้มีคุณภาพของภาพมากขึ้น มันยังไม่พอ เราอยากทำให้มีมิติยิ่งกว่านั้น แบบที่จะทำให้คนที่เคยเล่นมาแล้วตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อยไปกว่าเดิม ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ท้าทายมากที่สุด

ผู้สัมภาษณ์ได้ถามต่อไปว่ามันจะเป็นการเปิดทางให้กับการรีเมคภาคอื่นต่อ อย่างเช่น FFXII รึเปล่า? คุณคิตาเสะตอบประเด็นนี้ว่าก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าการรีมาสเตอร์ครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ หากทำได้ก็จะเป็นการกรุยทางให้กับภาคอื่นๆ ที่จะถูกนำมารีเมคเป็น HD กันต่อไป ซึ่งภาคที่เอามาทำได้สะดวกที่สุดก็คือ FFXII ซึ่งส่วนตัวแล้วคุณคิตาเสะก็หวังว่าการรีมาสเตอร์ X และ X-2 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการรีมาสเตอร์เกมภาคอื่นๆ เช่นกัน แต่จะเป็นไปได้หรือไม่นั้น... เวลาและยอดขาย จะเป็นเครื่องพิสูจน์

ที่มา : Nova Crystallis

สรุปบทสัมภาษณ์ Lightning Returns -FFXIII- จากงาน E3 โดย Erren

สรุปบทสัมภาษณ์เรื่องเกม Lightning Returns -Final Fantasy XIII- ภายในงาน E3 โดยคุณ Erren จากเว็บ Nova Crystallis

- คุณ Erren ถามเปิดว่าในเกมที่มีอิสระมากเช่นนี้ จะสามารถเลือกทวีปอันเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางเองได้หรือไม่? คุณคิตาเสะตอบว่าหลังจบ Battle Tutorial ก็จะสามารถเลือกไปยังทวีปใดทวีปหนึ่งจากทวีปทั้ง 4 ได้ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในเกมนี้คือเวลามันเดินไปตลอด ดังนั้นถ้าคุณรู้ว่าจะเกิดอีเวนต์ขึ้นในตอนเย็นของสถานที่แห่งหนึ่ง คุณก็ต้องคิดให้ดีว่าจะบริหารเวลาอย่างไรให้เกิดประโยชน์มากที่สุดก่อนที่จะถึงเวลานั้น

- คุณ Erren ถามว่าโลกของภาคนี้มีขนาดแค่ไหนเมื่อเทียบกับ XIII-2 ? คุณโทริยามะตอบว่ามันเป็นโลกที่กว้างใหญ่ ภาพรวมของมันก็พอๆ กับ XIII และ XIII-2 ใน 2 ภาคที่ผ่านมานั้นสถานที่ต่างๆ เหมือนจะเชื่อมโยงถึงกัน แต่จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้เชื่อมโยงกัน ทว่าในภาคนี้ทวีปทั้ง 4 มันจะเชื่อมโยงกันจริงๆ ทำให้ผู้เล่นรับรู้ได้ถึงขนาดจริงๆ ของโลก

- คุณ Erren บอกว่าตอนแรก ทีมงานบอกว่าจะมีชุดให้ไลท์นิ่งราว 20 ชุด จากนั้นตัวเลขมันก็งอกขึ้นมา หลังจากนี้จะเพิ่มขึ้นอีกรึเปล่า? คุณคิตาเสะตอบว่าที่จริง ตอนนี้พวกเขาก็กะทำให้ถึง 80 กว่าชุดแล้ว แล้วทาสีชิ้นส่วนต่างๆ ได้ด้วย สามารถปรับแต่งได้ตามใจนึกเลยล่ะ

- คุณ Erren ถามว่าจำนวน 80 กว่าชุดที่ว่านั้นรวม DLC แล้วหรือยัง? คุณคิตาเสะบอกว่ารวมแล้ว พูดให้ถูกคือ 90% ของ 80 กว่าชุดนั้นอยู่ในเกมแต่แรกแล้ว ส่วนชุดที่เหลือก็ DLC เอา ตอนนี้ยังเปิดเผยเรื่อง DLC มากไม่ได้ แต่จะมีพวกชุดกับอาวุธพิเศษให้ซื้อ แต่ก็เป็นจำนวนจิ๊บจ๊อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับ 80 กว่าชุดที่มีในเกม

- คุณ Erren ถามว่าเดิมทีเกมนี้กำหนดวางจำหน่ายช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่แล้วฝั่งอเมริกากลับเลื่อนไปถึงกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยฝั่งญี่ปุ่นยังคงวางจำหน่ายในปีนี้ มีเหตุผลใดมั้ยที่ทำให้ญี่ปุ่นได้เล่นก่อนตั้งหลายเดือน? คุณคิตาเสะตอบว่าถ้าเอาแค่เกมเพลย์ เราจะวางจำหน่ายให้ฝั่งอเมริกาในพฤศจิกายนเหมือนเช่นฝั่งญี่ปุ่นเลยก็ได้ แต่ที่เราเสียเวลาอีกมาก ก็เพราะนอกเหนือจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว เรายังมีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ยิบย่อยอีกมากที่ต้องพิถีพิถัน เรามีโลกอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วย NPC มากมายซึ่งจะคอยทำธุระของตนเอง พวกเขาแวะเวียนไปตามสถานที่ต่างๆ ในแต่ละช่วงของวัน ซึ่งพวกเขาก็ใช้ชีวิตในแบบที่แตกต่างกันไป เราก็ต้องพิถีพิถันมากในการแปลเกม มันจึงใช้เวลานาน เราอยากทำจนมั่นใจได้ว่ารายละเอียดยิบย่อยทุกส่วนของตัวเกมเวอร์ชั่นอเมริกาจะมีคุณภาพเท่ากับตัวเกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่น มันจึงต้องออกช้ากว่าทางญี่ปุ่นออกไป

- คุณ Erren ถามว่าเนื้อหาของเกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่นและอเมริกาจะต่างกันมั้ย? คุณคิตาเสะตอบว่าเหมือนกัน

- คุณ Erren ถามว่ามีทางลัดอะไรมั้ยที่จะทำให้คนที่ไม่เคยเล่น 2 ภาคแรกมาก่อน สามารถมาเล่นเกมแล้วเก็ตได้เลย อย่างใน XIII-2 ยังมี Primer เป็นตัวช่วยให้อ่านเนื้อเรื่องของภาคแรกได้เลย? คุณคิตาเสะตอบว่าในตอนจบของ XIII-2 ไลท์นิ่งกลายเป็นคริสตัล แล้วผ่านไป 500 ปี ถึงเริ่ม Lightning Returns เธอตื่นขึ้นมาในโลกที่เธอไม่รู้จักมักจี่มาก่อน กระทั่งไลท์นิ่งเองก็แทบไม่รู้จักโลกนี้ ดังนั้นผู้เล่นไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นมาก่อนใน 2 ภาคแรก เมื่อเล่นเกมนี้ไป ผู้เล่นก็จะได้เรียนรู้โลกใบนี้และผจญภัยไปพร้อมกับเธอ พวกเขาจะได้รู้ถึงความเป็นไปของโลก และแก้ปริศนาเล็กๆ น้อยๆ ไปพร้อมกัน หากคุณอยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน 2 ภาคแรก เราวางแผนที่จะปล่อยข้อมูลเนื้อเรื่องของ 2 ภาคแรกไว้บนเว็บไซต์หลักแล้ว

ที่มา : Nova Crystallis

Sunday, June 16, 2013

เก็บตกรวบรวมข่าวที่ยังไม่ได้อัพเดทจากงาน E3 วันสุดท้าย

 Final Fantasy XIV

- ในงาน E3 ที่ผ่านมา คุณนาโอกิ โยชิดะ ผู้อำนวยการและผู้กำกับ FFXIV -ARR- ได้เตรียมตัวเป็นคนพากย์การต่อสู้กับอีฟรีทให้กับผู้เล่นที่เข้าทดลองเล่น FFXIV ที่บูธของทางค่ายในรอบสุดท้ายของมัน แต่พอดีเขาเห็นว่าปาร์ตี้ที่จะไปสู้กับอิฟรีทนั้นยังมีที่ว่างอยู่ เลยเข้าไปเล่นด้วยในฐานะของคลาส Conjurer แล้วก็พาทีมชนะได้ในที่สุด

คลิปการต่อสู้ครั้งน้น ดูได้จากลิงค์ต่อไปนี้

- มีการเปิดเผยคลาสใหม่ในชื่อ Arcanist และจ็อบใหม่คือ Summoner กับ Scholar

คลิปโฆษณาคลาสและจ็อบใหม่ : คลิ๊ก

- เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2013 เว็บไซต์ของเกมได้ชี้แจงว่าเกิดความผิดพลาดในการแจกจ่ายรหัสสำหรับเวอร์ชั่น PS3 ทำให้ส่งโค้ดให้ล่าช้า แต่ตอนนี้ระบุปัญหาและแก้ไขได้แล้ว กำลังรีบจัดส่งให้ ขออภัยในความล่าช้า (อ้างอิง )

==============================================

Final Fantasy XV

อ้างอิง : EDGE
ข่าวเก่าที่อ้างถึง : http://re-ffplanet.blogspot.com/2013/06/square-enix-e3.html

- หลังจากที่เคยให้สัมภาษณ์ในอีเวนต์ SQEX Members Exclusive Interview ภายในงาน E3 วันที่ 12 มิ.ย. ไปแล้วครั้งหนึ่ง คุณโนมุระได้ให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสาร EDGE อีกครั้งถึงเรื่องความเป็นมาของชื่อ FFXV ว่า 7 ปีก่อนพวกเขาได้ประกาศภาค Agito Versus และ XIII พร้อมกัน แต่ 2 ปีหลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มคุยกันถึงความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนชื่อภาค Versus XIII มาเป็นภาค XV ด้วยเหตุผลทางด้านคอนเซปต์และสเกลของเกม ก็มีการถกกันเรื่องนี้เป็นการภายในอยู่นาน

กระทั่ง 2 ปีก่อน (2011) ถึงตกลงกันเป็นการภายในว่าจะเปลี่ยนชื่อภาคเป็น XV ตอนนั้นในช่วงเดียวกัน บริษัทก็เริ่มทำเกมให้เครื่องคอนโซลยุคต่อไป เราพร้อมที่จะทำเกมให้กับยุคถัดไปแล้ว นั่นก็เป็นวาระที่ดีที่จะก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงเป็น XV

นอกจากนี้การที่ Agito กลายเป็นภาค Type-0 ได้ ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งด้วย (ตอนนั้นคุณทาบาตะ ผู้กำกับเกมบอกว่าที่เปลี่ยนชื่อเกม เพราะคนในถามกันเยอะว่ามันเกี่ยวกับภาค XIII ยังไง จนคุณทาบาตะก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเกี่ยวข้องกัน)

ข่าวเก่าที่อ้างถึง :-
ชินจิฮาชิโมโตะในอีเวนต์ Future of FF
คุณโนมุระให้สัมภาษณ์กับทางแฟมิซือ

ค่อนข้างชัดเจนว่า FFXV ถูกออกแบบมาให้มีภาคต่อ เนื่องจากคุณชินจิก็บอกเองแต่แรกว่าเนื้อหาใหญ่มากอาจมีภาคต่อได้ ส่วนคุณโนมุระก็บอกว่ามันเป็นแค่บทสรุปของเนื้อเรื่องบทหนึ่งของ A world of VERSUS Epic เท่านั้น

อ้างอิง : IGN

ทาง IGN ได้สัมภาษณ์คุณโนมุระภายในงาน E3 จนได้ทราบว่า FFXV เกือบได้กลายเป็นละครเพลงมาแล้ว ทั้งนี้คุณโนมุระเผยว่าเขาได้รับอิทธิพลจากเรื่อง Les Miserables ซึ่งเป็นบทละครของ Victor Hugo มาก เช้าวันต่อมาเขาก็เข้าไปในออฟฟิซด้วยความตั้งใจจะเสนอให้ FFXV แปลงเป็นละครเพลง แต่อย่างที่ว่า พวกบริษัทเพลงในญี่ปุ่นก็ไม่ได้มีเงินทุนถุงถังมากมายที่จะทำแบบนั้นได้ ทางค่ายจึงกล่อมให้คุณโนมุระ กลับไปพัฒนา FFXV ในแนวทางเดิมอย่างที่มันควรจะเป็นซะ

คุณโนมุระยังบอกอีกว่า สำหรับเขาแล้วงานก็มีไว้ทำที่ทำงาน ดังนั้นเขาจะไม่เอาเกมกลับมาเล่นที่บ้าน เขามักใช้เวลาไปกับการดูหนังสัก 2-3 ในค่ำคืนส่วนใหญ่มากกว่า โดยบุคคลในวงการภาพยนต์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขามากที่สุดคือ Baz Lurhman ผู้กำกับชาวออสเตรเลียที่ทำ Romeo + Juliet และ Moulin Rouge และล่าสุดคือ The Great Gatsby


บทสัมภาษณ์คุณโนมุระจาก NBC News

อ้างอิง : NBC News

- สื่อถามว่า FF นั้นมีคำว่า Fantasy อยู่ในชื่อแท้ๆ แต่กลับใช้โลกที่มันทันสมัยเกินไป คิดว่าอย่างไรในประเด็นนี้? คุณโนมุระบอกว่าเขาไม่ชอบให้เกมของเขามีเป็นแนวเทคโนโลยีหรือเวทมนต์ที่สุดโต่งเกินไป ถ้าต้องเลือก เขาของเลือกโลกที่ทันสมัย แต่เท่านั้นมันยังไม่พอ ดูอย่าง FFXV สิ มันเริ่มต้นจากโลกที่ทันสมัยคล้ายกับชินจูกุ แต่เมื่อเนื้อเรื่องเริ่มต้นขึ้น คุณก็เหมือนได้เข้าสู่โลกยุคกลาง ทว่าอาวุธที่เราใช้กันในเกมก็เป็นอาวุธไฮเทค นี่คือการผสมผสานอย่างที่ผมชื่นชอบ

ใน FF ภาคก่อนๆ มันไม่มีภาคไหนที่แฟนตาซีมากหรือน้อยสุดขั้วไป มันก็ผสมๆ กันไปนั่นแหละ ส่วนตัวแล้วเวลาที่ผมเล่นเกม ผมไม่สามารถมีอารมณ์ร่วมไปกับเกมได้ หากเกมเริ่มต้นด้วยโลกแฟนตาซีที่เพ้อฝัน ดังนั้นผมจึงอยากเริ่มต้นในโลกปัจจุบันแล้วลากเข้าสู่ความเป็นแฟนตาซี

- สื่อถามว่าการออกแบบตัวละครมีผลต่อเกมเพลย์หรือผลทางด้านอื่นๆ มั้ย? คุณโนมุระตอบว่าตอนที่เขาออกแบบโครงร่าง เขาให้คำแนะนำว่าตัวละครนี้ ควรจะพกอะไรยาวๆ ไปด้วยไว้ด้านหลัง แต่ก่อนเขามักจะออกแบบอาวุธไปพร้อมกันด้วย แต่ตอนนี้ เขาแค่ออกแบบตัวละครอย่างเดียวพอ เขาได้ออกแบบอาวุธคู่กายตัวละครไปด้วยจนกระทั่งถึง FFX หากยังจำกันได้ ทั้งบัสเตอร์ซอร์ด กันเบลด นั่นคือสิ่งที่เขาแนะนำให้กับทีมพัฒนา แล้วพวกเขาก็ได้ใส่มันลงไปในเกมเพลย์จริงๆ

นอกจากนี้คุณโนมุระได้เผยว่าเขาได้ดีไซน์มอนสเตอร์ มาจนถึง FFVIII แต่ถ้าดูเทรลเลอร์ของ FFXV ให้ดี เบฮีมอธและเท็ตสึเคียวจิน (ยักษ์เหล็ก) พวกนั้นเป็นตัวที่เขาออกแบบให้กับ FFVII และ FFVIII แต่เอามาแก้ไขใหม่เพื่อ FFXV

สื่อถามว่าการออกแบบตัวละครเหล่านั้นเอาแรงบันดาลใจมาจากไหน? แฟชั่นยุคปัจจุบัน? หนังสือประวัติศาสตร์ หรือปิ๊งวับขึ้นมาในหัวเองได้? คุณโนมุระบอกว่าตอนที่เขาได้รับโจทย์มา เขาก็จะเริ่มจิ้น แล้วเงาตัวละครนั้นๆ ก็จะผุดขึ้นมาในของเขา จากนั้นเขาก็เริ่มคิดถึงรายละเอียด สมัยก่อนเขาต้องพลิกนิตยสารแฟชั่นดูอยู่เรื่อยๆ แต่ตอนนี้เขาเปิดอินเตอร์เน็ตดูเว็บเสื้อผ้าแบรนด์โปรดเอา

- สื่อบอกว่าทรงผมมักเป็นจุดเด่นในการออกแบบตัวละครของคุณโนมุระเสมอ ยิ่งเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกให้ทำทรงผมได้ตามใจชอบมากขึ้น ทรงผมก็ยิ่งสำคัญขึ้นรึเปล่า? คุณโนมุระตอบว่า ในโลกความเป็นจริง เราไม่ค่อยเห็นทรงผมที่มันประหลาดสุดโต่งเท่าไหร่นัก นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมตัวละครในเกมถึงควรมีทรงผมที่มีเอกลักษณ์ มันเป็นหนทางหนึ่งในการแสดงบุคลิกส่วนตัวของตัวละครออกมา เราจำต้องดัดแปลงทรงผมที่สมจริงให้มันมีความเหมาะสมที่จะมาใช้ในเกมมากขึ้น

บางครั้งเขาก็อยากให้ทำอะไรง่ายๆ แบบที่เกม FPS ของตะวันตกเขาทำกันคือ นึกอะไรไม่ออกก็ให้มันทรงผมโล้นเลี่ยนเตียนโล่งไปเลย ผู้คนรู้จักเราในฐานะบริษัทที่ออกแบบตัวละครได้มีทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์ แต่เราเริ่มชักจะหมดมุกแล้ว


สื่อถามว่ามีศิลปินคนไหน หรือเกมใดมั้ยที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณ? คุณโนมุระตอบว่าสาเหตุที่เขาเข้าทำงานที่ Square ก็เพราะเขารักในงานศิลปะของคุณอามาโนะ ตอนที่เขาอยู่มัธยม ครูสอนศิลปะสอนเขาเกี่ยวกับงานของคุณอามาโนะ ที่เขาเข้าทำงานที่นี่ก็เพราะคุณอามาโนะเท่านั้นเลยจริงๆ เขาไม่ได้สนใจโลกของเกมมาก่อนเลย เขาเป็นคนที่จ้างผมเข้าทำงาน และคือคนที่ผมเคารพมากที่สุด

==============================================


Kingdom Hearts -HD 1.5 ReMix-

รายชื่อ Trophy เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษทั้ง 66 รายการ ที่คุณ Sign และ Master Spockanort หามาได้จากงาน E3 (มีเฉพาะ Trophy ที่เปิดเผย ไม่รวมพวก Hidden Trophy)

อ้างอิง : KHinsider

Kingdom Hearts Final Mix
- Where the Bells Toll
- The Rabbit Hole
- Junior Hero
- Member of the Tribe
- Magic Lamp
- Honest Soul
- Master of the Seas
- Pumpkin Prince
- Pixie Dust
- Pooh’s Friend
- Record Keeper
- Story Teller
- Searcher
- Professor
- Top Dog
- Best Friend
- Mini-game Maniac
- Synthesis Master
- First Synthesis
- Synthesis Novice
- Synthesis Amateur
- Synthesis Vet
- Gummi Ship Collector
- Customizer
- Top Gun
- Test Pilot
- Veteran Pilot
- Ace Pilot

Re:Chain of Memories
- Sleight Master
- Card of Memories
- Woven Memories
- The Truth
- Hard Hitter
- Confronting the Darkness
- Challenge from the Inner Darkness
- Overcoming the Darkness
- Undefeated
- Natural Player Sora
- Natural Player Riku
- Novice Player Sora
- Novice Player Riku
- Veggie Master
- Ace Pilot
- High Jumper
- Sky Diver
- Bee Buster
- Moogle Millionaire
- Regular Customer
- Room Creator
- Card Master Sora
- Story Teller Sora
- Character Professor Sora
- Mini-game Master Sora
- Card Master Riku
- Story Teller Riku
- Character Professor Riku
- Mini-game Master Riku
- Novice Deck Builder
- Premium Card Maker
- No Escape
- Card Braker
- Interceptor
- Duel Master

358/2 Days
- Days of Contemplation
- Days of Reflection
- Where the Heart Lies

บทสัมภาษณ์คุณโนมุระจากทางเว็บเดนเกคิออนไลน์

อ้างอิง :-

http://news.dengeki.com/elem/000/000/655/655637/

http://news.dengeki.com/elem/000/000/651/651871/index-2.html

http://www.khinsider.com/news/Dengeki-Interviews-Tetsuya-Nomura-3334

- สื่อถามว่าตอนที่ดูการปราศรัย PS4 และ Xbox One มีเกมไหนมั้ยที่เตะตา? คุณโนมุระตอบว่าคงเป็น Titanfall, Watch Dogs และ Battle Field 4 ซึ่งน่าตื่นตาตื่นใจ ท่ามกลางหมู่เกม FPS ที่มีโลกทัศน์ปัจจุบันที่คล้ายคลึงกันและเป็น Sci-fi เหมือนกัน เกมเหล่านี้ต่างมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองได้ อย่าง Watch Dogs ก็เป็นด้านเกมเพลย์ ของ Titalfall ก้เป็นการต่อสู้ของเหล่าหุ่นยนต์ ส่วน BF4 ก็คือกราฟฟิกที่สุดยอด และที่น่าแปลกใจคือการต่อสู้แบบผู้เล่น 64 คน เกมที่โดดเด่นแบบนั้นย่อมเป็นที่สนใจของเขาอยู่แล้ว นอกจากนี้ก็มี Metal Gear Solid V: The Phantom Pain ที่กราฟฟิกงดงาม และลีลาการพรรณาก็น่าตื่นตาตื่นใจ การได้เป็นเพื่อนพ้องนักพัฒนาเกมชาวญี่ปุ่นเหมือนกัน (กับโคจิมะ) ทำให้เขาภูมิใจมาก

- สื่อถามว่าในหมู่เกมเจนฯ ถัดไป เกมที่ทางฝั่งญี่ปุ่นส่งประกวดมีแค่เกมของคุณโนมุระกับคุณโคจิมะใช่มั้ย? คุณโนมุระบอกว่าถูกต้องแล้ว เพราะ Dead Rising 3 ก็ทำขึ้นโดย Capcom ฝั่งแคนนาดาใช่มั้ยล่ะ? อันที่จริงเราก็ไม่ได้วางแผนกันมาก่อนนะ แต่กลายเป็นว่าโคจิมะไปขึ้นเวทีฝั่ง Microsoft แล้วผมไปขึ้นเวทีฝั่ง Sony

- สื่อถามว่าในที่สุดก็ได้เปิดตัว KHIII ที่รอคอยมายาวนานเสียที? คุณโนมุระบอกว่าคลิปมันก็แค่ทีเซอร์ทั้งนั้น เราไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรออกไปมากนัก ชุด (ใหม่) ของโซระและระบบการต่อสู้ก็ยังต้องรอการเปิดเผยของโซระ

- สื่อถามว่าภาพลักษณ์ของตัวละครดูต่างไปจากปกติรึเปล่า? คุณโนมุระบอกว่านั่นเพราะสิ่งที่เราเรียกว่า Kingdom Shader ซึ่งเพิ่มแสงสีให้กับภาพพื้นฐานของ KH ซึ่งจะช่วยจำลองภาพจากปลายพู่กันของทาง Disney ออกให้ออกมางดงามยิ่งขึ้น

- สื่อถามว่าพล็อตเรื่องจะต่อจาก KH3D ใช่มั้ย? คุณโนมุระบอกว่าใช่แล้ว จะเป็นตอนสุดท้ายของตำนานผู้แสวงหาความมืดแล้ว ผมเองกำลังคิดหาทางทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่ที่พึ่งเข้ามาทำความรู้จักซีรีส์นี้ สามารถสนุกไปกับเกมได้อย่างง่ายๆ

บทสัมภาษณ์คุณโนมุระกับทาง IGN

อ้างอิง : IGN

หลังจากที่ Disney ได้ซื้อกิจการของ Pixar, Marvel Entertainment เรื่อยมาจนถึง Lucasfilm แล้ว ทำให้ทาง Disney มีสิทธิที่จะเอาทรัพย์สินทางปัญญาของนิติบุคคลเหล่านั้นมาใช้ ทาง IGN จึงสงสัยใคร่รู้ว่าแบบนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้คุณโนมุระเอาตัวละครและโลกเหล่านั้นมาใส่ในจักรวาลของเกม Kingdom Hearts หรือไม่? ซึ่งคุณโนมุระก็ให้การตอบรับว่า "ทุกครั้งที่ผมได้ยินข่าวแบบนี้ ผมมักจะพูดว่า... เหวออ... พวกเขาเอาอีกแล้ว"

"สิ่งแรกที่ผมจะทำเมื่อผมเจอข่าวนี้ก็คือติดต่อ Disney แล้วถามว่ามีอะไรที่ผมจะเอามาใช้ได้บ้าง?"

จากนั้นทาง IGN ก็ถามต่อว่า แล้วมีครั้งไหนบ้างที่ Disney ตอบตกลง? คุณโนมุระตอบว่า "บริษัทของทาง Disney เค้าก็แตกต่างกันไป บางครั้งคำตอบที่ได้รับก็คือ 'ไม่มีเลย' บางครั้งคำตอบก็๋เป็น 'อืม....ไม่รู้เหมือนกัน'"

ทาง IGN บอกว่าคุณโนมุระค่อนข้างเขินอายที่จะพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาของทาง Disney เหมือนว่าเขาจะพยายามให้เกียรติทาง Disney ด้วยการพูดว่า "ทาง Disney เขาก็ตรงๆ นะครับ ถ้าสถานการณ์มันดูยากลำบาก พวกเขาก็จะบอกตรงๆ ว่ามันยาก ถ้ามันเป็นไปไม่ได้ พวกเขาก็จะบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้"

สุดท้ายคุณโนมุระได้ทวีตข้อความผ่าน Twitter ของ Kingdom Hearts ไว้ว่า "การพรีเซนต์ KHIII และ FFXV จบลงแล้ว ผมก็จะได้กลับบ้านเสียที วันนี้เป็นวันที่ควรฉลอง ผมต้องขอขอบคุณทุกคนที่รอคอยกันมาด้วยความเชื่อมั่น ขอบคุณทุกคน! ผมก็จะทำงานให้มีคุณภาพมากขึ้นดั่งคนสองคน ผมจะกลับไปถึงญี่ปุ่นในอีก 1 ชั่วโมงหลังจากนี้" /โนมุระ"

Thursday, June 13, 2013

สรุปบทสัมภาษณ์จากอีเวนต์ SQEX MEMBERS EXCLUSIVE INTERVIEW: Lightning Returns -FFXIII & FF X/X-2 HD

 สรุปบทสัมภาษณ์จากอีเวนต์ SQUARE ENIX MEMBERS EXCLUSIVE INTERVIEW: Lightning Returns -FFXIII & FF X/X-2 HD กับคุณโยชิโนริ คิตาเสะ และคุณโมโตมุ โทริยามะ ในบูธของ Square Enix ภายในงาน E3 ช่วง ตี 5 ถึง 6 โมงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองได้มาตอบคำถามที่แฟนๆ ส่งกันเข้ามาดังนี้



Final Fantasy X l X-2 HD Remaster

- สาเหตุที่เลือกรีมาสเตอร์ภาค X และ X-2 แทนที่จะเป็นภาคอื่นนั้น เพราะภาค 1-9 สามารถเล่นผ่าน PSN Archive หรือโทรศัพท์มือถือได้อยู่แล้ว ทว่ามีเพียงภาค X และ X-2 ที่ต้องเล่นด้วย PS2 เท่านั้น นอกจากคุณจะมี PS3 รุ่นแรกที่เล่นเกม PS2 ได้ เพราะเหตุนี้เราถึงมองว่ามันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะนำมาทำ HD Remaster

- ตอนที่คุณโทริยามะทำ FFX เวอร์ชั่นแรก ลูกคนแรกของเขาก็เกิดมาพอดี ถึงตอนนี้ก็ผ่านมาร่วม 10 ปีแล้ว เรื่องราวของ FFX ก็เป็นเรื่องของครอบครัว พ่อกับลูก ถึงตอนนี้เขาได้มีมุมมองในเรื่องนี้ที่เปลี่ยนไปจากมุมมองเมื่อตอนสร้างเกมนี้ครั้งแรก แต่ก่อนนั้นเขามองเกมนี้ผ่านมุมมองของทีดัส แต่ตอนนี้เขามองผ่านมุมมองของเจคท์

- สมัยก่อน ตัวเกมภาค International ได้วางขายแค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น คราวนี้ผู้เล่นชาวตะวันตกจะได้ลองเล่นระบบ Creature Create ใน FFX-2 Inter สักที

- สิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากการทำ Remaster คือ... จากนี้ไปต้อง Backup ข้อมูลไว้ให้ดีแล้ว เผื่อจะได้เอามารีมาสเตอร์ในอนาคตได้ (เพราะตอนนี้ข้อมูลเกมเก่าๆ หายไปมาก)

- คอนเซปต์ของ FFX คือการเดินทาง อันที่จริงระบบเวลา 24 ชม. ของ LR -FFXIII- ก็น่าสนใจ หากจะเอาไปใส่ไว้ใน FFX ก็จะทำให้การเดินทางของทีดัสและยูน่าสมจริงมากขึ้น พูดถึง LR -FFXIII- แล้ว ระบบ Open World ที่ให้ผู้เล่นเลือกสำรวจดินแดนไหนก่อนก็ได้ตามใจชอบ ก็น่าสนใจเช่นกัน

- พอถามว่าเคยคิดจะทำ FFX เป็นหนังบ้างมั้ย คุณโทริยามะบอกว่าสมัยทำเวอร์ชั่นแรก บทพูดที่คุณโนจิมะเขียนขึ้นมานั้นมันยอดเยี่ยมมาก จนคุณโทริยามะชมต่อหน้าเลยว่ามันไม่มีทางทำให้ดีกว่านี้ได้อีกแล้ว บทเหล่านั้นมีคุณภาพใกล้เคียงกับหนัง สมัยก่อนเราอาจติดข้อจำกัดด้านกราฟฟิกที่ทำให้มันไม่เหมือนหนัง แต่ทุกวันนี้กราฟฟิกและการเล่นมุมกล้องพัฒนาขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างได้ช่วยกันเสริมบทนั้นให้แสดงออกมาได้อย่างเต็มที่ไม่แพ้หนังแล้ว

- ตอนที่พวกเขาสร้างบทนำ FFX-2 ที่เรียกว่า เอเอนโนะนากิ (Eternal Calm) พวกทีมงานเคยคุยกันเรื่องการทำ X-0 อันเป็นเรื่องราวของเจคท์ บราสก้า อารอนด้วย.. แต่พอคิดๆ ดูว่ากลุ่มปาร์ตี้ 3 หนุ่มมันคงดูกร่อยพิกล เราเลยทำ X-2 ที่เป็น 3 สาวแทน

- พอถามว่าเคยคิดจะทำมินิเกมบลิทซ์บอล เป็นเกมบทมือถือมั้ย? ได้คำตอบว่าเป็นความคิดดี จะเอาไปพิจารณากัน ยิ่งได้ใช้อินเตอร์เฟซแบบทัชสกรีน จะทำให้มินิเกมนี้น่าสนใจ

- พอถามว่าทำไปถึงไหนแล้ว ได้คำตอบว่ากำลังทำรายละเอียดยิบย่อย เช่น Facial Motion อยู่ ก็จะขัดเกลาไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ความทรงจำดีๆ ที่ผู้เล่นมีต่อเกมเวอร์ชั่นแรกต้องพังทลาย

- พอถามว่าได้ไปลากให้ทีมพากย์ชุดเดิมมาพากย์เสียงอีกมั้ย? ได้คำตอบว่ามีเนื้อหาบางส่วนในเกม ที่พวกเขาได้เชิญนักพากย์คนเดิมมาพากย์ให้ใหม่ ตอนนี้ขอเก็บเป็นความลับก่อนละกันว่าเป็นส่วนไหนของเกม

- ตัวเกมเวอร์ชั่นต่างประเทศ (นอกญี่ปุ่น) จะปรับเสียงพากย์เป็นเสียงญี่ปุ่นได้มั้ย? ได้คำตอบว่า ทีมงานได้รับคำร้องแบบนี้มาเยอะ แต่ขออภัยที่ไม่สามารถจัดให้ได้ สำหรับเกมนี้เราทำให้กับทั้ง PS3 และ PS Vita และเราอยากให้ตัวเกมทั้ง 2 เวอร์ชั่นนี้มีคุณภาพเท่ากัน เราได้คำนึงถึงความจุของแต่ละระบบ (ในที่นี้คือสื่อถึงความจุเกมของ PS Vita) หากเงื่อนไขใดไม่สามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้กับทั้ง 2 ระบบแล้ว (จะบอกว่าทำแบบนั้นให้กับ PS3 ได้ แต่ทำให้กับ PS Vita ไม่ได้) เราก็ไม่สามารถจัดให้ได้

- พอถามว่าตัวเกมนี้จะมีอะไรแตกต่างจากตัวเกมเวอร์ชั่นเดียวมั้ย? เช่นเรื่องของบอสหรืออาวุธสุดยอด? ได้คำตอบว่าเกือบทั้งหมดจะเหมือนตัวเกมออริจินอล ทั้งระดับความยากก็เหมือนกัน ศัตรูตัวไหนย๊ากยาก ก็ยังยากเหมือนเดิม เพราะเมื่อผู้เล่นสมัยก่อนปราบมาได้แล้ว ผู้เล่นหน้าใหม่ก็ต้องปราบได้เช่นกัน

- เราอยากใช้เวทีงานนี้ นำเกมออกมาแสดงแล้วให้แฟนๆ ได้ลองสัมผัสมันดู ส่วนเรื่องวันวางจำหน่าย ไว้จะประกาศเร็วๆ นี้

***ไว้มา Update ส่วนของ LRFFXIII


Update : 16 มิ.ย. 2013

Lightning Returns -Final Fantasy XIII-

อ้างอิง : Nova Crystallis

- ถามว่าการเดินทางของไลท์นิ่งจะเป็นยังไงบ้าง? คุณโทริยามะตอบว่าเราได้พรรณาไลท์นิ่งในมาดของสาวแกร่งมาตั้งแต่ภาคแรก เนื่องจากเธอเป็นทหาร เราจึงกำหนดให้เธอเป็นคนที่จริงจัง เคร่งครัดต่อตนเองและน้องสาว เป็นผู้หญิงที่แน่วแน่มั่นคง ในภาคสองเธอถูกส่งไปนอกภพภูมิของมนุษย์ และได้รับพลังระดับเทพมา ทำให้เธอดูยากที่จะเข้าถึง ขณะที่ในภาคสามซึ่งเป็นภาคสุดท้าย เราอยากพรรณาเธอจากมุมมองของมนุษย์ให้มากขึ้น เธอกลายเป็นคนที่เข้มแข็งแบบนั้นได้อย่างไร เธอฝ่าฟันมันไปอย่างไร เราพยายามพรรณาเธอจากหลายมุมมอง เราจะได้เห็นทั้งแง่มุมที่เย็นชา แง่มุมที่งดงาม หรือบางทีก็แง่มุมที่เจ็บปวด ความเศร้าโศกทุกข์ทน ซึ่งทั้งหมดก็คือความเป็นมนุษย์ของเธอ

- สิ่งที่ภูมิใจที่สุดในภาคนี้? คุณโทริยามะบอกว่าเป็นการสร้างเกมไตรภาคได้สำเร็จ และการได้มีส่วนในการสร้างตัวละครยอดนิยมอย่างไลท์นิ่ง ที่ทำมา 3 ภาคนี่เราเจออุปสรรคกันมามากมาย และเปลี่ยนระบบของเกมกันมาทุกภาค จึงรู้สึกขอบคุณทีมงานเป็นอย่างยิ่งที่ร่วมลำบากกันมา และขอบคุณแฟนๆ ที่อดทนรอคอย

ส่วนคุณคิตาเสะตอบว่าสิ่งที่ภูมิใจที่สุดคือการที่ทีมสามารถทำเกมได้สำเร็จในเวลาอันสั้น พวกเขาสามารถวางจำหน่ายเกมสามเกมด้วยเวลาห่างกันเพียง 4 ปี (2009-2013) โดยทีมงานสามารถรับเอาฟีดแบ็คมาปรับปรุงตัวเกมในภาคถัดๆ ไป จึงภูมิใจที่ทีมงานเติบโตขึ้นด้วย

- คุณคิตาเสะบอกว่าเนื้อหาของ Fabula Nova Crystallis มันกว้างใหญ่มาก จึงไม่สามารถพรรณาได้จบในภาคเดียว แต่เราก็อยากจะพรรณาให้เห็นภาพรวม จึงจำเป็นต้องขยายออกเป็น 3 ภาค สำหรับไลท์นิ่งนั้น เธออยู่กับเรามาตั้งแต่ 2006 แต่ถ้านับช่วงวางแผนและก่อนเริ่มพัฒนาด้วย เธอก็จะอยู่กับเรานานกว่านั้น เราก็อยากจะไปต่อกับเธอ ทำให้เธอได้กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง

- คุณโทริยามะบอกว่าเกมเพลย์มีเวลาให้ 13 วันก่อนจะถึงจุดจบของโลก แต่ช่วงต้นไลท์นิ่งจะมีเวลา 7 วันสำหรับการสำรวจและทำเควสต์ของเธอ  การทำเควสต์ต่างๆ กันไปจะทำให้เธอช่วยยืดอายุของโลกออกไปได้ ดังนั้นระบบจึงเริ่มต้นจาก 7 วัน แล้วจะยืดออกไปแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการทำเควสต์

- ในภาคนี้เราพยายามรักษาองค์ประกอบในการวางกลยุทธ และพัฒนาสปีดกับจังหวะการต่อสู้ให้สมจริง เราจึงได้มาเป็นระบบ Style หรือในเวอร์ชั่นอังกฤษที่เรียกว่าระบบ Schemata ซึ่งสามารถปรับแต่งชุด ของสวมใส่ อาวุธ โล่ และติดอบิลิตี้ต่างๆ กันไปได้ แล้วก็สลับไปมาระหว่าง 3 Style แต่ละ Style ก็มีเกจของตนเอง เราก็ต้องเลือกใช้ Style ที่เหมาะสมกับสถานการณ์

- คุณโทริยามะบอกว่าในด้านของเครื่องแต่งกาน ก็มี 80 แบบสำหรับไลท์นิ่ง ซึ่งเครื่องแต่งกายของเธอก็จะสัมพันธ์กับพลังและอบิลิตี้ของเธอ ดุจดั่งระบบ Job เรายังสามารถปรับแต่งชิ้นส่วนแต่ละชิ้นในเครื่องแต่งกายของเธอ และเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบ

- พอถามว่าจะเอาชุดของภาคก่อนมาใส่ได้มั้ย? คุณโทริยามะบอกว่า ถ้ามีเซฟจาก 2 ภาคที่ผ่านมา ก็จะสามารถเอาชุดของแต่ละภาคนั้นมาใช้ได้

- พอถามว่าตัวละครอื่นๆ จะกลับมาในภาคนี้ด้วยมั้ย? คุณโทริยามะตอบว่า ในภาคนี้ไม่เพียงจะเป็นบทสรุปเรื่องราวของไลท์นิ่ง แต่ยังเป็นการปิดม่านให้กับตัวละครหลายๆ ตัวที่ปรากฏขึ้นมาในภาคก่อนๆ เช่น สโนวที่ทนทุกข์กับการที่ไม่สามารถช่วยเซร่าห์ไว้ได้ ทำให้เกิดการดิ้นรนต่อสู้กับความมืดในจิตใจ ไลท์นิ่งจึงพยายามไปหาเขา แล้วช่วยเขาไว้ ทว่ามันอาจมีความขัดแย้งเกิดขึ้นเล็กน้อย

- คุณโทริยามะบอกว่าภาคนี้จะมีระบบที่เรียกว่า "การสื่อสารกับโลกภายนอก" ผู้เล่นจะสามารถโพสต์สกรีนช็อตพร้อมข้อความลงในบอร์ดหรือโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ หวังว่าแฟนๆ จะใช้กันนำพาข้อมูลนั้นไปสู่โลกภายนอกเกม

- พอถามว่าจะมีสัตว์อสูรกลับมามั้ย? คุณโทริยามะบอกว่า สัตว์อสูรนั้นถูกสร้างขึ้นโดยเทพธิดาเอโทร ในตอนจบของ FFXIII-2 เมื่อเอโทรสูญเสียพลังไป สัตว์อสูรก็จะเสียไปเช่นกัน พวกเขาไม่สามารถปรากฏตัวอย่างที่ควรจะเป็น ในร่างเดิมของพวกเขาได้อีก

- ถามว่าหลังวางจำหน่ายจะมี DLC เกี่ยวกับการต่อสู้ออกมามั้ย อย่างพวกตัวละครที่คุ้นหน้าคุ้นตาในโคลอสเซียม? คุณคิตาเสะบอกว่า ในแง่ของ DLC ที่เป็นการขยายเนื้อเรื่องของ LRFFXIII พวกเขายังไม่ได้มีการวางแผน DLC เป็นตอนๆ แบบนั้น และยังไม่ได้คิดเรื่อง DLC บอสพิเศษด้วย ตอนนี้พวกเขาวางแผนให้ตัวเกมสมบูรณ์ 100% ในตัวมันเอง เรามีเครื่องแต่งกายกว่า 80 ชิ้นให้ไลท์นิ่งสวมใส่  เราจึงพิจารณาเรื่องความเป็นไปได้ในการทำ DLC คอสตูมมากกว่า ผมรู้ว่าพวกชุดของภาคเก่าๆ อย่างเช่นชุดไวท์เมจ ชุดแบล็คเมจ เป็นชุดที่มีชื่อเสียงมาก ดังนั้นถ้ามีเสียงเรียกร้องเข้ามามาก เราก็อาจจะเอามาพิจารณา แต่ว่าก็คงไม่มี DLC ที่เกี่ยวกับการต่อสู้ ตามมาหลังเกมวางจำหน่าย

หลังจบการสัมภาษณ์ คุณคิตาเสะก็เอาแบบเครื่องแต่งกายของไลท์นิ่งทั้งที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และอยู่ระหว่างการวางแผนมาให้ดู คนสัมภาษณ์ก็เตะตาอยู่ชุดหนึ่ง และบอกว่าขอเอามาโชว์ได้มั้ย? ทั้งสองก็อนุญาต ปรากฏว่าเป็นไลท์นิ่งในชุดยูน่าจาก FFX ตามภาพด้านล่างนี้ ทั้งสองบอกว่ากำลังพัฒนาชุดนี้มา เพื่อให้เกิดความรู้สึกรำลึกถึงนั่นเอง