สรุปเนื้อเรื่อง Kingdom Hearts -Coded-

(เขียนขึ้นเมื่อ 30/01/2010)



เริ่มราวทั้งหมดได้เริ่มต้นขึ้นหลัง Kingdom Hearts II โดยมีตัวเอกหลักคือพระราชามิคกี้ จิมินี่ โดนัลด์ และกู๊ฟฟี่ ที่พักอาศัยกันอยู่ในปราสาทดิสนีย์ ในวันหนึ่งจิมินี่ได้หยิบบันทึกการเดินทางของโซระและพวกขึ้นมาตรวจสอบดู แล้วเขาก็นึกสงสัยเกี่ยวกับประโยคที่เขียนว่า "ขอบใจนะ นามิเนะ" ซึ่งเขานึกไม่ออกว่าเขาได้เขียนประโยคนี้ขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ นอกจากนี้เขายังพบประโยคน่าสงสัยอีกประโยคที่ว่า "พวกเราต้องกลับไปปลดปล่อยพวกเขาจากความทนทุกข์"


เพื่อจะไขปริศนานี้ ราชามิคกี้จึงได้แปลงข้อมูลบันทึกการเดินทางให้กลายเป็นโลกดิจิตอลเสมือนจริง แล้วเขาก็พบว่าในโลกนั้นได้เกิดความผิดพลาดของข้อมูลซึ่งก็คือ "บั๊ค" เพื่อจะแก้ไขปัญหานี้มิคกี้จึงได้ปลุกโซระในร่างของข้อมูลขึ้นมา หวังจะให้โซระคนนี้ช่วยกำจัดบั๊คทั้งหมดในโลกเสมืองจริงให้สิ้นไป


โซระในร่างข้อมูลได้ตื่นขึ้นที่.... ไอ้มิติพิศวงบนพื้นกลมๆ ที่มันต้องโผล่มาตอนเริ่มเกมทุกภาคน่ะ.. แล้วโซระก็ได้ยินเสียงใครบางคนที่เราเคยเข้าใจว่ามันคือเสียงของพระเจ้าโนมุระ แต่จริงๆ แล้วมันคือเสียงของมิคกี้จากโลกแห่งความจริงต่างหาก หลังจากมิคกี้ได้สั่งให้โซระเลือกอาวุธและอธิบายสถานการณ์คร่าวๆ แล้ว ชายลึกลับในชุดคลุมดำก็ปรากฏตัวขึ้นมา แล้วเขาก็ไม่ทำอะไรนอกจากหายไป... มิคกี้เห็นแบบนั้นเลยสั่งให้โซระตามเจ้าชายน่าสงสัยคนนั้นไปซะ แต่พอตามไปแล้วโซระก็ไม่พบอะไรนอกจากพวกฮาร์ทเลส พอโซระใช้คีย์เบลดกำจัดมันได้เขาก็ถูกส่งมายังสู่เกาะแห่งชะตากรรม


พอออกมาแล้วโซระก็เจอชายในชุดคลุมดำที่เรียกรูกุญแจขึ้นมา แล้วยังเจอฮาร์ทเลสยักษ์ไล่ตบพวกบั๊คกระจุย จนสุดท้ายโซระก็โดนความมืดดูดกลืนแล้วก็ถูกส่งไปยังเมืองเทรเวิร์สเหมือนกับเหตุการณ์ในช่วงต้นเกมภาคแรกไม่มีผิดเพี้ยน

หลังจากนั้นโซระก็ท่องไปยังดวงดาวต่างๆ กำจัดฮาร์ทเลส ค้นหารูกุญแจ และทำให้ดาวต่างๆ กลับมาเป็นปกติ บางครั้งชายในชุดคลุมก็โผล่มาช่วยโซระด้วย  (ช่วงผลาญเวลาประจำซีรียส์ ดิสนีย์ไทม์~)



ขณะเดียวกันในโลกแห่งความจริง ฮาร์ทเลสมากมายก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในปราสาทดิสนีย์ ร้อนถึงราชามิคกี้ที่ต้องออกมาเก็บกวาดพวกมัน หลังจากกวาดฮาร์ทเลสจนเหนื่อย ประตูของห้องในปราสาทก็เปิดออกมา ซึ่งคนที่เดินเข้ามาก็คือโซระในร่างข้อมูลนั่นเอง เหตุการณ์นี้ได้สร้างความตะลึงให้กับมิคกี้และผองเพื่อนเป็นอย่างมาก จากนั้นชายในชุดคลุมก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้วบอกว่าพวกมิคกี้ไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความจริงแล้ว แต่ตอนนี้พวกมิคกี้ก็โดนดูดเข้ามาในโลกดิจิตอล รวมทั้งพวกฮาร์ทเลสทั้งหลายด้วย


เจ้าคนในชุดคลุมก็เผยความจริงว่าเขาคือตัวบันทึกการเดินทางที่จับตัวเป็นรูปร่างของริคุขึ้นมา เพื่อช่วยกระตุ้นโซระในร่างข้อมูลให้ออกค้นหาความจริงให้ได้นั่นเอง ขณะเดียวชิบกับเดลที่ยังคงอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงก็ตรวจพบผู้ที่บุกรุกที่พยายามแทรกแซงเข้ามาในระบบ พีทกับมาเลฟิเซนท์จากโลกแห่งความจริงได้บุกเข้ามายังโลกเสมือนจริงด้วยนั่นเอง

นางมารได้ทำลายข้อมูลคีย์เบลดของโซระทิ้ง แล้วยังเรียกฮาร์ทเลสมากมายออกมาสู้กับโซระ ซึ่งในยามที่โซระใช้การไม่ได้แบบนี้ มิคกี้กับเจ้าบันทึกการเดินทางในร่างริคุก็ต้องช่วยกันสู้


ต่อมาเจ้าหนังสือบันทึกได้โดนนางมารและพีทลักพาตัวไป มิคกี้ก็ไล่ตามนางมาร ส่วนโซระร่างข้อมูล โดนัลด์ และกู๊ฟฟี่ ก็เดินทางต่อไปยังฮอลลันบาสชั่น ที่นั่นเองพวกเขาได้เจอกับพีท ในทีแรกโซระและพวกก็สู้พีทไม่ได้ แต่เมื่อคีย์เบลดเล่มใหม่ปรากฏตัวขึ้นในมือของโซระ พวกโซระก็สามารถเอาชนะพีทได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าพีทจะเรียกหนังสือเดินทางออกมาและใช้บั๊คเปลี่ยนสภาพหนังสือเดินทางให้กลายเป็นริคุร่างมืด แต่โซระก็ยังเอาชนะเจ้าหนังสือได้ ทำให้พีทต้องหนีไป



หลังจากที่โซระจำใจต้องสู้กับบันทึกการเดินทางในร่างของริคุ เจ้าหนังสือบันทึกก็หมดสติไป มิคกี้ที่ตามมาถึงทีหลังก็บอกว่าทางเดียวที่จะทำให้หนังสือเดินทางในร่างริคุฟื้นกลับมาได้ก็คือ โซระต้องกำจัดบั๊คในโลกเสมือนจริงที่เกิดจากความทรงจำในส่วนของริคุให้หมด ซึ่งโซระก็ตกลงใช้คีย์เบลดเปิดเข้าไปในโลกนั้น แล้วได้พบกับเศษเสี้ยวสุดท้ายของสำนึกของบันทึกการเดินทางที่ก่อตัวเป็นร่างริคุอีกคนหนึ่ง ซึ่งคราวนี้เขาไม่ได้มีความสามารถแบบในทีแรกเนื่องจากอีกร่างนึงยังหมดสติอยู่ ริคุหรือเจ้าบันทึกการเดินทางบอกว่าเขาเองที่เป็นชายในชุดคลุมดำที่เรียกรูกุญแจออกมาให้โซระดูบนเกาะแห่งชะตากรรม แล้วยังบอกอีกว่าในตอนนั้นฮาร์ทเลสได้รุกรานเข้ามาจนทำให้กำแพงของโลกแทบจะพังทลาย กำแพงระหว่างโลกเสมือนจริงและโลกแห่งข้อมูลก็เช่นเดียวกัน เขาจึงจำเป็นต้องลากมิคกี้และพวกจากโลกภายนอกเข้ามาเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้

ต่อมาโซระและเจ้าบันทึกเดินทางก็ได้เดินทางไปยังดวงดาวต่างๆ ผ่านข้อมูลความทรงจำของริคุ แต่ก่อนจะเข้าไปยังประตูบานสุดท้าย โซระก็ได้กล่าวขอบคุณริคุหรือเจ้าบันทึกเดินทางที่อยู่เคียงข้างเขามาตั้งแต่ตอนที่เขาได้รับคีย์เบลดในมิติลี้ลับ... ซึ่งเจ้าบันทึกเดินทางก็งง แล้วบอกว่าเค้าเจอกับโซระครั้งแรกก็ตอนที่อยู่ในเกาะแห่งชะตากรรมไม่ใช่เหรอ.... อ่าว.. แล้วไอ้โม่งชุดดำที่โซระเจอในมิติพิศวงตอนแรกสุดนั้นเป็นใครกันล่ะ?


พักเรื่องปวดสมองเอาไว้ก่อน โซระและเจ้าบันทึกเดินทางได้ผ่านประตูสุดท้ายเข้าไปจนไปโผล่ยังฮอลโล่บาสชั่น แล้วโซระก็กำจัดมาเลฟิเซนท์ในร่างมังกรลงได้ ซึ่งนางมารเนี่ยแหละที่เป็นต้นเหตุทำให้หนังสือบันทึกการเดินทางในร่างของริคุไม่ยอมฟื้น

โซระเดินทางออกมาจากโลกเสมือนจริงที่เกิดจากความทรงจำของริคุ แล้วได้พบกับมิคกี้และพวกที่รออยู่ ตอนนี้เจ้าหนังสือเดินทางที่ก่อรูปร่างเป็นริคุได้ฟื้นกลับขึ้นมาแล้ว ขณะเดียวกับที่เส้นทางสำหรับกลับไปยังโลกแห่งความเป็นจริงก็ได้เปิดออกเช่นกัน มิคกี้กับพวกก็เลยกลับไปยังโลกแห่งความจริง

ส่วนโซระและเจ้าหนังสือบันทึกก็ยังคงอยู่ในโลกเสมือนจริงตามควรต่อไป เจ้าหนังสือบันทึกบอกว่าข้อมูลที่เกิดขึ้นใหม่ระหว่างการเดินทางครั้งนี้จะต้องถูกลบทิ้งไป เพื่อให้ตัวหนังสือเดินทางกลับไปเป็นปกติตามเดิม นั่นจึงหมายความว่าในไม่ช้าโซระและริคุในร่างข้อมูลนี้ก็ต้องหายไป แต่แล้วขณะที่ข้อมูลในหนังสือบันทึกการเดินทางกำลังจะฟื้นตัวครบ 100% ก็เกิดความผิดปกติขึ้น ตอนแรกทุกคนก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พวกเขาได้กำจัดบั๊คไปจนหมดแล้วนี่นา แต่แล้วจิมินี่ก็ทักขึ้นมาว่าพีทกับมาเลฟิเซนท์ยังติดอยู่ในโลกเสมือนจริงเลย ถ้าพวกเขาไม่ออกมา พวกเขาก็จะถูกลบหายไปตลอดกาล

ในส่วนนี้โซระคิดว่าถึงแม้พวกนางมารจะชั่วร้าย แต่เมื่อพวกเธอมาจากโลกแห่งความเป็นจริง เขาก็อยากจะช่วยให้พวกเธอได้กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงซะ เมื่อคิดได้ดังนี้โซระจึงบอกว่าขอเวลาอีกนิด เขาอยากไปช่วยพีทและมาเลฟิเซนท์ให้กลับสู่โลกภายนอกไปได้ด้วย ซึ่งพระเอกของพวกเราก็อุตส่าห์ตามหาวายร้ายทั้งสองจนพบ แต่ทั้งสองกลับก็กำลังเสียท่าให้กับฮาร์ทเลสยักษ์ เจ้าฮาร์ทเลสตัวนี้ไม่ใช่ฮาร์ทเลสธรรมดาเพราะมันเป็นฮาร์ทเลสของโซระที่ได้ดูดกลืนเอาจิตใจ (Mind) จากฮาร์ทเลสที่ถูกโซระกำจัดเข้าไปในตัวมัน และมันยังเป็นต้นกำเนิดของบั๊คที่เป็นศัตรูในหนังสือเดินทางนี้ด้วย ซึ่งความเก่งกาจของมันนั้นก็ถึงขั้นที่โซระสู้ไม่ได้ ทำให้มิคกี้ต้องย้อนกลับเข้ามาในโลกเสมือนจริงเพื่อช่วยโซระกำจัดมัน

* ที่เป็น Mind ไม่ใช่ Heart เพราะฮาร์ทเลสในโลกข้อมูลมันไม่มีหัวใจแต่แรกแล้ว การกำจัดฮาร์ทเลสในนั้นจึงเป็นการปลดปล่อยจิตใจ ไม่ใช่ปลดปล่อยหัวใจ

หลังชนะมันได้แล้วเจ้าหนังสือเดินทางก็พามาเลฟิเซนท์และพีทออกไปจากโลกเสมือนจริง จากนั้นมิคกี้ก็ล่ำลากับริคุและโซระในโลกเสมือนจริง ก่อนที่จะขอตัวกลับสู่โลกแห่งความจริงไป


เมื่อมิคกี้และพวกกลับมาจนหมดแล้ว ข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในโลกเสมือนจริงจึงถูกลบทิ้งไป รวมถึงเจ้าโซระในร่างข้อมูลนั้นด้วย เรื่องราวทั้งหมดเหมือนจะจบลงแล้ว ทว่าริคุหรือเจ้าบันทึกการเดินทางก็ส่งข้อมูลผ่านหน้าจอมาว่าข้อมูลของโลกใบใหม่ได้ปรากฏขึ้นในบันทึกการเดินทาง ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนใส่เข้ามา แต่มันเกี่ยวข้องกับประโยคที่ว่า "พวกเราต้องกลับไปปลดปล่อยพวกเขาจากความทนทุกข์" เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วมิคกี้จึงตัดสินใจย้อนกลับเข้าไปในโลกเสมือนจริงอีกครั้ง


มิคกี้ขอให้เจ้าบันทึกการเดินทางที่ก่อตัวเป็นร่างริคุช่วยปลุกโซระในร่างข้อมูลขึ้นมาใหม่ เมื่อโซระร่างข้อมูลตื่นขึ้นมา เขาก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในเมืองเทรเวิร์ส พระราชาของเราปรากฏตัวขึ้นหน้าโซระ แล้วบอกโซระว่าวันคืนแห่งการเดินทางของโซระได้เริ่มต้นขึ้นจากตรงนี้ ซึ่งในวันนั้นตัวมิคกี้เองก็ได้อยู่ในที่แห่งนี้ด้วย และนี่ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะเล่าความจริงให้ฟัง ว่าแล้วมิคกี้ก็พาโซระเปิดประตูไปสู่โลกใหม่... "ปราสาทหลงลืม"


พอโซระเข้ามาภายในปราสาทก็เห็นว่ามิคกี้ได้ชิ่งหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่แล้วก็มีชายในชุดคลุมดำปรากฏตัวขึ้นมาแทน ซึ่งชายคนนี้แหละคือคนที่ปรากฏตัวขึ้นมาในมิติพิศวงในตอนที่โซระได้คีย์เบลดครั้งแรก เขาบอกว่าถ้าโซระอยากรู้ความจริงก็จงก้าวเดินต่อไปข้างหน้า แล้วเขาก็มอบการ์ดเกาะแห่งชะตากรรมให้กับโซระ ซึ่งโซระก็ทำตามสูตรเดิมคือใช้การ์ดนั้นเปลี่ยนสภาพห้องสีขาวที่อยู่เบื้องหน้าให้กลายเป็นสถานที่แห่งความทรงจำ เขาเดินผ่านเข้าไปในห้องแต่ละห้องซึ่งก่อตัวเป็นดาวต่างๆ ที่เขาเคยไปมา ระหว่างนั้นเขาก็ต้องกำจัดบั๊คที่ยังหลงเหลืออยู่เป็นครั้งสุดท้าย และล่ำลากับตัวละครต่างๆ จากดิสนีย์

ในช่วงนี้เอง โซระเริ่มคิดได้ว่าแม้ว่าเราจะลืมใครซักคนที่เราเคยพบเจอไปแล้ว แต่ "ความโศกเศร้าจากการลืมพวกเขาไปนั้น" มิอาจลืมเลือนไป เขายังคงเก็บงำความรู้สึกเศร้านั้นไว้แล้วมุ่งต่อไปข้างหน้า แม้ว่าชายชุดดำจะบอกว่าโซระต้องลืมความเจ็บปวดเหล่านั้นให้ได้ ไม่เช่นนั้นโซระจะต้องตกสู่ความมืดมิด แต่โซระก็ไม่อาจทำแบบนั้นได้ สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะแบกรับความทุกข์นั้นไว้และก้าวเดินต่อไป

จนเมื่อเดินทางผ่านมาจนถึงหน้าห้องสุดท้ายแล้ว ชายชุดดำจึงยอมเปิดเผยตัวออกมา ซึ่งเขาก็คือ "ร็อคซัส" นั่นเอง ร็อคซัสบอกว่างั้นเขาจะทำให้โซระได้รับรู้รสชาติของความเจ็บปวดที่แท้จริง ว่าแล้วบอสใหญ่ก็ควงคีย์เบลดสองมือเข้ามาสู้กับโซระ

พอเอาชนะร็อคซัสได้ เขาก็มอบ "การ์ดแห่งความจริง" ให้กับโซระ แล้วก็เข้าไปรวมอยู่ในร่างของโซระอย่างที่ควรจะเป็น จากนั้นมิคกี้ก็ปรากฏตัวขึ้นมา โซระใช้การ์ดใบสุดท้ายแปรสภาพห้องสีขาวห้องสุดท้ายให้เป็นสถานที่แห่งความทรงจำ แล้วก็ก้าวเดินเข้าไปในห้องนั้นพร้อมกับมิคกี้


ด้านในห้องนั้นมีนามิเนะที่รอพวกเขาอยู่ นามิเนะบอกว่าการที่เธอได้แยกส่วนและประกอบความทรงจำของโซระขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดบั๊คขึ้นในความทรงจำของโซระ แท้จริงแล้วในตัวของโซระนั้นยังมีความทรงจำของบุคคลอื่นรวมอยู่อีก (เวน ซิออน ร็อคซัส) ซึ่งนามิเนะไม่สามารถประกอบความทรงจำในส่วนนั้นให้กลับเป็นอย่างเดิมได้อย่างสมบูรณ์  (เดิมทีมันก็ไม่ใช่ความทรงจำของโซระ) ความทรงจำเหล่านั้นต่างก็แบกรับความเจ็บปวดเอาไว้ ซึ่งมันจำเป็นต้องได้รับการบรรเทา  ดังนั้นเพื่อที่จะให้โซระในอนาคตได้ช่วยเหลือพวกเขา นามิเนะจึงเขียนลงไปในบันทึกการเดินทางของจิมินี่ว่า "พวกเราต้องกลับไปปลดปล่อยพวกเขาจากความทนทุกข์"

ไม่ว่าร็อคซัส แอ็คเซล นามิเนะ ซิออน หรือกระทั่งเทอร์ร่า อควอ และเวน

แม้ว่าพวกเขาบางคนจะจากไปแล้ว แต่พวกเขาทุกคนยังคงมีจิตใจที่เชื่อมโยงถึงโซระอยู่ตลอดเวลา


โซระบอกว่าเขารู้สึกเหมือนเคยเจอเจ้าสามคนหลังที่ว่ามาก่อน แต่นามิเนะบอกว่าที่จริงโซระเคยเจอแค่สองคน (เทอร์ร่ากับอควอ) ส่วนอีกคนนั้นแม้จะไม่เคยเจอแต่โซระก็มีความผูกพันกับเขามากเป็นพิเศษ (เวน) ในอนาคต...เวลาที่เขาจะได้ตื่นขึ้นนั้นต้องมาถึงอย่างแน่นอน

มิคกี้สัญญากับนามิเนะว่าเขาจะเอาบั๊คหรือความทรงจำที่ขาดหายไปทั้งหมดนี้ไปบอกกับโซระในโลกแห่งความเป็นจริงให้ได้ ขณะที่นามิเนะในร่างของข้อมูลกำลังจางหายไป โซระในร่างของข้อมูลก็ได้กล่าวคำล่ำลาคำหนึ่งที่มีความหมายมากที่สุดถึงเธอ

มันคือคำที่โซระในโลกแห่งความเป็นจริงเคยสัญญากับเธอไว้ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้บอกมันไป

"ขอบใจนะ"

หลังจากเครดิตทีมงานขึ้นจนครบ ก็ปรากฏฉากจบต่อ ซึ่งเป็นราชามิคกี้ที่ใส่จดหมายลงขวดน้ำส่งไปถึงโซระ นั่นก็คือจดหมายที่ไคริเอามาให้โซระในฉากจบของ Kingdom Hearts II  นั่นเอง เนื้อหาของมันกล่าวถึงความทรงจำของบุคคลอีกคนหนึ่งที่มีอยู่ในตัวของโซระ และเรื่องราวเหล่าผู้ที่มีหัวใจเชื่อมโยงอยู่กับเขา พร้อมกับเรียกตัวโซระออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่ เพื่อช่วยเหลือพวกพ้องที่ยังคงมีความผูกพันกับพระเอกของเราอยู่เสมอ



ในที่สุดชะตากรรมของโซระก็ได้ได้เชื่อมไปถึงบทสรุปแห่งอนาคตเรียบร้อยแล้ว...

ขอบคุณ : ReBirth Wings สำหรับเนื้อหาตอนจบครับ

ไม่มีความคิดเห็น