บทสัมภาษณ์เคนชิ โยเนซึ ผู้แต่งเพลง Tsuki Wo Miteita



บทสัมภาษณ์ Final Fantasy XVI จากนิตยสารแฟมิซือฉบับวันนี้ ลงไว้ 12 หน้า โดยเป็นสัมภาษณ์เคนชิ โยเนซึ ผู้แต่งและร้องเพลง Tsuki Wo Miteita 6 หน้า และเป็นแนะนำเกม 6 หน้า....

ขอบคุณ คุณ Pete ผู้สนับสนุนใจดี ที่ส่งสแกนมาให้หลังไมค์ 🙇🙇‍♂️

😅 แน่นอนว่า ไม่มีข้อมูลเนื้อเรื่องใหม่แต่อย่างใด ไอ้ฉิบหายยยยย....

แต่ก็ได้รู้เบื้องหลังการทำงานแต่งเพลงนี้เล็กน้อย

-----------------------------------------

- เริ่มเล่น FF ภาคแรกคือ FFVII ตอน ป.1

- FFVII ส่งผลต่องานอดิเรก และรสนิยมหลังจากนั้นมาก มองอะไรก็นึกถึง FFVII ไปหมด 

- ไม่ได้เล่น FFVIII กับ FFXI ที่ต้องใช้เงื่อนไขพิเศษเยอะตอนที่เกมออกมา แต่นอกนั้นก็ไล่เล่นตามลำดับเลขภาค

- ชอบโลกของ FFXII โดยเฉพาะเผ่าพันธุ์อันหลากหลายในอิวาลิซ ตอนนั้นเล่น FFTactics Advance แล้วประทับใจ ต่อมาก็ได้เล่น FFXII ตลอดฤดูร้อน มีความทรงจำกับมันมากมาย ตอนนั้นอยู่มัธยมละ

- ได้เล่น Ragnarok Online ด้วย เป็นครั้งแรกที่ได้เล่น MMORPG ตอนนั้นประมาณ ป.5-ป.6 แล้วก็ยังเล่น Maple Story

- พอ 20 ต้น ๆ เพื่อนก็แนะนำให้เล่น FFXIV พอมาเล่นก็เริ่มรู้จักชื่อของโยชิดะตั้งแต่ตอนนั้น ในฐานะคนที่เป็นกำลังสำคัญในการรีบิลด์ FFXIV ขึ้นมา

- ตอนที่ FFXVI เปิดตัวออกมา เขาก็ตื่นเต้น รอการวางขาย และก็คุยกับทีมงานว่าใครจะได้มาร้อง Theme Song นะ พอรู้ตัวอีกที ก็ได้รับการทาบทามจากโยชิดะแล้ว และเพราะเป็นซีรีส์ที่ไล่ตามมาตั้งแต่ประถม เลยตัดสินใจรับและรู้สึกเป็นเกียรติมา

- ตอนที่ตัดสินใจนั่น ก็คือ 3 ปีที่แล้ว โยชิดะก็เล่าเนื้อหาของเกมให้ฟังอย่างสุภาพและจริงจัง จนทำให้รู้สึกว่าคนนี้ยอมตายเพื่อสร้างเกม เราเองก็จะทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่ได้

- ในการแต่งเพลง ตอนแรกก็ทำเดโมเป็นแบบ One Chorus เอาให้โยชิดะกับโซเคนฟัง พอเขาบอกว่าดีแล้ว ก็ไปทำฉบับเต็มมา แล้วก็ค่อย ๆ ปรับแต่งมาเรื่อย ๆ จนได้มาเล่นเกมเอา ปลายปีที่แล้ว

- ที่ผ่านมาเคยแต่งเพลง tie-up ให้ทั้งละครดราม่า แอนิเม หนัง ถ้าเป็นเพลงเปิดแอนิเม ตัวเพลงก็ควรเป็นภาพรวมของแอนิเม แต่นี่เป็นครั้งแรกที่แต่เพลงของเกม โยชิดะก็ได้มาบอกให้ฟังว่า จะเอาเพลงนี้ไปเล่นในส่วนไหนของเกม พอได้อ่านสคริปต์ในส่วนที่จะใช้เพลงแล้ว ก็แต่งเพลงขึ้นมา

- เขาเป็นนักแต่ง Pop Song ปกติอย่างถ้าแต่งเพลงให้ละครดราม่า ก็จะแต่งให้เกี่ยวกับเนื้อหาดราม่าครึ่งนึง ใส่ความเป็นเพลงเพลงป็อปลงไปอีกครึ่งนึง ทว่าคราวนี้เป็นเพลงเกม คนเล่นใช้เวลานานมากกว่าจะไปถึงฉากนั้น เพื่อให้เหมาะสมกับเรื่องแล้ว ก็เลยลดสัดส่วนลงไป จากเดิม 50:50 กลายเป็น 90:10 ก็อยากให้ไปฟังกันในเกมเลย แน่นอนว่าถ้าฟังเพลงเฉย ๆ มันก็โอเคแหละ แต่เขาสร้างมันเพื่อเกมนี้ ก็อยากให้ไปเล่นไปฟังกันในเกม

- ตอนแรกก็ได้อ่านสคริปต์เนื้อเรื่องก่อนนะ แล้วค่อยมาได้เล่นทีหลัง  ก็รู้สึกผูกพันกับไคลฟ์ อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

- ตอนที่โยชิดะมาบรีฟให้ฟังว่า จะเอาเพลงไปใช้ในฉากไหน โยชิดะก็ให้แต่งเพลงได้อิสระเลย ตามแต่ใจคิด ตอนแรกข้อมูลมันก็มาเป็นตัวอักษร ก็เลยแต่งเพลงแบบโทนซีเรียสเลย หวังว่าไคลฟ์จะมีความสุข แต่พอได้มาเล่นก็เข้าใจความรู้สึกของไคลฟ์ยิ่งขึ้นว่าเขาแบกรับอะไร ต้องรับผิดชอบอะไร และทำแบบนั้นไป เพื่ออิสรภาพอย่างไร

- ตอนแรกจะให้เพลงมีเนื้อหาสะท้อนชีวิตของไคลฟ์ เรื่องราวของการได้มาซึ่งอิสระ การเกิดมาในตระกูลเจ้าขุนมูลนาย การอยู่ในชะตากรรม ไม่มีทางเลือกนอกจากเดินไปตามทาง เพื่อให้ได้มาซึ่งอิสระภาพ จนท้ายที่สุด เขาคิดว่าไคลฟ์คือคนที่เป็นอิสระที่สุด ไคลฟ์ทำลาย Mothrcrystal เพื่อช่วยเหลือทุกคน แต่นั่นคือการทำลายกฎเกณฎ์สังคมเดิมทั้งหมด และเขาเลยต้องใช้ชีวิตในฐานะวายร้ายอย่างไม่มีทางเลี่ยง

- ตัวเพลงนั้นจึงต้องมีความดาร์กอยู่ด้วย ไม่ได้มีแต่ความขาวสะอาด เขาจินตนาการว่าไคลฟ์จะคิดยังไงนะในตอนที่บรรลุเป้าหมายแล้ว มันต้องเป็นเรื่องส่วนตัวแน่ ๆ ตอนที่ไคลฟ์มองดวงจันทร์ เขาต้องนึกถึงเพื่อนทุกคนทั้งหมด คิดถึงจิล และบอกตัวเองว่า "ดีใจเลย สำเร็จแล้ว" แต่ขณะเดียวกันโยเนซึคิดว่าไคลฟ์ก็ต้องรู้สึกกังวลกับสิ่งที่ทำลงไปด้วย คือไม่ได้หลงคิดว่าสิ่งที่ตนเองนั้นมันถูกต้องสมบูรณ์ มันต้องมีความแคลงใจไว้บ้าง มันต้องมีบรรยากาศแบบนี้แหละถึงจะรู้สึกถึงอิสรภาพที่แลกมา

- เพลงนี้เป็นเพลงของไคลฟ์กับจิล ตอนแรกที่ได้มาแต่สคริตป์เกม กะจะแต่งให้เพลงเป็นของไคลฟ์และโจชัว แต่เมือ่ได้คุยกับโยชิดะ ก็รู้สึกว่าเรื่องราวของไคลฟ์กับโจชัวมันจบแล้ว แต่เรื่องราวกับจิลนั้นยังไม่....  ก็เลยคุยกันว่าจะร้องเพลงที่สื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างจิลและไคลฟ์ และดวงจันทร์ระหว่างเขากับเธอ

- ชื่อเพลงนั้นเป็นสิ่งที่คิดเป็นอย่างสุดท้ายเลย และก็คิดว่าไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจาก Tsuki wo Miteita

- พูดถึงตัวละครที่ชอบ ชอบดิออนที่สุด ชอบสภาพแวดล้อมบรรยากาศรอบตัวเขา ส่วนบาร์นาบัสก็น่าประทับใจ ชอบฉากที่เขาอิงซบแม่ในจินตนาการของเขาและผลอยหลับไปเหมือนเด็ก 

- สิ่งที่อเมซซิ่งของเกม ก็การต่อสู้ระหว่าง Eikon ในแง่ของพลัง การต่อสู้กับไตตันมันท้าทายมาก ในแง่ของการต่อสู้ ก็เป็นการต่อสู้กับบาร์นาบัส โอดินแปลกดีและคูลสุด เขาเล่นเกม action ไม่เก่ง เลยสู้ยากและเป็นที่จดจำมาก

- โยเนซึ ไม่ใส่แหวนโกงเลย ถอดออกหมด

- พูดถึงเกมที่ชอบ ยังมี Zelda, Arc the Lad II, Silent Hill, Siren, Granblue Fantasy

ไม่มีความคิดเห็น