สรุปข้อมูล FF Type-0 HD จากการตอบคำถามผ่านทาง Reddit ของคุณทาบาตะ
ช่วงเวลาประมาณตี 1.10 น. ที่ผ่านมา คุณฮาจิเมะ ทาบาตะ ผู้กำกับ Final Fantasy Type-0 HD ได้เข้าไปที่เว็บ Reddit และเปิดโอกาสให้แฟน ๆ ถามคำถามอะไรก้อได้จากเกมดังกล่าวแก่เขา ซึ่งเขาก็จะตอบคำถามแก่ล่าม และให้ล่ามพิมพ์ตอบสด ๆ กันต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ชั่วโมง (เลิกไปตอนตี 2.50 น.)
คำถามส่วนใหญ่ที่แฟน ๆ ถามกันมา เป็นคำถามที่คุณทาบาตะเคยตอบผ่านสื่อไปแล้ว และเป็นเรื่องที่ทางค่ายเคยโปรโมทไปหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังพอมีคำถามที่ทำให้เกิดคำตอบใหม่ ๆ อยู่บ้าง และผมก็ขอสรุปข้อมูลใหม่จากการตอบคำถามของเฮียแกดังนี้
- ตัวละครที่ชอบที่สุดในซีรีส์คือ แซ็ค เพราะเฮียแกใช้เวลาคลุกคลีสร้างภาค Crisis Core นานที่สุดนั่นเอง
- จากที่แฟนชาวตะวันตกบ่นกันว่า J-RPG มักจะมี Trophy/Achivement น่าเบื่อให้เก็บ คุณทาบาตะบอกว่าสำหรับเกมนี้มันไม่มีเงื่อนไขที่น่าเบื่อหรอก โดยพวกเขาก็เอา Trophy List ของ FFXIII มาใช้เป็นแบบอย่างในการสร้าง Trophy ให้เกมนี้
- ตัวเกมไม่ได้สร้างระบบเปิด/ปิดเอฟเฟคท์เลือดมา ที่ญี่ปุ่นก็ไม่มีใครรีเควสต์เรื่องนี้มาก่อน แต่ทางฝั่งอเมริกาท่าจะอยากให้มีกันสินะ
- จากที่มีคนถามว่าทำไมสร้าง FFX l X-2 HD ให้ PS Vita ได้ แต่ไม่ทำ FF Type-0 HD ให้ PS Vita? เหตุผลก็เพราะ X l X-2 HD นั้นถูกสร้างมาสำหรับสภาพแวดล้อมของ PS3 ซึ่งการจะพอร์ทข้อมูลไปยัง PS Vita นั้นเป็นเรื่องง่าย แต่กรณีของ Type-0 HD มันถูกสร้างมาบนสภาพแวดล้อมของ PS4/Xbox One ซึ่งในทางเทคนิคแล้วการพอร์ทไปยัง PS Vita เป็นเรื่องที่ยากกว่า
- ในความคิดเขา FF มักใช้การผสมผสานระหว่างยุคกลาง ยุคปัจจุบัน และยุคอนาคต ซึ่งเขาก็ชอบการผสมผสานแบบนี้ ส่วนตัวเขายังชอบเกมที่เอาองค์ประกอบจากโลกแห่งความจริงไปใช้ด้วย
- พอแฟน ๆ ถามว่าชอบดิ๊ปซอสของแมคโดนัลด์ แบบไหนมากกว่าระหว่าง Buffalo (เผ็ดหวาน) กับ Ranch (ครีม) คุณทาบาตะบอกว่า Buffalo แน่นอน เขาชอบอาหารเผ็ด ๆ หวาน ๆ
- งานอดิเรกของเขาคือขับรถ ศึกษาประวัติศาสตร์ ชาร์จไฟอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เต็มอยู่เสมอ (อันนี้เคยพูดในบทสัมภาษณ์เก่าแล้ว ซึ่งผมว่าออกแนวโรคจิตเหมือนกันนะเนี่ย) และสร้างเกมด้วย
- เพลงโปรดของเขาในเกมนี้คือ 我ら来れり (“We Have Come”) นอกจากนี้เขายังชอบเมดเล่ย์ในฉากเครดิตของเกม
- อย่างที่บอกไว้แล้วว่าไอเทมที่เคยหาได้จาก Multiplayer ถูกเปลี่ยนให้หาได้จากเนื้อเรื่องหลัก นอกจากนี้ไอเทมที่เคยหาได้จากแคมเปญของ SQEX Members ก็เปลี่ยนมาให้หาได้จากเนื้อเรื่องหลักเช่นกัน
- พวกเขาได้เพิ่มเหตุการณ์ใหม่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำหรับลงไปในเวอร์ชั่นนี้ด้วย อยากให้ปลดล็อคและดูกันให้ได้
- เดโม FFXV ที่จะแถมนั้น ไม่ได้แถมเฉพาะคนที่ซื้อแบบแพ็คเกจเท่านั้น คนที่ซื้อ Type-0 HD แบบดิจิตอลก็จะได้เช่นกัน
- ตอนนี้ยังไม่มีแผนจะทำภาคนี้ให้ PC แต่เขาเองก็สนใจ Steam มาก ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขาอยากรู้มากกว่าว่าเมื่อไหร่ Half-Life 2 Episode 3 จะออก เขาสนับสนุน Steam มาตั้งแต่สมัย Half-Life 2 แล้ว และเคยซื้อการ์ดจอแพง ๆ มาเพื่อเล่นภาคแรกของเกมนี้ด้วยซ้ำ ฉากเปิดเกมของภาคแรกนี่เป็นหนึ่งในอินโทรโปรดของเขาเลย
- J-RPG สุดโปรดของเขาคือ Dragon Quest III สำหรับเขาแล้วนี่คือราชาของเกม J-RPG
- FFI เป็นภาคที่อยู่ในความทรงจำเขามากที่สุด ส่วน FFVII มีอิทธิพลต่อเขาที่สุด ขณะที่ FFVI ก็เป็นภาคโปรด ตอนที่เขาย้อนดูภาคเก่า ๆ เพื่อใช้อ้างอิงในการสร้าง FFXV ภาค FFVI ก็เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นออกมา
- เกมที่เขาเคารพและมอบแรงบันดาลใจให้เขานั้นมีมากมาย แต่ตอนนี้ที่เด่นออกมาก็คือ Journey
- เขามีรถ BMW อยู่ด้วย จริง ๆ อยากซื้อพวก hybrid มากกว่าแต่ภรรยาไม่ยอมให้ซื้อ นอกจากนี้เขายังชอบรถ Audi R8
- Type-0 นี้มีเนื้อเรื่องหลักยาวประมาณ 40 ชั่วโมง แต่ความสนุกที่แท้จริง จะเริ่มหลังจกาการเล่นรอบสองเป็นต้นไป ซึ่งผู้เล่นจะเล่นกันได้เดิน 100 ชั่วโมงเลยทีเดียว
- พอมีคนถามว่าทำไมเซเว่นถึงดูคล้ายไลท์นิ่งมาก คุณทาบาตะตอบว่าในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ตัวละครทั้งสองนี้ยังใช้นักพากย์คนเดียวกันด้วยนะ (ซึ่งคุณทาบาตะจำผิดแล้ว เซเว่นพากย์โดยคุณมายูโกะ อาโอกิ คนพากย์ยูน่า ส่วนไลท์นิ่งพายก์โดยมายะ ซากาโมโตะ) และตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณโนมุระถึงออกแบบสองคนนี้ให้คล้ายกัน
- ตัวละครโปรดของคุณทาบาตะในภาคนี้ก็คืออิซานะ ที่ตายตั้งกะฉากเปิดเกม
- ส่วนตัวเขาแนะนำให้คนหัดเล่นใช้เอซ เรม คิง ส่วนคนที่เก่งแล้ว ควรใช้เทรย์ แจ็ค และเอธ (หรือเซเว่น)
- จากที่ถามมาว่ามีการปรับปรุง A.I. ของเพื่อนร่วมปาร์ตี้ให้ดีขึ้นรึยัง? คุณทาบาตะบอกว่าสมัย PSP ด้วยข้อจำกัดทางเทคนิคทำให้พวกเขาเขียนโค้ดที่ซับซ้อนมากไม่ได้ เลยสร้าง A.I. ให้เน้นไปที่การฮีลผู้เล่นยามใกล้ตาย (แต่ดันไม่ค่อยฮีล A.I. ตัวอื่น), ให้ A.I. เอาตัวรอดเองให้ได้ ไม่ให้ถ่วงผู้เล่น และไม่แย่งผู้เล่นฆ่าศัตรูมากจนเกินไป (อย่างที่ผมเคยวิจารณ์ไว้ว่า A.I. เกมนี้มันไม่ค่อยช่วยเราฆ่าศัตรู แต่ก็ไม่ค่อยถ่วงแข้งถ่วงขาเรานัก) ในส่วนนี้พอมาทำเวอร์ชั่น HD แล้วพวกเขาก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร เพราะขืนจะปรับ มันก็ต้องปรับโครงสร้างทั้งระบบ (หมายถึงถ้าทำให้ A.I. ฝ่ายเราฉลาดขึ้น ก็ต้องทำให้ A.I. ฝ่ายศัตรูฉลาดขึ้นด้วย ไม่งั้นสมดุลเกมจะเสียหมด) ก็เลยไม่ได้ทำ แต่ก็มีการปรับปรุงมุมกล้องให้ดีขึ้นแล้ว
ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เฮียแกเปิดให้ถามคำถามถึงเกมอื่นที่เฮียแกมีส่วนเกี่ยวข้องได้ ซึ่งก็มีข้อมูลใหม่เท่านี้
- ในเดโม FFXV จะมีทั้งการกระโดด และดาบมายา (การวาร์ป) ให้ลองใช้กันแล้ว ยืนยันได้
- จากที่มีคนขอมา ตอนนี้พวกเขาไม่มีแผนจะทำ Crisis Core HD และ Before Crisis HD แต่พอถามมาแบบนี้ เขาก็อยากรู้ว่ามีคนให้ความสนใจเวอร์ชั่น HD ของสองเกมนี้มากแค่ไหน?
- พอถามถึงเป้าหมายด้านเฟรมเรทและความละเอียด FFXV คุณทาบาตะบอกว่าตัวเกมจริงตั้งเป้าไว้ว่าจะให้เป็น Full-HD (1080p) และ 30fps แต่ด้วยกราฟฟิกและองค์ประกอบของเกมที่มีอยู่ในตอนนี้ มันก็ยากเอาการอยู่เหมือนกัน นอกจากนี้ใน Episode Duscae ผู้เล่นจะได้รู้กันว่าซินดี้ (ล่ามพิมพ์ชื่อตัวละครนั้นว่า Cindy เหมือนกับซับไตเติลอย่างเป็นทางการที่ออกมาก่อนหน้านี้ ดูแนวโน้มแล้วคาดว่าคงจะให้ชื่ออังกฤษเป็น Cindy และชื่อญี่ปุ่นเป็น Cidney ไป) คือซิดของภาคนี้รึเปล่า!
http://www.reddit.com/r/IAmA/comments/2tf804/i_am_hajime_tabata_the_director_of_final_fantasy
Post a Comment