เนื้อเรื่อง The First SOLDIER ตอนที่ 12


ตากล้องบอกว่าเซฟิรอธผ่านการทดสอบต่าง ๆ จนดาบมาซามุเนะอยู่ใกล้แค่เอื้อม ถ้าดาบมาอยู่ในมือเขา ดาบคงกลายเป็นตำนาน อยากถ่ายตอนจังหวะได้ดาบมามาก รู้สึกเหมือนวิญญาณที่นี่จะบอกว่าฉันจะอัดคลิปเหตุการณ์วินาทีที่โลกเปลี่ยนไปได้แน่

เซฟิรอธเดินเข้าไปที่ร่างของมาซามุเนะที่ทำท่ายกดาบให้ (ซึ่งดาบมันหายไปเองเมื่อตอนที่แล้ว) และรู้สึกได้ว่าดาบยังอยู่ที่นี่ เขาจับลงไปที่มือของมาซามุเนะ แล้วดาบก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง เซฟิรอธหยิบดาบขึ้นมาสะบัด แล้วดาบมันก็ยาวขึ้น ตากล้องก็ตกใจ


เซฟิรอธบอกดวงวิญญาณที่นี่ตกลงมอบของขวัญนี้ให้เขา

พอเซฟิรอธบอกว่าเอายาวกว่านี้ ดาบมันก็ยาวขึ้น

ตากล้องบอกไม่มีฝักดาบนี่ แล้วจะทำยังไงล่ะ

แล้วดาบมันก็หายไป แล้วก็หายมาอยู่ในมือของเซฟิรอธได้ หยั่งกะตอนโซระใน Kingdom Hearts เล่นคีย์เบลดครั้งแรก


แองจีลตะลึงว่าดาบแบบนี้ไม่น่ามีอยู่จริงด้วยซ้ำ

ตากล้องก็บอกว่าตอนนี้วีรบุรุษของเราก็บรรลุเป้าหมายแล้ว อยากถ่ายคลิปอ่ะ เซฟิรอธ เดี๋ยวเขาให้สัญญาณแล้วช่วยเดินมาหน่อย

ตอนแรกเซฟิรอธก็ไม่ยอมเล่นด้วย แล้วบอกว่าบ้าบอ แต่อลิสสาก็บอกว่าเอาน่า ให้ความร่วมมือหน่อย

เซฟิรอธก็เลยยอมเดินแกว่งมาซามุเนะ ให้ตากล้องถ่ายเก็บไว้

----------------


เดินต่อมาเจอศาลาสีแดง แองจีลสงสัยว่าดวงวิญญาณที่นี่พยายามหลอกพวกเราเหรอ

แต่อลิสสาบอกว่าไม่นะ มาซามุเนะกำลังประทานพรให้เซฟิรอธที่เป็นผู้ถูกเลือกตะหาก

เซฟิรอธบอกว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้ทดสอบดาบนี้ 

แองจีลจะบอกให้อย่าประมาท แต่อลิสสาจะบอกว่าพอเซฟิรอธได้ดาบไว้ในมือ ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลแล้ว

ตากล้องก็เตรียมยกกล้องถ่ายเซฟิรอธใช้ดาบใหม่ เข้าต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวขึ้นหน้าศาลา

แองจีลจะเข้าไปสู้ด้วย โดยบอกว่าเขาต้องจัดการกับสิ่งที่เขารู้สึกวา่มันไม่ชอบมาพากล

พอชนะได้ตากล้องกับอลิสสาก็มาอวย อลิสสาบอกว่าต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุด เวลาไหนที่ไม่สู้ก็คือเสียเปล่า ในไม่ช้าจะไม่มีใครหยุดเซฟิรอธได้

เซฟิรอธเห็นด้วย ส่วนแองจีลได้แต่อึ้งว่าอิหยังวะ

แล้วก็ปรากฏภาพชาวบ้านต่าง ๆ เฉลิมฉลองขึ้นมา อลิสสาบอกว่าพวกเขาดีใจเพราะมาซามุเนะได้เลือกเซฟิรอธแล้ว วีรบุรุษที่พวกเขารอมานานได้มาถึงแล้ว 

ตากล้องบอกว่าจิตรกรรมของศาลานี้สวยงามมาก แต่แองจีลกลับมองว่ามันดูปลอมเปลือกไปหมดเลย

ตากล้องก็บอกว่าถึงจะดูปลอมเปลือก แต่ก็สวยนะ ก็เหมือนพวกเราที่ข้างในก็เป็นแค่เลือดเนื้อลำไส้น่ะแหละ

พอเซฟิรอธเปิดประตูเข้าไป ตากล้องกับอลิสสาก็อวยไม่หยุด อลิสสาบอกเซฟิรอธกับมาซามุเนะดูเป็นหนึ่งเดียวกัน

แองจีลก็บอกว่าราวกับว่าเซฟิรอธถือดาบนี้มาทั้งชีวิต

เซฟิรอธก็โม้ว่าดาบนี้ถูกสร้างขึ้นมาให้เข้ามือของเขาแต่แรกแล้ว


----------------

ในศาลาก็มีภาพลวงตาของชาวบ้านมากมายที่กำลังสรรเสริญเซฟิรอธ อลิสสาก็บอกให้ทักทายสาวก

แต่แองจีลบอกว่าลืมตาได้แล้ว ทั้งหมดนี่มันเป็นแค่ภาพลวงตา

เซฟิรอธก็ยกมือทักทายทุกคนไปด้วย ทำให้ชาวบ้านยิ่งไชโย โห่ร้อง

แองจีลบอกว่าสำหรับเขาแล้ว มันเหมือนเซฟิรอธเป็นเพียงหุ่นเชิดของมาซามุเนะ

อลิสสาบอกแองจีลก็แค่อิจฉา อย่าไปยุ่งกับคนขี้อิจฉาที่ถ่วงรั้งเลย

เซฟิรอธ ตากล้อง อสิสซาก็เดินหนีไป

แองจีลคิดว่าอยากจะเกลียดเท่าไหร่ก็เกลียดไป เขาจะคอยดึงสติเอาไว้เอง

----------------


มาเจอทางออกวิหารโฮโดโน ตากล้องก็จะขอถ่ายช็อตเซฟิรอธเดินออกจากวิหาร เพื่อปิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์

เจอชาโดว์แองจีลกับเซฟิรอธ ไล่หลังมา แต่เซฟิรอธและแองจีลก็จัดการได้ และออกจากวิหารโฮโดโน

เซฟิรอธกำลังจะก้าวออกจากวิหารแล้ว แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะแปลก ๆ เลยวิ่งกลับเข้าไป เห็นแองจีลและอลิสสาโดนมือขนาดยักษ์จับอยู่ เซฟิรอธบอกนึกว่าบททดสอบจบแล้วซะอีก


ปิศาจบอกว่าบททดสอบเหรอ? แกรู้แต่แรกแล้วนี่ว่ามันเป็นภาพลวงตา จะเรียกว่าการทดสอบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่คราวนี้ การเลือกนี้ รวมถึงผลที่จะตามมาเป็นของจริงแล้วนะ 

แต่แองจีลก็ดิ้นสุดชีวิต แล้วก็กระโดดหลุดออกมาจากมือของปิศาจได้ แองจีลบอกกูเลือกเส้นทางของกูเอง และไม่หันหลังให้ทางที่เลือกโว้ยยย


เหลืออลิสสาที่โดนจับอยู่คนเดียว เธอบอกให้ช่วยด้วย ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่ ก็ถูกดวงวิญญาณควบคุมไว้ มันเปลี่ยนฉันให้เป็นมอนสเตอร์ ช่วยฆ่าฉันที ฉันไม่อยากกลายเป็นเหมือนชายคนที่สร้างดาบเล่มนั้น ไม่อยากถูกปล่อยให้มีชีวิตไว้อีกแล้ว

แล้วมาซามุเนะก็ขยับเอง เซฟิรอธตกใจ มันให้เซฟิรอธตั้งท่าสู้กับแองจีล

แองจีลบอกว่าดาบมันมีชีวิตของมันเอง ในที่แห่งนี้ กระทั่งบรรยากาศก็ดูมีชีวิตของมัน ฝีมือของพวกวิญญาณทั้งหมด หากนั่นคือตัวตนแท้จริงของมัน แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร เราจะไม่ปล่อยให้มันเอาชนะเราได้ เอาชนะดาบนั่นซะเซฟิรอธ ฉันไม่ใช่ศัตรูของนาย

เซฟิรอธฟาดดาบไป แองจีลหลบได้

แองจีลยังบอกว่าอย่าหวั่นไหว แกเป็นนายของดาบ ไม่ใช่มาซามุเนะ

แล้วเซฟิรอธก็นึกถึงหน้าลุเครเซีย ผู้เป็นแม่ แล้วคิดว่าจะทำยังไงดี

เซฟิรอธก้มหน้าลงลังเล แล้วอลิสสาก็กลายเป็นมอนสเตอร์รูปร่างน่าขนลุก แองจีลเข้าไปฟาดสกัด แต่ดาบกระเด็นออกมา


อลิสสาในร่างปิศาจบอกว่าเข้ามาสิเซฟิรอธ

แต่เซฟิรอธยกดาบขึ้น บอกว่าหยุดเลย


อลิสสาจะเข้าโจมตีเซฟิรอธ แต่เซฟิรอธต้นไม่ไหว แองจีลที่ดาบหลักกระเด็นไปแล้ว เลยควักบัสเตอร์ซอรืดขึ้นมารับต้านการโจมตีเอาไว้ เซฟิรอธตกใจที่เห็นแองจีลใช้ดาบนี้ครั้งแรก


แองจีลบอกว่าตัวนี้อาจจะยากไป ให้ฉันช่วยเอง

“แกอาจจะเป็นไซบอร์ก จักรกลประดิษฐ์ที่สร้างมาเพื่อสังหารหมู่ วีรบุรุษจอมปลอมที่ถูกปั้นแต่งขึ้นมาให้ชินระดูดี แต่แกเองก็มีเพื่อนเหมือนกัน อย่าลืมซะล่ะ”


พอชนะแล้วอลิสสาก็กลับเป็นร่างคนดังเดิม เธอนอนนิ่งสลบลงกับพื้น

แองจีลสงสัยว่าตั้งแต่ตอนเราเจอเธอครั้งแรก เธอก็กลายเป็นมอนสเตอร์แล้วรึ

เซฟิรอธบอกพาเธอกลับบ้านเถอะ แล้วแองจีลก็เป็นคนอุ้มเธอขึ้นมาเอง ออกจากวิหารโฮโดโน


----------------


ตากล้องคิดว่าการจากลากับอลิสสาทำให้วันคืนแห่งความทรมานของพวกเราจบลง

ตากล้องโทรเรียกเฮลิคอปเตอร์ให้มารับพวกเขา

แองจีลถามเซฟิรอธว่าดาบมันยาวขึ้นได้สินะ ดูเป็นดาบต้องสาปมากกว่าดาบพรประทาน

เซฟิรอธขอว่าอย่าเอาพลังของมาซามุเนะไปบอกใครนะ พวกผู้ใหญ่คงจะยึดดาบไปจากเขาแน่ เอาไปทดลองวิจัย อะไรแบบนั้น 


แองจีลก็ตกลง

ตากล้องถาม อ่าวแล้วที่กูถ่ายคลิปไปล่ะ

เซฟิรอธบอกถ้าเรื่องรั่วไหล กูโทษมึงคนแรกแน่นอน

ตากล้องก็ได้แต่ถอนหายใจ

เซฟิรอธยังหยิบดาบขึ้นมาเล่น จนแองจีลรู้สึกว่าดาบมันเหมาะกับนายจนน่ารำคาญ ทำให้นายสมเป็น SOLDIER กลายเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจ อ๊ะ เผลอเลคเชอร์อีกละ เพราะงี้แหละหลายคนเลยไม่ชอบฉัน

เซฟิรอธก็บอกว่า คงงั้นแหละ

แองจีลก็ เฮ่ยยย

แล้วทั้งสองก็หัวเราะร่วนด้วยกัน

เฮลิคอปเตอร์บินมารับ แองจีลบอกถึงเวลากลับบ้านละ

พอขึ้นมาบนคอปเตอร์ ตากล้องถามแองจีลว่าอยากดูคลิปที่เขาถ่ายมามั้ย

แองจีลดูแล้วก็ชมว่าถ่ายมาดีนี่ อลิสสายิ้มสวยเลย อยากดูเปล่าเซฟิรอธ?

พอเซฟิรอธดูคลิปที่ถ่ายมา ก็พบว่าอลิสสาที่ถ่ายมาในคลิป ไม่เหมือนที่เขาเห็นด้วยตาเนื้อ… (ว่าหน้าเหมือนลุเครเซีย)


ตากล้องสังเกตว่าเซฟิรอธตกใจชัดเจน แต่ก็ไม่กล้าถามว่าทำไมถึงช็อคแบบนั้น

แองจีลถามว่าเป็นอะไรไป แต่เซฟิรอธก็พยายามเก็บอาการ

ตากล้องไม่รู้ว่าฝีมือใคร หลังจากนั้นคลิปของเขาไม่เคยถูกเผยแพร่เลย ดวงวิญญาณของดินแดนแห่งนี้ บางทีพวกมันอาจคืบคลานเข้าจิตใต้สำนึกของพวกเรา แล้วเข้าควบคุม ฉันพยายามหาคำตอบว่ามันคืออะไร แต่หัวหน้าก็จะหาทางหยุดฉันทุกครั้งไป

เวลาผ่านไป ตากล้องกลับมาที่อิการะอีกครั้งเพื่อหาคำตอบ เขาใส่ชุดคลุดมดำมา และกลายเป็นพวกรียูเนียนไปแล้ว สติค่อย ๆ พร่าเลือน สูญเสียตัวตนไปทุกที

ตากล้องคิดว่าเขามีทฤษฎีแล้ว สิ่งที่เราเคยเชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณ จิตที่หลับใหลอยู่ในดาบ ทั้งหมดนั้น อาจจะเป็น เจโนวา… รียูเนียน…


ไม่มีความคิดเห็น