FFXV เสร็จไปแล้ว 50-60% ทาบาตะวอนแฟน ๆ เริ่มนับเวลาใหม่
จากงาน TGS 2014 ทีมงาน Gameinformer ที่ทำข่าวเรื่อง Final Fantasy XV และ Final Fantasy Type-0 HD รั่วก่อนงานเริ่ม ได้มีโอกาสไปนั่งโต๊ะเจรจาสัมภาษณ์คุณฮาจิเมะ ทาบาตะ ผู้กำกับ Final Fantasy XV (คนละคนกับคุณทานากะที่ทำ FFXI และ FFXIV เวอร์ชั่นแรก) ซึ่งในการสัมภาษณ์ครั้งนี้คุณทาบาตะก็ได้เปิดเผยความคืบหน้า ที่ยังไม่ได้พูดในทอล์กโชว์เมื่อวันเสาร์ดังนี้
- สำหรับความคืบหน้าในการพัฒนาเกมโดยรวม ปัจจุบันทำไปได้ราว 50-60% พวกเขาพัฒนาไล่เรียงตามเนื้อเรื่องไป ดังนั้นช่วงแรกของเกมก็เสร็จสมบูรณ์มากกว่าส่วนอื่น ๆ
- ตัวเกมไม่ได้เป็น Open World ตามตัวอักษรไปซะทุกส่วน แต่ก็กว้างขวางและให้อิสระในการสำรวจ ผู้เล่นอาจจะขับรถหรือเดินรอบโลกก็ได้ แต่แนะนำให้ใช้ยานพาหนะดีกว่า นี่จะเป็นการขับรถข้ามทวีปกันเลยทีเดียว
- ส่วนการเข้าสู่การต่อสู้ (Encounter) เกมนี้ไม่มีการตัดเข้าสู่ฉากต่อสู้ เราจะพบศัตรูกระจายกันอยู่ทั่วดินแดน และเข้าไปสู้ได้ทันที ไม่มีการตัดฉาก
- อย่างที่เห็นจาก Tech Demo ผู้เล่นสามารถกดปุ่มเพื่อสลับระหว่างโหมดต่อสู้ กับโหมดตั้งรับได้
- ในการสร้างเกมใหม่ ๆ หากใส่องค์ประกอบเก่า (อย่างในเทรลเลอร์ล่าสุดคือเต่าอันดามัน ก็อบลิน การูล่า ฯลฯ) ที่แฟน ๆ คุ้นเคยลงไปเพียงเพื่อจะเอาใจแฟน ๆ มันก็จะสร้างความประทับใจได้แค่นิด ๆ หน่อย ๆ ดังนั้นเขาจึงระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ ในการจะใส่อะไรลงไป เขาจะต้องคิดให้ได้ว่าจะปรับมันเข้าบริบทของภาคนี้ได้ยังไง และจะให้มันอยู่ตรงนั้นตรงนี้ก็ด้วยความจำเป็น สำหรับในเดโมนั้น ก็จะมีองค์ประกอบที่รอเซอร์ไพรซ์ผู้เล่นอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบ
- ขอเรียกยุคของการพัฒนาภาคนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาว่า Versus Era เรียกแบบนี้แล้วฟังดูอาจจะรู้สึกแปลก ๆ ที่ผ่านมาเราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเวลาว่างจำหน่ายได้ เพราะนี่คือโปรเจคท์ที่มีปัญหาเกิดขึ้นมากมายให้เราต้องต่อสู้และก้าวข้ามไป พอจะแก้ปัญหาต่าง ๆ เวลามันก็ไม่ลงตัวสักที ทว่าเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ตอนที่คุณทาบาตะพึ่งเข้าร่วมโปรเจคท์นี้อย่างเป็นทางการ (ช่วงต้นปี 2012) ก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คือการตัดสินใจว่าจะไม่พัฒนาต่อให้กับเครื่องเกมเจนฯ ก่อนแล้ว น่าเสียดายที่มันต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย คุณทาบาตะก็หวังว่าผู้คนจะยอมรีเซตการนับเวลาซะใหม่ (จากเดิมที่นับว่าเริ่มพัฒนาตั้งแต่ 2006) มาเริ่มนับใหม่หลังจากที่คุณทาบาตะเข้าร่วมทีมแทน (2012)
ที่มา : Gameinformer
Post a Comment