มาเอฮิโระเผย FFT The Ivalice Chronicles จะอิงตามเกมภาค PS1 เพราะพวกตนไม่ได้เป็นคนทำภาค PSP
Final Fantasy Tactics The Ivalice Chronicles
สัมภาษณ์มาเอฮิโระ คาสึโทโยะ โดย Square Enix เอง
- ไม่กี่ปีก่อน ได้กลับไปเล่น FFT ออริจินอลอีกครั้ง รู้สึกมันดีไซน์โดดเด่น และเชิดหน้าชูตาได้จนทุกวันนี้ แถมมีการเล่าเรื่องที่ลุ่มลึก แต่คอนโซลทุกวันนี้มันเล่นไม่ได้เนี่ยสิ ก็อยากให้คนรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทัน ได้เล่นเกมที่ยอดเยี่ยมนี้ด้วย เลยสร้างกันขึ้นมาใหม่
- เกมของเดิมมัน 30 ปีแล้ว ถึงดีแค่ไหน แต่ลำพังการพอร์ทหรือรีมาสเตอร์มา คงไม่เพียงพอที่จะถ่ายทอดให้คนรุ่นหลัง เราเลยต้องรักษาสิ่งดีงามของออริจินอล และปรับปรุงหลายส่วนให้เหมาะกับยุคสมัย แก้คอนโทรล แก้ UI ใส่เสียงพากย์ ให้เล่นแล้วอินขึ้น
- เกมหลายเดิมมีหลายส่วนที่ผู้เล่นยกย่อง ทั้งระบบปรับแต่งตัวละครแก้ setting ได้อย่างลึก การเล่าเรื่องของอุบายทางการเมืองที่น่าติดตาม ทั้งหมดนี้ถูกนำมาเล่าในบทบทของ Final Fantasy
- การพัฒนามีความท้าทายหลายประการ ทั้งหมดเกิดจาก Master Data และ Source Code ของเกมภาคออริจินอลไม่อยู่แล้ว ทั้งนี้ไม่ได้ตำหนิว่าเราจัดการไม่ดีหรอกนะ แต่การเก็บรักษาข้อมูลไว้ในระยะยาว มันไม่ใช่เรื่องปกติที่ทำกันในยุคนั้น สมัยก่อน เราไม่มีเครื่องมือจัดการที่มีประสิทธิภาพเท่าสมัยนี้ แถมกระบวนการพัฒนา ยังทำภาค JP ก่อน แล้วค่อยแปลเป็น ENG แล้วเขียนทับข้อมูลเข้าไป แถมสร้างแล้วก็จบ ไม่มีการ patch ดังนั้น การสร้างเกมครั้งนี้ โดยปราสจาก master data และ source code จึงเป็นความท้าทายครั้งใหญ่
- แล้วแก้ปัญหายังไง? ก็ถึกสู้เอา (หัวเราะ) ดูว่า FFT เคยสร้างมากี่เวอร์ชัน แล้วเอามาสร้างโปรแกรมของภาคออริจินอลขึ้นมาใหม่ แล้วก็หยิบภาคออริจินอลขึ้นมาเล่น แล้วก็ทำให้มันได้ฟีลนั้น เหมือนตอนพอร์ตเกมอาร์เขดเก่า ๆ ไปยังแฟมิคอมเลย ยังไงยังงั้น
- ปัจจุบันเสียงพากย์ กลายเป็นเรื่องปกติของเกมไปแล้ว การมีเสียงพากย์ก็ทำให้สื่ออารมณ์ของตัวละครได้ตรงขึ้น ทำให้อินขึ้น การใส่เสียงพากย์เต็มรูปแบบ เลยจำเป็น
- แต่บทพูดในออริจินอล มันเป็นภาษาเขียน ดังนั้นถ้าให้นักพากย์เอาไปอ่าน มันไม่ได้.... ยาสึมิ มัตสึโนะ ที่เป็นคนเขียนสคริปต์ต้นฉบับ เลยปรับบทสนทนาใหม่ให้เหมาะกับการพูด
- UI ของเดิม มันตกยุคไปแล้วเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน เลยต้องปรับปรุงใหม่ แล้วเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ให้คนเล่นพอใจ
- ยัสจัง ยังเพิ่มบทสนทนาใหม่ ๆ เข้าไปด้วย การพากย์เสียงเต็มรูปแบบ ทำให้ถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครได้แม่นยำ และสามารถเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครได้ลึกซึ้งกัน ดังนั้น คนที่เคยเล่นภาคออริจินอลมาก่อน ก็จะเข้าใจตัวละครได้ดีขึ้นไปอีก
- บางบทสนทนา จะเกิดขึ้นเมื่อเข้าเงื่อนไขที่กำหนด ดังนั้น ก็ให้คนเล่นไปลองค้นหากันดู
- เราปรับเปลี่ยนเนื้อหาบางส่วน ทำให้สามารถเล่าความรู้สึกภายในใจของตัวละครบางตัวได้ในแบบที่ภาคออริจินอลไม่ได้เล่าไว้ ทำให้กาฟกาเรียน (Gaffgarion) กลายเป็นตัวละครที่ผมชอบ นอกจากนี้ในบทสนทนาระหว่างรัมซากับกาฟกาเรียน ก็ยังมีกิ่งก้านสาขาที่ซ่อนไว้อยู่
- ทำไมไม่เอาภาค Shishi Sensou (The War of the Lions) มาทำน่ะเหรอ? ผมและสมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำภาค Shishi Sensou แต่ผมเชื่อว่าเนื้อหาของภาค Shishi Sensou สามารถสนองความคาดหวังของผู้เล่นในช่วงที่เกมมันออกได้เต็มที่แล้ว
- เมื่อมองย้อนกลับไปตอนสร้างเกมนี้เมื่อ 30 ปีก่อน เราย้อนถามตัวเราเองว่าในฐานะผู้สร้าง FFT ตัวต้นฉบับ เราจะสามารถมอบอะไรให้ผู้เล่นรุ่นหลังได้บ้าง? จากการใคร่ครวญ เราสรุปว่าเราจะเคารพประสบการณ์ของเกมต้นฉบับ และสร้างมันใหม่ให้ดีที่สุด
- กับคำถามว่าแล้วบัลแฟรย์ รุสโซ อัศวินหัวหอม และดาร์กไนท์? ที่เพิ่มมาในภาค Shishi Sensou เราก็มีพิจารณานะ แต่ตัวเกม FFT ภาคออริจินอลมันสมบูรณ์พร้อมแล้ว ทั้งในแง่เกมดีไซน์และเนื้อเรื่อง ถ้าเราไปเปลี่ยนมันมาก มันจะเป็นความสูญเสียกับทั้งแฟนภาคออริจินอล และทั้งผู้เล่นใหม่ เพราะงั้นเราจึงยึดถือเอาภาคออริจินอล แล้วมอบสปอตไลท์ให้ตัวละครและ Job ในต้นฉบับ ประสบการณ์ของต้นฉบับ
- SQEX note ว่าตัวเกม Classic Mode จะเอาสคริปต์ Eng ของภาค The War of the Lions (PSP) มาใช้ ซึ่งก็ตรงกับที่ยัสจังบอกว่า Classic ver. คือสคริปต์จากภาค PSP
- Classic Mode ยังเพิ่ม QoL เข้าไป ทั้ง auto-save, แก้บั๊ค ทำให้เล่นเวอร์ชันออริจินอลได้สบายขึ้นในปัจจุบัน
- คำแนะนำในการปั้นตัวละคร ตั้งเป้าให้ชัดเจนว่าอยากให้เป็นอะไร แล้วปั้นสแตทไปทางนั้น เช็คว่าอาวุธใดขายเมืองใด แล้วหาของที่ดีที่สุดมาใช้ และเวลาสู้ คอยส่องดูสถานะของศัตรูด้วย ทั้งไอเทมและความสามารถ แล้วหาทางชนะ เมื่อเจอกับพวกที่เล่นสถานะผิดปกติ ก็ไปซื้อชุดที่ป้องกันสถานะนั้นมาใส่ หรือยาลบสถานะนั้น
- เกมนี้สามารถ quite หรือ retry battle ได้ ดังนั้นใช้ให้เต็มที่
- แม้จะผ่านมาแสนนาน FFT นั้นยังเป็นที่รักของแฟน ๆ อันนี้เป็นเรื่องน่าภูมิใจยิ่ง ผมจึงโคตรภูมิใจที่ทั้งได้สร้างเกมต้นฉบับ และทั้งเวอร์ชันนี้
**สรุปยัสจัง มาเอฮิโระ และแกนหลักของ FFT ออริจินอล ไม่ได้ทำภาค Shishi Sensou เลยไม่เห็นหัวภาค Shishi Sensou นั่นแหละ
https://www.square-enix-games.com/en_GB/news/final-fantasy-tactics-interview
Post a Comment