สนทนาประสาไฟนอลฯ 7 [35]

ไปยังหมู่บ้านร็อคเก็ต พวกชินระได้มาถึงและนำฮิวจ์มาเทเรียจากนีเบิลไฮม์ บรรจุเข้าไปในจรวดแล้ว ด้วยความตั้งใจที่ยิงจรวดซึ่งบรรทุกฮิวจ์มาเทเรียนี้ พุ่งทำลายล้างเมเทโอ



พวกคลาวด์ตามไปขัดขวาง และเจอกับรู๊ด เราจึงจัดการรู๊ดแล้วเข้าไปในจรวด

ด้านในนั้นจะพบว่าพวกคนงานจะเต็มใจช่วยกันบรรทุกฮิวจ์มาเทเรียเข้าไปในจรวด เขาเห็นด้วยกับแนวทางการยอมสละจรวดเพื่อทำลายเมเทโอและช่วยเหลือทุกคน โดยกะจะใช้ระบบ Auto-pilot บินเข้าไปโจมตี ทว่าระบบ Auto ของยานดันเสีย และเชร่ากำลังซ่อมมันอยู่

(ซิดคิดว่าขืนให้เชร่าซ่อม อีก 100 ปีก็ไม่เสร็จ)

ซิดจะบอกว่าไม่ต้องห่วงระบบ หลังจากนี้เขาจะจัดการกับจรวดเอง ซึ่งพวกคนงานก็เชื่อใจซิดจึงถอยออกจากยานไป

คลาวด์จะถามซิดว่าจะเอายังไงดี ในฮิวจ์มาเทเรียนั้นมีพลังและภูมิปัญญาที่สั่งสมมาแต่โบราณ เราต้องใช้มันปกป้องโลกจากเซฟิรอธ จะยอมเสียมันไปแบบนี้ไม่ได้

ซิดบอกว่าเขาเข้าใจดีว่ามาเทเรียสำคัญแค่ไหน เข้าใจว่าคลาวด์คิดอะไร แต่ตอนนี้เขาไม่สนทั้งนั้น ไม่ว่าจะวิทยาศาสตร์หรือเวทมนต์คาถาก็ตาม

ซิดพยักหน้า แล้วกล่าวต่อ



"ไม่สิ ถ้าต้องเลือกจริง ๆ ฉันคงขอเดิมพันกับพลังแห่งวิทยาศาสตร์"

"มนุษย์ที่คุ้นเคยอยู่กับบนดิน บัดนี้พวกเขาสามารถบินได้แล้ว!"

"และในที่สุด เราก็กำลังจะก้าวออกนอกอวกาศ"

"วิทยาศาสตร์คือ 'พลัง' ซึ่งสร้างสรรค์และพัฒนาโดยมนุษย์ และวิทยาศาสตร์ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยดวงดาวไว้ได้"

ซิดยกมือขึ้น กำมือไว้แน่น

"ฉันมีชีวิตอยู่ได้ ก็เพราะวิทยาศาสตร์ ดังนั้นสำหรับฉันแล้ว ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่ามัน"

"ดังนั้น เลิกกังวลกับสิ่งที่ชินระทำเถอะ!"

"ฉันไม่อยากมาเสียใจทีหลังว่าไม่ได้ทำมันลงไป"

คลาวด์จะพยายามแย้งซิด แต่ยังไม่ทันได้พูดไรมาก ซิดก็ตะคอกกลับแล้วบอกว่า

"ไม่ฟังว้อย!! ได้เวลาทำงานแล้ว ใครไม่เกี่ยวก็ออกไป!"

แต่แล้วจู่ ๆ จรวดก็สั่นไหว มีเสียงจากพัลเมอร์ติดต่อเข้ามา พัลเมอร์บอกว่าเขาได้ยินจากทีมงานว่าซ่อมระบบ Auto-pilot เสร็จแล้ว ดังนั้นจะปล่อยจรวดละนะ

ซิดจะตกใจมากว่าทำไมวันนี้เชร่าซ่อมไวนักฟะ! แถมจะกดหยุดการทำงานก็ไม่ได้ แผงควบคุมโดนล็อคไว้แล้ว



ว่าแล้วจรวดก็ถูกส่งขึ้นฟ้าโดยที่พวกคลาวด์ไม่ทันตั้งตัว

ตอนนี้จรวดโดนเซ็ตให้พุ่งชนเมเทโอ ยานโดนล็อคเส้นทางไว้ ไม่สามารถเปลี่ยนไปที่อื่นได้

คลาวด์ถามขึ้นว่าฉิบหายแล้วไง นี่เราจะตายกันหมดเหรอ? แต่ซิดจะบอกว่าพูดอะไรกัน แกยังหนุ่มยังแน่น อย่าถอดใจง่าย ๆ แบบนั้นสิ! ฉันไม่ยอมแหลกไปกับเมเทโอหรอก

ว่าแล้วซิดก็หันไปกดที่แผงควบคุม แล้วหันมาบอกว่าเขาเก็บยานลี้ภัยเอาไว้ในจรวด ก็เผื่อกรณีฉุกเฉินแบบนี้แหละ เขาปลดล็อคแล้ว เราจะหนีออกไปก่อนที่จรวดจะปะทะกับเมเทโอ

ถึงตรงนี้วินเซนต์ถามขึ้นว่า แล้วจะเอายังไงกับฮิวจ์มาเทเรียล่ะ?

ซิดอึ้งไปพักนึง แล้วก็ตอบว่าตามใจละกัน อยากจะเก็บเอาไปหรือไม่ก็แล้วแต่

***ถ้าเป็นจรวดบรรทุกฮิวจ์มาเทเรีย ก็ย่อมมีโอกาสทำลายเมเทโอได้มากกว่าสิว้อย!

ซิดรู้ตัวว่าตัวเองกำลังพูดและทำอะไรอยู่ แต่บางทีสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ อาจเป็นเพียงการออกไปยังอวกาศ

ทั้งกลุ่มปีนบันไดขึ้นมายังห้องด้านบนของจรวด เพื่อมาเก็บฮิวจ์มาเทเรีย

หลังปลดล็อคและเก็บฮิวจ์มาเทเรียได้ ทุกคนจะวิ่งไปยังห้องเก็บยานลี้ภัย แต่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทำให้ชิ้นส่วนยานระเบิดแล้วกระเด็นมาทับขาของซิด

คลาวด์กับวินเซนต์พยายามช่วยกันยกชิ้นส่วนขึ้น แต่ก็ยกไม่ไหว ซิดจะรีบบอกให้หนีไปขึ้นยานก็ที่จรวดจะพุ่งชนเมเทโอ

"...ฉันจะทิ้งเพื่อนไว้ไม่ได้"

คลาวด์พยายามออกแรงเต็มที่ แต่ก็ได้แค่ขยับ เขาไม่สามารถยกชิ้นส่วนนั้นออกไปได้

ซิดจะพยายามไล่คลาวด์ไปอีกครั้ง แต่คลาวด์ยังไม่ยอมถอดใจ ซิดเลยยิ่งด่าคลาวด์รัว ๆ

ระหว่างนั้นซิดจะบอกว่าแทงค์หมายเลข 8 มันระเบิดออก แสดงว่ามันผิดปกติจริง ๆ ด้วย เขาจะรู้ตัวแล้วว่าเชร่าพูดถูกจริง ๆ (เชร่าเคยสงสัยว่าแทงค์นี้มันผิดปกติ) แต่นี่คงเป็นจุดจบของเขาแล้ว



แต่แล้วตอนนั้นเอง ประตูก็เปิดออก เชร่าที่ไม่น่าจะอยู่ในยานได้โผล่ออกมา ซิดจะด่าเชร่าที่ดันมาอยู่ในยานในเวลาแบบนี้ได้ แต่เชร่าก็ไม่สนใจ และช่วยยกชิ้นส่วนที่ทับขาซิดอยู่ขึ้น ด้วยแรงของคนสามคน ก็ทำให้พวกเขาช่วยซิดได้สำเร็จ

ทุกคนวิ่งต่อมาจนถึงยานลี้ภัย ซิดจะสงสัยขึ้นว่ามันบินได้แน่เหรอ? แต่เชร่ายืนยันว่าชัวร์ เธอเช็คมาดีแล้ว ซิดเลยบอกว่างั้นเขาก็สบายใจได้ (เป็นการยอมรับกลาย ๆ ว่าเชร่าตรวจสอบอุปกรณ์ได้ละเอียดกว่าเขาอีก)

ยานลี้ภัยหนีออกมาจากจรวดได้สำเร็จ ซิดบอกลากับจรวดชินระหมายเลข 26 ที่กำลังพุ่งเข้าใส่เมเทโอ
ขณะนั้นทั้งโลกก็ช่วยกันภาวนาให้จรวดสามารถทำลายเมเทโอได้สำเร็จ จังหวะที่จรวดและเมเทโอปะทะกันนั้นเกิดแสงสว่างวาบไปทั่วฟ้า

แต่แล้วผลลัพธ์ของการปะทะ กลับเป็นว่าเปลือกนอกของเมเทโอได้แตกออกเพียงบางส่วน ทว่ามันก็ยังพุ่งเข้ามาโดยมีเป้าหมายคือโลกของเราเหมือนเดิม ทำให้ชาวโลกที่ดูอยู่พากันทรุดลงกับพื้น ด้วยความสิ้นหวัง



ตัดมาทางพวกคลาวด์ที่หนีมาขึ้นไฮวินด์แล้ว คลาวด์บอกว่าสุดท้ายแผนของรูฟัสและคนอื่น ๆ ก็ล้มเหลว (จริง ๆ รูฟัสไม่ได้คิดอะไรเลย มีแต่สั่งลูกน้องไปคิด)

***ผมแอบคิดว่าที่มันล้มเหลวก็เพราะพวกคลาวด์ชิงฮิวจ์มาเทเรียทั้ง 4 ลูก จากนีเบิลไฮม์ คอเรล ป้อมนกแร้ง และจูน่อน ไปเก็บไว้เองหมดเนี่ยแหละ ถ้าส่งทั้ง 4 ลูกพุ่งปะทะเมเทโอ อาจได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่านี้

หลายคนในกลุ่มจะพากันสิ้นหวัง แต่ทิฟาจะบอกว่าอย่าพึ่งถอดใจ ช่วยกันคิดหาทางอื่นสิ ซิดเองก็จะเห็นด้วยและบอกว่าถ้ากังวล ทุกอย่างก็จะมีแต่แย่ลง

แบร์เร็ตถามว่ามีความคิดดี ๆ แล้วเหรอ? ซิดบอกว่าเขาคิดมาตลอดแหละตั้งแต่ออกนอกอวกาศ ได้ย้อนกลับมาดูดาวของตัวเอง คิดเรื่อยมาจนกระทั่งยานลี้ภัยตกลงสู่ทะเล

คลาวด์เองก็บอกว่าเขาก็คิดเหมือนกัน ทั้งจักรวาล... ดวงดาว... และมหาสมุทร มันช่างกว้างใหญ่ไพศาล ไม่ว่าเราไปที่ไหนหรือทำอะไร เราก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงมันได้

ซิดบอกว่าอาจจะใช่ แต่เขาคิดแล้วได้ข้อสรุปที่แตกต่างออกไป เขาคิดอยู่เสมอว่าดวงดาวนั้นยิ่งใหญ่มาก แต่เมื่อมองดูมันจากอวกาศ ก็พบว่ามันเล็กนิดเดียว

"เราก็แค่ล่องลอยอยู่ท่ามกลางความมืด ....จนรู้สึกไร้เรี่ยวแรง"

"เหนือสิ่งอื่นใด มันโดนเซฟิรอธชอนไชจากข้างใน จนรู้สึกป่วย"

"ดังนั้น ฉันจึงจะบอกว่าดาวดวงนี้มันก็เป็นแค่เด็กตัวน้อย"

"เด็กที่ป่วยและสั่นไหว ท่ามกลางจักรวาลอันกว้างใหญ่"

"ใครสักคนคน ต้องปกป้องมัน"

"เห็นด้วยป่ะ? ใครสักคนที่ว่านั้น ก็คือพวกเรา"

***เป็นวาทกรรมที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ไม่เห็นจะบอกวิธีปกป้องมาด้วยเลยว้อยยย

ทิฟาจะเดินเข้ามาบอกซิดว่าคิดได้ยอดไปเลย แบร์เร็ตเองก็เห็นด้วย แต่ก็ถามว่าแล้วเราจะปกป้องดาวดวงนี้ยังไงฟะ?

ซิดจะหันหน้าไปมองเพื่อน ๆ ทุกคนทีละคน แล้วเกาหัว จากนั้นก็เดินไปนั่งแล้วบอกว่า "...ยังคิดไม่ออกเลยฟ่ะ"

เพลงปลุกใจที่บรรเลงอยู่ชะงักลงกลางคัน ทุกคนเบือนหน้าหนีแล้วก็แยกย้ายกันไปคนละทาง

แต่แล้วจู่ ๆ เรดเธอทีน จะเรียกให้ทุกคนฟังเสียงประหลาด เหมือนเป็นเสียงกรีดร้องของดวงดาว

คลาวด์ถามขึ้นว่าเราจะรู้ได้ไงว่าเป็นเสียงของดวงดาวจริง ๆ แต่ทิฟาจะบอกว่าเรื่องพวกนี้บูเก้นฮาเก้นเคยบอกไว้แล้วไง

ถึงตรงนี้เรดเธอทีนจึงชวนให้ทุกคนไปปรึกษากับบูเก้นฮาเก้น เขาอาจจะสามารถเสนอแนวทางดี ๆ ให้ทุกคนได้

หากคลาวด์ไปคุยกับเคทซิธ เขาจะบอกว่ารู้กันแค่สองคนนะว่าบูเก้นฮาเก้นเคยเป็นคนงานของชินระ แต่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องอาวุธและมาโค

แบร์เร็ตเองก็บอกว่าเขาคิดว่าบูเก้นฮาเก้นเป็นพวกอนุรักษ์ธรรมชาติ-ธรรมชาตินิยม แต่กลับเชี่ยวชาญเรื่องเครื่องยนต์กลไกต่าง ๆ ดี



วินเซนต์เองก็บอกว่าพวกเครื่องจักร (เครื่องจำลองจักรวาลแบบ 3D โฮโลแกรม) ในคอสโม่แคนย่อน เป็นของขวัญจาก ดร.กัสต์ ทั้งวิทยาศาสตร์และดวงดาวเป็นสิ่งที่อยู่เคียงข้างกันในใจของชายคนนั้น

--------------------------------------------------

เล่าแบบอีกเวอร์ชั่นนึง

นั่งทวนสคริปต์ FFVII แล้วก็งงเรื่องการขัดขวางแผนส่งจรวดที่บรรทุกฮิวจ์มาเทเรีย 4 ลูกไปทำลายเมเทโอ

เรื่องเริ่มต้นจากเคทซิธ ให้พวกแบร์เร็ตฟังเสียงการประชุมของชินระ จนรู้ว่าพวกนั้นวางแผนรวบรวมฮิวจ์มาเทเรีย 4 ลูก (ที่แต่ละลูกมีพลังมากกว่ามาเทเรียธรรมดา 330 เท่า) ยัดใส่จรวด แล้วส่งไปบะคู้มเมเทโอ

แบร์เร็ตฟังจบ... ดันค้านขึ้นมาทันทีว่าจะให้ชินระเอาฮิวจ์มาเทเรียไปไม่ได้ ...เมื่อคลาวด์กลับมา ฉันจะทำให้คลาวด์ช็อคกับฮิวจ์มาเทเรียในมือพวกเรา...

ตอนนั้นเข้าใจได้ว่า แบร์เร็ตมันอคติกับชินระอยู่แล้ว ไม่ว่าตระกูลชินจะทำอะไร แบร์เร็ตก็มองแง่ร้ายและคัดค้านไว้ก่อน โดยไม่ต้องมีเหตุผลรองรับ คนแบบนี้เราก็เห็นกันบ่อย ๆ

พวกคนอื่น ๆ ในกลุ่มก็ดูไม่ได้คิดอะไรมาก เป็นพวกแกนนำว่าไงก็ว่าตามกัน (หรืออาจคิดว่าเอาเหตุผลไปค้านพวกอคติลำบาก) คิดแค่ว่าฮิวจ์มาเทเรียเป็นสิ่งสำคัญ ต้องรักษาไว้ แล้วก็พากันไปปล้นชิงฮิวจ์มาเทเรียมา โดยไม่ได้คิดเลยว่าพวกเอ็งกำลังขัดขวางแผนทำลายเมเทโออยู่ โดยพวกเขาในตอนนั้น (ยังไม่รู้เรื่องโฮลี่) ก็ไม่มีทางออกอื่นที่ดีกว่าแผนยิงจรวดด้วยซ้ำ

แล้วเรื่องมันก็มาสะดุดตอนที่ฮิวจ์มาเทเรียลูกสุดท้าย ถูกบรรทุกขึ้นจรวดหมายเลข 26 และเตรียมยิงออกไปปะทะเมเทโอ

จรวดกำลังจะออกตัวแล้ว ฮิวจ์มาเทเรียลูกสุดท้ายอยู่ในจรวดนี่แล้ว พวกคลาวด์จะเอาไงล่ะ?

พวกคนงานที่ดูแลจรวด ต่างก็คาดหวังกันเต็มประดา ว่าจรวดที่บรรทุกฮิวจ์มาเทเรีย จะทำลายเมเทโอได้

คลาวด์ถามซิดว่าเอาไงดีฟะ? แต่เราต้องใช้ฮิวจ์มาเทเรียปกป้องโลกจากเซฟิรอธนะ! จะเสียมันไปแบบนี้ไม่ได้ (อะไรของเอ็ง!! ไอ้ที่ชินระจะยิงฮิวจ์มาเทเรียไปปะทะเมเทโอ มันก็ปกป้องโลกเหมือนกันเฟ้ย แถมมีแผนเป็นรูปธรรมมากกว่าพวกแกอีก)

ซิดครุ่นคิดในหัวอยู่พักนึง (ก่อนหน้านี้ตอนเริ่มวางแผนปล้นฮิวจ์มาเทเรีย ซิดดันนั่งหลับตลอด) กระทั่งตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด แล้วก็เข้าโหมดเผด็จการ

ซิดเชื่อมั่นในวิทยาศาสตร์ อยากจะขอเดิมพันกับวิทยาศาสตร์ แล้วก็พูดวาทกรรมซึ้ง ๆ ออกมาเพื่อโน้มน้าว (แกมบังคับ) ทุกคนให้ยอมปล่อยจรวดสู่อวกาศ

คลาวด์ยกมือขึ้น ยังไม่ทันจะได้พูดแย้ง... ซิดรีบปิดโอกาสด้วยการตะคอกใส่ "ไม่ฟังว้อย!! ได้เวลาทำงานแล้ว ใครไม่เกี่ยวก็ออกไป!"

โดยที่ทั้งกลุ่มไม่ทันตั้งตัว จรวดก็ถูกส่งขึ้นฟ้า.... วินเซนต์รีบหันมาถามเข้าประเด็นว่า "สรุปแล้วเราจะเอายังไงกับฮิวจ์มาเทเรีย?" (ลูกสุดท้ายที่อยู่ในจรวดนี้)

ซิดอึ้งไปพักนึง แล้วก็ตอบแบบปัดภาระว่า "ตามใจละกัน อยากจะเก็บเอาไปหรือไม่ก็แล้วแต่"

อันที่จริง ถ้าเป็นจรวดที่บรรทุกฮิวจ์มาเทเรีย ก็ย่อมมีโอกาสทำลายเมเทโอได้มากกว่าสิว้อย!

ท้ายที่สุด ตามเนื้อเรื่อง canon จรวดเปล่าที่ไร้ซึ่งฮิวจ์มาเทเรีย ก็พุ่งชนเมเทโอ ผลลัพธ์ที่ได้ก็แค่ทำให้เปลือกนอกของเมเทโอแตกออกไปบางส่วน แต่มันก็ยังพุ่งเข้าหาโลกอยู่ดี

พวกของคลาวด์พากันกลับมาชุมนุมบนเรือเหาะไฮวินด์... แล้วพูดว่า "ท้ายที่สุดแผนของรูฟัสและคนอื่น ๆ ก็ล้มเหลว"

มันล้มเหลวเพราะพวกเอ็งนั่นแหละว้อยยยยย =[]=!! ไอ้พวกผู้ก่อการร้ายยย ยังไม่สำนึกอีกกกกก ถ้าใส่ฮิวจ์มาเทเรีย 4 ลูกเข้าไปในจรวด ผลลัพธ์มันต้องดีกว่านี้ เมเทโออาจเล็กลงมาก เบี่ยงวิถี หรือกระจุยไปแล้ววว!!

ผมคิดว่าถ้าจรวดมีฮิวจ์มาเทเรีย 4 ลูก ต่อให้ไม่มีอานุภาพเท่าไลฟ์สตรีม + โฮลี แต่ก็น่าจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าการส่งจรวดเปล่าไปได้ - การที่พวกคลาวด์สักแต่ค้านไว้ก่อน โดยไม่มีแผนทำลายเมเทโอที่ดีกว่าแผนนี้ ผมเลยว่ามันเป็นกระบวนการคิดที่ผิด (ถ้าพวกคลาวด์มีแผนที่ดีกว่านั้น หรือมีหลักฐานแน่ชัดว่าถึงยิงไป 4 ลูกก็ไร้ผล แบบนั้นผมจะไม่ขัดเลย)

แต่เรื่อง "ถึงหยุดเมเทโอลูกแรกได้ เซฟิรอธก็อาจเรียกลูกที่ 2 3 4 ตามมาได้" อันนี้ผมลืมคิดไปจริง ๆ ..... ปกติมาเทเรียในเกมมันก็ใช้ซ้ำได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว (เป็นการยืมพลังดวงดาวมาใช้ ถ้าไลฟ์สตรีมเหลือมากพอก็ยังเรียกได้อีก) ดูจากฉากจบแล้วดวงดาวก็ยังเหลือพลังงานมากพอจะเรียกเมเทโอลูกที่ 2 มาได้เป็นอย่างน้อย ดังนั้น แผนสังเวยฮิวจ์มาเทเรีย 4 ลูกไปในการหยุดเมเทโอลูกแรก ก็อาจจะสูญเปล่าจริง ๆ

ตอนนี้ผมเลยคิดว่า การตัดสินใจปล้นฮิวจ์มาเทเรียที่อุตริขึ้นมาโดยแบร์เร็ต น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว..... แต่ที่ผิดคือวิธีคิดของพวกนั้น เรียกว่าเป็นวิธีคิดผิด ๆ แต่ดันบังเอิญไปสู่คำตอบที่ถูกได้ละมั้ง

ป.ล. ช่วงที่วุ่นเรื่องชิงฮิวจ์มาเทเรีย ทั้งชินระและพวกคลาวด์ กลับไม่มีใครพูดเรื่องเวพ่อนออกมาเลย ตอนรูฟัสเรียกประชุมก็คุยเรื่องเมเทโอและเซฟิรอธ แต่ไม่คุยเรื่องเวพ่อน ราวกับว่าเรื่องเวพ่อน มันถูกเพิ่มแทรกเข้ามาภายหลังยังไงยังงั้น

ไม่มีความคิดเห็น