สรุปบทสัมภาษณ์จากที่คุณทาอิ ให้สัมภาษณ์ในบูธ Square Enix ช่วง E3 วันแรก


- เนื่องจากทีมงานต้องทำภาค 2.5 และ 3 ไปพร้อมกัน เพื่อให้ภาค 2.5 ทำเสร็จทันตามกำหนดการ เลยจำเป็นต้องตัด Multiplayer ออกไป ให้เหลือแต่ Single Player แทน การจะสร้าง Multiplayer นั้นจะทำให้ใช้เวลาอีกมาก แล้วทีมงานอยากจะรีบไปทำภาค 3 กันมากกว่า เลยต้องเร่งทำ 2.5 ในลักษณะนั้น (ตอนทำ 1.5 ก็ไม่ได้ทำ 358/2 Days เป็นเกม ด้วยเหตุผลเดียวกันคือ มันจะเสร็จไม่ทันเวลา)

- แต่ทั้งนี้ทีมงานก็อยากให้ผู้เล่น เล่น Mirage Arena กันอย่างสนุก เลยมีการกลับ AI ของบอสให้รวดเร็วขึ้น และมีการเพิ่มกฎใหม่ลงไปเช่น Challenge Bonus ถ้าทำได้ ก็จะได้โบนัสเหรียญนั่นเอง

- ตอนที่ทีมงานเริ่มสร้างภาค 3 ก็ตัดสินใจสร้าง 1.5 และ 2.5 ด้วย โดยเหตุผลก็คืออยากให้ผู้เล่นได้ตามเนื้อเรื่องทันและเข้าใจจริงๆ ซึ่งภาค Re:coded นั่นก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์ โดยทำเป็นคัตซีนยาว 3 ชั่วโมง ซึ่ง 2 ชั่วโมงในนั้นเป็นคัตซีนใหม่ ถึงแม้จะรู้เนื้อเรื่องของ Re:coded อยู่แล้ว แต่ก็มีการใส่เนื้อเรื่องใหม่ลงไป พวกเบื้องหลัง Secret Episode ของ KH ก็จะถูกส่งลงไปด้วย

- ตอนสมัยทำ 1.5 นั้นทีมงานไม่เคยทำ HD ReMix มาก่อน เลยยังไม่รู้ว่าจะทำให้ระบบ PS3 ได้ไง แต่ตอนนี้รู้แล้ว การสร้าง 2.5 เลยไม่มีปัญหาด้านโปรแกรม เลยทำงานกันลื่นขึ้นมาก แต่จุดยากคือเราก็อยากปรับปรุงกราฟฟิกและเสียงให้ดีขึ้นไปอีก ในส่วนของ BBS เลยต้องเปลี่ยน Polygon และ Texture กันซะใหม่ ให้มันใช้ Memory มากขึ้น ส่วนภาค 2 เองก็ทำ Texture กันใหม่ทั้งหมด ภาพเลยสวนขึ้น สีมีชีวิตชีวาขึ้น

- ดาวที่สร้างแล้วสนุกสุดคือ The Castle of Dreams จาก Cinderella ตอนเล่นเป็นเวนตัวเท่าหนูเพื่อตามหาของมาทำชุดให้นางซินฯ สนุกมาก

- ทีมงานส่วนใหญ่ที่ทำ ก็คือทีมที่ทำ BBS บน PSP มาก่อน พอมาทำ BBS อีกครั้งให้กับภาค 2.5 ก็เลยมีความรู้สึกใกล้ชิดเป็นพิเศษกับภาคนี้ ไม่อยากจะทำให้ภาคนี้ต้องผิดพลาด

- ในส่วนเนื้อหาของ BBS ก็มีการเพิ่มกมาใช้อนาล็อคขวา ควบคุมมุมกล้องแทนแบบเดิม

- คุณทาอิ อยากให้วินเซนต์จาก FFVII มาโผล่ใน BBS ด้วย แต่ไม่มีดาวไหนที่เหมาะกับวินเซนต์เลย เจ้าตัวควรจะโผล่ออกมาจากโลงศพ แต่ใน BBS มันไม่มีโลงศพ ถ้าเอามาใส่ได้และให้เป็นศัตรูด้วย คงสนุกมาก

- ดาวที่คุณทาอิ ชอบมากอีกก็คือ Timeless River เขาเคยดูหนังต้นฉบับหลายรอบ นอกจากนี้ก็ชอบ Castle of Dreams, Deep Space

- ตัวเกมภาคนี้ใช้ทีมงาน 70 คน โดย 35 คนทำคัตซีน ซึ่งพวกนี้ต้องทำภาค 3 พร้อมกันไปด้วย

- ตัวเกมอยู่ในขั้นสุดท้ายของการพัฒนา ตอนนี้กำลังแต่งคัตซีนขั้นสุดท้ายให้เนี๊ยบอยู่ แล้วก็ทำ Trophy, Debug ก็เสร็จไปแล้ว 95%

-  ในส่วนของภาค 2 นั้นมีการบันทึกเสียงเพลงประกอบเกม 90 เพลงใหม่ โดยให้วงสตริงออเครสต้า 40 คนบันทึกเสียงกันที่บอสตัน โดยตัวเกมดั้งเดิมใน PS2 นั้นพวกเขาใช้ข้อมูลเสียงที่ไม่ใช่เสียงจากเครื่องดนตรีจริง แต่พอทำ 2.5 นี้ก็ได้ใช้เสียงจากเครื่องดนตรีจริงแล้ว ทำให้เสียงมีมิติมากขึ้น มีโทนเสียงมากขึ้น ส่วนภาค BBS เดิมบน PSP พวกเขาบีบไฟล์เสียงลงมา แต่ตอนนี้ไม่ต้องบีบแล้ว และยังได้เพิ่มเสียงของสภาพแวดล้อมต่างๆ ลงไป เช่นถ้าเดินไปที่น้ำพุ ก็จะได้ยินเสียงสายน้ำไหลซู่ออกมา 

 ***คาดว่าระบบเสียงใน KH2 บน PS2 คงเหมือนกรณี KH ภาคแรก ที่เสียงในเกมเพลย์ไม่ใช่เสียงจากเครื่องดนตรีจริง แต่เป็นเสียงจาก built-in tone generator ของเครื่อง ซึ่งสร้างโทนเสียงแบบ Real-time ได้อย่างจำกัด ไม่เท่าเสียงจากเครื่องดนตรีจริงๆ ที่ไม่มีขีดจำกัด, ทว่าตอนทำภาค BBS ให้ PSP ทีมงานไม่ได้ใช้เสียงจาก built-in tone generator แล้ว แต่ได้ทำการอัดไฟล์เพลงไว้ล่วงหน้า (แต่ต้องบีบลดคุณภาพไฟล์ลงมาด้วย) แล้วให้เครื่อง PSP เล่นเพลงประกอบเกมแบบ audio stream ทำให้แสดงเสียงได้อย่างไม่มีขีดจำกัด หลักการเดียวกับการให้เครื่องเล่นไฟล์วีดีโอนั่นแหละ

- ในส่วน Re:coded จะมีให้เลือกดูเนื้อหาเป็นตอนๆ หรือจะกดเล่นต่อเนื่องทุกตอนก็ได้

- ไม่กี่เดือนก่อนคุณทาอิได้ไปดู Frozen กับลูกสาว แล้วเขาชอบเรื่องนี้มาก เขาไม่ได้หมายความว่าจะใส่ลงไปใน KH แต่ก็ชอบจริงๆ ทั้งเวทมนต์ หิมะ น้ำแข็ง ความงาม เนื้อเรื่อง ทั้งหมด

ที่มา : KH13, KHinsider

ไม่มีความคิดเห็น