FFVII Rebirth Ultimania - Key Point ของเนื้อเรื่อง และปริศนาใหม่

หน้า 728-731

Key Point ของเนื้อเรื่อง และปริศนาใหม่  #1: โลกที่มีอยู่มากมาย และแตกแขนงออกจากกัน

ในตอนท้ายของภาคที่แล้ว แซ็คกรุยทางผ่านทหารชินระที่ห้อมล้อมเขาและมีชีวิตรอดมาได้ นี่เป็นสิ่งที่แตกต่างจากที่เราเห็นใน FFVII OG อย่างไรก็ตาม เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในโลกที่แตกต่างจากโลกที่พวกคลาวด์อาศัยอยู่ นอกจากนี้ เซฟิรอธยังเปิดเผยในช่วงท้ายของเรื่องว่า มีโลกอันมากมายดำรงอยู่ภายในดวงดาวของเกมนี้ เราสามารถแยกโลกเหล่านั้นออกจากกัน ด้วยการสังเกตลักษณะของสแตมป์ (Stamp) น้อยผู้ภักดี มีโลกอย่างน้อย 5 ใบปรากฏขึ้นตลอดทั้งเกม เซฟิรอธคุ้นเคยกับโครงสร้างของโลกเหล่านี้ดี และชัดเจนว่าเขากำลังใช้โลกเหล่านี้ “เพื่อยืดอายุขัยของดวงดาว”

[คำบรรยายภาพ:] ดูเหมือนว่าฝูงฟีลเลอร์จะมีผลต่อการแตกแขนงของโลก แม้แซ็คและบิ๊กส์จะมองไม่เห็นฟีลเลอร์ แต่ก็สัมผัสได้ในรูปแบบสายลมแรง

ประโยคที่มีความหมายพิเศษของเซฟิรอธ ในเรื่องของโลก

“อาณาจักรของฉันจะทอดยาวไปไม่สิ้นสุด รวมถึงโลกที่ไม่ผูกมัดด้วยชะตากรรม และประวัติศาสตร์ยังไม่ถูกลิขิต แม่ที่กระจัดกระจาย โลกที่หลงผิดนี้จะเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง รวมเป็นหนึ่ง นิรันดร”

Chapter 13 : ตอนเผยเป้าหมายที่วิหารชนเผ่ายุคโบราณ

“ซ่อนอยู่ที่นี่เหรอ ในโลกซึ่งยอมรับชะตากรรมแล้ว”

“อย่างที่แกก็ต้องยอมรับ…”

Extra Chapter Episode 7 : ขณะสัมผัสได้ถึงแอริธและคลาวด์

“เมื่อกรอบของชะตากรรมโดนแหก โลกใหม่ก็เกิดขึ้น ดวงดาวนั้นประกอบด้วยโลกมากมาย ที่แผ่ขยายออกมา บางโลกก็พินาศลงอย่างรวดเร็ว บางโลกก็ยืนหยัด แต่กระทั่งโลกที่ทนทานที่สุด ก็มีชะตาที่ต้องหายไป ทว่าความสูญเสียนั้นไม่ใช่เรื่องที่ต้องอาลัย มันไม่ใช่การตาย มันคือการคืนสู่เหย้า ที่รอพวกเขาอยู่ และในอ้อมกอดของดวงดาว ทุกชีวิตก็เป็นหนึ่ง”

Chapter 14 : ขณะอธิบายธรรมชาติของความเป็นจริงให้คลาวด์ฟัง

มาเทเรียขาวที่ข้ามโลกมา

มาเทเรียขาวที่แอริธครอบครอง เป็นวิธีเคาเตอร์เมเทโอที่ถูกอัญเชิญมาด้วยมาเทเรียดำ ทว่าในโลกที่คลาวด์และผองเพื่อนอาศัย มาเทเรียขาวได้สูญเสียพลังและกลายเป็นว่างเปล่า มาเทเรียขาวจากต่างโลก (แอริธส่งมอบให้คลาวด์ในสลัมเขต 5) ถูกย้ายข้ามโลก และส่งต่อมายังแอริธในและของคลาวด์และพรรคพวก

[คำบรรยายภาพ:] ระหว่าง Chapter 6 แอริธสังเกตเห็นว่ามาเทเรียที่แม่ทิ้งไว้ให้ ที่เคยเป็นสีขาวมาตลอด ได้กลายเป็นโปร่งใส

[คำบรรยายภาพ:] ในป่าแห่งการหลับใหล แอริธได้รับมาเทเรียขาวที่คลาวด์รับมาจากโลกอื่น

โลกที่ปรากฏตลอดทั่วทั้งเกม

ประเภทของโลก / สแตมป์น้อยผู้ภักดี / หมายเหตุ

1. โลกที่คลาวด์และพรรคพวกอยู่ / บีเกิล / โลกที่เนื้อเรื่องหลักของเกมดำเนินเรื่อง ในโลกนี้ แซ็คและบิ๊กส์ตายไปแล้ว

2. โลกที่แซ็ครอดชีวิต / ยอร์คเชียร์เทอร์เรียร์ / โลกที่เรื่องราวฝั่งแซ็คดำเนิน (Extra Chapter) มีรอยแยกปรากฏบนท้องฟ้า ดอกไม้เหี่ยวเฉา ผู้คนยอมรับกาลอวสานของโลก ในโลกนี้ คิริเอไม่ได้ออกจากมิดการ์ และพยายามรวบรวมคนเพื่อสร้างอวาแลนซ์ใหม่

3. โลกที่แซ็คมุ่งหน้าไปยังตึกชินระ (แตกออกมาจากทางเลือกของแซ็ค) / ยอร์คเชียร์เทอร์เรียร์ / โลกอันต่อเนื่องจากโลกที่แซ็ครอดชีวิตมาได้ แซ็คพยายามมาหาโฮโจ เพื่อหวังจะหาทางช่วยคลาวด์ แต่ถูกล้อมด้วยกองทัพชินระ ตั้งกะปากทางเข้าตึก

4. โลกที่แซ็คมุ่งหน้าไปยังเตาปฏิกรณ์หมายเลข 6 (แตกออกมาจากทางเลือกของแซ็ค) / ปั๊ก / แซ็คพยายามไม่ให้บิ๊กส์ระเบิดเตาปฏิกรณ์หมายเลข 6 แต่สุดท้ายระเบิดมันแป้ก จากนั้นทหารชินระรีบเข้ามายิงบิ๊กสตาย ก่อนจะล้อมแซ็ค

5. โลกที่แซ็คกำลังกังวลอยู่หน้าโบสถ์ (แตกออกมาจากทางเลือกของแซ็ค) / คอร์กี้ / ขณะที่แซ็คลำบากใจว่าจะช่วยคลาวด์ ไปหยุดบิ๊กส์ หรือรอแอริธตื่น เซฟิรอธก็ปรากฏตัวขึ้นมา ในโลกนี้จอห์นนีก็ไม่ได้ออกจากมิดการ์ และผ่าหน้าแซ็คไป

6. สลัมเขต 5 ที่คลาวด์และแอริธไปเดินเล่นกัน / ชิวาวา / โลกที่ Extra Chapter (Episode 7) ดำเนินเรื่อง ผู้คนในโลกนี้พอทราบว่าโลกที่พวกเขาอยู่กำลังจะหายไป แซ็คไม่ปรากฏในโลกนี้ เช่นเดียวกับเอลมีราและมาร์ลีน

[คำบรรยายภาพ:] โลกที่แซ็ครอดชีวิตมา และสลัมเขต 5 ที่คลาวด์และแอริธเดินเล่น อาจจะดูคล้ายกัน แต่สแตมป์น้อยผู้ภักดีที่ปรากฏก็มีรูปร่างแตกต่างกัน

[คำบรรยายภาพ:] ไม่มีสแตมป์น้อยผู้ภักดี ปรากฏในโบสถ์ที่แซ็คตื่นขึ้นหลังการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ดังนั้น ไม่แน่ชัดว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโลกใด

Key Point ของเนื้อเรื่อง และปริศนาใหม่  #2: ความสัมพันธ์ระหว่างเกล็นและรูฟัส

เกล็น ทูตจากวูไถปรากฏตัวต่อหน้ารูฟัสหลายต่อหลายครั้ง เมื่ออ่านบทสนทนาระหว่างทั้งสอง อาจเดาได้ว่าทั้งสองเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่ความสัมพันธ์ที่แท้จริงของพวกเขา ยังคงเป็นปริศนา ด้านล่างนี้คือบทคัดย่อของการสนทนาที่เต็มไปด้วยความนัย และภาพรวมความเกี่ยวข้องกับวูไถที่เล่าผ่านภาคอื่น ๆ ในซีรีส์

[คำบรรยายภาพ:] ที่จูนอน เมื่อได้ยินชื่อของเกล็น รูฟัสก็นึกถึงภาพที่เขายิงชายคนนี้ร่วง

[คำบรรยายภาพ:] แมตต์และลูเซีย มีส่วนร่วมในภารกิจถล่มตึกชินระ

ความเกี่ยวข้องระหว่างรูฟัส เกล็น และวูไถ

- ใน Before Crisis: FFVII เราเห็นว่ารูฟัสเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้ฐานของพวกอวาแลนซ์ในวูไถ ตั้งแต่เมื่อสี่ปีที่แล้ว

- ในฉากเปิดเนื้อเรื่อง "First Soldier" ใน FFVII: Ever Crisis เราเห็นเกล็นเผชิญหน้ากับเซฟิรอธที่ถูกส่งตัวไปรบที่วูไถเมื่อเจ็ดปีก่อน

- สหายของเกล็น ที่ชื่อแมตต์และลูเซีย (ซึ่งยุฟฟีแนะนำร่วมกับเกล็นว่าเป็นแก็งอดีต SOLDIER 3 คนใน Chapter 7) ถูกเอ่ยถึงในฐานะกัปตันทีม ระหว่างเหตุการณ์ย้อนอดีตของอวาแลนซ์ HQ

ประโยคที่มีความหมายพิเศษในบทสนทนาระหว่างรูฟัสและเกล็น

รูฟัส  : “นึกว่าแกตายไปแล้วซะอีก”

เกล็น : “ก็ถูกนี่”

Chapter 4 : ระหว่างเผชิญหน้ากันในออฟฟิศชินระสาขาจูนอน

ความเห็น : รูฟัสช็อคที่เห็นเกล็นยังมีชีวิตอยุ่ เกล็นหัวเราะ แม้จะดูเหมือนว่าเกล็นล้อเล่น แต่พอเห็นสิ่งที่เขาพูดและทำในภายหลัง เป็นไปได้ว่า สิ่งที่เขาพูดนั้น (ก็ถูกนี่ ที่ว่าตายไปแล้ว) จะไม่ใช่เรื่องล้อเล่นซะแล้ว

รูฟัส: “จัดเซตติ้งปลวกขนาดนี้ เขาคงจะมาหรอก”

เกล็น: “ท่าจะใช่เนอะ พวกเด็กรวยคงชอบอะไรแบบนั้น”

ในฉากจบเกม: ขณะทวนกันเรื่องที่อุปราชซาร์รูฟไม่ยอมปรากฏตัวในงานแถลงข่าว

ความเห็น : รูฟัสพูดราวกับรู้จักมักจี่ซาร์รูฟเป็นอย่างดี เกล็นเรียกซาร์รูฟว่า “เด็กรวย” ชวนให้นึกถึงประโยคที่เขาพูดกับรูฟัสที่จูนอนว่า “พวกเด็กรวย ก็มักจะชอบทำอะไรตามอำเภอใจ” (prefer to march to the beat of your own drum)

เกล็น: “แทงข้างหลัง-เหมือนเมื่อก่อนเลย”

ในฉากจบเกม: หลังจากโดนรูฟัสยิงเข้าด้านหลัง

ความเห็น : ประโยคนี้แสดงว่ารูฟัสเคยยิงข้างหลังเกล็นมาก่อน ซีนนี้ยังเปิดเผยว่าคนที่เราคิดว่าเป็นเกล็น แท้จริงแล้วก็เป็นคนชุดดำ

เกล็นและเซฟิรอธ: ดินแดนแห่งพันธสัญญาของเราจะกลายเป็นจริง ลูกชายจะทำความฝันของพ่อให้เป็นจริง”

ในฉากจบเกม: ขณะเผยเป้าหมายที่แท้จริงให้รูฟัส

ความเห็น : ระหว่างซีนนี้ เสียงและร่างของเซฟิรอธปรากฏขึ้นซ้อนทับกับเกล็น บ่งบอกว่าการกระทำทั้งหมดของเกล็นก่อนหน้านี้ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของเซฟิรอธ

Key Point ของเนื้อเรื่อง และปริศนาใหม่  #3: ชะตากรรมของแอริธเป็นอย่างไร?

ชะตากรรมที่รอคอยแอริธอยู่ที่เมืองที่ถูกลืมเลือน เป็นหนึ่งในสิ่งที่ถูกจับตาดูที่สุดของเกม ทว่า ณ จุด ๆ นี้เป็นเรื่องยากจะบอกว่าเธอเสียชีวิตหรือยังมีชีวิตอยู่ ขณะที่พรรคพวกของคลาวด์รับรู้ว่าแอริธตายไปแล้ว คลาวด์กลับรู้สึกว่าเธอมีชีวิตอยู่และสบายดี ซีนที่เซฟิรอธเอาชีวิตแอริธนั้นไม่ได้ถูกถ่ายทอดมาโดยตรง และสามารถตีความได้หลากหลาย ด้านล่างนี้ เราพยายามจัดระเบียบสิ่งที่เรารู้ โดยแยกระหว่างมุมมองของคลาวด์และของพรรคพวก

[คำบรรยายภาพ:] คลาวด์พึมพำบางอย่างขณะโอบกอดร่างที่แน่นิ่งของแอริธ ซีนนี้ไม่ได้ถูกถ่ายทอดอย่างชัดเจน และเป็นภาพแทรกผสมเข้ามา

[คำบรรยายภาพ:] แอริธเข้ามาช่วยคลาวด์ต่อสู้กับเซฟิรอธ เธอมาจากไหน และมาได้อย่างไร ล้วนเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ

[คำบรรยายภาพ:] ก่อนจะไปจากเมืองที่ถูกลืมเลือน คลาวด์และเพื่อนพักกันอยู่ข้างสิ่งที่ดูเหมือนบ่อน้ำ ที่ฝังร่างของแอริธไว้ใน FFVII OG

ซีนที่คลาวด์และพรรคพวก รับรู้แตกต่างกัน

มุมมองของพรรคพวก

• สมาชิกปาร์ตี้ทั้งหมดนอกจากคลาวด์ เข้าต่อสู้กับ Jenova Life ด้วยเกจลิมิตเต็ม เนื่องจากความรู้สึกโกรธ
• ระหว่างการต่อสู้กับ Rebirth Sephiroth แบร์เร็ตตะโกน “ช็อตนี้เพื่อแอริธ!”
• เมื่อออกจากเมืองที่ถูกลืมเลือน ทิฟามองไม่เห็นแอริธคนที่คลาวด์มองอยู่

มุมมองของคลาวด์

• ระหว่างการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับเซฟิรอธ คลาวด์ต่อสู้เคียงข้างแอริธ
• หลังการต่อสู้ครั้งสุดท้าย แอริธลืมตาขึ้นเมื่อคลาวด์เรียกเธอ
• ก่อนจะขึ้นไทนีบรองโก้ในฉากจบเกม คลาวด์ได้คุยกับแอริธ

สิ่งที่คลาวด์เพียงคนเดียวเห็นในฉากจบ

ร่างของแอริธ

[คำบรรยายภาพ:] ณ ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าแอริธที่ปรากฏตัวอยู่คืออะไร - คือคนเป็น ๆ, วิญญาณที่พูดจากไลฟ์สตรีม, หรือภาพลวงตาที่คลาวด์เห็นอยู่คนเดียว

รอยแยกบนท่องฟ้า

[คำบรรยายภาพ:] รอยแยกนี้ ยังเ้ห็นได้จากเหล่าโลกที่แซ็ครอดชีวิต และสลัมเขต 5 ที่แอริธและคลาวด์ไปเดินเล่น ในโลกเหล่านั้น นั่นคือลางบอกถึงจุดจบ แต่กับที่นี่มันหมายถึงอะไรนะ?...